ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณชอบใช้เวลาและไปเที่ยวกับใครคนหนึ่งมากๆ คุณก็อาจจะสงสัยว่าเขารู้สึกแบบเดียวกันหรือไม่ แม้ว่าบางครั้งการรู้ว่าใครเป็นเพื่อนนั้นค่อนข้างง่าย แต่ก็ไม่เป็นไรที่จะถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการสานสัมพันธ์ที่จริงจังมากขึ้นกับเขา เรารู้ว่าการพูดคุยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากังวล แต่ก็มีหลายวิธีที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยไม่ให้เครียด อ่านต่อไปเพื่อดูวิธีต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อตั้งคำถามได้

1

บอกใบ้ด้วยคำถามที่คลุมเครือ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีที่ไม่โจ่งแจ้งในการเอ่ยถึงมิตรภาพ ให้พูดถึงสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณแบบไม่ตั้งใจ พูดถึงอะไรอย่างเช่น การชอบที่จะใช้เวลาร่วมกันหรือคุณรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่กับเขา ถามเขาว่ารู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันหรือไม่เพื่อดูว่าเขามองมิตรภาพของคุณแบบเดียวกันหรือไม่ [1]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า “ดีใจจริงๆ ที่ได้ใช้เวลาด้วยกันแค่เราสองคน คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ”
    • เพื่อดูว่าเขาชอบคุณเชิงโรแมนติกหรือไม่ คุณอาจจะถามว่า “ฉันรู้จักคนที่แอบชอบคุณและเขาก็เจ๋งมาก คุณเดาได้ไหมว่าใคร”
    • บางครั้ง อีกฝ่ายจะพูดว่า "ใช่" เพียงเพื่อให้สุภาพเท่านั้น ควรให้ความสนใจกับน้ำเสียงและภาษากายของเขา ถ้าเขาดูมีความสุขและยิ้มกว้าง นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าเขาชอบอยู่ใกล้คุณจริงๆ
    โฆษณา
2

ลองพูดอะไรตลกๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนมักจะหัวเราะกับมุกตลกถ้าพวกเขาเป็นเพื่อนของคุณ. ปล่อยมุกขำๆ หรือเล่าเรื่องตลกฮาๆ ที่เคยทำให้เพื่อนคนอื่นหัวเราะ ถ้าอีกฝ่ายยิ้มหรือหัวเราะไปพร้อมกับคุณ แสดงว่าเขาสนใจและสนับสนุนคุณ ถ้าเขาไม่หัวเราะก็อาจจะหมายความว่าเขาไม่ได้คิดว่าคุณเป็นเพื่อนสนิทหรือไม่สนใจคุณในเชิงโรแมนติกเลย [2]
3

ส่งข้อความให้เขา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณประหม่าก็ให้ข้ามการพูดคุยแบบต่อหน้าไป. คุณจะรู้สึกเครียดน้อยลงมากเวลาถามอีกฝ่ายโดยที่ไม่เห็นหน้าหรือได้ยินเสียงของเขา คุณมีเวลาเยอะเท่าที่คุณต้องการในการส่งข้อความ ดังนั้นให้คิดว่าจะพูดอะไรและเลือกคำพูดอย่างระมัดระวังเพื่อให้ชัดเจนว่าคุณกำลังถามอะไร เมื่อคุณรู้สึกว่าพร้อมที่จะถามคำถามแล้ว ให้ส่งข้อความไปและรอให้อีกฝ่ายตอบ [3]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะส่งไปว่า “สวัสดีเอมี่ นี่โจ้จากคณะวิทยาศาสตร์นะ การได้เป็นคู่แล็บกับเธอทำให้คลาสดีขึ้นเยอะเลย หลังเลิกเรียนเธออยากเจอกันสักวันหนึ่งแล้วไปเที่ยวด้วยกันไหม”
    • ถ้าคุณอยากทำให้ข้อความดูเจ้าชู้เล็กน้อย ลองพูดว่า “หวัดดี! นี่เอกที่เจอกันตอนไปดูฟุตบอลนะ สนุกมากที่ได้เชียร์ทีมของเราด้วยกัน! ผมอยากเจอคุณอีกครั้ง เสาร์อาทิตย์นี้คุณอยากไปร้านกาแฟและทำความรู้จักกันไหม”
    • อย่าเสียกำลังใจถ้าคุณไม่ได้รับการตอบกลับทันที จำไว้ว่าอีกฝ่ายอาจจะแค่กำลังยุ่งและไม่สามารถตอบได้ทันที
    โฆษณา
4

บอกเขาว่าคุณรู้สึกอย่างไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณคุย ให้บอกอีกฝ่ายว่าคุณชอบอะไรเกี่ยวกับมิตรภาพของคุณ เมื่อคุณพูดจบให้ถามเขาว่ารู้สึกอย่างไรเพื่อดูว่าเขารู้สึกแบบเดียวกันหรือไม่ เขาอาจจะสบายใจขึ้นเมื่อได้ยินความคิดของคุณเพราะว่าเขาก็อาจจะรู้สึกประหม่าเกี่ยวกับเรื่องนั้นเหมือนกัน [4]
    • ยกตัวอย่างเช่น ลองพูดทำนองว่า “ฉันดีใจมากนะที่เราได้ไปเที่ยวกันบ่อยๆ ช่วงปิดเทอมนี้ คุณเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย! คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเราเหรอ”
    • ถ้าอยากดูว่าบางคนชอบคุณในเชิงโรแมนติกหรือไม่ คุณก็อาจจะพูดว่า “ฉันสนุกมากที่ได้ทำความรู้จักนายระหว่างเรียน และฉันคิดว่าฉันเริ่มชอบนายมากกว่าเพื่อนแล้ว ฉันหวังว่านายจะรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ”
  1. วิธีนี้ใช้ได้ผลดีถ้าคุณไปเจอเขาต่อหน้าไม่ได้. ถ้าคุณอยู่ไกลหรือรู้สึกประหม่าเกินกว่าจะพูดเรื่องนี้ ให้หาเบอร์ของเขาและโทรไป ถ้าคุณไม่มีเบอร์ของเขา ให้ดูว่าจะขอจากเพื่อนคนใดคนหนึ่งที่รู้จักคุณทั้งสองฝ่ายได้หรือไม่ เริ่มจากการคุยแบบสบายๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันเพื่อทำให้อารมณ์ดีขึ้นก่อนที่จะถามถึงมิตรภาพของคุณ [5] จากนั้นถามเขาว่าเขาอยากไปเที่ยวด้วยกันหรือไม่
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า “สนุกมากเลยนะที่ได้ทำงานด้วยกันในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ เธออยากออกไปเที่ยวกันแบบเพื่อนไหม วันศุกร์นี้เราไปห้างกันได้นะ!”
    • ถ้าอยากดูว่าเขาอยากไปเดทกันหรือไม่ ให้ลองพูดว่า “สนุกมากที่ได้คุยกับคุณในช่วงอาหารเที่ยง ฉันอยากรู้จักคุณให้มากยิ่งขึ้น คุณอยากจะออกไปกินอาหารเย็นกันแค่สองคนสักวันไหม”
    • ถ้าคุณรู้สึกประหม่าที่จะถาม ให้หายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนโทรหาเขา
    • ถ้าคุณยังอยากเห็นปฏิกิริยาของเขาตอนที่คุณถามคำถาม ให้ลองโทรแบบวิดีโอคอลแทน
    โฆษณา
  1. สิ่งที่เขียนด้วยลายมือแสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจจริงๆ . คุณสามารถเขียนจดหมายยาวๆ บนกระดาษสักแผ่นหรือเขียนสั้นๆ บนกระดาษโน้ตก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องพูดอะไรมากแค่ไหน แค่บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรและถามเขาว่ารู้สึกแบบนั้นด้วยหรือเปล่า ยื่นโน้ตให้เขา ใส่ไว้ในล็อกเกอร์ หรือซ่อนไว้ในกระเป๋าเพื่อให้เขาสามารถอ่านได้เมื่อไรก็ตามที่มีโอกาส ให้เวลาคนคนนั้นในการตอบสักหน่อย แต่อย่ากลัวที่จะถามเขาต่อหน้าในภายหลัง [6]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเขียนอะไรอย่างเช่น “สวัสดีอีฟ ผมหวังว่าคุณจะสบายดีนะ ผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผมแค่อยากรู้ว่าคุณคิดกับผมแบบนั้นด้วยหรือเปล่า เราเริ่มสนิทกันมากในปีนี้และผมก็อยากไปเที่ยวกันอีกในเร็วๆ นี้”
    • สำหรับโน้ตที่โรแมนติกมากขึ้น ให้ลองพูดว่า “ไง ผึ้ง เธอทำให้คลาสเรียนคณิตศาสตร์สนุกขึ้นเมื่อพวกเราได้ทำงานด้วยกัน สนุกมากที่ได้เล่นตลกกับเธอและเราอยากรู้จักเธอมากขึ้น เสาร์อาทิตย์นี้เธออยากไปเล่นโบว์ลิ่งด้วยกันไหม”
7

ส่ง GIF หรือมีมให้เขา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ค้นหารูปอย่างพวก "เพื่อนซี้" หรือ "เพื่อน" และค้นหามีมตลกๆ หรือมีมที่เข้าใจได้ง่ายที่คุณชอบ เนื่องจากมันมีให้เลือกมากมาย ดังนั้นคุณควรจะหาอันที่เหมาะกับสถานการณ์ ใส่มีมในข้อความหรือแชทออนไลน์ในขณะที่คุณกำลังคุยกับอีกฝ่าย แล้วรอให้เขาตอบกลับเพื่อดูว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไร [7]
    • พยายามหามีมหรือ GIF จากสิ่งที่คุณทั้งสองคนชอบ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต่างก็ชอบหนังอนิเมชั่น คุณอาจจะส่งรูปภาพของกัปตันบัซและวู้ดดี้ จาก ทอย สตอรี่ ที่มีคำบรรยายว่า “นายคือคู่หู สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!”
    • ถ้าคุณกำลังพยายามหาคำตอบว่าเขาชอบคุณมากกว่าเพื่อนหรือไม่ คุณก็อาจจะลองส่งมีมที่พูดแค่ว่า “คุณชอบฉันไหม” วิธีนี้เป็นการถามทางอ้อมและสามารถเล่นเป็นเรื่องตลกได้ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับคุณ
    โฆษณา
8

ถามเขาต่อหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้ว่าอาจจะรู้สึกว่าน่ากลัวเล็กน้อยในตอนแรก แต่คุณจะรู้ว่าคนคนนั้นรู้สึกอย่างไรกับคุณอย่างแน่นอน หาเวลาและสถานที่ที่คุณสามารถพบเจอกันแบบเป็นส่วนตัวเพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจที่จะถาม แค่พูดถึงมิตรภาพของคุณขึ้นมาและดูว่าเขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับมัน [8]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดทำนองว่า “เฮ้ เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาฉันสนุกมาก! คุณเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันจริงๆ และฉันหวังว่าคุณจะรู้สึกเหมือนกันใช่ไหม”
    • ถ้าคุณอยากหาคำตอบว่าเขาชอบคุณมากกว่าเพื่อนหรือไม่ ให้ลองพูดว่า “เฮ้ วันนี้ไปเที่ยวสนุกจัง! ฉันคิดว่าเราเข้ากันได้ดีจริงๆ คุณอยากจะไปเดทกันเร็วๆ นี้บ้างไหม”
    • อย่าต้อนเขาเข้ามุมที่งานปาร์ตี้ บนรถไฟใต้ดิน หรือในสถานที่อื่นที่อาจจะทำให้เขารู้สึกว่าไม่มีทางหนี
    • ถ้าเขาต้องการเวลาคิด ก็จงให้เวลาเขา อย่าทำให้เขารู้สึกกดดันว่าต้องตอบกลับทันที
9

ดูว่าเขาจะมีน้ำใจช่วยเหลือคุณไหม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อมีคนช่วยเหลือคุณ นั่นหมายความว่าเขาเชื่อใจคุณและแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจในมิตรภาพของคุณ ถามอีกฝ่ายว่าเขาสามารถช่วยอะไรเล็กๆ น้อยๆ ได้ไหม เช่น ยกของหนักๆ หรือขอคำแนะนำสำหรับหนังสือน่าอ่าน ถ้าคนคนนั้นรู้สึกสบายใจที่จะช่วยเหลือคุณ เขาก็อาจจะคิดกับคุณแบบเพื่อนสนิท [9]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะถามว่า “เฮ้ คุณช่วยฉันเลือกเสื้อผ้าสำหรับงานปาร์ตี้คืนนี้หน่อยได้ไหม ฉันไว้ใจความคิดเห็นของคุณและอยากดูดีน่ะ”
    • หลีกเลี่ยงการขอความช่วยเหลือเรื่องใหญ่ๆ เช่น การเลี้ยงสุนัขระหว่างที่คุณไปเที่ยวพักผ่อน เว้นแต่ว่าคุณจะรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณเป็นเพื่อนสนิทกัน มิฉะนั้นอีกฝ่ายอาจจะรู้สึกลำบากใจ
    • อย่าขอความช่วยเหลือเยอะเกินไปเพราะอาจจะดูเหมือนว่าคุณกำลังหลอกใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ให้แน่ใจว่าคุณหยิบยื่นน้ำใจให้เขาและช่วยเหลือเขากลับด้วยเช่นกัน
    โฆษณา
10

ให้เพื่อนที่รู้จักพวกคุณทั้งสองฝ่ายเป็นคนถามให้คุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ติดต่อกับคนที่ค่อนข้างสนิทกับอีกฝ่ายเพื่อจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาเพื่อนคนนั้นพูดคุยกับเขา ให้เพื่อนที่รู้จักทั้งสองฝ่ายพูดถึงคุณในบทสนทนาเพื่อดูว่าอีกฝ่ายแสดงความคิดเห็นว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคุณหรือไม่ [10]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะให้เพื่อนถามอีกฝ่ายว่า “เมื่อไม่นานมานี้ฉันเคยเห็นเธอไปเที่ยวกับเจมส์ พวกเธอเป็นยังไงกันบ้างล่ะ”
    • อีกตัวอย่างหนึ่ง เพื่อนอาจจะพูดว่า “ฉันกำลังคิดว่าจะชวนเพื่อนสองสามคนมาเที่ยวที่บ้าน อยากชวนเเธอกับเจมส์ด้วย เธอชอบหน้าเขาหรือเปล่า”

เคล็ดลับ

  • แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับคำตอบอย่างที่หวัง แต่ให้คงความสุภาพและให้เกียรติไว้ [11]
  • เช็คดูว่าอีกฝ่ายกำลังสบตาหรือแสดงท่าทางเพื่อบอกเป็นนัยหรือไม่ เช่น โน้มตัวเข้าใกล้คุณ หรือใช้ภาษากายเหมือนกับคุณ สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณว่าคนคนนั้นชอบคุณ [12]
โฆษณา

คำเตือน

  • เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่งที่คุณจะรู้สึกประหม่าเมื่อคุณคุยกับอีกฝ่าย แค่จริงใจและเปิดใจเพราะว่าเพื่อนของคุณอาจจะรู้สึกแบบเดียวกันก็ได้นะ [13]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,209 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา