ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณรู้สึกอ่อนแรงหรือเหนื่อยแบบผิดปกติ ลองพิจารณาดูว่าคุณมีภาวะโลหิตจางหรือไม่ โลหิตจางนั้นเป็นภาวะทางการแพทย์ที่ร่างกายของคุณไม่มีเซลล์เม็ดเลือดแดงมากพอที่จะทำงานได้ตามปกติ ไม่ว่าร่างกายของคุณจะผลิตเม็ดเลือดแดงไม่พอ เซลล์เม็ดเลือดแดงนั้นจะถูกทำลายโดยร่างกายของคุณเอง หรือเป็นภาวะโลหิตจางที่เกิดจากปัญหาสุขภาพอื่นๆ คุณควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย ขณะที่คุณจะต้องทำตามแผนการรักษาโดยเฉพาะของแพทย์ แต่คุณอาจจะจำเป็นต้องใช้อาหารเสริม เปลี่ยนแปลงการทานอาหาร และใช้ยา

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เปลี่ยนแปลงการทานอาหารและใช้อาหารเสริม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณทานอาหารเสริมธาตุเหล็กตามคำแนะนำของแพทย์ คุณก็จะปรับให้ระดับของเหล็กนั้นดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งนี่ก็จะเป็นการรักษาภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก มีผลข้างเคียงบางอย่างที่เกิดจากอาหารเสริมธาตุเหล็ก เช่น อุจจาระสีเข้ม ปวดท้อง จุกเสียด และท้องผูก หากภาวะโลหิตจางของคุณนั้นไม่รุนแรง แพทย์อาจจะแนะนำให้ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเยอะๆ แทน อาหารต่อไปนี้เป็นแหล่งที่ดีของธาตุเหล็ก [1]
    • เนื้อแดง (เนื้อวัวและตับ)
    • สัตว์ปีก (ไก่และไก่งวง)
    • อาหารทะเล
    • ซีเรียลและขนมปังที่เสริมธาตุเหล็ก
    • ถั่วเมล็ดแห้ง (ถัวฝัก ถั่วเมล็ดแบนอย่าง ถั่วขาว ถัวแดง และถั่วอบ ถั่วเหลือง และถั่วลูกไก่)
    • เต้าหู้
    • ผลไม้แห้ง (ลูกพรุน ลูกเกด และแอปพริคอต)
    • ผักโขมและผักใบเขียวเข้มอื่นๆ
    • น้ำลูกพรุน
    • วิตามินซีจะช่วยร่างกายดูดซึมเหล็ก ดังนั้น แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณดื่มน้ำส้มสักแก้วหรือทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงพร้อมๆ กับการใช้อาหารเสริมธาตุเหล็กด้วย [2]
  2. หากภาวะโลหิตจางของคุณนั้นเกิดจากการขาดวิตามิน คุณควรทานอาหารเสริมวิตามินบี 12 หากแพทย์ได้แนะนำ ส่วนใหญ่แล้ว แพทย์จะฉีดวิตามินบี 12 ให้คุณหรือให้เป็นยาเม็ด 1 ครั้งต่อเดือน [3] วิธีนี้จะทำให้แพทย์ของคุณสามารถควบคุมระดับของเม็ดเลือดแดงและระบุว่าควรรักษาเป็นเวลานานเท่าไหร่ คุณสามารถได้รับวิตามินบี 12 จากอาหาร อาหารที่มีวิตามินบี 12 สูงได้แก่ [4]
  3. กรดโฟลิกนั้นเป็นวิตามินบีประเภทหนึ่งที่จำเป็นในการเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดที่เหมาะสม การขาดโฟเลตนั้นจะทำให้เป็นภาวะโลหิตจางได้ ดังนั้น แพทย์ของคุณก็มักจะแนะนำปริมาณการใช้อาหารเสริมเพื่อรักษาอาการของคุณ หากอาการของคุณนั้นอยู่ในระดับกลางๆ ไปจนถึงรุนแรง คุณอาจจะต้องฉีดโฟเลตหรือใช้ยาเม็ดอย่างน้อย 2-3 เดือน [6] คุณสามารถได้รับโฟเลตจากการทานอาหาร อาหารที่มีกรดโฟลิกสูงนั้นได้แก่ [7]
    • ขนมปัง พาสต้า และข้าวที่เสริมกรดโฟลิก
    • ผักโขมและผักใบเขียวเข้มอื่นๆ
    • ถั่วตาดำและถั่วตากแห้ง
    • ตับวัว
    • ไข่
    • กล้วย ส้ม น้ำส้ม ผลไม้และน้ำผลไม้อื่นๆ
  4. แอลกอฮอล์นั้นจะทำให้ร่างกายไม่ผลิตเซลล์เม็ดเลือดทำให้ขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงและจะทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงก่อนที่มันจะสมบูรณ์ แม้ว่าการดื่มเป็นบางโอกาสนั้นจะไม่ทำให้เป็นอันตรายยาวนาน แต่การดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ และดื่มอย่างหนักนั้นจะทำให้เป็นภาวะโลหิตจางได้ [8] [9]
    • หากคุณมีภาวะโลหิตจางอยู่แล้ว ให้ระวังในการจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์เพราะมันมีแต่จะทำให้อาการของคุณของแย่ลง
    • สถาบันโรคพิษสุราเรื้อรังของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่าไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เกิน 1 ดริ๊งค์ต่อวันสำหรับผู้หญิง และไม่ควรเกิน 2 ดริ๊งค์ต่อวันสำหรับผู้ชายและถือว่าเป็นการบริโภคแอลกอฮอล์ในระดับ "กลางๆ" [10]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้วิธีทางการแพทย์ในการรักษา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณมีภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรงจากโรคเรื้อรัง แพทย์ของคุณอาจจะแนะนำการถ่ายเลือด คุณจะได้รับเลือดที่ดีที่เข้ากับเลือดของคุณผ่านเส้นเลือดดำ การทำเช่นนี้เพื่อทำให้คุณได้รับเซลล์เม็ดเลือดแดงในปริมาณมากอย่างทันที การถ่ายเลือดนั้นใช้เวลาระหว่าง 1-4 ชั่วโมง [11]
    • ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ แพทย์อาจจะแนะนำการถ่ายเลือดแบบปกติ
  2. หากคุณถ่ายเลือดบ่อยๆ ระดับธาตุเหล็กของคุณดะจะสูงขึ้น ระดับธาตุเหล็กที่มากเกินไปนั้นจะเป็นอันตรายต่อหัวใจและตับ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องลดปริมาณของเหล็กในร่างกาย แพทย์อาจจะฉีดยาเพื่อลดระดับของเหล็กหรืออาจจะจ่ายยา [12]
    • หากแพทย์จจ่ายยาให้ คุณจำเป็นต้องละลายยาเม็ดก่อนและดื่มน้ำที่ละลายนั้น ปกติแล้ว การรักษานี้จำเป็นต้องทำ 1 ครั้งต่อวัน. [13]
  3. ไขกระดูกที่อยู่ภายในกระดูกนั้นมีสเต็มเซลล์ซึ่งจะผลิตเม็ดเลือดที่ร่างกายต้องการ หากคุณมีภาวะโลหิตจางที่เกิดจากความล้มเหลวของร่างกายในการผลิตเซลล์เม็ดเลือด (โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ ธาลัสซีเมีย หรือโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว) แพทย์ก็อาจจะแนะนำให้ปลูกถ่ายไขกระดูก สเต็มเซลล์จะถูกฉีดเข้าไปในกระแสเลือดและจากนั้นมันก็จะเคลื่อนที่ไปยังไขกระดูกของคุณ [14] [15]
    • เมื่อสเต็มเซลล์ไปถึงไขกระดูกแล้วมันก็จะเพาะอยู่ที่ไขกระดูก มันจะเริ่มผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงใหม่ และก็จะสามารถช่วยรักษาภาวะโลหิตจางได้ [16]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รู้อาการของภาวะโลหิตจาง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาการของบางคนนั้นไม่รุนแรง ดังนั้นพวกเขาอาจจะไม่รู้ แต่มันมีสัญญาณที่สามารถระบุได้ของภาวะโลหิตจาง หากคุณมีอาการแค่เล็กน้อย ให้นัดพบกับแพทย์ อาการที่ไม่รุนแรงนั้นได้แก่ [17]
    • เหนื่อยล้าหรืออ่อนแรงเพราะกล้ามเนื้อของคุณไม่ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
    • หายใจสั้นๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายของคุณต้องการออกซิเจนมากขึ้น คุณอาจจะสังเกตได้แค่ตอนที่คุณทำกิจกรรมที่ใช้ร่างกาย หากภาวะโลหิตจางของคุณนั้นอ่อนๆ
    • ผิวซีดเพราะว่าคุณมีเซลล์เม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดสีแดงที่ผิวหนังของคุณ
  2. อาการที่รุนแรงนั้นคือสัญญาณที่บอกว่าอวัยวะภายในหลายอย่างนั้นได้รับผลกระทบโดยออกซิเจนที่ลดลงในกระแสเลือดและพยายามที่จะหมุนเวียนเลือดมากขึ้นภายในร่างกาย นี่ยังบ่งบอกว่าสมองของคุณนั้นได้รับผลกระทบด้วย หากคุณมีอาการที่รุนแรง ให้ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด คุณอาจจะต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างทันทีของหน่วยฉุกเฉินเพื่อที่จะได้ประเมินคุณได้ก่อน อาการที่รุนแรงนั้นได้แก่ [18]
    • มึนงง
    • ปวดหัว
    • ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง
    • หัวใจเต้นเร็ว
  3. แพทย์จะยืนยันภาวะโลหิตจางด้วยการตรวจเลือดที่เรียกว่า Complete Blood Count ซึ่งจะระบุจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ร่างกายมีเพื่อดูว่ามันน้อยเกินไปหรือไม่ [19] แพทย์จะช่วยคุณรู้ว่าภาวะโลหิตจางของคุณนั้นเป็นแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง เรื้อรังหมายถึงมันจะมีอาการไปสักระยะและคุณจะไม่มีอาการที่เป็นอันตรายแบบทันที ภาวะโลหิตจางแบบเฉียบพลันหมายความว่ามันเป็นปัญหาสุขภาพใหม่และปัญหานี้ก็ควรได้รับการระบุอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เสี่ยงต่ออะไรที่อันตรายกว่า เมื่อสามารถระบุปัญหาได้แล้ว การรักษาที่ถูกต้องก็จะเริ่มต้น
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • การใช้ยาในขั้นทดลองนั้นเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่มีภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง ขอให้แน่ใจว่าได้พูดคุยกับแพทย์เสมอก่อนที่จะทานยาทดลองหรือเข้าร่วมในการทดลองเชิงคลินิค
  • อย่าทานยาแอนตาซิดพร้อมกับอาหารเสริมธาตุเหล็ก แอนตาซิดนั้นจะมีผลต่อความสามารถของร่างกายในการดูดซึมเหล็ก [21]
  • หากคุณมีประจำเดือนเยอะมาก นี่อาจจะทำให้คุณมีภาวะโลหิตจางแบบขาดธาตุเหล็ก แพทย์อาจจะแนะนำยาคุมฮอร์โมนเพื่อลดประจำเดือนของคุณ [22]
โฆษณา

คำเตือน

  • หากแพทย์วินิจฉัยแล้วพบว่าคุณมีภาวะโลหิตจางที่เกิดจากโรคเรื้อรัง (เช่น มะเร็ง HIV หรือโรคที่ทำให้มีอาการอักเสบ) หรือ โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ (ภาวะโลหิตจางที่หาได้ยากมากๆ) คุณจำเป็นต้องรักษาร่วมกับทีมแพทย์ ในหลายกรณี การรักษาภาวะโลหิตจางนั้นจะต้องขึ้นกับการรักษาอาการอื่นๆ [23]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,731 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา