ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ภายใต้ชั้นผิวหน้าด้านนอกที่หยาบกร้านและเป็นขุยนั้น มีผิวสวยนุ่มลื่นเปล่งประกายซ่อนอยู่ แต่มันจะไม่แปล่งแสงออกมาด้วยตัวเอง คุณต้องออกแรงช่วยเล็กน้อยด้วยการขัดผิวเป็นประจำเพื่อผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการเกิดขึ้นของเซลล์ใหม่ มีสครับขัดผิวอยู่ในท้องตลาดมากมายที่วางขายอยู่ทั้งในร้ายขายยาแถวบ้านในราคาเป็นมิตร หรือคุณอาจลองทำสครับจากวัตถุดิบที่คุณมีติดบ้านอยู่แล้ว ถ้าผิวของคุณดื้อมากๆ คุณอาจไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาทางเลือกอื่น อาทิ การลอกผิวด้วยสารเคมี หรือการกรอผิวด้วยผงคริสตัล ลองทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้เพื่อให้ผิวคุณนุ่มลื่นและเจิดจรัสสิ
ขั้นตอน
-
ถ้าคุณไว้ผมยาว. ให้รวบผมไปไว้ด้านหลังห่างจากใบหน้าของคุณ ถ้าคุณมีผมม้าคุณอาจหาที่คาดผมมาคาดไม่ให้มีผมปิดใบหน้า
-
ใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าผืนเล็กสะอาดๆ ชุบน้ำร้อนก่อนแล้วค่อยนำมาวางบนใบหน้าของคุณเป็นเวลา 1-2 นาทีเพื่อเปิดรูขุมขนออก
-
หลังรูขุมขนเปิดออกแล้ว. ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเพื่อที่คุณจะได้ขัดผิวหน้าให้สะอาด
-
ทีนี้คุณต้องทำสครับขัดผิว. ใส่น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะลงในชามใบเล็ก เติมน้ำเปล่าลงไปหนึ่งช้อนโต๊ะ
-
ใช้นิ้วคนผสมน้ำกับน้ำตาลให้เข้ากัน. หรือจะใช้ภาชนะอื่นๆ ก็ได้ คนจนกว่าส่วนผสมจะมีลักษณะเหนียว
-
ใช้นิ้วหรือผ้าขนาดเล็กที่มีสครับติดอยู่ค่อยๆ ขัดผิวหน้าของคุณ. ขัดวนเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทั้งหมดออก ทำแบบนี้ไปจนกว่าคุณจะรู้สึกว่าขัดผิวทุกซอกทุกมุมบนใบหน้าของคุณหมด
-
ล้างสครับออกด้วยน้ำอุ่นจากนั้นวักน้ำเย็นล้างหน้าเพื่อปิดรูขุมขน. ดูให้ดีว่าคุณเอาสครับออกจากหน้าหมด ไม่อย่างนั้นหน้าของคุณจะเหนียวเพราะน้ำตาล
-
หลังจากคุณล้างสครับออกจากหน้าหมดแล้ว ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับหน้าของคุณเบาๆ ให้แห้งโฆษณา
-
ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำเปล่าแล้วประคบที่หน้าของคุณ. ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ใช้ผ้าสะอาดเช็ดหน้า หลีกเลี่ยงการใช้มาส์กหน้าที่มีกรดและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมะนาวถ้าคุณมีผิวบอบบาง
-
ทำมาส์กจากอะโวคาโด น้ำผึ้ง และน้ำตาล. นำอะโวคาโดหนึ่งลูกผสมกับน้ำผึ้งสองช้อนโต๊ะและน้ำตาลหนึ่งช้อนโต๊ะ น้ำตาลจะช่วยให้ขัดผิวได้อย่างนุ่มนวลขึ้น ในขณะที่น้ำผึ้งและอะโวคาโดช่วยบำรุงผิวของคุณ
- ถ้าคุณมีผิวมัน ให้เพิ่มน้ำมะนาวลงไปหนึ่งถึงสองช้อนโต๊ะ น้ำมะนาวจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นและทำให้รูขุมขนแห้ง
- ทิ้งมาส์กหน้าไว้ประมาณ 15-20 นาทีก่อนจะล้างออก [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ผสมน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพกับน้ำตาล. คุณมีหลากหลายวิธีให้เลือกเมื่อต้องการน้ำมันมาผสมกับสครับขัดผิวหน้า เลือกน้ำมันที่ทำจากถั่วจะอุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เพื่อกระชับผิวและคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า ผสมน้ำมันสองช้อนโต๊ะเข้ากับน้ำตาลหนึ่งช้อนโต๊ะ ใช้ผ้าผืนเล็กชุบแล้วขัดใบหน้าวนเป็นวงกลม ล้างออกด้วยน้ำอุ่น บางคนมักแนะนำน้ำมันเหล่านี้:
- น้ำมันมะพร้าว
- น้ำมันอัลมอนด์
- น้ำมันมะกอก
- น้ำมันทีทรี (Tea tree oil)
- น้ำมันเมล็ดองุ่น
- น้ำมันอาร์แกน
- น้ำมันโจโจ้บา
- น้ำมันแบลคเคอร์แรนท์ (Black currant oil)
- น้ำมันคาโมมายล์
- น้ำมันผลกุหลาบ (Rose hip oil) [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองใช้แป้งจากข้าวโพด หรือสครับผงลูกนัท. นำแป้งจากข้าวโพดหรือผงลูกนัท เช่น อัลมอลด์ หรือวอลนัทบด ปริมาณสองถึงสามช้อนโต๊ะผสมน้ำเล็กน้อย สครับคุณควรจะมีความเหนียวหนืด ทาเคลือบผิวหน้าไว้และปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที ก่อนจะใช้น้ำอุ่นล้างออก [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คืนความสดชื่นให้ใบหน้าคุณด้วยสครับกาแฟ. ผิวสัมผัสของเมล็ดกาแฟที่หยาบพร้อมกรดกาแฟเป็นตัวเลือกใช้ขัดผิวด้วยวิธีธรรมชาติที่ดีมาก กรดกาแฟมีคุณสมบัติต้านอักเสบและช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวคุณนุ่มและสุขภาพดียิ่งขึ้น
- ผสมเมล็ดกาแฟบดหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำหนึ่งช้อนโต๊ะหรือน้ำมันมะกอก จากนั้นนวดหน้าให้ทั่ว ถ้าคุณมีผิวมันเป็นพิเศษ ใช้น้ำเปล่าจะดีกว่าใช้น้ำมันมะกอก ทิ้งมาส์กไว้บนหน้าประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- ดูให้แน่ใจว่าเมล็ดกาแฟของคุณสด ไม่ใช่กาแฟสำเร็จรูปเพราะจะละลายน้ำทันที
- คุณมีอีกทางเลือกคือ ใช้ไอน้ำอบหน้าคุณเป็นเวลา 20 นาทีก่อน เพื่อเปิดรูขุมขน จากนั้นผสมผงกาแฟหนึ่งช้อนโต๊ะเข้ากับนมหรือน้ำผึ้งเพื่อให้ได้ส่วนผสมเหนียวข้น นำมาทาลงบนผิวหน้า นวดวนเป็นวงกลม ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขน
-
ดูแลและบำรุงผิวหน้าด้วยสครับจากข้าวโอ๊ตบดหยาบ. สครับนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนที่มีผิวแห้ง สครับข้าวโอ๊ตจะช่วยขัดผิวพร้อมบำรุงผิวคุณด้วยในเวลาเดียวกัน
- ผสมข้าวโอ๊ตบด(แบบไม่สำเร็จรูป)สองช้อนโต๊ะเข้ากับเกลือหรือน้ำตาลหนึ่งช้อนชา หรือน้ำเปล่าหนึ่งช้อนชา หรือน้ำมันมะกอก บอกอีกครั้งว่าถ้าคุณมีผิวมัน คุณควรเลือกแบบเกลือกับน้ำเป็นส่วนเสริม ถ้าคุณมีผิวแห้งเลือกแบบน้ำตาลกับน้ำมันเพื่อช่วยเติมน้ำให้กับผิว
- ทาส่วนผสมลงบนผิวคุณแล้วทิ้งไว้ 15 นาทีล้างออกด้วยน้ำอุ่น [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิว. คุณตัดสินใจว่าคุณมีผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวธรรมดา ก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวประเภทของคุณ
- ถ้าคุณมีผิวมันหรือธรรมดา คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยาต้านสิว (Benzoyl peroxide) หรือกรดซาลิซิลิก ซึ่งจะช่วยกำจัดสิวที่มีอยู่และป้องกันการเกิดสิวใหม่ คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีกรดAHA (Alpha hydroxy acid) กรดนี้จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดเรทิโนอิกเพื่อรักษาสมดุลระหว่างโทนสีผิวกับผิวและช่วยลดริ้วรอยด้วย ในทางกลับกัน คนที่มีผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงสารเคมีเหล่านี้เพราะอาจทำให้ระคายเคืองและทำให้ผิวแห้งยิ่งขึ้น
- ถ้าคุณมีผิวแห้ง หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งขัดผิวเข้มข้นที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก(Glycolic acid) กรดนี้จะระคายเคืองต่อผิวแห้ง โดยทั่วไป คุณควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่บรรจุสารเคมีและเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติอื่น ซึ่งระคายเคืองน้อยกว่า
- มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดขัดผิว ถ้าคุณมีผิวบอบบาง เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดบีดส์อสังเคราะห์นุ่ม ถ้าผิวคุณมัน เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดหยาบซึ่งจะขัดผิวได้ดีกว่า
- ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้พร้อมกับผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ขัดผิวอย่างนุ่มนวลทิศทางเป็นวงกลมเล็กๆ เพื่อที่การขัดผิวจะไม่ทำร้ายผิวของคุณ
-
เลือกซื้อแปรงขัดผิวแบบอิเล็กโทรนิคส์. ยี่ห้อแปรงอย่าง คลาริโซนิค (Clarisonic) พัฒนาเครื่องมือที่สามารถขจัดชั้นนอกของเซลล์ผิวที่แห้งหรือตายแล้วออกจากใบหน้าของคุณได้ แปรงเหล่านี้ใช้ความถี่โซนิคขจัดสิ่งสกปรกและเศษซากบนใบหน้าของคุณโดยไม่ระคายเคืองผิว ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะได้ผลดีไม่เท่ากับวิธีกรอผิวด้วยผงคริสตัลโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ราคาแพงน้อยกว่า อีกอย่างคือ อุปกรณ์นี้ไม่มีเครื่องดูดแต่เครื่องกรอผิวด้วยผงคริสตัลมี
-
ใช้บริการของมืออาชีพกรอผิวด้วยผงคริสตัล. เรียกอีกชื่อว่า การขัดผิวด้วยเครื่องมือหรือการปรับผิวหน้า การกรอผิวแบบนี้ใช้ท่อดูดซึ่งมีส่วนปลายผลัดเซลล์ผิวเพื่อขจัดชั้นผิวหนังที่ตายหรือแห้งแล้ว นี่ได้ผลดีมากในการกำจัดรูขุมขนและเผยผิวใหม่ ถึงแม้ว่าวิธีนี้จำเป็นต้องทำซ้ำสองสามสัปดาห์ครั้งเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ดีเอาไว้
- แม้ว่าขั้นตอนนี้จะมีราคาแพง การกรอผิวด้วยผงคริสตัลจะไม่ระคายเคืองผิวและมีแพทย์ผิวหนังคอยดูแล
- การปรนนิบัติผิวเป็นประจำทั่วไปควรจะทำทุกๆ สองถึงสามสัปดาห์ครั้ง อย่างน้อย 6 ถึง 10 รายการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองวิธีลอกผิว. ถ้าคุณไม่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย คุณอาจลองใช้วิธีลอกผิวทำโดยแพทย์ผิวหนังทุกๆ สี่ถึงหกสัปดาห์ วิธีแก้ปัญหาด้วยการลอกผิวใช้กรดซาลิซิลิกและกรดเรธิโนอิกที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งจะช่วยเร่งให้ผิวผลัดเซลล์ใหม่ ผิวของคุณจะลอกเป็นเวลาสองสามวัน เป็นผลมาจากการลอกผิวจากนั้นผิวจะเริ่มรักษาตัวเองและผลัดเซลล์ผิวนุ่มลื่นขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตาม คุณควรรู้ว่าการลอกผิวนี้มีค่าใช้จ่ายราวหกพันถึงเจ็ดพันบาทต่อครั้ง [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- หลังจากคุณขัดผิวแล้ว ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดสิวเพื่อรักษาความเรียบเนียนและไม่ทำให้เกิดสิว
- ทาครีมกันแดดบนใบหน้าของคุณก่อนออกไปข้างนอก หลังจากคุณขัดผิวแล้ว ผิวของคุณอาจจะระคายเคืองเล็กน้อย ส่วนผิวเก่าที่ตายแล้วซึ่งถูกลอกออกทำให้ผิวใหม่ของคุณโดนแสงแดดทำร้ายได้ง่าย
- ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับหน้าให้แห้งหลังขัดผิวเสร็จ
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าสครับผิวหน้าแรงเกินไป อาจทำร้ายผิวของคุณบาดเจ็บได้
- อย่าขัดผิวทุกวัน สองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วที่จะคืนชีวิตใหม่ให้ผิวของคุณ
- ระมัดระวังอย่างมากเวลาใช้น้ำมันทีทรีลงบนใบหน้าคุณ ถ้าน้ำมันไหลเข้าไปในตาของคุณจะแสบได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://socialitedreams.com/blog-posts/how-to-exfoliate-your-face-at-home.html
- ↑ http://www.today.com/id/47270264/ns/today-today_style/t/oils-thatll-change-your-skin/#.UdIJUj6gW5c
- ↑ http://www.sassybella.com/2008/11/recession-proof-beauty-10-homemade-facial-scrubs/
- ↑ http://www.sheknows.com/living/articles/956905/how-to-make-your-own-exfoliating-scrub
- ↑ http://www.sonyadakarskinclinic.com/diamond-peel-vs-microdermabrasion-treatments-acne
- ↑ http://www.womenshealthmag.com/beauty/exfoliation-face
โฆษณา
