ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การมีฟันขาวบ่งบอกถึงการมีสุขภาพและสุขอนามัยที่ดี และทำให้ยิ้มสวยอีกด้วย ถ้าฟันคุณไม่ได้ขาวอย่างที่ต้องการ มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้านเพื่อให้ยิ้มได้สวยขึ้น คำแนะนำต่อไปนี้ใช้วิธีที่แตกต่างไปจากบริการฟอกฟันขาวจากมืออาชีพ แต่ก็สามารถช่วยให้คุณมีฟันที่ขาวขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายแพง ทั้งนี้ควรปรึกษาทันตแพทย์ของคุณก่อนที่จะลองทำตามวิธีใดวิธีหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดความเสียหายขึ้นกับฟันของคุณ ถ้าคุณอยากรู้วิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและลองวิธีการทำให้ฟันขาวด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

ใช้แถบฟอกสีฟัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ควรใช้แถบฟอกฟันขาวที่ได้รับการรับรองจากสมาคมทันตแพทย์อเมริกา และไม่มีส่วนประกอบของคลอรีนไดออกไซด์ที่สามารถทำให้เหงือกของคุณเสียหายได้ แผ่นฟอกสีฟันควรทำมาจากโพลีเอทธิลีน คุณสามารถหาซื้อแผ่นฟอกสีฟันได้ที่ร้านขายยาหรือแม้แต่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต
    • ในชุดจะมี 2 แผ่น สำหรับฟันบนแถบหนึ่งและฟันล่างอีกแถบหนึ่ง แต่ละแถบจะมีเจลเคลือบอยู่ ซึ่งเจลนี้จะช่วยให้แผ่นฟอกสีฟันนี้ติดอยู่กับฟันของคุณได้
    • ราคาเฉลี่ยของแผ่นฟอกฟันขาวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท
  2. เพื่อขจัดเอาคราบต่างๆ ที่สะสมอยู่ที่ผิวฟันออกไป คราบเหล่านี้ทำให้ไม่สามารถฟอกสีฟันได้ทั่วถึง และควรแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งเพื่อช่วยให้คงผลลัพธ์ฟันขาวได้นานขึ้น การใช้ไหมขัดฟันจะช่วยขจัดคราบพลักค์ระหว่างฟัน เพื่อให้สามารถฟอกสีฟันในบริเวณซอกฟันได้ด้วย และอย่าลืมแปรงเหงือกด้วย
  3. รูปแบบของเจลฟอกสีฟันจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ดังนั้นอ่านคำแนะนำให้เข้าใจว่าต้องใช้อย่างไร ต้องแปะทิ้งไว้นานแค่ไหน และสามารถใช้ได้บ่อยเพียงใด โดยส่วนมากแล้วแผ่นฟอกสีฟันเหล่านี้จะต้องแปะไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง วันละ 2 ครั้ง บางชนิดเมื่อใช้เสร็จคุณต้องเอาออกจากปากแต่ก็มีแผ่นฟอกฟันบางชนิดที่สามารถละลายหายไปได้ในปากของคุณ
    • พยายามอย่ากลืนน้ำลายเพื่อป้องกันไม่ให้กลืนสารเคมีที่ใช้ในการฟอกสีฟันเข้าไป
  4. พยายามแปะแผ่นฟอกฟันให้แนบติดกับฟันของคุณ ใช้นิ้วถูไปตามแผ่นเพื่อช่วยให้เจลของแผ่นฟอกฟันติดที่ฟันของคุณ พยายามอย่าขยับลิ้นมากนักเพื่อไม่ให้เจลเลอะเทอะไปทั่วปาก แม้ว่าเจลนี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่ก็อาจทำให้คุณรู้สึกรำคาญได้ เมื่อแปะเรียบร้อยแล้วให้ทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ระบุในคำแนะนำวิธีใช้
  5. หลังจากแปะไว้ครบตามเวลาที่กำหนดแล้วค่อยๆ ดึงแผ่นฟอกฟันออกและนำไปทิ้ง แต่ถ้าคุณใช้แผ่นแปะแบบละลายได้ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
  6. บ้วนปากให้สะอาดจนแน่ใจว่าไม่มีเจลเหลืออยู่ในปากของคุณแล้ว คุณต้องใช้แผ่นฟอกฟันนี้ต่อเนื่องไปตามที่ระบุไว้ในคำแนะนำการใช้งานเพื่อให้เห็นผล
    • หลังจากใช้แผ่นฟอกฟันครบตามกำหนดแล้ว คุณสามารถแปรงฟันด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์เพื่อช่วยปกป้องเคลือบฟันของคุณ
    • ถ้าคุณใช้แผ่นฟอกฟันที่เหมาะสมและใช้อย่างถูกวิธี คุณจะสามารถคงผลลัพธ์ไว้ได้นานถึง 4 เดือน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

ใช้เจลหรือยาสีฟันช่วยทำให้ฟันขาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาเจลสำหรับใช้กับฟันที่ได้รับการรับรองจากสมาคมทันตแพทย์ และอย่าลืมอ่านทำความเข้าใจวิธีการใช้งานเจล บีบเจลลงบนแปรงแล้วแปรงฟันตามปกติอย่างน้อย 2 นาที ก่อนจะบ้วนทิ้ง จากนั้นบ้วนปากด้วยน้ำจนกระทั่งเจลออกไปหมด
    • เจลที่ทำให้ฟันขาวไม่มีส่วนผสมของสารฟอกสีที่รุนแรง ดังนั้นจึงอ่อนโยนกับปากของคุณ
    • ใช้เจลทำให้ฟันขาววันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 14 วัน หรือตามระยะเวลาที่แนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ คุณจะเห็นผลได้ในไม่กี่วัน
  2. ก่อนที่จะซื้อยาสีฟันควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ายาสีฟันนั้นได้รับการรับรองจากสมาคมทันตแพทย์ ยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวที่ได้รับการรับรองจากทันตแพทย์จะค่อยๆ ทำความสะอาดคราบที่ติดบนผิวฟันด้วยการขัด การใช้สารเคมีที่แตกตัว หรือกระบวนการอื่นๆ โดยไม่มีการใช้สารฟอกขาว ยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวนี้คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วไป [1]
    • วิธีการใช้ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาวนี้ก็ใช้เหมือนยาสีฟันทั่วๆ ไป คือ แปรงฟันอย่างน้อย 2 นาที แล้วบ้วนปากให้สะอาด
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในการทำให้ฟันขาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ชุดฟอกสีฟันที่มีขายทั่วไปนั้นมีราคาแพง หากคุณกำลังมองหาทางเลือกอื่นที่ราคาถูกกว่า ลองใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แทนก็ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากชุดฟอกสีฟันทั่วๆ ไป และยังเป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายด้วยตนเอง และได้รับการยอมรับจากสมาคมทันตแพทย์อเมริกาด้วยว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย
  2. โดยปกติแล้วเราจะใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในการรักษาอาการผิวหนังถูกบาด แต่คุณสมบัติลดการอักเสบก็ยังดีกับสุขอนามัยในช่องปากด้วย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มักจะบรรจุอยู่ในชวดสีน้ำตาล ซึ่งจะช่วยปกป้องไม่ให้แสงเข้าไปทำปฏิกิริยากับสารละลาย ให้ซื้อสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้มข้น 3% ซึ่งปลอดภัยสำหรับการใช้ในปาก และไม่เข้มข้นมากจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
  3. ผสมสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงในน้ำเปล่าใช้แทนน้ำยาบ้วนปาก. ใช้ทุกวันก่อนแปรงฟันเพื่อช่วยให้ฟันขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผสมสารละลายกับน้ำเปล่าในอัตราสวน 50/50 จากนั้นทำตามวิธีการดังนี้
    • เทส่วนผสมน้ำยาที่ได้ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร) ไว้ในปากแล้วบ้วนปาก 1 นาที จะเริ่มมีฟองเกิดขึ้น เพราะไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์รวมตัวกับแบคทีเรียในช่องปากจะทำให้เกิดฟองขึ้นในปาก รสชาติอาจไม่ค่อยดีนักจนหลายคนเกลียดวิธีนี้เพราะรสชาติของมัน
    • บ้วนน้ำยาทิ้งไป แล้วบ้วนปากให้สะอาดด้วยน้ำ
    • แปรงฟันตามปกติ
  4. แปรงฟันด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และเบกกิ้งโซดาสัปดาห์ละครั้ง. ส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้จะทำให้ฟันคุณดูขาวสะอาด นี่คือวิธีผสม: [2]
    • เทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 ช้อนชา (10 ม.ล.) ลงในเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ (15 ม.ล.) ผสมเข้าด้วยกันจนเป็นก้อนเหนียว อาจปรับเปลี่ยนอัตราส่วนได้ตามที่คุณต้องการ แต่พยายามให้ส่วนผสมที่ได้มีความข้นเท่ากับยาสีฟัน
    • คุณอาจผสมยาสีฟันกลิ่นมินท์ลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ส่วนผสมที่ได้มีกลิ่นสดชื่น หรืออาจหยดสารสกัดเปปเปอร์มินท์ก็ได้เช่นกัน
    • อาจลองผสมเกลือลงไปเล็กน้อย เกลือจะช่วยขัดฟันขณะแปรงฟัน แต่เกลือมีผิวที่คม ดังนั้นไม่ควรใช้บ่อยเกินไปและควรใช้แปรงสีฟันที่อ่อนนุ่มเสมอ
    • ป้ายส่วนผสมที่ได้ลงบนแปรงสีฟัน
    • ค่อยๆ แปรงฟันในลักษณะเคลื่อนที่เป็นวงกลมเล็กๆ จนทั่วทุกซี่ แล้วปล่อยทิ้งไว้ 2 นาที
    • ล้างออกโดยใช้น้ำก๊อกบ้วนปาก
    • แปรงฟันอีกครั้งด้วยยาสีฟันปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หลงเหลืออยู่
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

ทำให้ฟันขาวขึ้นด้วยเบกกิ้งโซดา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จุ่มแปรงสีฟันเปียกลงในเบกกิ้งโซดา. คุณควรแน่ใจว่าขนแปรงทุกเส้นเปียกน้ำ เมื่อจุ่มลงไปแล้วขนแปรงจะเป็นสีขาว
  2. แปรงฟันเบาๆ หากจำเป็นให้บ้วนออกได้
  3. ล้างปากให้สะอาดด้วยน้ำ (คุณคงไม่อยากให้เบกกิ้งโดซดาอยู่ในปากนานๆ แน่) ใช้น้ำยาบ้วนปากตามได้เพื่อช่วยกำจัดรสชาติแย่ๆ ของเบกกิ้งโซดา ใช้วิธีนี้สัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
    • ถ้าคุณรู้สึกเสียวฟันหลังจากใช้เบกกิ้งโซดา ให้ไปพบทันตแพทย์ เพราะอาจมีฟันผุในปาก
    • หากใช้วิธีนี้มากเกินไปอาจทำให้เคลือบฟันเสียหายได้ ลองปรึกษาทันตแพทย์ว่าคุณสามารถใช้วิธีนี้ได้บ่อยแค่ไหน [3]
  4. นี่คือขั้นตอนในการทำ: [4]
    • คั้นน้ำมะนาวครึ่งลูก
    • ผสมน้ำมะนาวที่ได้กับเบกกิ้งโซดา ¼ ถ้วย ซึ่งอาจจะมีฟองเกิดขึ้นได้
    • ใช้สำลีแบบก้อนหรือมุมขอบผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้าจุ่มลงในส่วนผสม นำมาถูกับฟันแต่ละซี่ ช่องว่างระหว่างฟันและบริเวณใกล้เหงือก จากนั้นก็ถูด้านหลังของฟันด้วย
    • ทิ้งไว้หนึ่งนาทีแล้วแปรงออกทันที อย่าทิ้งไว้นานเพราะความเป็นกรดของส่วนผสมอาจทำให้ประกายขาวมุกของฟันหายไป และอาจมีผลกระทบกับเคลือบฟันของคุณด้วย
    • ไม่ควรใช้วิธีนี้เกินสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เมื่อทำต่อเนื่องคุณจะเห็นได้ว่าฟันของคุณขาวขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

สร้างความเปลี่ยนแปลงทั่วๆ ไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบบนฟัน. รวมถึงเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดคราบเหลืองเพิ่มขึ้น เช่น เลิกสูบบุหรี่ ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแทนนิน อย่าง โซดา กาแฟ ไวน์แดง และชาที่มีแทนนิน [5] ในบางครั้งคุณอาจใช้หลอดดูดเครื่องดื่มที่มีแทนนินเพื่อช่วยให้แทนนินไม่สัมผัสกับฟันของคุณ ( ห้าม ใช้หลอดดูดกับเครื่องดื่มร้อน).
  2. อาหารบางชนิดสามารถช่วยรักษาให้ฟันคุณคงความขาวได้ เช่น: [4]
    • แอปเปิ้ล เซอเลอรี่ และแครอท เป็นผักและผลไม้ที่ช่วยแปรงฟันและเพิ่มการผลิตน้ำลายในปาก ช่วยกำจัดคราบพลักค์ [5] นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีสูง ช่วยลดกลิ่นปากและทำให้เหงือกแข็งแรง
    • สตอรเบอรี่ มีสารช่วยสมานแผลตามธรรมชาติ (กรดมาลิค) ซึ่งช่วยกำจัดคราบติดแน่นได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี่สุดให้นำสตรอเบอรี่ผ่าครึ่งไปถูกับฟัน หรือบนสตรอเบอร์รี่และพอกไว้ที่ฟัน ทิ้งไว้หนึ่งนาทีแล้วจึงล้างออก [5]
    • นำน้ำอุ่นครึ่งแก้วผสมกับน้ำมะนาวครึ่งแก้วมาบ้วนปากสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ ห้ามทำเกินสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเพราะน้ำมะนาวอาจทำให้ฟันผุได้ด้วย [5]
    • เนยแข็ง ช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลายในช่องปาก ช่วยลดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดคราบบนฟัน และเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แคลเซียม และสังกะสี [5]
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

สร้างนิสัยการดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันไม่ได้ช่วยในเรื่องการลดคราบสะสม แต่ทำให้มีสุขภาพปากที่ดีซึ่งจำเป็นกับการป้องกันไม่ให้เกิดคราบเพิ่มขึ้น และช่วยให้คุณมีสุขภาพฟันที่ยอดเยี่ยม สิ่งที่ง่ายและมีประโยชน์ที่คุณทำได้คือ แปรงฟันเป็นประจำเพื่อกำจัดคราบพลักค์ รวมถึงเศษอาหารและเครื่องดื่ม คราบพลักค์จะทำร้ายฟันและเหงือกของคุณ การแปรงฟัน (ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน) จะช่วยลดการเจริญเติบโตของคราบพลักค์ได้
    • ควรแปรงฟันก่อนหรือหลังอาหารเช้าและก่อนเข้านอนเป็นอย่างน้อย บางคนอาจแปรงฟันหลังอาหารกลางวัน และหลังจากทานของขบเคี้ยวด้วยก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นของขบเคี้ยวที่เต็มไปด้วยน้ำตาล
  2. ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน. การใช้ไหมขัดฟันคือวิธีกำจัดคราบพลักค์ที่เกิดขึ้นระหว่างฟันและบริเวณใกล้เหงือกได้ดีที่สุด เมื่อคราบพลักค์ถูกกำจัดออกไปจะทำให้ฟันของคุณดูสะอาดและดูขาวขึ้นด้วย
    • ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เวลาที่เหมาะสมคือ ช่วงกลางคืนหลังจากแปรงฟันก่อนเข้านอน
    • ลองใช้ไหมขัดฟันหลายๆ แบบ จนกระทั่งคุณเจออันที่เหมาะกับคุณ ไหมขัดฟันบางอันอาจหยาบไป ลื่นไป หรือมีกลิ่นมากเกินไปสำหรับคุณ ลองดูว่าคุณชอบไหมขัดฟันแบบไหน
  3. น้ำยาบ้วนปากจะช่วยฆ่าแบคทีเรียและมีสารที่ช่วยทำให้ฟันของคุณแข็งแรง ควรใช้คู่กับการแปรงฟันและไหมขัดฟัน น้ำยาบ้วนปากจะช่วยลดแบคทีเรีย ลดกลิ่นปากและทำให้ฟันแข็งแรงขึ้น สะอาดขึ้น นอกจากนี้คุณอาจลองใช้น้ำยาบ้วนปากบางชนิดที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ด้วย
    • น้ำยาบ้วนปากก็มีหลายชนิดเช่นเดียวกับไหมขัดฟัน ทดลองใช้น้ำยาบ้วนปากหลายๆ แบบ จนกว่าคุณจะเจอแบบที่ชอบและสามารถช่วยให้ฟันและเหงือกของคุณรู้สึกสดชื่น จำไว้ว่าคุณสามารถใช้น้ำเจือจางน้ำยาบ้วนปากได้หาคุณรู้สึกแสบหรือทนไม่ได้
  4. เพื่อให้หมอฟันช่วยทำความสะอาดช่องปากของคุณอย่างมืออาชีพตามนัดหมาย วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีสุขภาพปากที่ดี ไม่มีฟันผุ และทำให้คุณมีฟันขาวแข็งแรง ที่สำคัญอย่าลืมปรึกษาทันตแพทย์ของคุณก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะไม่ทำอันตรายกับฟันของคุณ
    • ถ้าคุณมีเหงือกและฟันที่แพ้ง่าย หรือใส่ที่ครอบฟันหรือมีงานทันตกรรมอื่นๆ ที่ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะบอกให้คุณรู้ได้
    • อาการฟันดำขั้นรุนแรงควรได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ก่อนที่จะใช้เบกกิ้งโซดา คุณควรรู้ว่ารสของมันรุนแรง
  • ควรระมัดระวังในการใช้แถบฟอกฟัน เพราะสารเคมีที่รุนแรงสามารถทำลายเคลือบฟันได้
  • การมีฟันขาวไม่จำเป็นต้องใช้แถบฟอกสีฟันเสมอไป แค่การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันก็สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ แต่ถ้าคุณต้องการฟันที่ขาวยิ่งขึ้นก็หามาลองใช้ดู
  • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (และบ่อยกว่านั้นหากคุณใส่เหล็กดัดฟันหรือรีเทนเนอร์
  • การแปรงฟันหลังทานอาหารทุกครั้งจะช่วยรักษาฟันให้ขาว เพราะทุกอย่างที่คุณกินเข้าไปจะทิ้งคราบไว้บนฟัน
  • ไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการฟอกสีฟัน อาจจะใช้เงินมากสักหน่อยแต่ก็ได้ผลดีและช่วยให้คุณประหยัดเวลามากกว่าวิธีการด้านบน สำหรับคนแบบเราๆ ที่เวลาเป็นเงินเป็นทอง เอาเวลาไปทำงานดีกว่า!
  • การทำให้ขาวขึ้นเฉพาะจุดหรือบริเวณที่มีปัญหามากให้ใช้ไม้พันสำลีจุ่มในไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
  • จำไว้ว่า การมีฟันขาวเป็นสิ่งที่ดี แต่ตราบเท่าที่คุณมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง ฟันจะไม่ขาววิ้งก็ไม่เป็นไร
  • ถ้ามีเศษอาหารติดฟันให้แปรงฟัน หรือจะใช้ไม้จิ้มฟัน หรือใช้ไหมขัดฟันเขี่ยเศษอาหารออกก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำมะนาว พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่วนผสมไปสัมผัสกับเหงือก ถ้ามีเลือดออกจากเหงือกระหว่างแปรงฟัน ให้หยุดและบ้วนปากทันที เพราะเหงือกของคุณไวต่อฤทธิ์กัดกร่อนของสูตรนี้ ให้หยุดพัก 2-3 วันก่อนที่จะลองใช้วิธีนี้อีกครั้ง
  • เบกกิ้งโซดาสามารถละลายกาวสำหรับจัดฟันได้ ดังนั้นหากคุณมีเหล็กจัดฟันอยู่หรือใส่รีเทนเนอร์แบบถาวรอยู่ห้ามใช้วิธีนี้
  • ถ้าคุณมีบาดแผลหรือรอยถลอกในปาก คุณอาจรู้สึกแสบขณะที่ใช้น้ำยาบ้วนปากหรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และบาดแผลอาจเปลี่ยนเป็นสีขาวชั่วคราว นี่เป็นอาการปกติ
  • การใช้เบกกิ้งโซดามากเกินไปจะทำให้ฟันเสียหายได้
  • อย่าแปรงฟันแรงๆ เรพาะในระยะยาวจะทำให้เคลือบฟันเสียหาย (หรือที่เรียกว่าฟันผุ) ทำให้เกิดการเสียวฟัน
  • อ่านวิธีใช้ให้ละเอียดก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่วางขาย
  • เบกกิ้งโซดามีฤทธิ์กัดกร่อนสามารถทำให้เคลือบฟันคุณเสียหายได้แบบถาวร ดังนั้นอย่าใช้วิธีการทำให้ฟันขาวด้วยเบกกิ้งโซดาบ่อยเกินไปนัก มียาสีฟันบางยี่ห้อที่ผลิตออกมาเป็นพิเศษซึ่งทำให้สามารถใช้ได้ทุกวันโดยไม่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพฟัน (เน้นขายให้กับผู้ที่สูบบุหรี่) ด้วยส่วนผสมที่มีฤทธิ์กัดกร่อนที่เบากว่าเบกกิ้งโซดา ซึ่งนอกจากจะช่วยขจัดคราบหินปูนที่เกิดจากบุหรี่แล้ว ยังสามารถขจัดคราบที่เกิดจากการดื่มชา กาแฟ และไวน์ได้ด้วย
  • ระวังอย่ากลืนไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าไประหว่างที่ทำการฟอกสีฟัน เพราะอาจทำให้อาเจียน แสบร้อน หรืออาจถึงแก่ชีวิตได้
  • อย่าใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มากเกินไป เพราะไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อาจทำให้เคลือบฟันเสียหายได้
  • ลองศึกษาด้วยตนเองเกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในการฟอกฟัน หากคุณไม่ชอบสารที่ใช้หรือไม่สามารถหาซื้อได้ ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่นดู
  • ฟันที่พึ่งผ่านการฟอกสีอาจรู้สึกเสียวฟันได้ง่ายสักระยะหนึ่ง [6]
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ไหมขัดฟัน
  • ยาสีฟัน
  • แปรงสีฟัน (ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุก 3 – 4 เดือน)
  • น้ำยาบ้วนปาก
  • แถบฟอกสีฟันหากต้องการผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
  • ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
  • เบกกิ้งโซดา
  • มะนาว
  • น้ำเปล่า

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,339 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา