ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ร้ายแรง ผู้ที่ทรมานจากโรคซึมเศร้านั้นต้องการการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ถ้าคุณสงสัยว่าบางคนเป็นโรคซึมเศร้าก็ให้ลองมองหาสัญญาณหลายๆ อย่าง ใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใดๆ ก็ตาม บุคคลนั้นอาจจะนอนน้อยลง กินน้อยลง หรือน้ำหนักลดลง เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะประสบปัญหากับอารมณ์แปรปรวนและพยายามที่จะมีสมาธิ ถ้าคุณเชื่อว่าบางคนกำลังอยากฆ่าตัวตาย ให้แน่ใจว่าพวกเขาขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

การประเมินอารมณ์ของบางคน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia) หรือการสูญเสียความสุขในกิจกรรมประจำวันนั้นเป็นอาการของโรคซึมเศร้าที่พบบ่อยมาก เฝ้าระวังอาการที่บางคนไม่มีความสุขในกิจกรรมที่พวกเขาเคยชื่นชอบอีกต่อไป [1]
    • คุณสามารถสังเกตเห็นอาการนี้ได้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น บุคคลที่ชื่นชอบการเข้าสังคมอาจจะปฏิเสธคำชวนที่จะไปเที่ยวข้างนอก เพื่อนร่วมงานที่เคยฟังเพลงที่โต๊ะทำงานอาจจะนั่งทำงานเงียบๆ
    • คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าบุคคลนั้นดูเหมือนจะซึมเศร้าหรือไม่ยินดียินร้ายอยู่บ่อยๆ บางคนอาจจะไม่ค่อยยิ้มหรือหัวเราะกับเรื่องตลกอีกต่อไป เพื่อนอาจจะดูไม่มีความสุขหรือเข้าสังคมสักเท่าไร
  2. โรคซึมเศร้ามักจะทำให้เกิดภาพรวมแง่ร้ายในชีวิต ถ้าบางคนดูเหมือนว่าจะคิดเรื่องร้ายๆ อยู่บ่อยๆ นั่นอาจจะเกิดจากโรคซึมเศร้า แม้ว่าการมองโลกในแง่ร้าย 1-2 วันนั้นอาจจะเกิดจากอารมณ์เสีย แต่การมองโลกในแง่ร้ายอย่างต่อเนื่องติดต่อกันนานๆ อาจจะบ่งบอกถึงโรคซึมเศร้าได้ [2]
    • บางครั้งสิ่งนี้จะเห็นได้ชัดเจน คนที่ทรมานจากโรคซึมเศร้าอาจจะพูดทำนองว่า "มันสิ้นหวัง" อย่างไรก็ตาม สัญญาณของการมองโลกในแง่ร้ายมักจะสังเกตได้ยาก คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะฟังดูสมเหตุสมผลกว่ามองโลกในแง่ร้าย
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบางคนเป็นโรคซึมเศร้าพวกเขาอาจจะพูดว่า "ฉันเรียนมาหนักมากสำหรับการทดสอบนั้น แต่ฉันสงสัยว่าจะได้เกรดที่เหมาะสมไหม" ซึ่งนี่อาจจะฟังดูเหมือนว่าบุคคลนั้นกำลังมองสถานการณ์อย่างจริงจัง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการใช้ข้อความทำนองนี้บ่อยๆ อาจจะแสดงถึงโรคซึมเศร้า
    • ถ้าบุคคลนั้นมองโลกในแง่ร้ายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์ มันอาจจะบ่งบอกถึงโรคซึมเศร้า
  3. การฝืนมีความสุขหมายถึงใครบางคนแสดงสีหน้ามีความสุขเพื่อผู้อื่น บุคคลนั้นอาจจะปฏิเสธว่าไม่มีอะไรผิดปกติและทำท่ารื่นเริงกว่าปกติ อย่างไรก็ตามเขาจะไม่สามารถรักษาหน้ากากนี้ไว้ได้ตลอดไป ดังนั้นคนที่แกล้งทำเป็นมีความสุขอาจจะตีตัวออกห่างจากคนอื่นเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ [3]
    • แม้ว่าบุคคลหนึ่งอาจจะดูร่าเริง แต่คุณอาจจะกังวลว่ามีบางอย่างปิดซ่อนอยู่ เพื่อนอาจจะยิ้มตลอดเวลาตอนคุณเจอพวกเขา แต่คุณสังเกตเห็นว่าพวกเขาค่อยๆ ตีตัวออกห่างไป
    • คุณอาจจะเห็นว่าคนที่ดูมีความสุขนั้นปฏิเสธคำชวนให้ออกไปเที่ยวข้างนอก ส่งข้อความและโทรกลับไม่บ่อยนัก และทำสิ่งอื่นๆ ในลักษณะที่แยกตัวออกจากคนอื่น
    • ถ้ารูปแบบเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไปนานกว่าสองสามวัน สิ่งนี้อาจจะบ่งบอกถึงโรคซึมเศร้า
  4. คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะมีอารมณ์แปรปรวน คนที่สบายๆ ตามปกติอาจจะจู่ๆ ดูอารมณ์เสียขึ้นมาบ่อยครั้ง อารมณ์แปรปรวนเป็นตัวบ่งชี้ที่พบได้บ่อยว่าบางคนเป็นโรคซึมเศร้า [4]
    • บางคนอาจจะขี้โมโหและไม่เป็นมิตรมากขึ้นเมื่อเป็นโรคซึมเศร้า ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะตะคอกใส่คุณที่มางานสังสรรค์สายไปแค่สองสามนาที
    • คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะใจร้อนมาก ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมงานอาจจะรู้สึกหงุดหงิดอย่างรวดเร็วตอนที่กำลังอธิบายบางอย่างให้คุณฟังที่ออฟฟิศ
    • ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นเพียง 1-2 ครั้ง บุคคลนั้นอาจจะมีเรื่องแย่ๆ ในวันนั้น ถ้ารูปแบบของพฤติกรรมนี้ยังคงดำเนินต่อไปสักระยะหนึ่งก็อาจจะบ่งบอกถึงโรคซึมเศร้าได้
  5. ดูว่าบุคคลนั้นมีปัญหาเรื่องการมีสมาธิหรือไม่. โรคซึมเศร้าสามารถปิดกั้นจิตใจด้วยความคิดเชิงลบได้ สิ่งนี้ทำให้มีสมาธิได้ยาก ถ้าใครบางคนกำลังเป็นโรคซึมเศร้า คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าเขาทำผลงานได้น้อยลง [5]
    • เมื่อเกิดโรคซึมเศร้าจะทำให้ปัญหาเกี่ยวกับการมีสมาธิส่งผลกระทบต่อสังคมและชีวิตการทำงานบ่อยๆ เพื่อนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะมีปัญหาในการสนทนายาวๆ นักเรียนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะส่งรายงานช้าหรือไม่ส่งเลยก็ได้
    • การทำงานเสร็จไม่ทันกำหนดและการละเลยหน้าที่ก็เป็นตัวบ่งชี้ที่พบได้บ่อยว่าบางคนกำลังมีปัญหาในการมีสมาธิ ถ้าเพื่อนร่วมงานที่ปกติแล้วตรงต่อเวลานั้นขาดประชุมและไม่ส่งรายงานบ่อยๆ แล้วล่ะก็ นี่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคซึมเศร้า
  6. คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะรู้สึกผิด ความรู้สึกผิดเกี่ยวกับชีวิตของเขาในทุกๆ ด้านนั้นอาจจะเป็นตัวบ่งชี้ของโรคซึมเศร้า ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าบางคนแสดงความรู้สึกผิดมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องที่ไม่สำคัญแล้วล่ะก็ บุคคลนี้อาจจะเป็นโรคซึมเศร้า [6]
    • บุคคลนั้นอาจจะแสดงความรู้สึกผิดเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตและปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น "ฉันรู้สึกแย่มากที่ฉันไม่ได้เรียนหนักกว่านี้ในมหาวิทยาลัย ฉันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในระหว่างการประชุมวันนี้ ฉันกำลังจะทำให้ทั้งบริษัทล้มเหลว"
    • บุคคลที่ประสบปัญหาโรคซึมเศร้าอาจจะรู้สึกแย่ต่ออารมณ์หรือการมีชีวิตอยู่โดยทั่วไป พวกเขาอาจจะขอโทษที่ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีหรือรู้สึกว่าต้องขอโทษที่รู้สึกแย่
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

การเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้ความสนใจการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการนอนหลับ. โรคซึมเศร้ามักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของวัฏจักรการนอนหลับ คนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้นอาจจะนอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะรู้เกี่ยวกับตารางการนอนของคนอื่น แต่ให้ฟังรายละเอียดใดๆ ที่พวกเขาเล่าให้ฟังหรือการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมใดๆ ที่บ่งบอกถึงปัญหาการนอนหลับ [7]
    • วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการนอนหลับก็คือ ถ้าบางคนเล่าข้อมูลนั้นให้คุณฟัง บางคนอาจจะพูดหรือบ่นว่านอนไม่พอหรือนอนมากเกินไป
    • การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมยังสามารถเตือนให้คุณตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนิสัยในการนอนหลับอีกด้วย ถ้าบางคนดูเหมือนว่างุนงงหรือเหนื่อยในระหว่างวัน พวกเขาอาจจะมีปัญหาการนอนหลับ
    • ถ้าจู่ๆ เพื่อนร่วมห้อง แฟน หรือสมาชิกในครอบครัวดูเหมือนว่าจะนอนเยอะ พวกเขาอาจจะเป็นโรคซึมเศร้า
    • จำไว้ว่าปัจจัยหลายอย่างรวมถึงอาการเจ็บป่วยนั้นอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนิสัยในการนอนหลับได้ ให้มองหาการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการนอนหลับในระยะยาวที่เกิดขึ้นพร้อมกับอาการอื่นๆ ของโรคซึมเศร้า
  2. คนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะกินมากเกินไปเพื่อจัดการกับความเครียด และพวกเขาอาจจะไม่มีความอยากอาหารเช่นกัน และส่งผลให้กินได้น้อยลง [8]
    • ถ้าบางคนกินมากเกินไปคุณอาจจะสังเกตเห็นว่าพวกเขากินขนมบ่อยขึ้นและกินอาหารมื้อใหญ่ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น จู่ๆ เพื่อนร่วมห้องอาจจะสั่งอาหารมากินที่บ้านวันละหลายๆ ครั้ง
    • ถ้าบางคนกินน้อยลง พวกเขาอาจจะอดอาหารบ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าเพื่อนร่วมงานที่เป็นโรคซึมเศร้าหยุดกินอาหารเที่ยง
  3. พิจารณาการใช้ยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ของบุคคลนั้น. พฤติกรรมการใช้สารในทางที่ผิดอาจจะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของโรคซึมเศร้า แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะมีปัญาหาพฤติกรรมการใช้สารในทางที่ผิดแต่มีหลายคนที่ทำอย่างั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะเริ่มดื่มหนักหรือใช้ยาเสพติดเพื่อพักผ่อนหย่อนใจอื่นๆ [9]
    • ถ้าคุณอยู่กับบางคนที่เป็นโรคซึมเศร้า คุณอาจจะสังเกตเห็นพวกเขาว่าใช้สารเสพติดบ่อยขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมห้องเริ่มดื่มเกือบทุกคืน รวมถึงคืนก่อนไปเรียนด้วย
    • คุณอาจจะสังเกตเห็นเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนพึ่งพาสารเสพติดมากขึ้น เพื่อนร่วมงานอาจจะพักสูบบุหรี่บ่อยๆ เพื่อนอาจจะอยากออกไปดื่มบ่อยๆ และมักจะดื่มมากเกินไป
  4. โดยทั่วไปบางคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับความอยากอาหารและกิจกรรม ซึ่งนี่คืออาการที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุด โรคซึมเศร้าสามารถทำให้น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงได้มากถึง 5% ในเวลาหนึ่งเดือน คนที่เป็นโรคซึมเศร้าน้ำหนักอาจจะลดหรือเพิ่มขึ้นก็ได้ [10]
    • ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าเมื่อเร็วๆ นี้บางคนน้ำหนักขึ้นหรือน้ำหนักลง และนี่มาพร้อมกับอาการอื่นๆ บุคคลนี้อาจจะเป็นโรคซึมเศร้า
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

การใส่ใจกับสัญญาณอันตราย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าบางคนอยากฆ่าตัวตาย จู่ๆ พวกเขาอาจจะพูดถึงความตายบ่อยๆ คุณอาจจะได้ยินว่าบางคนครุ่นคิดเรื่องความตายบ่อยๆ และพูดเรื่องนี้ขึ้นมาบ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะเริ่มพูดคุยกันเรื่องว่ามีชีวิตหลังความตายหรือเปล่า [11]
    • ในกรณีที่รุนแรง คนที่จะฆ่าตัวตายอาจจะพูดอะไรอย่างเช่น "ฉันอยากตาย"
  2. คนที่จะฆ่าตัวตายอาจจะคิดในแง่ลบต่อตัวเองและโลกใบนี้ คุณอาจจะสังเกตเห็นว่าพวกเขาไม่คิดว่าสิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนแปลง และมักพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงนี้ โดยทั่วไปพวกเขาจะมีความรู้สึกสิ้นหวัง [12]
    • คนที่จะฆ่าตัวตายอาจจะพูดทำนองว่า "ชีวิตยากเกินไป" หรือ "ไม่มีทางออกจากสถานการณ์นี้" หรือ "ฉันไม่สามารถทำอะไรเพื่อทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้นได้เลย"
    • พวกเขาอาจจะคิดแง่ลบมากเกี่ยวกับตัวเอง คุณอาจจะได้ยินอะไรอย่างเช่น "ฉันเป็นภาระให้ทุกคน" หรือ "คุณไม่ควรจะต้องแก้ปัญหากับฉัน"
  3. เฝ้าดูว่าบางคนกำลังจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อย. นี่คือสัญญาณอันตรายที่สำคัญ บางคนอาจจะทำงานล่วงเวลาเพื่อชำระหนี้ พวกเขาอาจจะจู่ๆ ต้องการจะทำพินัยกรรม นอกจากนี้คุณยังอาจจะสังเกตเห็นคนที่อยากฆ่าตัวตายบริจาคทรัพย์สินที่มีค่าให้คนอื่นอีกด้วย [13]
  4. ฟังการหารือเรื่องแผนการฆ่าตัวตายที่เฉพาะเจาะจง. หนึ่งในสัญญาณที่อันตรายที่สุดของความตั้งใจฆ่าตัวตายคือ เมื่อบางคนวางแผน ถ้าบางคนพยายามหาอาวุธหรือสารที่เป็นอันตราย พวกเขาอาจจะอยากฆ่าตัวตาย คุณอาจจะพบว่าพวกเขาเขียนสิ่งที่ดูเหมือนจดหมายลาตายอีกด้วย [14]
    • ถ้าบางคนมีแผนการฆ่าตัวตายจริงๆ นี่จะอันตรายมาก คุณควรจะแจ้งบริการฉุกเฉินทันที ชีวิตของบุคคลนั้นอาจจะตกอยู่ในอันตราย
  5. ดำเนินการอย่างเหมาะสมถ้าคุณคิดว่าบางคนจะฆ่าตัวตาย.ถ้าคุณสงสัยว่าบางคนจะฆ่าตัวตาย คุณจำเป็นต้องปฏิบัติการ ความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข [15]
    • อย่าปล่อยให้คนที่คุณสงสัยว่าจะฆ่าตัวตายอยู่คนเดียว ถ้าบุคคลนั้นพยายามทำร้ายตัวเอง ให้โทร. 191 หรือบริการฉุกเฉินในท้องที่ คุณควรจะแจ้งเตือนสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อีกด้วย
    • ถ้าคุณไม่ได้อยู่กับบุคคลนั้น ให้บอกพวกเขาให้โทรหาสายด่วนสะมาริตันส์ ที่เบอร์ 02-713-6793 หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ถ้าคุณอยู่ต่างประเทศ ให้มองหาหน่วยงานที่เทียบเท่าในประเทศของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ในสหราชอาณาจักร พวกเขาสามารถโทร. +44 (0) 8457-909090 [16]
    • คนที่อยากฆ่าตัวตายต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขาต้องไปพบนักบำบัดหรือที่ปรึกษา คนที่อยากฆ่าตัวตายอาจจะต้องเข้าพักฟื้นในโรงพยาบาลชั่วคราว
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

การแก้ไขปัญหา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณสงสัยว่าบางคนเป็นโรคซึมเศร้าแล้วล่ะก็ให้พวกเขามีโอกาสพูดออกมา แม้ว่าจะจำเป็นต้องเข้ารับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ แต่การพูดคุยก็สามารถช่วยได้เช่นกัน คนที่เป็นโรคซึมเศร้าต้องการการสนับสนุนจากคนที่เขารัก [17]
    • เอ่ยถึงความกังวลกับบุคคลนั้น คุณอาจจะเริ่มจากอะไรอย่างเช่น "ฉันสังเกตว่าเดี๋ยวนี้คุณทำตัวแปลกไป และฉันก็เป็นห่วงนิดหน่อย"
    • เริ่มเกริ่นถึงอาการใดๆ ที่คุณกังวลอย่างมีไหวพริบ ตัวอย่างเช่น "เดี๋ยวนี้คุณดูเหนื่อยมาก ฉันรู้ว่าสิ่งนี้อาจจะมาจากเหตุผลใดก็ตาม แต่คุณเป็นอะไรหรือเปล่า"
    • บอกให้บุคคลนั้นรู้ว่าคุณอยู่ตรงนั้นเพื่อช่วยเหลือ พูดอะไรอย่างเช่น "ถ้าคุณอยากพูดเรื่องนี้ ฉันก็ยินดีที่จะรับฟังเสมอนะ"
  2. กระตุ้นให้พวกเขาเข้ารับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ. คุณไม่สามารถช่วยบางคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเองได้ พยายามให้บุคคลนั้นไปพบจิตแพทย์หรือนักบำบัดเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องได้รับคำปรึกษาหรือยา [18]
    • คุณอาจจะช่วยพวกเขาค้นหานักบำบัดในท้องที่ ถ้าคุณยังเป็นนักเรียนอยู่ คุณอาจจะพาพวกเขาไปที่ศูนย์ให้คำปรึกษาของมหาวิทยาลัยก็ได้
  3. บอกพวกเขาว่าคุณเต็มใจให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง. คนที่เป็นโรคซึมเศร้าต้องการการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แจ้งให้บุคคลนั้นรู้ว่าคุณเต็มใจที่จะขับรถพาพวกเขาไปตามนัด ช่วยพวกเขาติดตามตารางเวลา และเสนอวิธีอื่นๆ ในการทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังประสบปัญหาจากโรคซึมเศร้า [19]
    • อย่างไรก็ตามให้จำไว้ว่าคุณไม่สามารถแก้ปัญหาของคนอื่นได้ แม้ว่าคุณจะสามารถให้การสนับสนุนได้ แต่บุคคลนั้นก็ยังจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเพื่อนของคุณไม่อยากพูดก็อย่ารบเร้าให้พวกเขาพูด แค่บอกให้พวกเขารู้ว่าคุณเต็มใจฟังนะ
  • ถ้าคนที่คุณคิดว่าเป็นโรคซึมเศร้านั้นเพิ่งคลอด ให้ตระหนักว่าพวกเขาอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression)
  • ถ้าคุณคิดว่าบางคนเป็นโรคซึมเศร้า อย่าบอกให้พวกเขา "กลับมาสู่โลกความเป็นจริง" หรือพูดว่า "คุณแค่ต้องการเรียกร้องความสนใจ" ความคิดเห็นแบบนั้นจะยิ่งทำให้พวกเขาบีบคั้นกับตัวเองมากขึ้น หรืออาจจะผลักให้พวกเขาไปถึงจุดแตกหักได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณคิดว่าบางคนจะทำร้ายตัวเอง ให้โทรหา 191
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,417 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา