ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

รูขุมขนที่กว้างและอุดตันอาจสร้างความหงุดหงิดใจให้กับคุณ แม้ว่ารูขุมขนจะไม่สามารถหดเล็กลงได้อย่างถาวร แต่ยังมีวิธีที่คุณสามารถกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลงชั่วคราวได้ หากคุณรู้สึกเบื่อกับรูขุมขนตรงบริเวณจมูกที่กว้างอย่างเห็นได้ชัด วิธีที่ดีสุดที่จะช่วยลดขนาดรูขุมขนให้เล็กลงได้คือการรักษาความสะอาดและบำรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวและให้รูขุมขนกระชับยิ่งขึ้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อบไอน้ำ . การอบไอน้ำจะช่วยเปิดรูขุมขนและทำให้สิ่งอุดตันหลุดออกไปได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยความร้อนจากไอน้ำจะละลายความมันที่แข็งตัวในรูขุมขนให้อ่อนตัวลงและหลุดออกไปในที่สุด [1]
    • หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว ให้คุณเทน้ำร้อนลงในชามทนความร้อนและเติมน้ำมันหอมระเหยที่ชื่นชอบลงไปเล็กน้อย จากนั้นใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะไว้แล้วนำใบหน้าไปอังไว้เหนือชามนานประมาณ 5-10 นาทีเพื่อให้ไอน้ำซึมลึกเข้าสู่ผิว
    • ปิดท้ายด้วยการใช้แผ่นขจัดสิวเสี้ยนหรือมาส์กหลังการอบไอน้ำ
    • หากต้องการเติมน้ำมันหอมระเหย ให้คุณหยดน้ำมันลงไปผสมในน้ำเปล่าเพียง 2-3 หยดเท่านั้น โดยเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยที่เหมาะกับปัญหาผิวของคุณ [2] อาทิ ทีทรี กระดังงา โรสแมรี่ และเจอร์เรเนียม ซึ่งต่างมีคุณสมบัติในการลดการผลิตน้ำมันและกำจัดเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ น้ำมันเจอร์เรเนียมยังมีคุณสมบัติในการกระชับผิว จึงช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลงได้อีกด้วย [3]
    • คุณสามารถอบไอน้ำผิวหน้าได้ถึง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ [4]
  2. หลังจากอบไอน้ำเสร็จแล้ว ให้คุณใช้แผ่นขจัดสิวเสี้ยนเพื่อขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน ปฏิบัติตามขั้นตอนการใช้ที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์และรอจนกระทั่งแผ่นขจัดสิวเสี้ยนที่แปะไว้แห้งแข็งแล้วจึงลอกออกเพื่อดึงเอาสิ่งสกปรกและความมันที่อุดตันในรูขุมขนให้หลุดออกไป
    • หลังจากนั้นจึงล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า
    • คุณสามารถใช้แผ่นขจัดสิวเสี้ยนเป็นประจำทุกๆ 3 วัน จำไว้ว่าการใช้บ่อยครั้งจนเกินไปอาจทำให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื้นได้ [5]
  3. แม้คุณจะต้องการดูแลผิวหน้าด้วยมาส์กจนทั่วทั้งใบหน้า แต่การมาส์กหน้าบ่อยครั้งจนเกินไปอาจทำให้ผิวหน้าของคุณแห้งได้ อย่างไรก็ตาม บริเวณจมูกและช่วงทีโซนเป็นจุดที่มักจะมีความมันมากกว่าส่วนอื่นๆ ของใบหน้า คุณจึงสามารถใช้มาส์กเฉพาะบริเวณจมูกได้เป็นประจำเพื่อช่วยขจัดน้ำมันที่อุดตันให้หลุดออกและทำให้รูขุมขนของคุณดูเล็กลง [6]
    • ทามาส์กบางๆ ให้ทั่วบริเวณจมูกของคุณและทิ้งไว้ให้แห้งก่อนล้างออกให้สะอาด
    • ใช้มาส์กเฉพาะบริเวณจมูกเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง และลดจำนวนครั้งลงหากผิวบริเวณจมูกของคุณเริ่มแห้ง
    • สำหรับผู้ที่มีผิวผสม คุณสามารถใช้มาส์กโคลนทั่วทั้งใบหน้าได้ 1-2 ต่อสัปดาห์ โดยปฏิบัติตามวิธีใช้ของมาส์กแต่ละตัวอย่างเคร่งครัด
  4. ไข่ขาวมีคุณสมบัติในการกระชับผิวหน้า จึงมีส่วนช่วยทำให้รูขุมขนดูเล็กลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับขั้นตอนการทำมาส์กจากไข่ขาว เริ่มจากผสมไข่ขาว 1 ฟองเข้ากับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา (5 มล.) และน้ำผึ้ง ½ ช้อนชา (2.5 มล.) นำไปทาให้ทั่วบริเวณจมูกและทิ้งไว้ให้แห้ง 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น [7]
    • เนื่องจากมาส์กชนิดนี้ใช้ไข่ขาวเพียงอย่างเดียว คุณจึงต้องแยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากกัน เริ่มจากตอกไข่ให้แตกครึ่งและเทครึ่งที่ไม่มีไข่แดงลงไปในชาม จากนั้นค่อยๆ เทไข่แดงลงไปในเปลือกไข่เปล่าแล้วจึงเทไข่ขาวที่เหลือลงไปในชาม
    • มาส์กหน้าด้วยไข่ขาวไม่เกินสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื้น
  5. ขจัดความมันตรงบริเวณจมูกโดยใช้กระดาษซับมัน. แม้จะไม่มีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขน แต่การใช้กระดาษซับมันจะช่วยขจัดความมันตรงบริเวณจมูกของคุณ จึงไม่เพียงทำให้รูขุมขนดูตื้นขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยดูดซับความมันบนใบหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมและอุดตันในรูขุมขน [8]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ดูแลรูขุมขนให้สะอาดและกระชับอยู่เสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รูขุมขนบริเวณจมูกมักเป็นแหล่งสะสมของความมันและสิ่งสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีผิวมันหรือผิวผสม ซึ่งวิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้รูขุมขนดูกว้างจนเห็นได้ชัดคือการขจัดสิ่งอุดตันเหล่านี้ออกไป นอกจากนี้ การดูแลรูขุมขนให้สะอาดอยู่เสมอยังช่วยไม่ให้รูขุมขนขยายใหญ่กว่าเดิมจนเกิดการอุดตันเพิ่มขึ้นของสิ่งสกปรก ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว [9]
    • ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนเป็นประจำทุกวัน
    • ทำความสะอาดใบหน้าหรืออย่างน้อยเพียงบริเวณจมูกวันละ 2 ครั้ง แต่หากผิวส่วนใดส่วนหนึ่งบนใบหน้าเริ่มแห้งเมื่อคุณล้างหน้าบ่อยเกินไป คุณสามารถใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดเฉพาะบริเวณจมูกแทนได้เช่นกัน
  2. โทนเนอร์มีคุณสมบัติในการยกกระชับผิวชั่วคราว จึงช่วยให้รูขุมขนของคุณดูเล็กลง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโทนเนอร์มีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้ง จึงอาจส่งผลให้ผิวผลิตน้ำมันออกมาจำนวนมากขึ้นเมื่อใช้ในปริมาณมากเกินไป หยดโทนเนอร์ลงบนสำลีพอให้ชุ่มแล้วแตะลงบนผิวหน้าที่ล้างสะอาดแล้ว
    • หากคุณมีผิวผสม พยายามแตะโทนเนอร์เฉพาะบริเวณจมูกหรือช่วงทีโซนเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าส่วนอื่นๆ ที่เหลือสูญเสียความชุ่มชื้น
    • เนื่องจากน้ำแตงกวามีคุณสมบัติเป็นแอสตริงเจนต์ตามธรรมชาติ จึงสามารถนำมาใช้เช็ดผิวแทนโทนเนอร์ได้ [10]
    • ใช้โทนเนอร์ 1-2 ครั้งต่อวันหลังการล้างหน้าขึ้นอยู่กับระดับความชุ่มชื้นของผิวหน้าของคุณ หรือคุณอาจเลือกใช้โทนเนอร์สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าของคุณแห้งเกินไป [11]
  3. มอยเจอร์ไรเซอร์ไม่เพียงช่วยเพิ่มความเนียนนุ่มและอิ่มน้ำให้กับผิวเท่านั้น แต่ยังลดการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปจากการชดเชยความชุ่มชื้นสำหรับผิวที่แห้ง เนื่องจากน้ำมันเหล่านี้เป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและกว้างขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณจมูกที่มักมีความมันมากกว่าส่วนอื่นอยู่แล้ว [12]
    • ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืนโดยล้างหน้าให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
  4. แสงแดดสามารถทำร้ายผิวจนทำให้ผิวอ่อนแอลงและสูญเสียความสามารถในการคงความแน่นกระชับได้ และเมื่อผิวของคุณไม่กระชับดังเดิม รูขุมขนบนใบหน้าก็จะดูกว้างขึ้น
    • คุณอาจสวมหมวกปีกกว้างเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มเกราะป้องกันแสงแดดให้กับผิวหน้าของคุณ [13]
    • มองหามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ผสมสารกันแดด SPF และหากคุณเป็นคนแต่งหน้า พยายามเลือกใช้เครื่องสำอางที่ผสมสารกันแดด SPF ด้วยเช่นกัน
    • เลือกใช้ครีมกันแดดสูตรบรอดสเปกตรัมที่มีค่า SPF 30 พร้อมคุณสมบัติในการกันน้ำ [14]
  5. ขัดผิวหน้า 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์. การขัดผิวจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปเพื่อไม่ให้อุดตันในรูขุมขน จึงช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลงและป้องกันไม่ให้ขยายใหญ่ขึ้นจนเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกต่างๆ [15]
    • คุณสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างสครับน้ำตาลหรือสครับเกลือ
    • หรืออาจมองหาผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวก็ได้เช่นกัน
    • สำหรับผู้ที่มีผิวผสม คุณสามารถขัดผิวแค่เฉพาะบริเวณจมูกในบางครั้งได้เช่นกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณอื่นๆ บนใบหน้าเกิดการระคายเคือง
  6. เมื่อรูขุมขนสะอาดหมดจดแล้ว ให้ใช้น้ำแข็งถูไปมาตรงบริเวณจมูกเพื่อกระชับผิวหน้าให้หดตัวลงชั่วคราวและทำให้รูขุมขนดูเล็กลง
    • พยายามให้น้ำแข็งสัมผัสถูกผิวเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ไม่เช่นนั้นผิวของคุณอาจเกิดการบาดเจ็บและได้รับความเสียหายได้ [16]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

มองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลรูขุมขน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากผลิตภัณฑ์ใดระบุว่า Non-comedogenic แสดงว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคลีนเซอร์ เครื่องสำอาง และมอยเจอร์ไรเซอร์ พยายามมองหาแต่ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขนเท่านั้น [17]
  2. กรดซาลิไซลิกมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว จึงช่วยขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนให้หลุดออกไป กรดซาลิไซลิกถูกใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ครีมกำจัดสิว และมอยเจอร์ไรเซอร์ [18]
    • หลีกเลี่ยงการใช้กรดซาลิไซลิกกับผิวหน้าในปริมาณมากเกินไป เริ่มจากการใช้ผลิตภัณฑ์เพียงตัวเดียวก่อนเพื่อดูว่ามีผลข้างเคียงใดๆ กับผิวของคุณหรือไม่
  3. เรตินอลมีคุณสมบัติในการลดการอุดตันของรูขุมขน จึงช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง เรตินอลมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบของมอยเจอร์ไรเซอร์ [19]
    • อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเรตินอล เนื่องจากเรตินอลจะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น
  4. มองหาผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยซิงค์และแมกนีเซียม. ซิงค์และแมกนีเซียมมีคุณสมบัติในการควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้าให้เป็นปกติ จึงช่วยลดและป้องกันการอุดตันของรูขุมขน [20]
    • คุณอาจเลือกทานอาหารเสริมซิงค์หรือแมกนีเซียมหรือจะหาซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าต่างๆ ที่ประกอบด้วยซิงค์หรือแมกนีเซียม เช่น โลชั่นหรือรองพื้น ก็ได้เช่นกัน ซิงค์มักถูกใช้เป็นส่วนประกอบของครีมกันแดด รวมถึงเครื่องสำอางหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ผสมสารกันแดด ส่วนแมกนีเซียมอาจพบเป็นส่วนประกอบในมอยเจอร์ไรเซอร์บางตัว
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

รับการดูแลรักษาทางการแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การกดสิวเสี้ยนจะช่วยขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อุดตันในรูขุมขนและเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นให้หลุดออกไป การกดสิวเสี้ยนเป็นวิธีทางการแพทย์ที่ปลอดภัยที่สุดในการขจัดสิ่งอุดตันต่างๆ ในรูขุมขนบริเวณจมูกโดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวของคุณ [21]
    • คุณสามารถรับการกดสิวเสี้ยนได้เป็นประจำทุกเดือนหากรูขุมขนของคุณมีปัญหาเรื่องการอุดตันเป็นพิเศษ
    • การกดสิวเสี้ยนเป็นตัวเลือกที่ง่ายและมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับการดูแลรักษาทางการแพทย์ด้วยวิธีอื่นๆ และไม่จำเป็นต้องรอให้ผิวพักฟื้นใดๆ
    • วิธีนี้อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดหากคุณมีปัญหาเรื่องรูขุมขนที่กว้างและอุดตันเพียงอย่างเดียว
  2. ทำไมโครเดอร์มาเบรชั่น (Microdermabrasion) เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและทำให้ผิวดูเรียบเนียน. การทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นคือการพ่นผงคริสตัลลงบนผิวหน้าเพื่อขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป จึงทำให้รูขุมขนสะอาดหมดจดและดูมีขนาดเล็กลง คุณควรทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นเป็นประจำเพื่อให้รูขุมขนดูกระชับอยู่เสมอ [22]
    • ไมโครเดอร์มาเบรชั่นเป็นวิธีการฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งรัด
    • หลังการทำไมโครเดอร์มาเบรชั่น คุณสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติโดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
    • เนื่องจากผลลัพธ์จากการทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นสามารถอยู่ได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ คุณจึงควรรับการทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นเป็นประจำทุกๆ 2-4 สัปดาห์เพื่อคงผลลัพธ์ไว้ดังเดิม [23]
  3. ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peel) เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว. การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีจะช่วยขจัดความมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อุดตันในรูขุมขนให้หลุดออกไปพร้อมทั้งปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและทำให้รูขุมขนของคุณดูเล็กลง คุณสามารถเข้ารับการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีได้จากแพทย์ผิวหนัง [24]
    • การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีเป็นอีกหนึ่งวิธีการฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งรัดเช่นเดียวกันเมื่อทำเฉพาะเพียงผิวชั้นบนหรือแบบลึกปานกลาง แต่สำหรับการผลัดเซลล์ผิวอย่างล้ำลึกถืออาจเทียบเท่าได้กับการผ่าตัดเล็ก
    • หากคุณรับการผลัดเซลล์ผิวเฉพาะเพียงผิวชั้นบน คุณอาจต้องทำติดต่อกันเป็นประจำ เช่น ทุกๆ 2-3 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์ไว้ดังเดิม
    • หากคุณรับการผลัดเซลล์ผิวแบบลึกปานกลาง คุณอาจต้องทำซ้ำอีกครั้งหลังผ่านไปแล้ว 3-6 เดือน
    • หากคุณรับการผลัดเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก คุณอาจไม่จำเป็นต้องทำซ้ำอีกครั้ง เพราะแม้ทำเพียงครั้งเดียวก็มักสามารถเห็นผลได้ทันที จึงเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านผิวหนังอย่างรุนแรง
    • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและการสัมผัสถูกแดดบนผิวหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังรับการผลัดเซลล์ผิว หรืออาจนานกว่านั้นหากคุณรับการผลัดเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก [25]
  4. การทำเลเซอร์เป็นวิธีเดียวที่สามารถลดขนาดรูขุมขนให้เล็กลงได้อย่างแท้จริง โดยแสงเลเซอร์ที่ยิงลงไปจะทำการลอกผิวหนังชั้นบนให้หลุดออกและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง จึงช่วยให้ผิวของคุณดูอิ่มเอิบมากยิ่งขึ้น ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากคุณต้องการรับการรักษาด้วยเลเซอร์ [26]
    • คุณสามารถทำเลเซอร์ได้เฉพาะตรงบริเวณจมูกเท่านั้น
    • การทำเลเซอร์เป็นตัวเลือกที่มีราคาสูงที่สุดในบรรดาการดูแลรักษาทางการแพทย์ทั้งหมด
    • เลเซอร์บางประเภทอย่าง Fraxel สามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานยิ่งขึ้น ในขณะที่เลเซอร์ที่มีกำลังน้อยลงอย่าง Laser Genesis อาจจำเป็นต้องทำติดต่อกันหลายครั้งตามการพิจารณาของแพทย์ผิวหนังของคุณ [27]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

เริ่มต้นพฤติกรรมดีๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การกดบีบเม็ดสิวหรือสิวหัวดำเป็นการทำลายรูขุมขนบนใบหน้าและเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ซึ่งรูขุมขนที่ถูกทำลายจนกว้างจะไม่สามารถลดขนาดให้เล็กลงดังเดิมได้หากไม่พึ่งการรักษาทางการแพทย์ต่างๆ ที่ไม่สามารถยืนยันผลแน่นอนได้เช่นเดียวกัน
  2. แม้ว่าน้ำเปล่าจะไม่มีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขนโดยตรง แต่การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและดูอิ่มเอิบมากขึ้น จึงทำให้รูขุมขนของคุณดูตื้นขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดสิวซึ่งเป็นสาเหตุทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น [28]
  3. หลีกเลี่ยงการนอนหลับโดยไม่ล้างเครื่องสำอาง. หากคุณไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนเข้านอน เครื่องสำอางที่อยู่บนผิวหน้าก็จะอุดตันในรูขุมขนจนส่งผลให้รูขุมขนดูกว้างและคล้ำขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไป รูขุมขนของคุณก็จะขยายใหญ่มากกว่าเดิมจนสังเกตเห็นได้ชัด [29]
    • ล้างเครื่องสำอางก่อนเข้านอนทุกครั้ง
    • หากคุณมักหลับไปโดยลืมล้างเครื่องสำอางเป็นประจำ ลองนำผ้าเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางวางไว้ข้างๆ เตียงเพื่อให้สะดวกต่อการหยิบใช้
  4. แม้การออกกำลังกายจะส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณ แต่ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อรูขุมขนได้เช่นกันหากคุณละเลยการล้างหน้าก่อนและหลังการออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกายทั้งที่ยังแต่งหน้าจะส่งผลให้เครื่องสำอางหรือโลชั่นเข้าไปอุดตันในรูขุมขน รวมถึงการไม่ล้างหน้าหลังออกกำลังเสร็จก็อาจทำให้เหงื่อและเชื้อแบคทีเรียซึมลงไปในรูขุมขนได้อีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมล้างหน้าสักเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รูขุมขนของคุณเกิดการอุดตัน [30]
    • อาจเลือกใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการล้างเครื่องสำอาง
  5. หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันเลวในปริมาณสูง. ไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายสามารถก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนังจนส่งผลให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ดังนั้นคุณจึงควรหลีกเลี่ยงการทางอาหารที่มีไขมันเลวในปริมาณสูงเพื่อดูแลผิวของคุณให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ [31]
    • ไขมันที่ดีต่อร่างกาย ได้แก่ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และโอเมก้า-3 ในขณะที่ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ถูกจัดเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย [32]
  6. แปรงแต่งหน้าเป็นแหล่งสะสมของน้ำมันและเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นหากคุณไม่ยอมทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าของคุณ น้ำมันเหล่านี้ก็จะเข้าไปอุดตันในรูขุมขนจนเป็นสาเหตุของการเกิดสิวบนใบหน้าและทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นได้ ล้างแปรงแต่งหน้าของคุณให้สะอาดด้วยน้ำยาเพื่อขจัดคราบสกปรกที่ติดอยู่บนแปรงไม่ให้สัมผัสถูกผิวหน้าของคุณ [33]
    • ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเดือนละครั้ง ยกเว้นแปรงแต่งตาซึ่งควรทำความสะอาดเดือนละ 2 ครั้ง [34]
  7. งด สูบบุหรี่ . การสูบบุหรี่เป็นตัวการในการทำร้ายผิวของคุณรวมถึงส่งผลต่อรูขุมขนบนใบหน้า เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่จะไปทำลายความยืดหยุ่นของผิว จึงทำให้รูขุมขนสูญเสียความกระชับและดูกว้างขึ้น ดังนั้นการงดสูบบุหรี่จึงมีส่วนช่วยทำให้รูขุมขนของคุณดูเล็กลง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เมื่อคุณแต่งหน้า ลองใช้ไพรเมอร์ในการปกปิดรูขุมขนของคุณ เนื่องจากไพรเมอร์มีคุณสมบัติในการพรางรูขุมขนให้ดูเรียบเนียน จึงทำให้รูขุมขนของคุณดูมีขนาดเล็กลง [35]
โฆษณา
  1. https://www.healthambition.com/shrink-pores-naturally/
  2. https://www.allure.com/story/how-to-buy-the-right-face-toner
  3. http://www.goodhousekeeping.com/beauty/anti-aging/a35847/how-to-minimize-pores/
  4. http://www.webmd.com/beauty/features/minimize-pores#1
  5. https://www.aad.org/media/stats/prevention-and-care/sunscreen-faqs
  6. http://www.webmd.com/beauty/features/minimize-pores#1
  7. https://intothegloss.com/2014/12/ice-face-benefits/
  8. http://www.webmd.com/beauty/features/minimize-pores#1
  9. http://www.webmd.com/beauty/features/minimize-pores#1
  10. http://www.marieclaire.com/beauty/news/a13395/pore-minimizing-tips/
  11. http://www.webmd.com/beauty/features/minimize-pores#1
  12. http://www.marieclaire.com/beauty/news/a13395/pore-minimizing-tips/
  13. https://www.newbeauty.com/slideshow/2381-shrink-your-pores/
  14. http://acnefoundation.org/treatment/microdermabrasion/
  15. http://www.marieclaire.com/beauty/news/a13395/pore-minimizing-tips/
  16. http://www.webmd.com/beauty/chemical-peel
  17. http://www.marieclaire.com/beauty/news/a13395/pore-minimizing-tips/
  18. http://www.marieclaire.com/beauty/news/a13395/pore-minimizing-tips/
  19. http://www.goodhousekeeping.com/beauty/anti-aging/a35847/how-to-minimize-pores/
  20. http://www.webmd.com/beauty/features/minimize-pores#2
  21. https://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/skincare-face/shrink-your-pores
  22. http://www.webmd.com/beauty/features/minimize-pores#2
  23. http://www.webmd.com/diet/obesity/features/skinny-fat-good-fats-bad-fats#2
  24. http://www.goodhousekeeping.com/beauty/anti-aging/a35847/how-to-minimize-pores/
  25. https://www.allure.com/story/how-clean-are-your-makeup-brus
  26. http://www.goodhousekeeping.com/beauty/anti-aging/a35847/how-to-minimize-pores/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,723 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา