ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความอ้วนได้กลายมาเป็นปัญหาที่จริงจัง ไม่เพียงแต่ในสหรัฐอเมริกาแต่เป็นหมดทั้งโลก หนึ่งในวิธีการลดน้ำหนักก็คือการรับประทานให้น้อยลง แต่มันอาจเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะถ้าคุณเคยชินต่อการรับประทานอาหารปริมาณมากหรือยากที่จะจัดการเรื่องความหิว โชคยังดีที่มีวิธีการหลากหลายที่จะทำให้คุณรับประทานน้อยลงและรู้สึกหิวน้อยลงในตลอดทั้งวัน เปลี่ยนแปลงอาหาร เวลา และวิธีการที่คุณรับประทานล้วนส่งผลให้ดีขึ้นทั้งนั้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ลดปริมาณอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีง่ายๆ ที่จะทานน้อยลงคือเริ่มวัดขนาดอาหาร การยึดอยู่กับปริมาณที่จำกัดจะช่วยคุณทานน้อยลง
  2. เวลาวัดขนาดอาหาร มันอาจดูเหมือนมีอาหารอยู่ในจานน้อยลง ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบในตอนแรกที่เริ่มวัดปริมาณอาหาร
    • ใช้จานใบเล็กลงจะช่วยหลอกสมองให้คิดว่าอาหารมีปริมาณมากขึ้น อาหารปริมาณเท่าเดิมจะกินพื้นที่มากขึ้นในจานที่เล็กลง [6]
    • ใช้จานสลัด จานของทานเล่นหรือกระทั่งถาดรองกาแฟเพื่อช่วยตัดปริมาณพื้นที่ที่มีอยู่ของจาน
    • ลองคิดซื้อจานสีน้ำเงิน การศึกษาพบว่าผู้คนจะเหลืออาหารบนจานมากขึ้นถ้าจานที่ใส่มีสีน้ำเงิน [7]
    • ซื้อกล่องทัปเปอร์แวร์ขนาดเล็กลงหรือปิ่นโตสำหรับใส่อาหาร ถ้าปกติคุณก็หิ้วอาหารไปกินอยู่แล้ว ก็หากล่องทัปเปอร์แวร์ที่มีขนาดเล็กลง
  3. เวลากินให้พยายามขจัดสิ่งยั่วใจทั้งหลายออกไปจากโต๊ะ นี่จะช่วยให้คุณเพ่งอยู่กับอาหารของคุณเท่านั้นและลดโอกาสที่คุณจะกินมากเกินกว่าที่ควร
    • อย่านำถ้วยหรือจานเปลใส่อาหารไปที่โต๊ะแม้จะทำได้ มันอาจยั่วใจให้คุณตักเพิ่ม [8]
    • พยายามเอาอาหารทั้งหมดเก็บไว้ในกล่องเก็บอาหารหลังจากตักใส่จานในปริมาณที่เหมาะควรแล้ว เก็บอาหารที่เหลือใส่กล่องไว้ในตู้เย็น
    • มันอาจจะช่วยได้มากถ้าจะเหลือไว้เฉพาะอาหารถูกสุขภาพที่มีแคลอรี่ต่ำเผื่อคุณรู้สึกหิว ลองเหลือผักหรือผลไม้ไว้ทานเพิ่มรอบสอง
  4. พยายามเหลืออาหารไว้บนจานทุกครั้งไม่ว่าจะเหลือน้อยสักแค่ไหน
    • หลายๆ คนมักถูกสอนว่าอย่ากินทิ้งกินขว้างและเลยทานอาหารจนเกลี้ยงจานแม้จะอิ่มแล้วก็ตามไปโดยปริยาย การบังคับตัวเองให้เหลืออะไรไว้บนจานทุกมื้อจะช่วยคุณเลิกพฤติกรรมนี้
    • เริ่มด้วยการเหลืออาหารแค่คำสองคำ ในตอนแรกมันอาจเป็นเรื่องยากที่จะเหลือเยอะกว่านี้
    • เก็บจานทันทีหลังคุณตัดสินใจว่ากินอิ่มแล้วและเหลืออาหารไว้บนจานแล้ว
    • ถ้าคุณไม่อยากทิ้งอาหารที่เหลือไว้ ให้เก็บไว้เป็นอาหารเที่ยงมื้อวันรุ่งขึ้นหรือเก็บไว้เป็นมื้อค่ำอีกมื้อก็ได้
  5. ร้านอาหารมักขึ้นชื่อว่าเสิร์ฟอาหารปริมาณมากเกินพอดี ให้ระมัดระวังในตอนออกไปทานข้าวนอกบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่หลุดไปจากขนาดอาหารเดิม
    • เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าคุณควรทานอาหารมากแค่ไหนในยามออกไปทานข้าวนอกบ้าน (โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้มีตาชั่งอาหารติดตัว) ให้คาดเดาเอา เช่น 1 ถ้วยนั้นมีขนาดประมาณกำปั้นผู้หญิง 3 – 4 ออนซ์นั้นมีขนาดราวไพ่หนึ่งสำรับและ 1/2 ถ้วยก็มีขนาดประมาณเมาส์คอมพิวเตอร์ [9]
    • พยายามสั่งอาหารเคียงหรืออาหารเรียกน้ำย่อยที่มีขนาดเสิร์ฟเล็กกว่าแทน [10]
    • พยายามนึกภาพว่าคุณควรรับประทานอาหารมากขนาดไหนและกันอาหารส่วนที่เกินออกไป ขอกล่องเพื่อใส่อาหารเหล่านั้นกลับบ้าน [11]
    • ให้เหลืออาหารไว้บนจานเวลาออกไปทานข้าวนอกบ้านเหมือนเวลาที่ทานเองที่บ้าน
    • คุณสามารถใช้กล่องข้าวแบ่งปริมาณอาหารไว้ล่วงหน้าก่อนมันจะมาเสิร์ฟ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

จัดการกับอาการหิว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อช่วยลดอาการหิวลง การศึกษาพบว่าการดื่มน้ำที่ไม่มีหรือมีแคลอรี่น้อยจะช่วยคุณลดอาการหิวและทานได้น้อยลง [12]
    • ถ้าคุณรู้สึกหิวมาก ให้ดื่มน้ำหนึ่งแก้วหรือน้ำซุปหรือซุปผักสักถ้วย ท้องจะรู้สึกแน่นขึ้นและรสชาติของมันจะไปหลอกสมองว่าเหมือนหนึ่งได้ทานอาหารลงไปแล้ว [13]
    • เครื่องดื่มอื่นๆ ที่น่าลองดูก็เช่น: กาแฟหรือชาที่ไม่เติมน้ำตาล น้ำที่ปรุงแต่งรสชาติหรือนมพร่องมันเนยสักแก้ว
    • ให้แน่ใจด้วยว่าได้ดื่มน้ำเปล่าตลอดทั้งวันอย่างเพียงพอ ถ้าคุณไม่เติมน้ำเข้าไปจากจำนวนที่สูญเสียไป คุณอาจเกิดเจ็บป่วยขึ้นได้ [14]
  2. การทานอาหารถูกชนิดจะช่วยให้คุณจัดการอาการหิวได้ตลอดทั้งวัน
    • รวมเนื้อที่ไขมันน้อยในอาหารแต่ละมื้อ โปรตีนไขมันต่ำเหมาะสำหรับการควบคุมความหิว ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยมันนานขึ้นและส่งสัญญาณไปยังสมองว่ามันไม่ต้องการอะไรเพิ่ม [15] ให้แน่ใจว่าได้รวมเนื้อไขมันต่ำอยู่ 1 – 2 ปริมาณเสิร์ฟในอาหารและอาหารว่างทุกมื้อ
    • เน้นไปที่ธัญพืช ผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง นอกเหนือจากโปรตีนแล้ว กากใยจะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มท้อง มันช่วยเพิ่มกากและ “ใยอาหาร” ทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้องทั้งที่ทานอาหารปริมาณน้อยลงและยังช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้นด้วย [16]
    • ตัวอย่างของอาหารที่มีโปรตีนกับกากใยสูงก็เช่น สลัดแซลมอนย่าง ข้าวซ้อมมือผัดกับไก่หรือเต้าหู้ หรือกรีกโยเกิร์ตที่ใส่ผลไม้และถั่ว
  3. การศึกษาหลายครั้งแสดงว่าการมีรสมินต์อยู่ในปากจะช่วยลดอาการหิวลงตลอดทั้งวัน [17]
    • แปรงฟันหลังทานอาหาร! เวลาที่ปากรู้สึกสะอาด คุณจะไม่อยากทานอาหารและทำให้ความรู้สึกสดชื่นในปากนั้นหายไป ให้ลองติดแปรงสีฟันไปทำงานด้วยเพื่อช่วยไม่ให้ทานอาหารว่างในตอนบ่าย
    • เคี้ยวหมากฝรั่ง! มีหลายคนที่แค่อยากได้อะไรให้ได้เคี้ยว การเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยเลี่ยงไม่ให้ใจนึกถึงการกินและช่วยหลอกสมองว่ากำลังกินอยู่
    • ยังน่าลองดื่มชารสเปปเปอร์มินต์หรืออมลูกอมรสเปปเปอร์มินต์ที่ไม่มีน้ำตาล อย่างที่บอก รสมินต์จะช่วยลดอาการหิวโดยรวมลงได้
  4. หลายๆ ครั้งที่ความรู้สึกหิวหรือโหยอาหารนั้นจู่โจมเราอย่างฉับพลัน ในเวลาเช่นนั้นมันจะรู้สึกหิวมากและต้องการจะได้อาหารในทันที [18] การเบี่ยงความสนใจจะช่วยทำให้คุณควบคุมความรู้สึกนี้ได้
    • ไม่ว่าคุณจะเป็นพวกติดรสหวานหรือแค่รู้สึกเบื่อในตอนบ่าย ให้ใช้เทคนิคการเบี่ยงความสนใจเพื่อจะได้ไม่นึกถึงอาหาร
    • หลายๆ ครั้งที่การโหยอาหารจะเกิดเพียง 10 นาทีประมาณนั้น ให้หากิจกรรมเบนความสนใจที่ใช้เวลาอย่างน้อย 10 – 20 นาทีก่อนจะกลับมาดูว่าต้องกินอาหารหรือเปล่า (ถ้าคุณยังรู้สึกอยากอยู่)
    • ลอง: ทำความสะอาดขยะในลิ้นชัก พับเสื้อผ้า ออกไปเดินเล่นสักพัก อาบน้ำ อ่านหนังสือ ตอบอีเมลหรือท่องเน็ต
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รู้สึกอิ่มท้องด้วยอาหารปริมาณน้อยลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายท่านแนะนำว่าให้ใช้เวลาทานอาหารอย่างน้อย 20 นาที มันจะช่วยให้ร่างกายมีเวลาพอที่จะรู้สึกเพียงพอแล้วและช่วยคุณเมินปริมาณอาหารส่วนเกินไปได้ [19]
    • กฎ 20 นาทีนี้มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าอาหารต้องใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาทีในการเดินทางจากท้องไปสู่ส่วนลำไส้ ตรงจุดนี้เองที่ลำไส้จะส่งสัญญาณไปยังสมองว่ามันพึงพอใจและได้อาหารเพียงพอแล้ว
    • ถ้าคุณทานเร็วกว่า 20 นาที คุณมีสิทธิทานอาหารมากกว่าที่ตัวเองต้องการและทานไปจนถึงจุดที่อิ่มจนเกินไป [20]
    • พยายามตั้งนาฬิกาจับเวลาหรือดูเวลาเพื่อช่วยให้ไปถึง 20 นาทีตามคำแนะนำ
    • จิบน้ำระหว่างเคี้ยวแต่ละคำ วางช้อนหรือพูดคุยกับผู้นั่งร่วมโต๊ะเพื่อช่วยผ่อนความเร็วลง
  2. การเคี้ยวให้ละเอียดและใช้เวลาในการเคี้ยวแต่ละคำเป็นส่วนสำคัญของการทานที่จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องในปริมาณอาหารที่น้อยลง [21]
    • ใช้เวลาในแต่ละคำที่เคี้ยว ในขณะเคี้ยวให้นึกถึงรสชาติ รสสัมผัสและกลิ่นของอาหาร ใช้ผัสสะให้มากช่องทางที่สุดในการวิเคราะห์อาหารแต่ละคำที่เคี้ยว
    • การมุ่งความสนใจในอาหารและการเคี้ยวแต่ละคำจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและทำให้สมองได้มีความสุขกับอาหาร
    • เวลาที่คุณกินอาหารคำใหญ่แล้วไม่เคี้ยวให้ละเอียด สมองจะไม่ได้รับสัญญาณความพึงพอใจในรสชาติหรือรู้สึกอิ่มซึ่งจะทำให้คุณรับประทานมากขึ้น
  3. คนหลายๆ คนที่พยายามจะจำกัดชนิดหรือปริมาณของอาหารสำหรับการควบคุมน้ำหนักหรือมุ่งหวังว่าจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี การจำกัดรูปแบบหรือชนิดของอาหารมากเกินไปอาจส่งผลย้อนกลับได้
    • พึงจำไว้ว่า ร่างกายเรานั้นไม่สามารถและจะไม่ยอมลดน้ำหนัก (หรือเพิ่มน้ำหนัก) โดยธรรมชาติอย่างรวดเร็วเกินไป การเปลี่ยนรูปแบบอาหารการกินชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ รับประทานแคลอรี่จำนวนน้อย หรือจำกัดอาหารโน่นนี่นั้นไม่ใช่วิถีการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพนัก
    • อย่าปล่อยตัวเองไปตามอาหารที่ชื่นชอบหรือปล่อยตัวตามใจปากเกินไปสามารถทำให้รับประทานอาหารชนิดนั้นมากเกินไปหรือทำให้เปลี่ยนนิสัยการกินได้ในระยะยาว
    • จัดตารางมื้อตามใจปากบ้างนานๆ ครั้ง อาจจะเป็นสัปดาห์ละครั้ง สองครั้ง หรือทุกคืนวันศุกร์ หาตารางที่เหมาะกับตัวคุณและทำให้คุณยังรักษาน้ำหนักตัวให้คงตามที่หวังไว้ได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทานช้าๆ สมองต้องใช้เวลาราว 20 นาทีถึงจะรู้สึกว่าอิ่ม และการรับประทานเร็วๆ ทำให้เราทานเลยจุดที่ควรจะพอได้แล้ว
  • ใช้จานใบเล็กลง เรามักถูกอบรมให้ทานทุกอย่างบนจานให้หมดและจานที่เล็กลงหมายถึงปริมาณอาหารที่น้อยลง
  • หยุดดื่มน้ำอัดลม และเริ่มดื่มแบบไร้น้ำตาลหรือไม่ก็น้ำเปล่า
  • ถ้าคุณรู้สึกโหยอะไรสักอย่างทั้งที่ยังไม่หิว ให้ลองสงบจิตสงบใจสักนิดและทบทวนอาการโหยนั้น ส่วนใหญ่แล้วแค่หยุดคิดว่า “เฮ้ ฉันต้องการจะกินมันจริงๆ เหรอ หรือว่าแค่นึกอยาก?” ก็ช่วยคุณมีแรงขืนความโหยอาหารชนิดนั้นแล้วล่ะ
  • ถ้าเป็นไปได้ ก็ออกกำลังกายซะบ้าง ไม่มีวิธีไหนจะรีดไขมันออกได้ดีเท่า โดยเฉพาะถ้าทำร่วมไปกับการควบคุมอาหารอย่างสมดุล
  • หลีกเลี่ยงวิธีคิดแบบเอาหมดหรือไม่เอาเลยเมื่อคิดจะรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ จำไว้ว่าทุกคำเล็กๆ ล้วนมีผลทั้งนั้น!
  • เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างอาการเบื่อกับอาการหิว ในหลายครั้ง แค่คุณดื่มน้ำ เจ้า “ความหิว” ก็ยอมหลีกทาง นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้หิวตั้งแต่แรกไง
  • เวลาที่อยู่ในร้านฟาสต์ฟู้ด อย่าสั่งไซส์ใหญ่เพียงเพราะมันแลดูคุ้มเงินกว่า จำไว้ว่าคุณไม่ได้จำเป็นต้องกินอาหารเหล่านั้นทั้งหมด
  • อย่าพยายามจะดื่มน้ำให้ครบแปดแก้วต่อวัน! มันไม่ได้ทำให้สุขภาพดีขึ้น คุณแค่จำเป็นต้องดื่มน้ำเพื่อทดแทนส่วนที่หายไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,851 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา