ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
วิธีที่จะมีเสน่ห์เกินต้านทานต่อเพศตรงข้ามก็คือการแสดงจุดแข็งของตัวเองให้คนอื่นๆ เห็น ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ ร่างกาย หรืออารมณ์ นอกจากนี้ คุณยังต้องแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณมีความมั่นใจที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ จำไว้ว่าคุณต้องให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่าคนอื่นเพื่อที่จะได้มีเสน่ห์เกินห้ามใจ ดังนั้น คุณต้องสนใจตัวเองเป็นอันดับแรก ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เดี๋ยวผู้ชายก็มาตอมเองแหละน่า!
ขั้นตอน
-
มีความมั่นใจ. ความมั่นใจคือคุณสมบัติที่ไม่อาจต้านทานที่สุดแล้วที่ผู้หญิงพึงมี ดังนั้น ขั้นตอนแรกสู่การเป็นคนที่มีเสน่ห์เกินต้านทานคือคุณต้องหัดรักตัวเอง รักทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งหมดนั่นแหละ!
- ลองคิดดูสิว่า คุณจะคาดหวังให้ผู้ชายคิดว่าคุณสวย ฉลาดและเท่ได้อย่างไรถ้าตัวคุณเองยังไม่คิดว่าตัวเองสวย ฉลาดและเท่เลย?
- เลิกกังวลเรื่องจุดบกพร่องของตัวเองและให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ ที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเองแทน ไล่เรียงออกมาเป็นข้อๆ เลยหรือจะบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าตัวเองมีดีอย่างไรก็ได้นะถ้าทำแล้วได้ผลน่ะ!
- เคล็ดลับอีกข้อคือ “แสร้งทำจนถลำเป็น” หรือที่ฝรั่งเค้าว่า "fake it til you make it." นั่นแหละ ซึ่งก็หมายความว่าคุณต้องแกล้งว่าตัวเองมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมถึงจะอายหรือกังวลแค่ไหนในใจ ในที่สุดแล้วคุณก็จะแสดงความมั่นใจออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติเองแหละ!
-
ทำตัวสนุกสนาน. การมีอารมณ์ขันนั้นเป็นเรื่องดีเสมอโดยเฉพาะเวลาคุณออกเดทกับชายหนุ่ม ไม่มีใครชอบคนเคร่งเครียดหรอก นอกจากนี้ คุณจะยังดูดึงดูดใจมากกว่าด้วยยามคุณหัวเราะหรือยิ้มแย้ม
- การมีอารมณ์ขันไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องเดี่ยวไมโครโฟนได้ (แม้ว่าถ้าคุณทำให้ผู้ชายหัวเราะได้จะเป็นเรื่องดีก็ตาม) แต่อย่างน้อย คุณน่าจะขำตัวเองได้และไม่จริงจังกับชีวิตมากเกินไป
- ลองนึกดูว่าถ้ามีผู้ชายทำเครื่องดื่มหกใส่คุณโดยไม่ตั้งใจ คุณจะกรี๊ดใส่เขาที่ทำชุดคุณเลอะแล้วสะบัดก้นหนี หรือจะหัวเราะขำเรื่องทั้งหมดและบอกให้เขาเลี้ยงเครื่องดื่มคุณซักแก้วเพื่อจะได้หายกัน? คุณคิดว่าการแสดงออกแบบไหนจะดึงดูดใจผู้ชายมากกว่ากัน? (คำใบ้: แบบที่สองจ้ะ)
-
ทำตัวเป็นมิตร. บางครั้งสาวๆ มักคิดไปเองว่าการทำตัวลึกลับและมีโลกส่วนตัวสูงจะทำให้ตัวเองดูมีเสน่ห์เกินต้านทานในสายตาหนุ่มๆ แต่จริงๆ แล้วนั่นเป็นความเข้าใจผิดนะ ถ้าคุณอยากให้ผู้ชายที่จิตใจดีและจริงใจมาสนใจ การทำตัวเป็นมิตรไว้จะให้ผลดีกว่า
- การทำตัวเป็นมิตรคือการทำตัวสุภาพและรักษามารยาท ไม่ใช่ปฏิบัติต่อคนที่มาจีบคุณอย่างกับเขาเป็นพรมเช็ดเท้าที่ไร้ความสลักสำคัญ เว้นแต่ว่าผู้ชายคนนั้นจะห่วยแตกสุดๆ
- ถ้าคุณมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ชาย หลีกเลี่ยงไม่พูดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลา แสดงออกว่าคุณสนใจเขาและตั้งอกตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด การที่คุณแสดงความใส่ใจจะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองสลักสำคัญและถูกดึงดูดเข้าหาคุณโดยไม่ทันรู้ตัวเลยล่ะ!
- ถึงคุณจะไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้น คุณควรจะตัดไมตรีเขาอย่างนุ่มนวล ลองนึกดูว่าคุณอยากได้รับการปฏิบัติอย่างไรหากคุณเป็นฝ่ายตามจีบเขาแทน
-
แสดงความฉลาดออกมา. พูดกันตรงๆ ก็คือคุณไม่ควรแกล้งโง่เพื่อที่จะได้ดูดึงดูดใจนั่นเอง
- การแกล้งโง่จะไม่ดึงดูดผู้ชายดีๆ เข้ามาหาคุณหรอก เพราะผู้ชายที่มีค่าพอเขาก็จะมองหาผู้หญิงที่ฉลาด ดึงดูดใจ และสร้างความเร้าใจให้เขาได้!
- หนุ่มที่ใช่จะเข้าหาเพราะพอใจไหวพริบอันเฉียบคมของคุณ เขาจะชื่นชมที่คุณสามารถพูดคุยกับเขาได้อย่างลึกซึ้งและจะใส่ใจความเห็นคุณอย่างจริงจัง ดังนั้น อย่านั่งบื้อใบ้ตาลอยแล้วเอาแต่พยักหน้าอย่างกับสาวสมองกลวงล่ะ!
- ถ้าคุณคิดว่าต้องพัฒนาทักษะการพูดคุยซักหน่อย วิธีที่ดีที่สุดคือการติดตามข่าวสารในปัจจุบัน เช่น ลองอ่านหนังสือพิมพ์หรือดูข่าวถ้าปกติไม่ได้ทำ แล้วคุณจะมีเรื่องไว้คุยอย่างไม่หยุดชะงักเลยล่ะ
-
เป็นตัวของตัวเอง. คุณคงเคยได้ยินคำพูดนี้มาเป็นล้านครั้งแล้วสินะ เป็นตัวของตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง! เอาล่ะ มาได้ยินกันอีกซักรอบเถอะ เพราะ “การเป็นตัวของตัวเอง” น่ะสำคัญที่สุดแล้ว!
- อย่าเสแสร้งเป็นคนอื่นเพราะคิดว่าจะทำให้ตัวเองดูดึงดูดใจกว่า วิธีนี้ไม่ค่อยได้ผลหรอกและจะทำให้คุณเหนื่อยเปล่าๆ นอกจากนี้ ถ้าคุณคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ชอบตัวตนที่แท้จริงของคุณ แล้วคุณจะไปเสียเวลากับเขาทำไมล่ะ? คบไปก็ไม่ได้อะไรหรอก!
- แน่นอนว่าคุณอาจจะเติมแต่งความจริงบางอย่างสักเล็กน้อยได้ เช่น “โอ๊ย ฉันชอบดูเบสบอลสุด ๆ เลยค่ะ!” หรือ “ฉันไปปีนเขาทุกอาทิตย์แหละค่ะ!” ตราบใดที่คุณไม่ได้โกหกแบบหาความจริงไม่ได้ การเสริมแต่งความจริงเล็กๆ น้อยๆ ก็พอรับได้อยู่เพื่อที่การพูดคุยกันจะได้ไหลลื่นขึ้น
โฆษณา
-
เลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วสบายใจ. แน่นอนว่าเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่เป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นสิ่งที่บอกให้ทุกคนรู้ว่าคุณอยากให้คนอื่นมองคุณอย่างไร
- ดังนั้น การเลือกเสื้อผ้าที่คุณใส่แล้วรู้สึกสบายใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยคุณต้องเลือกเสื้อผ้าที่สะท้อนบุคลิกและทำให้คุณดูดึงดูดใจด้วย
- ผู้ชายไม่ได้สนใจแต่ว่าผู้หญิงจะแต่งตัวเป๊ะไหม ใส่ชุดรัดรูปไหม หรือใส่ส้นสูงแหลมปรี๊ดไหมหรอก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าแต่งตัวแบบนั้นจะไม่ดีนะ!
- ผู้ชายที่ใช่จะไม่อาจห้ามใจไม่ให้เข้าหาผู้หญิงที่รู้สึกสบายใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ว่าเธอจะอยู่ในชุดไหนได้ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในมาดนักธุรกิจสาวหรือใส่เอี๊ยมสาดสีแสนสดใสก็ตาม
- อย่างไรก็ดี การให้ความสำคัญกับการเลือกใส่เสื้อผ้าที่ขับจุดเด่นของคุณก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ไม่ว่าส่วนที่โดดเด่นของคุณจะเป็นดวงตากลมโตสุกสกาว เอวคอดกิ่ว หรือหน้าอกกลมกลึงก็ตาม
-
แต่งหน้าแต่งตาซะบ้าง. เครื่องสำอางคือเครื่องมืออันแสนวิเศษที่จะขับจุดเด่นของคุณออกมา และยังช่วยปกปิดรอยสิวและทำให้คุณมั่นในกับหน้าตาตัวเองมากขึ้นด้วย
- รองพื้นดีๆ สามารถช่วยปกปิดปัญหาผิวหนังต่างๆ ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นสิว รอยแดง รอยคล้ำ หรือรอยดำรอบดวงตา การไล่เฉดสักเล็กน้อยอาจทำให้ใบหน้ากลมๆ ของคุณดูเรียวยาวขึ้นได้ด้วยนะ ส่วนมาสคาร่าดีๆ สักแท่งก็อาจช่วยขับดวงตาคุณให้ดูโตและเป็นประกายขึ้นได้ด้วย นี่ยังไม่รวมเครื่องสำอางอื่น ๆ อีกนะ
- คุณไม่ควรโบ๊ะหน้าหนาอย่างกับสวมหน้ากาก การแต่งหน้าควรจะขับจุดเด่นของคุณและปกปิดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ จำไว้ว่าเครื่องสำอางไม่ใช่สิ่งทำให้คุณมีเสน่ห์เกินต้านทานต่อชายหนุ่มแต่คือความมั่นใจในตัวเองของคุณยามได้แต่งหน้าต่างหาก!
- แต่ถ้าปกติแล้วคุณไม่ได้แต่งหน้าและรู้สึกพอใจที่จะหน้าสดออกนอกบ้าน เราก็ไม่ได้จะบังคับให้คุณแต่งหรอก เอาตามที่คุณพอใจน่ะดีแล้ว
-
จัดแต่งทรงผม. ผมสลวย เป็นเงางามและได้รับการดูแลอย่างดีนั้นอาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้หนุ่ม ๆ สนใจคุณเลยก็ได้นะ ดังนั้น ให้ความสำคัญกับการดูแลผมซักหน่อยก็ดี
- ขั้นแรก คุณต้องพยายามสระผมให้บ่อยที่สุดเท่าที่พอทำได้ ลองนึกภาพตัวเองบังเอิญเจอหนุ่มในฝันตอนหัวมันย่องดูสิ คุณคงอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีเลยใช่ไหม? ถ้าคุณยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจก็ลองพกดรายแชมพูใส่กระเป๋าไว้หน่อย คุณจะได้เอามาฉีดผมในช่วงนาทีฉุกเฉินได้
- ตัดผมเป็นประจำเพื่อที่ผมจะได้ดูสุขภาพดีและได้รับการจัดแต่งอย่างเหมาะสมแทนที่จะปล่อยให้ยาวสั้นไม่สม่ำเสมอกันและดูยุ่งเหยิง ถ้าคุณทำสีผมก็อย่าเว้นช่วงไปหาช่างผมนานเกินไป อย่าปล่อยจนรากผมโผล่ล่ะ!
- ลองทำผมหลายๆ แบบเพื่อหาลุคที่เหมาะกับตัวเองและขับจุดเด่นของคุณออกมา ผมซอยสั้นแนบศีรษะเข้ากับคุณไหม? หรือจะไว้ผมไฮไลท์ไล่สีไปที่ปลายผมดีล่ะ? ลองถามความเห็นช่างผมประจำตัวดูก็ได้หากไม่แน่ใจ
-
มีกลิ่นหอมชวนดม. แน่นอนว่าแค่ดูดีอย่างเดียวคงไม่พอ คุณต้องพยายามเร้าประสาทสัมผัสอื่นๆ ของผู้ชายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการมีน้ำหอมประจำตัวและมีกลิ่นหอมเกินต้านทานจึงสำคัญมาก!
- แน่นอนว่าขั้นแรกของการมีกลิ่นหอมชวนดมคือการดูแลความสะอาดของตัวเอง ลองหาสบู่อาบน้ำกลิ่นหอมๆ มาใช้ตอนอาบน้ำและลูบไล้โลชั่นทาผิวที่กลิ่นเข้ากันหลังอาบน้ำเสร็จดูสิ กลิ่นหอมจะได้ติดทนนานขึ้นไงล่ะ
- เลือกกลิ่นหอมที่เข้ากับบุคลิกภาพและช่วงเวลาของปี คุณอยากให้ตัวเองมีกลิ่นหอมจางๆ ของผลไม้ หอมละมุนกรุ่นดอกไม้ หรือมีกลิ่นหอมรุนแรงติดจมูก? อย่ารีบตัดสินใจเมื่อต้องเลือกน้ำหอม ลองเข้าไปทดลองตัวอย่างที่ร้านซะก่อน ลองทดสอบกลิ่นน้ำหอมไปทั้งวันดูก่อนว่าเป็นยังไง ถ้าหมดวันแล้วคุณยังชอบกลิ่นอยู่ คุณจะได้ซื้อมาใช้ได้อย่างมั่นใจไงล่ะ
- อย่าฉีดน้ำหอมเยอะเกินไป คุณไม่คงไม่อยากให้ผู้ชายเมากลิ่นหรอกใช่ไหม แต่แต้มน้ำหอมนิดหน่อยที่จุดชีพจร เช่น ที่ด้านในข้อมือ หลังใบหู หรือที่ข้อพับตรงศอก ไม่ก็ที่ขาอ่อนด้านใน ทีนี้เขาก็จะได้กลิ่นหอมยวนใจทุกครั้งที่คุณเดินผ่านแล้วล่ะ
-
รักษาหุ่นและดูแลสุขภาพเสมอ. คุณไม่จำเป็นต้องผอมเพื่อดึงดูดผู้ชายหรอก แต่ถึงอย่างไรคุณก็ต้องใสใจดูแลตัวเองและให้ความสำคัญกับสุขภาพนะ
- ผู้ชายจะถูกดึงดูดอย่างไม่อาจต้านทานเข้าหาผู้หญิงที่มั่นใจ มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองเป็นและหมั่นดูแลสุขภาพ นี่คือข้อเท็จจริงเลยล่ะ
- ดังนั้น เมื่อคุณฝืนตัวเองเพื่อวิ่งให้จบไมล์สุดท้ายหรือสะกดจิตตัวเองให้สั่งสลัดมารับประทานแทนพิซซ่า นึกถึงชายในฝันเข้าไว้ คุณจะได้มีแรงบันดาลใจมากขึ้นไงล่ะ
- ลองหากิจกรรมที่คุณชอบทำแล้วคุณจะได้ผลดีจากการออกกำลังกายเป็นของแถม ลองลงเรียนเต้น ไปหัดขี่ม้า หรือลองเล่นเซิร์ฟดูสิ ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและมีแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ คุณจะได้มีอะไรน่าสนใจไว้คุยกับผู้ชายด้วยไงจ๊ะ
- จำไว้ว่าคุณไม่ได้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือออกกำลังกายเพื่อดึงดูดผู้ชายแต่เพียงอย่างเดียว คุณกำลังทำเพื่อตัวเองต่างหาก แต่ถ้าคิดถึงผู้ชายแล้วมีกำลังใจขึ้น ก็ตามสบายเลยจ้ะ
โฆษณา
-
ยิ้มเยอะๆ หน่อย. รอยยิ้มคือสิ่งสำคัญในการหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่มๆ เลยนะ ผลการศึกษามากมายแสดงให้เห็นว่ารอยยิ้มทำให้คุณดึงดูดใจกว่าในสายตาของเพศตรงข้าม แล้วจะรีรออะไรอยู่อีกละจ๊ะ? ฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวซะเลยสิแม่คุณ
- การยิ้มและหัวเราะยังทำให้ผู้ชายอยากเข้าหาคุณมากกว่าเดิมด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีหากคุณรอให้ผู้ชายที่นั่งตรงกันข้ามที่บาร์เข้ามาหาและพูดคุยด้วยแทบตายแล้ว!
- นอกจากนี้ รอยยิ้มยังทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและมั่นใจขึ้นด้วย ซึ่งสองสิ่งนี้เป็นความรู้สึกสำคัญที่คุณต้องมียามจะหว่านเสน่ห์เลยล่ะ
-
สบตาอีกฝ่าย. การสบตาและมองตาอีกฝ่ายไว้ให้นานนั้นคือกลวิธีการอ่อยซึ่งได้ผลในปัจจุบันไม่ต่างจากเมื่อร้อยปีก่อนเลย!
- การมองตาคนจะสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างกันและกันขึ้น ดังนั้น การสบตาอีกฝ่ายไว้เป็นวิธีการสื่อสารความในใจของคุณโดยไม่ต้องพูดกันเลยล่ะ
- กลเม็ดนึงที่ผู้ชายมักไม่อาจต้านทานได้คือการที่คุณต้องจ้องคนที่สนใจไว้จนกระทั่งถูกจับได้ สบตาอีกฝ่ายค้างไว้ซักครู่ จากนั้นค่อยยิ้มและหลบตา (และทำหน้าแดงด้วยถ้าทำได้) แล้วเขาจะติดกับคุณเลยล่ะ!
-
เป็นคู่สนทนาที่ดี. ไม่ว่าคุณจะสวยแค่ไหน ตัวหอมเพียงใด หรือยิ้มสว่างไสวไปถึงไหน คุณก็ไม่อาจจะรั้งความสนใจของผู้ชายไว้ได้นานหรอกหากคุณไม่สามารถดำเนินบทสนทนาที่น่าสนใจได้น่ะ
- ถามคำถามเยอะๆ ผู้ชายคนนั้นจะได้พูดถึงตัวเองและมีโอกาสได้แสดงอะไรดีๆ ให้คุณเห็นบ้างซึ่งพวกผู้ชายน่ะชอบจะตายไป การถามคำถามยังป้องกันไม่ให้คุณพูดเกี่ยวกับตัวเองมากเกินไปจนดูเหมือนพวกหลงตัวเองด้วยนะ
- เมื่อคุณพูดคุยกัน พยายามเรียกชื่ออีกฝ่ายให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงจะดูไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่การที่คุณเรียกชื่ออีกฝ่ายบ่อยๆ จะทำให้ผู้ชายสนใจได้อย่างไม่น่าเชื่อและสร้างความสนิทสนมระหว่างคุณสองคนด้วยนะ
- พยายามหาเรื่องที่ทั้งคุณและเขาสนใจตรงกัน เช่น คุณทั้งคู่อาจจะชอบดูภาพยนตร์ขาวดำเหมือนกันหรือหลงใหลทีมกีฬาประจำชุมชนเดียวกัน ความสนใจร่วมกันจะทำให้เขาเห็นว่าคุณสองคนเข้ากันได้และทำให้บทสนทนาไหลลื่นกว่าเดิมด้วย
-
ทำใจกล้าแตะเนื้อต้องตัวอีกฝ่ายดูบ้าง. ถ้าคุณพูดคุยกับอีกฝ่ายได้อย่างไหลลื่นดีแล้ว คุณอาจรุกคืบเข้าหาเขาอีกซักนิดด้วยการจับเนื้อต้องตัวอีกฝ่ายบ้างก็ได้
- การโดนเนื้อโดนตัวอีกฝ่ายเป็นการส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าคุณสนใจ นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสของเขาและทำให้เขาต้องการคุณมากกว่าเดิมด้วย
- คุณอาจแตะตัวอีกฝ่ายอย่างแนบเนียนด้วยการสัมผัสแขนหรือไหล่เขาเบาๆ หรืออาจจะแกล้งปัดมือไปโดนมือเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ก็เอียงตัวพิงไหล่เขาเบาๆ ก็ได้นะ
- ถ้าคุณใจกล้าพอ คุณอาจรุกหนักกว่าเดิมด้วยการทำเป็นช่วยจัดปกคอเสื้อหรือช่วยทัดผมให้เขา คุณจะได้ปัดนิ้วมือไปโดนคอหรือหน้าผากเขาได้ไงล่ะ การเสนอความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ยังทำให้คุณมีข้ออ้างในการทำตัวสนิทสนมกับเขามากกว่าเคยด้วย ดังนั้น ฉวยโอกาสนี้ไว้ด้วยการส่งยิ้มและสบตาอีกฝ่ายก่อนที่จะรุกคืบไปอีกขึ้นซะ
-
ทำให้เขาต้องการคุณมากกว่าเดิม. หนึ่งในกลวิธีสำคัญในการอ่อยก็คือคุณต้องทำให้ผู้ชายต้องการคุณมากกว่าเดิมเสมอ คุณจะได้ดูลึกลับและเข้าถึงยากกว่าเดิม นอกจากนี้ ผู้ชายยังจะได้รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นฝ่ายไล่ตามคุณด้วยไงล่ะ
- อย่าปล่อยให้บทสนทนาลากยาวจนมาถึงจุดที่ชวนอึดอัดหรือน่าเบื่อ ปล่อยบทสนทนาค้างไว้ตรงจุดที่คุยกันสนุกที่สุดดีกว่า ถึงคุณต้องฝืนตัวเองหนักหน่อย แต่ผลลัพธ์จะคุ้มค่าแน่นอน
- เป็นฝ่ายรุกเข้าหาและให้เบอร์ผู้ชายก่อนที่คุณจะเอ่ยขอตัว คุณอาจจดเบอร์ใส่เศษกระดาษและยัดใส่กระเป๋าเสื้อเขาหรือจะฉวยมือถือเขามาและพิมพ์เบอร์ตัวเองลงไปในรายชื่อผู้ติดต่อเลยก็ได้ พวกผู้ชายน่ะชอบผู้หญิงหัวสมัยใหม่ที่กล้าทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการนะ
- ก่อนที่คุณจะขอตัวจากมา เอียงตัวเข้าหาเขาทำท่าเหมือนจะจุ๊บ แต่หันศีรษะออกในนาทีสุดท้ายและกระซิบที่ข้างหูเขาว่า “ฉันรู้สึกสนุกมากค่ะ” แทน คำพูดเหล่านี้จะทำให้เขาตกหลุมคุณจนถอนตัวไม่ขึ้นและเขาจะต้องโทรหาคุณเพื่อขอนัดเจอกันครั้งต่อไปอย่างแน่นอน
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าปฏิเสธคำชมที่ผู้ชายมอบให้ แค่พูดขอบคุณตามปกติก็พอแล้วล่ะ
- พกหมากฝรั่งหรือลูกอมระงับกลิ่นปากติดตัวไว้เผื่อจำเป็น
- พวกผู้ชายชอบเห็นคุณหัวเราะเวลาพวกเขาปล่อยมุกแม้ว่ามุกจะไม่เห็นขำตรงไหน แค่อย่าหัวเราะไปซะทุกมุกไม่อย่างนั้นคุณจะดูเป็นพวกผู้หญิงที่ชอบเกาะติดผู้ชายได้
- ให้กำลังใจหนุ่มคนนั้นยามเขาต้องการ
- เดินเข้าห้องมาในมาดนางพญา เชิดศีรษะขึ้นและคิดว่าตัวเองนั้นช่าง “เร่าร้อนและสง่างาม” ซะเหลือเกินดูสิ
- เข้าสังคมบ้างแต่ไม่จี๋จ๋าเกินเหตุ ดึงดูดความสนใจจากคนอื่นและทำตัวมั่นใจในตัวเองแต่อย่าถึงขั้นหลงตัวเองล่ะ
- ถึงคุณจะคิดว่าผู้ชายคนนั้นชอบคนอื่นอยู่ก็รักษามิตรภาพกับเขาไว้เถอะ สุดท้ายแล้วคุณอาจจะพบว่าคนที่เขาชอบอยู่คือตัวคุณเองก็ได้นะ
- อย่าเขินไปเลย สู้ ๆ เข้าไว้
- อย่าแสดงออกโจ้งแจ้งว่ากำลังอ่อยอยู่ เดี๋ยวชื่อเสียงคุณจะเสียหายได้
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าเกาะติดอีกฝ่าย พวกชอบเกาะติดชาวบ้านน่ะน่ารำคาญจะตายไป
- อย่าทำตัวมั่นใจเกินเหตุ! เช่น ถามอีกฝ่ายว่า “ฉันเซ็กซี่ใช่ไหม?” หรือ “คุณควรดีใจนะที่ได้พบผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอย่างฉัน!” เชียวล่ะแม่คนหลงตัวเอง! ความมั่นใจและความหยิ่งยโสน่ะมีเส้นคั่นอยู่ อย่าล้ำเส้นเชียวล่ะ! การทำตัวมั่นใจคือการไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นไม้ประดับและยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองคิด ส่วนการทำตัวยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการนั้นคือการที่คุณล้ำเส้นคนอื่นและไม่ฟังความเห็นใครทั้งนั้น อย่าทำแบบนั้นเลย มั่นใจในตัวเองและรักษามารยาทไว้นะ
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 152,824 ครั้ง
โฆษณา
