ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis หรือ BV) คือภาวะการอักเสบของช่องคลอดประเภทหนึ่งซึ่งเป็นการติดเชื้อในช่องคลอดที่พบมากที่สุดในผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 44 ปี [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตมากผิดปกติของแบคทีเรียในช่องคลอด [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียแต่อาจเกิดจากปัจจัยบางประการ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ นอกจากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังตระหนักถึงการป้องกันไว้ก่อนสามารถช่วยปกป้องคุณจากโรคนี้ได้ด้วย [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
ขั้นตอน
-
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย. การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย แม้ว่าการยับยั้งชั่งใจตัวเองจะเป็นวิธีเดียวที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้แต่ก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลที่สุด ดังนั้นควรใช้ถุงยางอนามัยเสมอขณะมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากคุณมีความสัมพันธ์แบบคู่ครองเดียวและโดยปกติแล้วไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย ควรใช้หากคุณกำลังรักษาอาการติดเชื้อในช่องคลอดที่เกิดจากแบคทีเรีย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาต่อไปเพื่อตัวคุณเองและคู่รักของคุณ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
-
จำกัดคู่นอนของคุณ. ยิ่งมีคู่นอนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียสูงขึ้นเท่านั้น [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล ดังนั้นพยายามจำกัดจำนวนคู่นอนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคให้น้อยลง
- การที่คุณหรือคู่นอนของคุณไม่ซื่อสัตย์จะช่วยเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะหากคุณไม่ป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์ [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- การพูดคุยสื่อสารกับคู่รักของคุณอย่างเปิดเผยอาจช่วยให้คุณทั้งคู่ปลอดภัยจากการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือการแพร่โรคไปสู่คนอื่นได้ [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและการมีคู่นอนหลายคนอาจช่วยเพิ่มความเสี่ยงในการติดโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
-
คิดถึงวิธีการใช้ห่วงอนามัยในการคุมกำเนิดให้ดี. ผลการศึกษาบางชิ้นแนะนำว่าการใช้อุปกรณ์ภายในมดลูกหรือห่วงอนามัยในการคุมกำเนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ หากคุณเคยมีประวัติช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมาก่อน ให้พูดกับแพทย์เรื่องการใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นแทน [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมที่ช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์และการติดโรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- การคุมกำเนิดแบบอื่นที่คุณสามารถใช้ได้คือ การกินยา แผ่นแปะหรือวงแหวนคุมกำเนิด การใช้ฝาครอบไดอะแฟรม การฉีดยาคุม (โดยใช้ฮอร์โมน) หรือการใช้หมวกครอบปากมดลูก [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รักษาความสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด. ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียมีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียที่ดีในช่องคลอดของคุณ การช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอดนั้นช่วยให้คุณปลอดภัยจากภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ นอกจากนั้นการทำความสะอาดในแต่ละวันและการสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมในสภาพอากาศอุ่นๆ อาจช่วยรักษาความสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอดได้เช่นกัน [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- ทำความสะอาดส่วนนอกของจุดซ่อนเร้นและทวารหนักทุกวันด้วยสบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น จอห์นสัน หรือ เบบี้มายด์ เป็นต้น [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- หลังจากอาบน้ำให้เช็ดทำความสะอาดจากช่องคลอดถึงทวารหนักเป็นประจำ [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- ดูแลบริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณให้แห้งและเย็นสบายโดยการใส่ชุดชั้นในผ้าฝ้ายและหลีกเลี่ยงการใส่กางเกงรัดรูป นอกจากนั้นในช่วงฤดูร้อนควรหลีกเลี่ยงการใส่ถุงน่องด้วย [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวในการทำความสะอาดช่องคลอดหากมีความจำเป็น. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์สวนล้างภายในเพื่อทำความสะอาดภายในช่องคลอดของคุณ และห้ามใช้ยาสวนล้างช่องคลอดหากคุณเป็นหรือเคยเป็นโรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
- ช่องคลอดของคุณจะทำความสะอาดตัวมันเองโดยธรรมชาติอยู่แล้ว หากคุณรู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดมัน ให้คุณล้างด้วยน้ำอุ่นขณะอาบน้ำอย่างเดียว
-
ตรวจภายในสม่ำเสมอ. การเข้าพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจภายในสม่ำเสมอนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นเท่านั้นแต่ยังทำให้สุขภาพของจุดซ่อนเร้นของคุณดีขึ้นตามไปด้วย [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล แพทย์อาจตรวจพบภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียในระหว่างการตรวจอย่างสม่ำเสมอและสามารถวางเส้นทางในการรักษาให้คุณได้
- ส่วนใหญ่แล้วแพทย์ทั่วไปก็สามารถตรวจภายในประจำปีให้คุณได้หากคุณไม่มีสูตินรีแพทย์
-
ควรกินยาให้หมด. เป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณจะต้องกินยาตามแพทย์สั่งทั้งหมดเพื่อที่จะรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย หากแพทย์ตรวจพบว่าคุณมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ต้องแน่ใจว่าคุณกินยาทั้งหมดที่แพทย์สั่งเรียบร้อย และติดต่อแพทย์ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจ การรักษาไม่ต่อเนื่องสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคซ้ำอีกได้ [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์หรืออุดมไปด้วยจุลินทรีย์ในกลุ่มแลคโตบาซิไล. บางทฤษฎีถือว่าการกินอาหารโปรไบโอติกส์หรือใช้การรักษาด้วยกลุ่มจุลินทรีย์แลคโตบาซิไลซึ่งช่วยเพิ่มแบคทีเรียที่ดีในช่องคลอดของคุณนั้นจะสามารถช่วยป้องกันจากภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ เพราะฉะนั้นการกินอาหารจำพวกเนยแข็งหมักด้วยจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์หรือโยเกิร์ตจึงเป็นรูปแบบหนึ่งในการรักษาด้วยกลุ่มจุลินทรีย์แลคโตบาซิไล อาหารเหล่านี้อาจช่วยรักษาแบคทีเรียในช่องคลอดให้แข็งแรงได้ [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- จุลินทรีย์ในกลุ่มแลคโตบาซิไลมีจำนวนลดต่ำลงในผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เพราะฉะนั้นควรใช้ทฤษฏีการรักษาด้วยกลุ่มจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสเป็นแบบแผนหนึ่งในการรักษา [20] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- มีงานวิจัยเล็กๆ เพื่อตรวจสอบการบริโภคอาหารที่มีจุลินทรีย์ในกลุ่มแลคโตบาซิไลสูง เช่น โยเกิร์ตหรือกล้วยจะช่วยป้องกันภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ [21] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- พิจารณาเลือกรับประทานโปรไบโอติกที่จำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่าการใช้โปรไบโอติกสามารถช่วยป้องกันภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณสามารถรับโปรไบโอติกส์ได้จากอาหารเหล่านี้ เช่น ชาหมักคอมบุฉะ (kombucha) มิโสะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) หรือบัวหิมะธิเบต (kefir) ผักดองและเนยแข็งต่างๆ เช่น กะหล่ำปลีดอง กิมจิ เนยแข็งเกาดา เนยแข็งเชดดาร์หรือสวิสซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีโปรไบโอติกส์สูง [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ศึกษาอาการ. มีอาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียแตกต่างกันมากมายที่คุณอาจเป็นอยู่ การศึกษาอาการของโรคสามารถช่วยให้คุณระบุอาการได้และรู้ว่าเมื่อใดที่คุณต้องกำหนดเวลานัดกับแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาที่มีศักยภาพ
- ผู้หญิงบางคนก็ไม่มีอาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียใดๆ [24] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
- อาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยที่สุดคือ มีตกขาวเล็กน้อย กลิ่นเหม็นคล้าย “คาวปลา” และอาจมีอาการเจ็บ คันหรือแสบร้อนบริเวณช่องคลอด [25] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล นอกจากนั้นคุณอาจมีอาการเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะอีกด้วย [26] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยและรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย. หากคุณมีอาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียใดๆ ก็ตาม ให้คุณเข้าพบแพทย์เนื่องจากเขาจะได้ยืนยันการวินิจฉัยโรคและสั่งยาให้คุณซึ่งเป็นวิธีเดียวในการรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย [27] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
- แพทย์จะทำการตรวจจุดซ่อนเร้นของคุณเพื่อหาสัญญาณของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและยังทำการทดสอบทางแล็บเกี่ยวกับของเหลวในช่องคลอดของคุณเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคให้คุณอีกด้วย [28] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
- ยาที่ใช้บ่อยสุดในการรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียคือ ยาเมโทรนิดาโซล (metronidazole) ชนิดรับประทานหรือทั่วไป ครีมทาคลินดามัยซิน (clindamycin) หรือยาทินิดาโซล (tinidazole) ชนิดเม็ด [29] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาคู่นอนฝ่ายชายของผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย [30] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ในบางกรณีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียจะหายไปเองได้ แต่ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับวินิจฉัยและรักษาโรค [31] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ศึกษาความเสี่ยงของการไม่ได้รับการรักษา. หากคุณสงสัยหรือรู้ว่าตัวเองมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและไม่ได้เข้ารับการรักษาจากแพทย์ คุณอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับสภาพร่างกายของคุณได้ การรู้จักความเสี่ยงของการไม่ได้รับการรักษาอาจมีผลทำให้คุณตัดสินใจเข้าพบแพทย์ได้
- ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้รวมถึงเอชไอวีด้วย [32] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
- ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียสามารถเพิ่มความเสี่ยงในแพร่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งเอชไอวีไปสู่คู่รักของคุณได้ [33] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากคุณตั้งครรภ์และมีภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียด้วยแล้ว การไม่ได้รับการรักษาสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดหรือทำให้เด็กมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยได้ [34] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ไม่ควรเชื่อในสิ่งที่เล่าต่อๆ กันมาเกี่ยวกับภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย. คุณควรรู้จักสิ่งที่ไม่ได้ก่อให้เกิดโรคเช่นเดียวกับที่คุณควรรู้จักวิธีการป้องกัน คุณไม่สามารถติดโรคนี้ได้จากที่นั่งบนชักโครก ที่นอน สระว่ายน้ำหรือการสัมผัสวัตถุในบริเวณใกล้เคียงของคุณได้ [35] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Office on Women's Health ไปที่แหล่งข้อมูล
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/prevention/con-20020807
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3285477/
- ↑ http://www.plannedparenthood.org/learn/birth-control
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bacterial-vaginosis/basics/treatment/con-20035345
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24299970
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bacterial-vaginosis/basics/treatment/con-20035345
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24299970
- ↑ http://www.womenshealthmag.com/nutrition/foods-high-in-probiotics
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bacterial-vaginosis/basics/treatment/con-20035345
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bacterial-vaginosis/basics/treatment/con-20035345
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.cdc.gov/std/bv/stdfact-bacterial-vaginosis.htm
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bacterial-vaginosis/basics/treatment/con-20035345
- ↑ http://womenshealth.gov/publications/our-publications/fact-sheet/bacterial-vaginosis.html