ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เมื่อมีสิวหรือสิวหัวดำเกิดขึ้นบนใบหน้า คุณคงเคยได้ยินคำแนะนำว่าให้ "เปิด" รูขุมขนออกเพื่อขจัดสิ่งอุดตันต่างๆ ให้หลุดออก แต่ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนกลับไม่เชื่อว่ารูขุมขนจะสามารถเปิดออกได้จริงๆ เพราะโดยหลักการแล้วขนาดของรูขุมขนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ [1] อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างหมดจด จึงทำให้รูขุมขนของคุณแลดูเล็กลงได้แม้ว่าจะมีขนาดเท่าเดิมก็ตาม นอกจากนี้ รูปแบบการดำเนินชีวิต เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์หรือการออกกำลังกาย ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้รูขุมขนของคุณสะอาดอยู่เสมอ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 7:

พอกด้วยมาสก์โคลน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ล้างหน้าให้สะอาด.ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นและซับให้แห้งเพื่อเตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการพอกด้วยมาสก์โคลน
    • ควรแน่ใจว่าน้ำอุ่นกำลังดีและไม่ร้อนจนเกินไป
  2. ใช้นิ้วมือหรือแปรงทรงพัดป้ายมาสก์โคลนเป็นชั้นบางๆ ให้ทั่วใบหน้าโดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและปากไว้ มาสก์โคลนจะทำหน้าที่ดูดซับสิ่งสกปรกและความมันที่อุดตันในรูขุมขนของคุณ [2]
    • มาสก์โคลนอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่ายได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามันและไม่แพ้ง่าย
  3. อย่าทิ้งมาสก์โคลนไว้นานเกินไปจนแห้งสนิท โดยคุณควรทิ้งไว้สักพักจนกระทั่งเนื้อมาสก์เริ่มเปลี่ยนสี (ดูจางลง) แต่ยังคงมีสัมผัสที่เหนียวอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะการปล่อยให้มาสก์แห้งจนเกินไปอาจดึงเอาความชุ่มชื้นบนผิวหน้าออกมาแทนได้ [3]
    • หากสัมผัสแล้วเนื้อมาสก์ติดมือออกมา แสดงว่ามาสก์ยังคงแฉะจนเกินไป
  4. แตะน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อมาสก์ลื่นขึ้น จากนั้นใช้ผ้าขนหนูเช็ดออกให้สะอาดจนกระทั่งไม่มีมาสก์เหลือตกค้างบนใบหน้า [4]
  5. เช็ดหน้าให้แห้งและลูบไล้มอยเจอร์ไรเซอร์สูตรปราศจากน้ำมันบางๆ ให้ทั่วผิวหน้า
    • คุณสามารถพอกหน้าด้วยมาสก์โคลนได้ถึง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวหน้าของคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 7:

อบไอน้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิดน้ำให้ไหลเรื่อยๆ จนกระทั่งร้อนได้ที่ก่อนใช้ผ้าขนหนูจุ่มลงไปในน้ำให้ชุ่ม [5]
  2. รีดน้ำออกจากผ้าเพื่อไม่ให้เปียกชุ่มจนเกินไป
  3. นำผ้าอุ่นๆ วางบนใบหน้าเพื่อให้ไอน้ำระเหยออกมาปะทะกับรูขุมขนของคุณ [6] โดยไอน้ำจะช่วยให้สิ่งสกปรก เครื่องสำอาง หรือสิ่งตกค้างอื่นๆ ในรูขุมขนคลายตัวมากยิ่งขึ้น [7]
  4. เมื่อผ้าเริ่มเย็นลงแล้ว ให้คุณเปิดน้ำร้อนและใช้ผ้าจุ่มลงไปอีกครั้งก่อนนำกลับไปประคบบนใบหน้าเช่นเดิม ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง [8]
  5. ถูโฟมล้างหน้าวนให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกและความมันที่คลายตัวจากการอบไอน้ำให้หลุดออก [9]
    • การล้างหน้าหลังอบไอน้ำเสร็จเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะแม้ว่าการอบไอน้ำจะทำให้สิ่งสกปรกและความมันที่อุดตันในรูขุมขนคลายตัวลง แต่การล้างหน้าเป็นขั้นตอนที่ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและความมันเหล่านี้ให้หมดไปจากใบหน้าของคุณ ดังนั้นหากคุณข้ามขั้นตอนนี้ไป การอบไอน้ำก่อนหน้านี้ก็จะไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพใดๆ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 7:

ประคบด้วยน้ำแช่พาร์สลีย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถเหลือก้านไว้ได้โดยไม่จำเป็นต้องหั่นทิ้งไป แต่อย่าลืมล้างน้ำเปล่าเพื่อเอาเศษฝุ่นที่ติดอยู่ออกไปเสียก่อน [10]
    • พาร์สลีย์มีคุณสมบัติในการสมานผิว จึงสามารถช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยม [11]
  2. แช่พาร์สลีย์ไว้ในน้ำและรอจนกระทั่งน้ำเริ่มเย็นลง [12]
  3. นำผ้าขนหนูจุ่มลงไปในน้ำแช่พาร์สลีย์ที่เย็นลงแล้วและบิดน้ำออกเล็กน้อยให้ผ้าพอหมาด [13]
  4. ใช้โฟมล้างหน้าถูเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าเพื่อเตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการประคบด้วยน้ำแช่พาร์สลีย์ หากคุณต้องการบำรุงด้วยโลชั่นบำรุงผิวหน้า ให้คุณเก็บไว้ทาหลังจากที่ประคบด้วยน้ำแช่พาร์สลีย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
  5. นำผ้าขนหนูวางไว้บนใบหน้านาน 10-15 นาที [14]
    • คุณสามารถประคบผิวหน้าด้วยน้ำแช่พาร์สลีย์ได้เป็นประจำทุกวัน
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 7:

ขัดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำเปล่าเข้าด้วยกันจนกระทั่งเป็นเนื้อครีมข้นๆ [15]
  2. ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่าขัดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า. ใช้มือทั้งสองข้างขัดวนเป็นวงกลมให้ทั่วบริเวณใบหน้า [16]
  3. พอกเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที [17]
  4. ล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดหมดจด [18]
    • ทำซ้ำสัปดาห์ละครั้ง. การขัดผิวหน้าด้วยเบกกิ้งโซดาจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อุดตันตามรูขุมขนให้หลุดออกไป [19]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 7:

ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สอบถามแพทย์ผิวหนังเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะกับคุณ [20]
  2. ตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่ถูกใจมากที่สุด [21]
    • ลองขอคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาด้วยการผลัดเซลล์ผิว เช่น เรติน-เอ ไมโคร (Retin-A Micro) ซึ่งมีส่วนช่วยในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อุดตันตามรูขุมขนให้หลุดออกไป [22] การรักษาด้วยการผลัดเซลล์ผิวเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวดูซีดจางที่มักเกิดปัญหาผิวแห้งเสียสะสมได้ง่าย [23]
    • คุณยังสามารถรักษาด้วยการลอกหน้าด้วยสารเคมี เช่น กรดไกลโคลิกหรือกรดซาลิไซลิก ได้เช่นกัน [24] อย่างไรก็ตามคุณจำเป็นต้องรับการผลัดเซลล์ผิวติดต่อกันหลายๆ ครั้งจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ [25] เช่นเดียวกับการผลัดเซลล์ผิว การลอกหน้าด้วยสารเคมีเหมาะเป็นอย่างยิ่งหากคุณมีปัญหาผิวแห้งเสียสะสม
    • อีกทางเลือกหนึ่งคือการรักษาด้วยการฉายแสงหรือเลเซอร์ทั้งประเภท IPL (Intense Pulse Light) และ LED [26] ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและส่งผลให้รูขุมขนแลดูเล็กลง [27] โดยคุณสามารถทำการรักษาด้วยการฉายแสงหรือเลเซอร์ควบคู่กับการลอกหน้าด้วยสารเคมี
  3. จำไว้ว่าการรักษาด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 3000-15000 บาท [28]
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 7:

สร้างกิจวัตรการดูแลผิวหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลังจากกลับถึงบ้านแล้ว อย่าลืมเช็ดเครื่องสะอางออกให้สะอาดหมดจด เพราะการไม่ปล่อยให้ผิวหน้าได้หยุดพักหายใจบ้างเมื่อหมดวันอาจส่งผลให้รูขุมขนของคุณเกิดการอุดตันได้ [29]
    • ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางเช็ดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า [30]
    • หากเครื่องสำอางทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองจนนำไปสู่การเกิดจุดหรือรอยด่างดำบนผิวหน้า ลองเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อหรือผลิตภัณฑ์ตัวอื่นแทน [31]
  2. [32] ล้างหน้าให้สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกและความมันสะสมบนผิวหน้าของคุณจนเกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ [33]
    • พยายามล้างหน้า 2 รอบในแต่ละครั้ง โดยในรอบที่ 2 ให้คุณถูโฟมล้างหน้าให้ทั่วใบหน้าก่อนล้างออกให้สะอาดเพื่อการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก [34]
  3. การหมั่นขัดผิวเป็นประจำเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อุดตันในรูขุมขนให้หลุดออก โดยคุณสามารถขัดผิวได้ง่ายๆ เพียงใช้เบกกิ้งโซดา [35]
    • สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือสครับขัดผิวหน้าสูตรอ่อนโยน รวมทั้งทาโลชั่นบำรุงผิวหน้าทันทีหลังการขัดผิวเพื่อช่วยให้โลชั่นซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
    • สำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวเป็นสิวง่าย พยายามหลีกเลี่ยงสครับขัดผิวหน้าที่มีเนื้อสัมผัสที่หยาบและเหนียวและมองหาผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนประกอบของกรดไฮดรอกซี เช่น กรดไกลโคลิกหรือกรดซาลิไซลิก แทน
    • สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ให้คุณทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์หรือโทนเนอร์ที่ประกอบด้วยเอนไซม์จากพืชสัปดาห์ละ 2 ครั้งและหลีกเลี่ยงการใช้สครับขัดผิวหน้าเนื้อหยาบ
  4. เพิ่มขั้นตอนการพอกหน้าในกิจวัตรการดูแลผิวหน้าสัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อช่วยดูแลให้ผิวหน้าของคุณดูกระจ่างใสและรูขุมขนสะอาดปราศจากสิ่งตกค้าง
    • เลือกใช้มาสก์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย ในขณะที่มาสก์โคลนหรือมาสก์ถ่านภูเขาไฟเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นสิวง่าย [36]
  5. แปรงล้างหน้าแบบหมุนได้สามารถทำความสะอาดผิวหน้าของคุณได้อย่างล้ำลึก จึงช่วยให้รูขุมขนสะอาดปราศจากสิ่งตกค้าง
  6. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน. หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่นบำรุงผิวหน้าที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบรวมถึงเครื่องสำอางกันน้ำซึ่งมีคล้ายคลึงกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย [37]
    โฆษณา
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 7:

ทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารทุกชนิดที่คุณเลือกทานล้วนมีผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกไม่เว้นแม้แต่ผิวของคุณ ดังนั้นหากต้องการให้รูขุมขนดูเนียนใสยิ่งขึ้น คุณควรทานอาหารให้ครบถ้วนเป็นประจำโดยเน้นผักและผลไม้ โดยพยายามทานให้ได้ปริมาณอย่างน้อย 5 เสิร์ฟต่อวันเพื่อเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว รวมทั้งหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ประกอบด้วยน้ำตาลชั้นเดียว เช่น ขนมปังขาว พาสต้า และข้าว ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบได้และเลือกทานธัญพืชเต็มเมล็ดแทน [38] นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นมยังเป็นอีกหนึ่งประเภทอาหารที่อาจส่งผลให้ผิวของคุณเกิดการระคายเคืองได้เช่นกัน [39]
    • ไขมันชนิดดีที่พบได้ในอาหารต่างๆ อย่างอะโวคาโด ถั่ว เมล็ดพืช และปลา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีประโยชน์ต่อผิวของคุณเช่นกัน
    • เพื่อให้ผิวของคุณมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น พยายามเน้นทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งหรือแปรรูป เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว โยเกิร์ต และขนมปังธัญพืช ในมื้ออาหารของคุณ [40]
  2. ความชุ่มชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงและเนียนนุ่มอยู่เสมอ ดังนั้นพยายามดื่มน้ำเปล่าประมาณ 6-8 แก้วต่อวันและพกขวดน้ำติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อให้คุณดื่มน้ำในระหว่างวันได้สะดวกยิ่งขึ้น [41]
    • พยายามจำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน
    • หากรู้สึกเบื่อกับการดื่มน้ำเปล่าแบบเดิมๆ คุณสามารถลองทำน้ำหมักผลไม้หรือชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีนแทนได้
  3. แม้ว่าอาจจะฟังดูขัดกันไปบ้าง แต่ที่จริงแล้วการออกกำลังกายเรียกเหงื่อสามารถช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากการออกกำลังกายจะกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและช่วยเติมออกซิเจนและสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิวพร้อมขจัดของเสียออกไป [42]
    • อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อออกกำลังกายกลางแจ้งเพื่อปกป้องผิวของคุณ
    • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าขณะออกกำลังกายเพราะอาจส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันได้ และเพื่อรักษาความสะอาดของรูขุมขน คุณควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนออกกำลังกายและอาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกายเสร็จ
    โฆษณา
  1. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  2. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  3. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  4. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  5. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  6. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  7. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  8. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  9. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  10. http://www.byrdie.com/how-to-unclog-pores
  11. http://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/skincare-face/shrink-your-pores
  12. http://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/skincare-face/shrink-your-pores
  13. Margareth Pierre-Louis, MD. แพทย์ผิวหนังที่มีใบรับรอง. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 พฤษภาคม 2020.
  14. http://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/skincare-face/shrink-your-pores
  15. http://www.skininc.com/treatments/facial/15106511.html
  16. http://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/skincare-face/shrink-your-pores
  17. http://www.skininc.com/treatments/facial/15106511.html
  18. http://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/skincare-face/shrink-your-pores
  19. http://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/skincare-face/shrink-your-pores
  20. http://www.seventeen.com/beauty/how-to-unclog-your-pores#slide-1
  21. http://www.seventeen.com/beauty/how-to-unclog-your-pores#slide-2
  22. Margareth Pierre-Louis, MD. แพทย์ผิวหนังที่มีใบรับรอง. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 พฤษภาคม 2020.
  23. Margareth Pierre-Louis, MD. แพทย์ผิวหนังที่มีใบรับรอง. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 พฤษภาคม 2020.
  24. http://www.seventeen.com/beauty/how-to-unclog-your-pores#slide-2
  25. http://www.seventeen.com/beauty/how-to-unclog-your-pores#slide-7
  26. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/news/a53481/how-to-exfoliate-your-face/
  27. https://fashionista.com/2017/03/find-best-face-masks-hydrating-anti-aging-acne
  28. http://www.fitnessmagazine.com/beauty/skin-care/guide-to-gorgeous-skin/
  29. https://www.bbcgoodfood.com/howto/guide/eat-your-way-fabulous-skin
  30. Margareth Pierre-Louis, MD. แพทย์ผิวหนังที่มีใบรับรอง. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 พฤษภาคม 2020.
  31. http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/features/skin-foods#3
  32. https://www.bbcgoodfood.com/howto/guide/eat-your-way-fabulous-skin
  33. http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/features/skin-foods#3

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,072 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา