ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การมีความคิดสร้างสรรค์นั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาและสร้างอะไรใหม่ๆ กระนั้นบางครั้งเรากลับมีปัญหาคิดอะไรไม่ออก การขาดความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องชวนให้หงุดหงิดและบางทียังไปจำกัดความสามารถของเราที่จะก้าวหน้าในอาชีพการงานหรือในชีวิตส่วนตัวอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพียงแค่ฝึกเล็กน้อยกับการใช้แทคติกที่มีประโยชน์บางอย่าง คุณก็สามารถฟูมฟักความคิดสร้างสรรค์ของตนเองและค้นพบแนวทางใหม่ในการแก้ไขปัญหาและสร้างอะไรใหม่ๆ ได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เติมอาหารสมอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ส่วนหนึ่งของการมีความคิดสร้างสรรค์คือการรู้จักโลกมากพอที่จะเข้าใจว่าแต่ละอย่างดำเนินไปได้อย่างไร ยิ่งคุณรู้มาก คุณก็ยิ่งมีมุมมองของตัวเองที่ลึกซึ้งมากขึ้น และคุณจะสามารถเชื่อมโยงความคิดต่างๆ ที่คุณอาจไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อน การอ่านเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะขยายฐานความรู้และมุมมองให้กว้างขึ้น
    • สนุกกับความหลากหลาย อ่านในเรื่องที่แตกต่างกัน ด้วยวิธีนี้เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำความรู้กับความคิดสร้างสรรค์มาใช้ คุณจะสามารถประยุกต์ความรู้ข้ามวงการและข้ามหลักการได้
    • อ่านอย่างเต็มไปด้วยจินตนาการ อย่าเน้นแต่เพียงงานวิชาการหรือหนังสือแนะแนวทางคำสอน ใช้เวลาอ่านงานแฟนตาซี นิยายวิทยาศาสตร์ หรือแนวใดๆ ที่จะช่วยขยายขอบเขตการรับรู้ว่าอะไรที่สามารถเป็นไปได้บ้าง
    • อ่านในสิ่งที่คุณยังไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น
    • อ่านจนติดเป็นนิสัย หลีกเลี่ยงการตกอยู่ในกับดักที่ต้องบังคับตัวเองให้อ่านหนังสือสัปดาห์ละเล่มหรือเดือนละเล่ม แต่ให้หาหนังสือหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ ที่คุณชอบและวางไว้ในทุกที่ ใช้เวลาว่างหรือในช่วงไม่มีอะไรทำมาค้นหาโลกแห่งความรู้
  2. ร่วมมือกับผู้อื่น โดยเฉพาะถ้าคุณทำงานกับใครสักคนได้ดี. บางครั้งการได้พูดคุยปัญหาหรือระดมสมองร่วมกับคนอื่นๆ จะช่วยให้คุณนำพาความคิดที่ซึมเซาอยู่ในสมองให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ให้หาคนที่เข้าใจในปัญหาหรือประเด็นเช่นที่คุณพยายามจะแก้ไขอยู่ พวกเขาอาจมีมุมมองแตกต่างที่จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาในแบบสร้างสรรค์ก็ได้
  3. ใช้โอกาสเท่าที่อำนวยในการขยายมุมมองโดยการสนทนาวิสาสะกับผู้คนใหม่ๆ และแตกต่างกันไป มีคนที่แตกต่างและน่าสนใจอยู่รอบตัวเรา ไม่สามารถบอกได้หรอกว่าพวกเขาจะมีอิทธิพลกับสัญชาตญาณในการสร้างสรรค์ของคุณอย่างไร ใช้โอกาสเช่น:
    • ปาร์ตี้
    • การพบปะทางธุรกิจ
    • กิจกรรมในชุมชน
  4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ไม่ท้าทายคุณหรือแค่ตอกย้ำในสิ่งที่คุณรู้แล้วหรือคิดแล้ว. มีคนมากมายที่ทำทุกอย่างจนเป็นกิจวัตรและใช้เวลามากมายไปกับกิจกรรมเดิมๆ กิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้ท้าทายให้คุณคิดอย่างสร้างสรรค์และมักจะไม่ทำให้คุณได้เติบโตขึ้นในทางคุณวุฒิเอาเสียเลย ลองคิดลดเวลาที่คุณใช้ไปกับสิ่งต่อไปนี้:
    • ดูโทรทัศน์ โดยเฉพาะรายการที่คุณดูอยู่เป็นประจำ
    • เล่นเกมหรือกีฬาที่คุณมีความเชี่ยวชาญแล้ว ถ้าคุณเป็นเซียนหมากรุกหรือหมากล้อมจนเอาชนะคอมพิวเตอร์หรือเพื่อนไปเสียทุกตา มีโอกาสที่เกมเหล่านี้ไม่ได้ทำให้คุณเก่งขึ้นอีกแล้ว ให้ลองเปลี่ยนไปเล่นเกมหรือกีฬาอย่างอื่น
    • เข้าวงสังคมกับคนที่ทำให้คุณเบื่อหรือเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมที่จำกัดความคิดสร้างสรรค์ของคุณ [1]
  5. ไปยังสถานที่ซึ่งจะปลุกเร้าความคิดสร้างสรรค์ของคุณ. บางคราวเราก็ต้องการสิ่งกระตุ้นที่จะปลุกเร้าความคิดสร้างสรรค์ของเราเอง มีหลายวิธีที่จะพบตัวกระตุ้นเช่นนี้ และมันจะทั้งสนุก น่าสนใจ ชวนให้ติดใจ ลองคิดถึง:
    • แกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ มหกรรมหรืองานออกร้านด้านศิลปะ คุณจะได้เห็นสิ่งที่ไม่ได้พบปะบ่อยนัก และอาจชวนให้คุณฉุกคิดอะไรใหม่ๆ ได้
    • เข้าร่วมคอนเสิร์ตหรือเทศกาลดนตรี
    • ชมละครเวที โอเปร่า ไปพิพิธภัณฑ์
    • เข้าร่วมงานเสวนา ถกเถียงหรือการนำเสนอผลงาน
  6. ไม่ว่าจะเดินเล่นชายทะเลหรือปั่นจักรยานไปตามถนนที่มีทิวต้นไม้ตลอดสองข้างทาง พลังกับความงามของธรรมชาติจะช่วยใครก็ตามให้ถอยกลับออกมาก้าวหนึ่งและเห็นภาพรวมทั้งภาพ เวลาจิตใจอยู่ในช่วงที่รู้สึกดีนั้น คุณอาจสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงอย่างที่ไม่เห็นมาก่อน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ฝึกสมอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความล้มเหลวนั้นเป็นส่วนที่มีความจำเป็นของการมีความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้ ยอมรับมันอย่างที่มันเป็น และยอมให้ตัวเองได้เรียนรู้จากความล้มเหลวและความผิดพลาดนั้นๆ ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณมองความล้มเหลวทุกครั้งว่าเป็นโอกาสสำหรับการพัฒนาและหาทางใหม่ๆ แทนที่จะเป็นอุปสรรคหรือการจำกัดความสำเร็จของคุณ
  2. ทำแผนที่ความคิดเพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพความคิดของตนเอง. บางครั้งเรามีความคิดที่ดูเหมือนจะสลายหายไปก่อนที่เราจะสรุปมันลงบนกระดาษได้ ความคิดมากมายดูเป็นความคิดมั่วๆ และไม่เชื่อมโยงต่อกัน ลองวาดแผนที่ความคิดลงบนกระดาษ ตอนนี้เมื่อคุณสามารถมองเห็นความคิดแล้ว คุณอาจสามารถเข้าใจมันและเห็นความเกี่ยวโยงกันของมันได้ดีขึ้น
    • ลิสต์ความคิดที่ดูเหมือนมั่วๆ ของคุณออกมา
    • เลือกความคิดที่ดูเข้าท่าที่สุดบางอย่างออกมาแล้วเขียนลงบนหลายๆ ที่บนแผ่นกระดาษ วางมันลงบนจุดที่คุณคิดว่ามันน่าจะเชื่อมโยงกัน
    • ลากเส้นเชื่อมความคิดเหล่านั้น
    • ลากเส้นคู่บนความคิดสำคัญและเชื่อมโยงมันกับความคิดที่ปลีกย่อยกว่า [2]
  3. หาเวลาที่จะอยู่ตามลำพังเพื่อคุณจะได้ใคร่ครวญถึงสิ่งต่างๆ. การหาเวลาสักเล็กน้อยไตร่ตรองโลกหรือคำนึงถึงสิ่งที่จะช่วยขยายขอบเขตการรับรู้ การใช้เวลาอยู่ตามลำพังยังช่วยให้คุณคิดถึงปัญหาที่พยายามจะแก้ไขและพบทางออกใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน
  4. การมีใจที่เปิดกว้างจะช่วยให้คุณคิดถึงปัญหาที่อาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน คุณจะสามารถบังเกิดความคิดและวิธีในการทำสิ่งต่างๆ ที่ก่อนหน้านี้อาจเคยลังเลใจมาก่อนได้
    • ส่วนหนึ่งก็คือการยอมรับว่ามันมีหลายวิธีในการแก้ไขปัญหาหรือหาทางทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย
    • ยอมรับว่าคนเราสามารถมองโลกได้หลายแบบ แล้วคุณจะมองเห็นว่ามันมีหลายหนทางที่จะมีความคิดสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหา
    • ทำความเข้าใจว่าคุณนั้นไม่รู้ในทุกเรื่อง และทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นประสบการณ์การเรียนรู้
    • ลองคิดถึงวิธีที่ไม่ได้รับความนิยมหรือแม้กระทั่งวิธีที่ดู “พิลึกพิลั่น” ในการมองสิ่งต่างๆ หรือแก้ไขปัญหา มุมมองหรือความคิดนอกกรอบแบบนี้อาจช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้คุณ [3]
  5. การทำอะไรออกมาจริงๆคือการฝึกสมองให้มีความคิดสร้างสรรค์ได้ดีที่สุด มีอยู่หลายสิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อฝึกสมองแบบนี้ได้:
    • วาดรูป ถ้าชอบวาดรูป ก็ลงมือเลย มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณต้องคิดว่าตนเองต้องมีฝีมือระดับไหน
    • เขียน ถ้าชอบขีดเขียน เขียนเลย การลงมือเขียน (นิยายหรือสารคดี) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลับความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาความคิด
    • สร้าง ถ้าคุณชอบสร้างข้าวของโน่นนี่ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะนามธรรมหรือแค่งานไม้ทั่วไป คุณก็ควรลงมือ มันจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และคุณอาจลงท้ายสร้างอะไรที่ดูเจ๋งมากๆ ออกมาก็ได้นะ! [4]
  6. พยายามพาตัวเองออกจากพื้นที่สบายกับ “กรอบ” ที่คุณมักใช้คิดและทำงาน ลองคิดถึงปัญหาที่พยายามแก้ไขอยู่ในด้านที่แตกต่างออกไป เปิดรับมุมมองที่แตกต่าง และลองมองปัญหาว่าเป็นเสมือนโอกาส เช่น:
    • หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างรั้ว คิดถึงวัตถุประสงค์ของการสร้างรั้ว แล้วเน้นไปที่สิ่งที่คุณหวังจะทำสำเร็จโดยการสร้างรั้ว ถ้าคุณต้องการกันสัตว์เข้ามากัดกินดอกไม้มีค่าของคุณ บางทีอาจนึกถึงทางเลือกอื่นเช่นการฉีดน้ำสบู่ลงบนดอกไม้เพื่อขับไล่สัตว์ออกไป
    • หากคุณกำลังพยายามแก้ไขปัญหาความคุ้มค่าของน้ำมันในรถยนต์ บางทีควรคิดว่ามันเป็นปัญหาเรื่องการเดินทางแทน แทนที่จะสร้างเครื่องยนต์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการกินน้ำมันให้คุ้มค่าขึ้น อาจลองลดขนาดรถลงมาหรือกระทั่งแนะนำรูปแบบการเดินทางแบบอื่นในการขนถ่ายผู้คน
    • อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นคิดใหม่ถ้าหากสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้นล้มเหลว แค่เริ่มต้นและปรับเปลี่ยนแนวคิดเสียใหม่ [5]
  7. พึงจำไว้ว่าการมีงานผลิตออกมากับการสร้างสรรค์นั้นมันเป็นคนละเรื่องกันเลย คุณแค่จะต้องตัดสินตัวเองว่าเมื่อไหร่ต้องเกิดความคิดสร้างสรรค์และเมื่อไหร่ต้องผลิตงานออกมาหรือเมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องใช้ทั้งสองอย่าง
    • ใครคนหนึ่งอาจผลิตงานออกมาได้มากมายโดยที่ไม่ได้มีความคิดสร้างสรรค์เลย
    • ความคิดสร้างสรรค์คือการค้นหาวิธีใหม่ในการแก้ไขปัญหาและทำหรือสร้างสรรค์สิ่งที่โดดเด่นออกมา
    • การผลิตงานคือการทำอะไรสักอย่างออกมา แต่มันอาจทำสำเร็จในแบบคนทำงานทำกันและไม่ต้องพึ่งความคิดสร้างสรรค์
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

หาเวลาและพื้นที่ของความคิดสร้างสรรค์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถทำได้ทั้งตั้งแต่ก่อนลงมือทำงานหรือในระหว่างทำก็ได้ การเสียสละ “เวลาคิด” มีแต่จะช่วยคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณค้นหาวิธีสร้างสรรค์มาแก้ไขปัญหาที่คาอยู่นานไม่ได้เสียที
    • ใช้เวลาสักเล็กน้อยคิดก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ
    • หาเวลาพักเพื่อคิดในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่
    • เมื่อใดก็ตามที่คุณเผชิญกับความท้าทายที่ไม่ได้คาดคิด พักก่อนแล้วมาคิดถึงอุปสรรคความท้าทายนั้น บางทีคุณอาจหาทางออกที่ไม่เคยคิดมาก่อนได้ [6]
  2. จากการศึกษาพบว่าช่วงเวลาที่คนเราจะขบคิดและเข้าใจได้ดีที่สุดนั้นมีความแตกต่างกัน หาเวลาที่คุณคิดว่าสมองแล่นที่สุดและลองทำงานหรือคิดสร้างสรรค์ในเวลาดังกล่าว ยังมีการศึกษาที่พบว่าบางคนจะมีความคิดสร้างสรรค์สูงสุดในช่วงเวลาที่พวกเขาผลิตงานออกมาได้ต่ำที่สุด ทดลองและค้นหาดูว่าช่วงเวลาไหนที่คุณเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด แต่ละคนย่อมมีเวลาแตกต่างกันไป [7]
  3. สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะแก่การคิดสร้างสรรค์. บ่อยครั้งที่สภาพแวดล้อมแบบเป็นระเบียบไม่ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ลองสร้างสภาพแวดล้อมที่สามารถฟูมฟักความคิดสร้างสรรค์ของตัวคุณเองได้
    • ติดภาพหรือโปสเตอร์ที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์
    • สร้างพื้นที่ทำงานที่แหกธรรมเนียมปฏิบัติไปบ้าง เช่น เอาโซฟานอนมาวางไว้ในออฟฟิศ
    • เคลื่อนที่ไปมาระหว่างทำงาน บางคนชอบยืนในระหว่างทำงานที่โต๊ะ บางคนก็ชอบเดินช้าๆ บนลู่วิ่งไฟฟ้าในขณะที่อ่านหนังสือ เขียน หรือคิดงาน [8] [9]
  4. แต่อย่าพยายาม “วางแผน” เวลาที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ บางทีความคิดแปลกใหม่อาจผุดขึ้นมาในระหว่างที่คุณกำลังทำอย่างอื่นอยู่ คุณอาจจะอุทิศเวลาสักเล็กน้อยในการระดมสมองและขัดเกลาความคิดนั้นออกมา
    • ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก่อนนอนคิดถึงสิ่งต่างๆ ถ้ามันเหมาะกับคุณแบบนี้
    • ใช้เวลาสักเล็กน้อยช่วงพักกลางวันคิดถึงปัญหา
    • เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าความคิดสร้างสรรค์กำลัง “แล่น” หยุดทำอะไรที่กำลังทำอยู่ในขณะนั้น (ถ้าทำได้) แล้วมาขัดเกลาความคิดที่บังเกิดขึ้นก่อน
  5. หลีกเลี่ยงการทำอะไรตามแบบแผนหรือเป็นกิจวัตรตลอดเวลา. ถึงแม้การทำอะไรตามแบบแผนหรือเป็นกิจวัตรจะมีประโยชน์และช่วยให้เกิดตัวงานออกมา พวกมันก็อาจจะไปขวางกั้นความคิดสร้างสรรค์ได้ถ้ามันมามีความสำคัญต่อคุณจนเกินไป ให้สงวนการทำเช่นนี้เฉพาะในเวลาที่คุณต้องผลิตงานออกมา และยอมให้ตัวเองไม่ทำอะไรตามแบบแผนเสียบ้างในเวลาที่อยากจะฟูมฟักความคิดสร้างสรรค์ของคุณเอง [10] [11]
  6. ข้อจำกัดในเชิงของเวลาและวัตถุดิบที่มีอยู่สามารถช่วยขับเน้นทางแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ออกมาได้ เวลาคิดหาทางแก้ปัญหาหรือใช้ความคิดสร้างสรรค์นั้น ให้สนุกกับข้อเท็จจริงที่ว่าคุณมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและ/หรือวัตถุดิบในมือ ลองคิดหาทางที่จะช่วยให้ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จโดยประหยัดเวลาและใช้วัตถุดิบน้อยลง [12]
    • เจฟฟ์ เบโซส์กล่าวว่า "ผมคิดว่าความตระหนี่ขี้เหนียวนี่แหละที่ช่วยขับดันนวัตกรรม ก็เหมือนข้อจำกัดอื่นๆ หนึ่งในวิธีที่จะออกมาจากกล่องแคบๆ ก็คือสร้างหนทางหนีออกมาเองเลย"
    • กฎ ข้อห้าม และข้อจำกัด บังคับให้คุณต้องคิดอย่างสร้างสรรค์ ฉะนั้นคราวหน้าก่อนที่คุณจะโทษหัวหน้าหรือลูกค้าว่าคิดน้อยไป คุณควรจะขอบใจพวกเขาด้วยซ้ำ
    โฆษณา

[13] [14]

เคล็ดลับ

  • อย่ากลัวที่จะล้มเหลว คนที่มีชื่อเสียงทางด้านความคิดสร้างสรรค์นั้นก็ผ่านการล้มเหลวมานับไม่ถ้วน ความล้มเหลวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์ และจะทำให้คุณเพิ่มความลึกซึ้งเวลาเดินต่อไปข้างหน้า
  • อย่าเลิก ตั้งหน้าตั้งตาทำต่อไป ทางแก้ที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อาจรอคุณอยู่ตรงข้างหน้านี้อีกนิดเดียว!
  • ไม่มีอะไรถูกผิดในการคิดสร้างสรรค์ มีแต่เพียงความคิดที่แตกต่าง ทุกความคิดล้วนสามารถถูกนำมาวางแล้วคัดเลือกเอาแต่เฉพาะความคิดที่มีจุดแข็งต่อการแก้ปัญหานั้นๆ การระดมสมองและเขียนความคิดโดยอิสระชนิดไม่สนในความผิดพลาดนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรจะลองทำดู เพื่อที่บางความคิดซึ่งดู 'บ้าบอคอแตก' และอาจนำมาใช้งานได้จะบังเกิดขึ้นให้คุณได้หยิบมาขัดเกลาออกมาเป็นความสมบูรณ์แบบ!
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,600 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา