ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ผู้คนมากมายต้องการที่จะประสบความสำเร็จ แต่การพูดง่ายกว่าลงมือทำเสมอ ระหว่างทางจะมีอุปสรรคขัดขวางมากมายไม่ให้เราไปถึงเป้าหมายของเราได้ อย่างไรก็ตามคุณสามารถเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ด้วยการทำตามคำแนะนำที่ดี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

วางแผนเพื่อความสำเร็จ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” ยิ่งภาพที่คุณคิดชัดเจนมากเท่าไร ก็ยิ่งง่ายต่อการทำตามความฝันนั้น ใช้หลักการเดียวกับวิศวกรสร้างสะพาน ที่คิดแบบสะพานก่อนแล้วจึงสร้างมัน คุณเองก็สามารถเป็นวิศวกรสร้างฝันของคุณได้เช่นกัน
    • ให้เวลากับการจินตนาการความฝันของคุณสักวันละสองสามนาที จินตนาการตัวเองให้อยู่ในหนังที่คุณคือคนที่ประสบความสำเร็จ รูปแบบความสำเร็จของคุณจะเป็นแบบไหน และเก็บเกี่ยวความรู้สึกนั้นไว้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณ
    • สะสมแรงบันดาลใจในขณะที่คุณกำลังจินตนาการ คนที่ประสบความสำเร็จพวกเขาเชื่อมั่นในตัวเองและสิ่งที่กำลังทำ ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่ควรดูถูกผู้อื่น ต้องเข้าใจว่าพวกเขาก็มีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จเหมือนกับคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเหยียบย่ำพวกเขาเพื่อทำให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
  2. ระบุสิ่งที่คุณชอบทำและสิ่งที่ทำให้คุณพอใจ เมื่อคุณรู้แล้วว่าอะไรที่คุณรักที่จะทำ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อหาว่าอะไรที่เป็นวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายในชีวิตของคุณ
    • การหาสิ่งที่คุณรักจะทำให้คุณมีกำลังใจ ลองคิดดูว่าหากคุณถูกบังคับให้แข่งไตรกีฬาในขณะที่คุณอยากเล่นหมากรุก ยากใช่ไหม? ลองคิดถึงโอกาสที่จะเข้าร่วมการแข่งขันหมากรุก มันจะง่ายมากกว่าที่จะบรรลุเป้าหมายเมื่อเป้าหมายคือการทำสิ่งที่คุณรัก (เขียนว่าอะไรคือแรงบันดาลใจและอะไรคือสิ่งที่คุณรัก)
    • จะทำอย่างไรให้รู้ถึงจุดประสงค์หรือเป้าหมายในชีวิต? แต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกันไป บางคนก็ยากที่จะหา แต่ก็ยังคงมีวิธีการค้นหาสำหรับคุณอยู่
      • พูดคุยกับที่ปรึกษาด้านอาชีพหรือพบนักจิตวิทยา
      • ลองทำงานหลายๆ แบบ จำไว้ว่างานทุกอย่างสามารถช่วยให้คุณได้เรียนรู้
      • ลองทำงานที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นงานทำเบียร์หรือสอนวาดรูป คุณจะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่าหากทำงานที่คุณรัก
  3. กำหนดความหมายของคำว่าความสำเร็จในแบบของคุณ. คุณจะประสบความสำเร็จไม่ได้หากคุณไม่รู้ว่าอะไรคือความสำเร็จกันแน่ ทุกคนมองความสำเร็จกันคนละแบบ ดังนั้นการใช้มาตรฐานของผู้อื่นจึงเหมือนกับการทานอาหารที่ตัวเองไม่ได้สั่งและหวังว่าจะชอบมัน ตั้งเป้าหมายในแบบของคุณให้ชัดเจนและตั้งอยู่บนหลักความเป็นจริง
    • คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณได้ประสบความสำเร็จแล้ว? มาตรฐานของคุณควรจะต้องวัดได้ ไม่เช่นนั้นคุณอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตตามหาฝันที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
      • ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณอยากเก่งในด้านการงาน หลังจากนั้นคุณได้เลื่อนขั้น คุณได้รับคำชม แต่คุณยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะคุณคิดว่าคุณยังทำได้ดีกว่านี้ คุณสามารถไปได้ไกลกว่านี้อีกเรื่อยๆ หรือหาเงินได้มากกว่านี้อีก ดังนั้นไม่ว่าคุณได้รับอะไรมาจึงไม่เพียงพอสักที
      • ดังนั้นต้องชัดเจน “เป้าหมายของฉันคือต้องเพิ่มการผลิตขึ้น 30% และต้องมาสายไม่เกิน 5 ครั้งต่อปี” เป้าหมายเช่นนี้สามารถรู้ได้ว่าสำเร็จเมื่อใด ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจในความสำเร็จ ทำให้คุณรู้สึกประสบความสำเร็จและเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ
  4. [1] คุณอ่านถูกต้องแล้ว “ลดความมั่นใจในตัวเองลง” จริงอยู่ที่คุณต้องมีความมั่นใจสูงในการทำธุรกิจ แต่สำหรับบางครั้ง การลดความมั่นใจในตัวเองลงจะทำให้คุณประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลต่างๆ ดังนี้
    • การลดความมั่นใจในตัวเองลงจะทำให้คุณสนใจกับเสียงตอบรับและทำให้คุณปรับเปลี่ยนตัวเองได้ หากคุณเชื่อว่าคุณคือสุดยอดวิศวกร คุณจะไม่ยอมรับในความคิดเห็นที่ได้รับ และคุณก็จะมองไม่เห็นข้อเสียของตนเอง ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องรับฟังผู้อื่นด้วย
    • การลดความมั่นใจในตัวเองจะทำให้คุณทำงานหนักขึ้นและเตรียมตัวมากขึ้น หากคุณไม่เชื่อว่าคุณจะทำให้การเสนองานครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีได้ คุณจะให้เวลากับการฝึกฝนและเตรียมการมากขึ้น ซึ่งนี่คือนิสัยที่ดี
    • การลดความมั่นใจในตัวเองลงจะทำให้คุณไม่ดูถูกผู้อื่น คนที่ดูถูกผู้อื่นมักจะไม่ได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเพื่อนร่วมงานก็เป็นส่วนสำคัญในการทำงาน เป็นที่รู้กันว่าความเคารพยำเกรงก็เป็นส่วนช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ
  5. หากคุณไม่รู้ว่าเมื่อไรที่คุณต้องประสบความสำเร็จ ก็จะยากที่จะรู้ว่าคุณล้มเหลวหรือไม่ กำหนดเวลาที่จำกัดแต่เป็นไปได้ให้ตัวเอง การชนะการแข่งขันจักรยานตูร์เดอฟรองส์โดยไม่มีประสบการณ์ในเวลาสองปี เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ แต่การซื้อตั๋วหนังให้ทันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้
  6. ระบุความสามารถ ทักษะ อุปกรณ์ ที่จำเป็นต่อความสำเร็จของคุณ. หากคุณต้องการเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียง เช่น คุณต้องการมีคำศัพท์ ความรู้ วิชา ทักษะการเขียน เสียงทีดี และทักษะการนำเสนอที่ดี สิ่งเหล่านี้คือเป้าหมายย่อยเพื่อไปสู่เป้าหมายหลัก
  7. คนที่ประสบความสำเร็จมากมายมีความอยากรู้อยากเห็น หากพวกเขาไม่เข้าใจบางอย่าง หรือไม่รู้คำตอบของคำถาม พวกเขาจะหาคำตอบเหล่านั้น บ่อยครั้งที่สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาเดินทางเพื่อหาคำตอบและการเดินทางของพวกเขาก็จะนำพวกเขาไปสู่ความสำเร็จ
  8. ระบุทักษะที่คุณต้องการพัฒนาและสิ่งที่ต้องหาจากที่อื่น. การหาความช่วยเหลือจากที่อื่นคือการจัดการเรื่องเวลา คุณอาจคิดว่าตัวเองคือซูเปอร์แมน แต่แท้จริงแล้วคุณมีข้อจำกัด การนำความช่วยเหลือมาจากที่อื่นเพื่อทำสิ่งที่สำคัญรองลงไป ทำให้คุณมีเวลามากขึ้นที่จะมุ่งไปยังสิ่งที่สำคัญกว่า
    • ใช้ตัวอย่างข้างต้นเป็นแบบอย่าง เพื่อที่จะเป็นนักพูดที่ดี คุณจำเป็นต้องพัฒนาเสียงและทักษะการพูด เนื่องจากทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักพูดที่ดีควรมี แต่หากคุณขาดทักษะการเขียนหรือความรู้เรื่องที่จะพูด คุณสามารถหาความช่วยเหลือจากผู้รู้ได้ วิธีนี้เรียกว่าฉลาดทำงาน ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องเขียนบทสุนทรพจน์ของตัวเอง พวกเขาแค่ให้ความสำคัญกับการพูดให้ดีพอเท่านั้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ดำเนินการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จัดการเรื่องเล็กๆ และมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายหลัก. อย่าหาข้ออ้างผัดวันประกันพรุ่ง เริ่มต้นเลย คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าปัญหาอะไรจะเกิดขึ้นหากคุณยังไม่ได้ลงมือทำ
    • แตกเป้าหมายออกเป็นเป้าหมายย่อย ตั้งบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีดูเป็นเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? แตกเป้าหมายออกเป็นเป้าหมายย่อย จัดลำดับความคิดของคุณ หลังจากนั้นหาทุน แล้วจึงสร้างต้นแบบขึ้นมา เป็นต้น หากคุณแบ่งเป้าหมายย่อยจะทำให้ง่ายและน่ากลัวน้อยลงที่จะทำตามเป้าหมาย
  2. สิ่งยั่วยวนก็เหมือนกับขวากหนามในชีวิต หรือผลไม้ต้องห้ามนั่นเอง ขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณ แต่ต้องเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะให้ความสนใจ 100 % กับงานของคุณเพียงอย่างเดียว สิ่งยั่วยวนในปริมาณน้อยก็ไม่ได้อันตราย แต่เมื่อคุณเริ่มรู้ตัวว่าคุณกำลังถอยห่างจากเป้าหมาย ก็ถึงเวลาแล้วที่จะกำจัดสิ่งยั่วยวนเหล่านั้นทิ้งไป
  3. เมื่อรอบตัวของคุณเต็มไปด้วยคนที่มีแรงขับเคลื่อนสูง คุณจะมีกำลังใจ คุณสามารถหาไอเดียจากพวกเขาและพวกเขายังช่วยหาเพื่อนร่วมทางให้กับคุณอีกด้วย การอยู่ใกล้ๆ กับผู้ที่มีแรงขับเคลื่อนสูงและประสบความสำเร็จคือหนทางที่จะนำคุณสู่ความสำเร็จ
    • เรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ มองไปรอบๆ ใครกันที่คุณนำมาเป็นแบบอย่าง? พวกเขาทำกันอย่างไร? พวกเขามองชีวิตอย่างไร? สอบถามพวกเขา หนทางของคุณจะใกล้เคียงกับพวกเขา จำไว้ว่าความรู้คือพลังอันยิ่งใหญ่
  4. เป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จหากคุณไม่เชื่อใจคนรอบตัวของคุณ หากคุณทำทุกอย่างด้วยตัวเองจนไม่เหลือเวลาเลย คนอื่นก็จะมองว่าคุณไม่ให้โอกาสพวกเขา การประสบความสำเร็จคือการทำงานเป็นทีม หากคุณไม่เชื่อใจผู้อื่นมากพอ ก็ยากที่คุณจะประสบความสำเร็จ
    • เชื่อใจผู้อื่น เพราะการเชื่อใจเป็นแรงขับเคลื่อนที่ดี หากคุณเชื่อใจใครสักคน พวกเขาจะต้องการที่ทำให้ดีที่สุด เพราะว่าพวกเขาไม่อยากทำให้คุณผิดหวัง นี่คือแรงขับเคลื่อนที่ดี
    • เชื่อใจผู้อื่นคือสิ่งจำเป็น เช่น จอห์น ดันน์ เคยกล่าไว้ว่า “ไม่มีใครอยู่ตัวคนเดียวได้” เขาหมายความว่าไม่มีใครที่สามารถทำงานคนเดียวได้ อย่างไรก็ตามเราต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น ไม่ว่าเราจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม การเชื่อใจผู้อื่นจึงไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นสิ่งจำเป็น
  5. ที่ปรึกษาคือคนที่มีประสบการณ์มากกว่าคุณ คนที่จะให้คำแนะนำและช่วยคุณตามล่าเป้าหมายของคุณ เบื้องหลังของผู้ประสบความสำเร็จมากมายคือที่ปรึกษา และที่ปรึกษาจะภาคภูมิใจที่คุณประสบความสำเร็จด้วยคำแนะนำของพวกเขา
    • ที่ปรึกษาจะช่วยคุณดังนี้
      • เครือข่าย . เครือข่ายคือการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ที่มีเครือข่ายอยู่แล้ว เครือข่ายมีประโยชน์อย่างยิ่ง คุณสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ความสามารถของคุณแลกกับผลประโยชน์บางอย่างได้
      • แก้ปัญหา . การแก้ปัญหาคือการเรียนรู้ที่จะทำให้ไอเดียหรือโปรแกรมต่างๆ ดีขึ้น ที่ปรึกษาของคุณจะช่วยคุณคิดหาสิ่งที่ควรเปลี่ยนเพื่อให้ไอเดียของคุณดียิ่งขึ้น
      • วางแผน . แน่นอนว่าที่ปรึกษาจะต้องมีความคิดที่กว้างไกลกว่าคุณ เพราะว่าพวกเขามีประสบการณ์ที่มากกว่า ทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว คุณสามารถนำเอาสิ่งเหล่านั้นมาวางแผนอนาคตของคุณได้
  6. จากการฟัง การเรียน การทำความเข้าใจ การเรียนรู้ แล้วทำซ้ำ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์เพราะว่าพวกเราสามารถมองไปที่โลก แล้วสร้างความสัมพันธ์ต่างๆ และใช้ความสัมพันธ์เหล่านั้นมาทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ( หรือแม้แต่แย่ลง ) นี่คือสิ่งที่ข้อมูลช่วยเราได้ อย่าหยุดเรียนรู้ เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อไรทางสว่างจะเปิดทางให้คุณ
  7. คุณเคยมีความคิดอะไรสักอย่างแต่กลัวว่าสมาชิกคนอื่นจะไม่เห็นด้วยไหม? ความกลัวนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่การให้เสียงส่วนใหญ่แนะนำคุณก็เป็นเรื่องที่ดี ผิดและปรับปรุงดีกว่าการดื้อรันทำในสิ่งผิดที่คนรอบข้างไม่เห็นด้วย
    • เช่น ในปี 2011 ซีอีโอของ บริษัทเน็ทฟลิกซ์(Netflix) รีด แฮชติ้งส์ พยายามที่จะเปลี่ยนการผลิตดีวีดีไปเป็นการปล่อยให้ดูออนไลน์เท่านั้น เรียกว่า Qwikster ผู้ติดตามของเน็ทฟลิกซ์ลดลงไปอย่างน่าใจหาย และหุ้นของบริษัทลงลดเกือบ 80% [2]
    • แทนที่จะหลับหูหลับตาดำเนินงาน เขาควรไตร่ตรองให้ดีก่อน เขาออกมาขอโทษต่อการกระทำของเขา และพยายามเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดไป เขาวางโครงการเดิมลงก่อน และเขาให้คนรอบตัวของเขาแนะนำเขา.
  8. ออกมาสู้โลกความเป็นจริงบ้าง คนที่ประสบความสำเร็จจะคิดใหญ่ทำใหญ่ อย่ารอให้โอกาสมาถึง ออกไปคว้ามันมา คนที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจะลงทุนมาก (ในหน้าที่การงาน ในธุรกิจ และในการศึกษา) และการลงทุนทั้งหมดมีความเสี่ยง ศึกษาให้รอบคอบและต้องมั่นใจว่าโชคเข้าข้างคุณ แล้วลงมือทำ ต้องกล้าเข้าไว้ และนี่คือสามสิ่งที่ควรค่าแก่การเสี่ยง
    • จับคู่กับคู่แข่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้นำหรือรั้งท้าย การจับคู่กับคู่แข่งก็จะช่วยให้คุณมีข้อมูล ซ้ำยังช่วยให้คุณทำงานหนักขึ้นและช่วยคุณสร้างความสัมพันธ์อีกด้วย
    • อย่าเป็นผู้ตาม เป็นผู้นำ อย่างก็ตามการนำอาจเป็นเรื่องอันตราย เนื่องจากคุณกำลังทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน บางครั้งคุณอาจกำลังสะสมความคิดอยู่ เช่น เฟซบุ๊ค หรือ กูเกิ้ล สองอย่างนี้เคยมีคนทำมาก่อนแล้ว ลองใช้ความกล้าและทำในสิ่งที่แปลกออกไป
    • ขยับทีละขั้นสองขั้น อย่าหุนหัน แน่นอนว่าการหุนหันอาจไม่ใช่สิ่งเลวร้านเสมอไป คุณสามารถใช้มันในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ แต่การค่อยเป็นค่อยไปก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
  9. คนที่ประสบความสำเร็จจะพัฒนาด้วยการแก้ปัญหาและตอบคำถาม ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ มองไปรอบๆ และคิดว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง อะไรที่ผู้คนกำลังลำบากกับหรือบ่นถึง? คุณสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไรบ้าง? คุณสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์บางอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกเขาได้ไหม? คุณสามารถสร้างหรือมอบบางอย่างเพื่อเติมเต็มช่องว่างได้ไหม?
    • ปัญหาใดที่คุณอยากจะแก้ไข?
      • ปัญหาสังคม. เฟซบุ๊คช่วยสร้างวิธีการติดต่อกับผู้อื่น คุณสามารถคิดอะไรที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมคล้ายๆ แบบนี้ได้ไหม?
      • ปัญหาเทคโนโลยี. บริษัทมากมาย เช่น เดล (Dell) ออกแบบคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กและมีซีพียูที่แรงขึ้นเพื่อช่วยตอบสนองผู้บริโภค คุณสามารถใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งที่ช่วยให้ผู้คนทำสิ่งที่อยากทำได้ไหม?
      • ปัญหาการวางแผน. บริษัทที่ปรึกษา เช่น IBM ช่วยบริษัทอื่นคิดค้น แสวงหากำไรอย่างรอบคอบ คุณสามารถช่วยเหลือด้านการวางแผนได้ไหม?
      • ปัญหาระหว่างบุคคล. นักจิตวิทยาและที่ปรึกษาชีวิตคู่สามารถช่วยผู้อื่นแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนในชีวิตได้ คุณสามารถทำอะไรแบบนี้ได้หรือไม่?
  10. เทคโนโลยีสามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง มันสามารถเชื่อมคนทั่วโลกเข้าด้วยกันในพริบตาเดียว ใช้คำนวณค่าต่างๆ ในพริบตา มันทำงานแทนมนุษย์ได้ เป็นที่เก็บข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็สามารถเป็นภาระกับคุณได้ มันอาจทำให้คุณเหน็ดเหนื่อยหมดแรงคิดงานและเสียโอกาสดีๆ ไป ความงดงามและความเลวร้ายของอินเตอร์เน็ตคือมันช่วยคุณหาข้อมูล แต่มันก็อาจกลายเป็นตัวดูดเวลาของคุณได้เช่นกัน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำซ้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณจะต้องล้มเหลว คือสิ่งแน่นอน สิ่งที่คุณทำได้คือการลุกขึ้นยืนอีกครั้งหลังจากหกล้ม อย่ายอมแพ้ หากความพยายามครั้งแรกล้มเหลว ลองใหม่
    • อย่าปล่อยให้ความล้มเหลวครอบงำคุณ. หากคุณถาม โธมัส เอดิสัน ถึงการล้มเหลว 10,000 ครั้งในการสร้างแบตเตอรี่ เขาจะตอบคุณว่า “ฉันไม่ได้ล้มเหลว ฉันแค่ค้นพบวิธีที่ไม่ได้ผล 10,000 วิธี” [3]
    • อย่าสร้างข้ออ้าง อย่าโทษใครหรืออะไรก็ตามในความล้มเหลวของคุณ ยอมรับเมื่อเป็นความผิดของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ข้ออ้างคือการปฏิเสธที่จะพัฒนาตัวเอง
    • เรียนรู้จากความผิดพลาด ความล้มเหลวแต่ละครั้งคือโอกาสทองที่จะเรียนรู้ หากคุณผิดพลาดและปฏิเสธความผิดพลาดนั้น คุณก็มีโอกาสที่จะทำความผิดพลาดนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่าเสียเวลากับความผิดพลาดเดิมๆ เลย
  2. นี่คือเรื่องจริง คุณสามารถเสียใจได้และหวังว่ามันจะดีกว่านี้ หรือสามารถออกไปทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้ ดังนั้นหยุดเสียเวลากับความไม่ยุติธรรมและคิดว่าจะใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์อย่างไร นิวตันอาจจะบ่นว่าทำไมแอปเปิ้ลถึงตกใส่หัวเขา แต่เขากลับคิดค้นกฎแรงโน้มถ่วงขึ้นและกลายเป็นบิดาแห่งฟิสิกส์ในที่สุด
  3. ความสำเร็จคือการบรรลุเป้าหมาย แต่อย่าคิดว่าจะทำให้คุณมีความสุข คนมากมายคิดว่าถ้าทำนั่นนี่สำเร็จจะมีความสุข การมีความสุขในชีวิตขึ้นอยู่กับคุณ “ใช้ชิวิตอย่างไร” มากกว่า “คุณทำอะไรในชีวิต” อย่าลืมข้อนี้ล่ะ
    • อย่าตัดขาดโลกภายนอก ชีวิตต้องมีความสัมพันธ์ ดังนั้นอย่าละทิ้งสิ่งนั้น หากคุณคิดค้นการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ในราคาถูกได้ แต่ทุกคนเกลียดคุณ คุณไม่มีใครคบ ไม่มีเพื่อนเลย มันคุ้มกันไหม?
    • ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากกว่าสิ่งของ มนุษย์มักจะหมกมุ่นกับเงินทอง เป็นเรื่องแปลกที่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าความทรงจำของพวกเราสามารถทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าสิ่งของที่พวกเราซื้อด้วยเงิน [4] ตั้งเป้าหมายไปที่การสร้างความทรงจำที่ดีกับคนดีๆ แล้วคุณจะมีความสุข
  4. มุ่งเป้าหมายไปที่การคิดบวกในทุกสถานการณ์ คุณจะต้องประหลาดใจว่ามันได้ผลดีขนาดไหนเมื่อความคิดที่ดีนำทางคุณ หากคุณล้มเหลว อย่ากลัวที่จะเริ่มใหม่ จงภูมิใจที่คุณได้มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้มากกว่าเดิม
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • กุญแจสำคัญของการประสบความสำเร็จคือการหาว่าคุณชอบและถนัดอะไร
  • ถ่อมตนเข้าไว้ การยิ่งทะนงตนมากไปจะพาคุณไปสู้จุดจบ
  • เชื่อตัวเองและความสามารถของคุณ
  • ความสำเร็จต้องลงมือทำคิดอย่างเดียวไม่ได้ การทำบางอย่างเพียงครั้งเดียวจะไม่ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เมื่อคุณทำมันหลายๆ ครั้ง จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในที่สุด
  • ไม่มีทางลัดสู้ความสำเร็จ ทุกอย่างอยู่ที่การเตรียมตัว ความทุ่มเทและการเรียนรู้จากความล้มเหลว
  • ไม่ใช่ทุกคนที่จะยินดีกับความสำเร็จของคุณ คนบางคนขี้อิจฉา เตรียมตัวรับมือกับคนประเภทนี้ และมองข้ามพวกเขาไป จนกระทั้งคุณพบกับคนที่ยินดีกับคุณและสนับสนุนคุณ
  • สิ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จอยู่ในตัวคุณแล้ว
  • จำไว้ว่า พระเจ้าอยู่กับคุณเสมอ
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่ากังวลกับความคิดเห็นของผู้อื่นมากจนเกินไป ยึดมั่นกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำ
  • การผลักดันให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จอาจส่งผลตรงกันข้าม เช่น หากพวกเขาเห็นความสำเร็จของคุณ พวกเขาอาจคิดว่าทำอย่างไรพวกเขาจะทำได้มากกว่าที่คุณทำ
  • จงสุภาพและเคารพผู้อื่น จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเหยียบย่ำผู้อื่นเพื่อให้คุณประสบความสำเร็จ


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,931 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา