คุณเคยส่องกระจกแล้วเห็นว่าตาคุณแดงไหม? ไม่ว่าจะเป็นเพราะใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรทัศน์นานไป หรือเป็นเพราะอาการแพ้ ตาแดงก็ทำให้เจ็บและดูน่ากลัว โชคดีที่มีหลายวิธีที่จะช่วยลดการระคายเคืองและการบวม อาการตาแดงอาจมาพร้อมกับตาแห้ง ดังนั้นยาบางชนิดก็รักษาอาการทั้งสองอย่างได้ ปัญหาอื่นๆ อย่างการติดเชื้อ การอักเสบ อุบัติเหตุต่อดวงตา หรือสิ่งแปลกปลอม ก็สามารถทำให้ตาแดงได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ควรรีบพบแพทย์จะดีที่สุด
ขั้นตอน
-
หาข้อมูลเกี่ยวกับยาหยอดตา. [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ยาหยอดตามีหลายชนิด แต่ละชนิดก็เหมาะจะใช้ในกรณีที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ถ้าคุณตาแดงและใส่คอนแทคเลนส์อยู่ ยาหยอดตาชนิดที่ช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัวก็อาจใช้ไม่ได้ผล เพราะมันจะไม่สามารถซึมผ่านเลนส์เพื่อรักษาอาการได้
- ยาหยอดตาส่วนใหญ่จะไปทำให้หลอดเลือดในตาหดตัว ซึ่งการทำเช่นนั้นจะช่วยลดอาการตาแดงได้ ควรระวังอย่าใช้ยาหยอดตามากเกินไป เพราะดวงตาของคุณจะชินกับการต้องพึ่งยา เมื่อคุณหยุดใช้ยาก็จะมีอาการตาแดงอีก เพียงเพราะตาของคุณต้องการยาที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยาหยอดตาชนิดที่ปราศจากสารกันบูดจะเป็นธรรมชาติมากที่สุดสำหรับดวงตาของคุณ และมักจะมาในหลอดที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งซึ่งสะอาดมาก
-
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตา. วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกยาหยอดตาคือปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสาเหตุของอาการตาแดงของคุณ เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
- ถ้าคุณตาแดงเพราะภูมิแพ้ ให้หายาหยอดตาที่มียาต้านฮีสตามีน (antihistamines) สารต้านฮีสตามีนอาจทำให้ตาแห้งและแดงได้ ดังนั้นให้หยดน้ำตาเทียมร่วมด้วย
- ถ้ามีอาการติดเชื้อ ให้พบแพทย์เพื่อรับยาหยอดตาที่มียาปฏิชีวนะ
- ระวังยาหยอดตาที่ต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะหลายคนแพ้สารกันบูดที่อยู่ในยา และมันอาจทำให้ตาคุณยิ่งแย่ลงได้
-
ประคบเย็นบริเวณตา. น้ำเย็นจะช่วยลดอาการบวมซึ่งเป็นสาเหตุของตาแดง และยังช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตาอีกด้วย คุณอาจจะแค่ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นก็ได้
- สาเหตุของตาแดงที่พบบ่อยที่สุดคือภูมิแพ้ ร่างกายจะหลั่งสารฮีสตามีน ทำให้ตาแห้ง และหลอดเลือดในตาขยายตัว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง น้ำเย็นจะช่วยลดการไหลเวียนของเลือดไปสู่ตา และรักษาอาการอักเสบได้บางส่วน
-
ใช้ถุงน้ำแข็งหรือถุงเย็น. การใช้น้ำแข็งประคบก็เป็นอีกวิธีที่แนะนำและใช้ลดตาแดงอย่างได้ผล [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถุงน้ำแข็งและถุงเย็นใช้หลักการเดียวกับการประคบเย็น คือบรรเทาอาการบวมและลดปริมาณเลือดที่ไหลเวียนไปสู่ตา
- ถ้าไม่มีถุงเย็น คุณสามารถใช้ผ้าห่อน้ำแข็งก้อนประคบตา 4-5 นาทีแทนได้
- เมื่อใช้ของที่เย็นจัดประคบตา ควรใช้ผ้าบางๆ ห่อไว้ทุกครั้งเพื่อปกป้องดวงตาของคุณจากการถูกความเย็นกัด
-
รอให้เส้นเลือดที่แตกหายเอง. [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าคุณจามหรือไอแรงเกินไป หรือแค่ขยี้ตาแรงๆ มันก็สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยในตาแตกได้ ทางการแพทย์เรียกว่า เลือดออกใต้เยื่อบุตา (subconjunctival hemorrhage) ส่วนมากจะเกิดกับตาข้างเดียว และจะไม่รู้สึกเจ็บ เส้นเลือดนั้นจะรักษาตัวเองได้ตามธรรมชาติ โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่สองสามวันไปจนถึงสองสัปดาห์
- อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันหากคุณกินยาเจือจางเลือด ยกของหนัก ท้องผูก หรือทำกิจกรรมที่เพิ่มความดันในศีรษะ และเกิดขึ้นได้หากเป็นโรคเลือด ดังนั้นถ้ามันเกิดบ่อยมาก ควรไปพบแพทย์ และอาจต้องทำการตรวจเลือด
- ควรพบแพทย์หากมีอาการเจ็บปวด หรือหากเป็นโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน
-
ไปพบแพทย์ถ้าตาคุณกลายเป็นสีชมพู. [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง โรคตาสีชมพู (หรือที่รู้จักกันดีในชื่อโรคตาแดง) จะทำให้ตาของคุณมีสีชมพูหรือแดงตามชื่อ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีหากคุณคิดว่าคุณเป็นโรคนี้ แพทย์จะสั่งยาหยอดตาที่มียาปฏิชีวนะหรือยาสำหรับกินให้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค โรคตาแดงเป็นโรคติดต่อที่แพร่เชื้อได้โดยการสัมผัส ดังนั้นควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ให้ดี และห้ามขยี้ตา วิธีดูว่าคุณเป็นโรคตาแดงหรือไม่ ตรวจสอบได้ดังนี้
- อาการตาแห้งและแดงจะเกิดที่ตาข้างเดียวเท่านั้น หรืออย่างน้อยวันแรกๆ จะเป็นข้างเดียวแล้วจึงแพร่ไปอีกข้าง
- คุณเพิ่งมีอาการติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย (เช่น หูติดเชื้อ เป็นไข้ หรือเป็นหวัด)
- คุณมีคนรอบข้างที่เพิ่งเป็นโรคตาแดง
โฆษณา
-
หาสาเหตุของอาการตาแดงของคุณ. ไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าทำไมตาคุณถึงแดงและระคายเคือง ควรตอบคำถามต่อไปนี้ให้ได้เพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ถูกต้อง
- นี่เป็นปัญหาเรื้อรังหรือเพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก
- คุณมีอาการอื่นๆ นอกจากตาแดงหรือไม่
- คุณมีอาการมานานเท่าไหร่แล้ว
- คุณกินยาอะไรอยู่หรือเปล่า รวมถึงวิตามินหรืออาหารเสริมด้วย
- คุณดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้ยาเสพติดหรือไม่
- คุณมีโรคประจำตัวเรื้อรังหรือไม่
- คุณมีอาการแพ้อะไรหรือไม่
- พักนี้คุณมีความเครียดหรือเปล่า
- คุณนอนหลับพักผ่อนเพียงพอหรือไม่
- คุณกินอาหารน้อยลง หรือรู้สึกขาดน้ำหรือเปล่า
-
ลดเวลาในการใช้สายตาจ้องหน้าจอ. ผลการศึกษาพบว่าอัตราการกะพริบตาของคนเราจะลดลงถึง 10 เท่า ขณะใช้สายตามองจอ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การกะพริบตาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพตา เพราะมันจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา การจ้องหน้าจอแล็ปท็อป จอโทรทัศน์ และจอเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จะทำให้ตาแห้งและแดง ถ้าคุณจำเป็นต้องจ้องหน้าจอนานๆ ควรปฏิบัติตามนี้ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เตือนตัวเองให้กะพริบตา
- ทำตามกฎ 20-20 คือ พักสายตาจากหน้าจอทุกๆ 20 นาที และไปทำอย่างอื่น 20 วินาทีถึง 1 นาที เพื่อให้ดวงตาได้พัก
- ปรับความสว่างของหน้าจอให้ต่ำลง
- ให้หน้าจออยู่ห่างจากตา 20-40 นิ้ว [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Occupational Safety and Health Administration ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ปรับหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ของคุณ. [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Occupational Safety and Health Administration ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าคุณทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือดูโทรทัศน์ คุณอาจไม่สามารถลดเวลาการใช้สายตาจ้องหน้าจอ แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อไม่ให้สายตาทำงานหนักเกินไปได้
- วางจอไว้ในระดับเดียวกับสายตา คุณจะได้ไม่ต้องเงยหรือก้มหน้าเพื่อมองจอ
- ควรมีระยะห่างระหว่างตากับหน้าจอประมาณ 20-40 นิ้ว (50-100 เซนติเมตร)
- ใส่แว่นตาสำหรับป้องกันไม่ให้ปวดตาจากการมองแสงจากหน้าจอ ถ้าคุณใส่เลนส์หรือแว่นที่สั่งตัด ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูว่าคุณควรตัดใหม่แล้วหรือยัง ลองเลือกเลนส์ที่เคลือบสีหรือมีตัวกรองแสงเพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา
-
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่. [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง สารก่อระคายอย่างควันบุหรี่จะระคายเคืองตาและทำให้ตาแดงได้ การสูบบุหรี่ยังเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคตาหลายโรคด้วย เช่น โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคม่านตาอักเสบ ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา และโรคตาแห้ง นอกจากนี้การสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์ยังอาจทำให้ทารกในครรภ์เป็นโรคเกี่ยวกับตาได้ด้วย
- ถ้าคุณไม่อยากเลิกหรือไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ ควรสูบบุหรี่นอกบ้านเพื่อไม่ให้มีควันบุหรี่สะสมในบ้าน หรืออาจจะซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้เพื่อกำจัดควันหากสูบบุหรี่ในบ้านก็ได้
-
จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์. การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เมื่อปัสสาวะบ่อยขึ้น คุณจะสูญเสียธาตุอาหารที่จำเป็นในการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงตา ทั้งการขาดน้ำและการสูญเสียธาตุอาหารจะทำให้ตาแห้งและแดง
- ควรใช้เครื่องคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์เพื่อตรวจสอบว่าคุณดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปหรือไม่ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในร่างกาย คุณต้องการน้ำอย่างเพียงพอเพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้นอยู่ตลอด
-
กินอาหารที่เหมาะสม. [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อาหารที่คุณกินเข้าไปสามารถส่งผลต่อสุขภาพตาของคุณ และอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายได้ ควรกินอาหารที่เหมาะสม อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 (เช่น ปลาแซลมอน เมล็ดแฟล็กซ์ ถั่วเปลือกแข็ง เป็นต้น) เพื่อให้สุขภาพตาแข็งแรงและป้องกันการอักเสบ
- วิตามินซี วิตามินอี และซิงค์ ช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับตาที่เพิ่มขึ้นตามอายุ วิตามินเหล่านี้จะพบได้ในพริกหวาน ผักเคล บร็อกโคลี กะหล่ำดอก สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม แคนตาลูป กะหล่ำปลี มะเขือเทศ ราสเบอร์รี่ เซเลอรี่ และผักโขม [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิตามินบี 2 และวิตามินบี 6 ช่วยลดปัญหาโรคตาที่เกี่ยวข้องกับอายุและช่วยป้องกันโรคต้อกระจก พบในอาหารจำพวกไข่ ผักสด ธัญพืชเต็มเมล็ด ผลิตภัณฑ์นม เมล็ดทานตะวัน และเนื้อสัตว์อย่างปลาทูน่า ตับ และไก่งวง
- ลูทีน (lutein) และซีแซนทิน (zeaxanthin) ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงที่เป็นอันตราย สามารถรับสารอาหารชนิดนี้ได้โดยการกินถั่วลันเตา ถั่วแขก พริกหวานสีส้ม ข้าวโพด ส้มเขียวหวาน ส้ม มะม่วง ไข่ และผักใบสีเขียวเข้มอย่างผักเคล คะน้า บร็อกโคลี และผักโขม
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
-
นอนพักผ่อนเยอะๆ. แม้ว่านี่จะเป็นสาเหตุหนึ่งของตาแดง แต่มันก็มักจะถูกละเลย การนอนหลับช่วยเติมพลังให้แก่ร่างกาย รวมถึงดวงตาของคุณด้วย ควรนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงทุกคืน [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การนอนน้อยเกินไปจะทำให้ตาแห้งและระคายเคือง และยังทำให้เกิดอาการตากระตุกและมีถุงใต้ตาอีกด้วย
- ประโยชน์อีกอย่างของการนอนคือเป็นการให้เวลาเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Nature ไปที่แหล่งข้อมูล
-
จัดการกับภูมิแพ้. ภูมิแพ้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตาแห้ง แดง และระคายเคือง โรคภูมิแพ้ตามฤดูกาลมักจะเกิดช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่มีละอองเกสรดอกไม้ปริมาณมาก การระคายเคืองจะเกิดจากการที่ร่างกายหลั่งสารฮีสตามีนออกมาเพื่อกำจัดอาการแพ้ ผลข้างเคียงของฮีสตามีนก็คือทำให้ตาแห้งและคัน คุณสามารถซื้อยาแก้แพ้หรือยาต้านฮีสตามีนเพื่อแก้ภูมิแพ้ได้ตามร้านขายยา และควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อคงความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย
- คุณอาจจะแพ้ขนสัตว์ ถ้าคุณมีอาการตาแห้ง คันตา หรือตาบวมเมื่ออยู่ใกล้ๆ สัตว์บางชนิด ให้หลีกเลี่ยงสัตว์นั้น คุณสามารถไปพบแพทย์เพื่อฉีดยาแก้แพ้ได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- พูดคุยกับแพทย์ถ้าคุณคิดว่ามีอาการแพ้หรือการรักษาใช้ไม่ได้ผล
- จดบันทึกเกี่ยวกับตาคุณเมื่อมีอาการ มันจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ว่าสาเหตุของโรคมาจากการแพ้หรือภูมิคุ้มกัน
- พยายามหลีกเลี่ยงการจ้องหน้าจอเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ใกล้ๆ และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตาหรือจักษุแพทย์
โฆษณา
คำเตือน
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีถ้ารู้สึกเจ็บตาหรือมีอาการอื่นๆ เพิ่มขึ้น อย่างเช่น ปวดศีรษะ หรือสายตาพร่ามัว ให้นับเป็นภาวะฉุกเฉิน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.allaboutvision.com/buysmart/eye-drops.htm
- ↑ http://www.eyehealthweb.com/choosing-the-best-eye-drops/
- ↑ http://www.reviewofophthalmology.com/content/d/therapeutic_topics/c/35994/
- ↑ http://www.eyehealthweb.com/red-bloodshot-eyes/
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Rid-Of-Puffy-Eyes.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/subconjunctival-hemorrhage/basics/definition/con-20029242
- ↑ http://www.m.webmd.com/eye-health/tc/pinkeye-topic-overview
- ↑ http://researchnews.osu.edu/archive/squintrz.htm
- ↑ http://www.usatoday.com/story/news/nation/2014/01/25/digital-eye-strain/4491611/
- ↑ https://www.osha.gov/SLTC/etools/computerworkstations/components_monitors.html
- ↑ https://www.osha.gov/SLTC/etools/computerworkstations/components_monitors.html
- ↑ http://www.allaboutvision.com/smoking/
- ↑ http://www.abc.net.au/science/articles/2012/02/28/3441707.htm
- ↑ http://rethinkingdrinking.niaaa.nih.gov/ToolsResources/CalculatorsMain.asp
- ↑ http://www.m.webmd.com/a-to-z-guides/features/foods-eye-health
- ↑ http://www.kootenaivisioncenter.com/eyehealthtips.html
- ↑ http://sleepfoundation.org/sites/default/files/STREPchanges_1.png
- ↑ http://www.nature.com/eye/journal/v17/n8/full/6700566a.html
โฆษณา