ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การกินอาหารที่มีความสมดุลในสารอาหารนั้นถือว่าเป็นส่วนสำคัญสำหรับการมีวิถีชีวิตที่ถูกสุขภาพ การกินอาหารที่ดีจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานในระดับที่ดีที่สุด [1] อีกทั้งอาหารที่มีความสมดุลยังเพิ่มภูมิต้านทาน ช่วยในการพัฒนา ช่วยควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสม และช่วยป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังอย่างโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานอีกด้วย [2] การกินอาหารที่สมดุลนั้นง่ายมาก แค่วางแผนกับเตรียมตัวเล็กน้อยก็จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่แข็งแรงและมีความสุข

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เข้าใจการไดเอทที่มีความสมดุล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของการกินอาหารที่สมดุลคือการกินอาหารให้ครบทั้งห้าหมู่ในเกือบทุกวัน [3] อาหารแต่ละหมู่ให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อสุขภาพหลากหลายแตกต่างกัน
    • ให้แน่ใจว่าได้กินอาหารจากแต่ละกลุ่มเหล่านี้: โปรตีน ผลิตภัณฑ์จากนม ธัญพืช ผลไม้ และผัก
    • และควรรวมอาหารที่เป็นแหล่งไขมันดีเข้าไปด้วย ถึงแม้ไขมันจะไม่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มอาหาร แต่การศึกษาพบว่าการกินไขมันดี (อย่างไขมันโอเมก้า 3) ในปริมาณที่พอเหมาะสามารถช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้น [4]
    • การหลีกเลี่ยงไม่กินอาหารกลุ่มใดหรือมากกว่าหนึ่งกลุ่มจะทำให้คุณเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารได้ ไม่ใช่สารอาหารทุกตัวจะมีอยู่ในอาหารทุกหมู่ ทำให้มันจำเป็นที่จะต้องกินอาหารให้ครบทั้งห้ากลุ่มนี้ทุกวัน [5]
  2. กินอาหารให้หลากหลายจากภายในอาหารแต่ละหมู่นี้. นอกเหนือจากการกินอาหารครบทั้งห้าหมู่แล้ว ยังจำเป็นต้องกินอาหารภายในแต่ละหมู่นั้นให้หลากหลายอีกด้วย
    • อาหารทุกชนิดให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารแก่ร่างกายแตกต่างกันไป หากคุณไม่กินอาหารให้มีความแตกต่างหรือหลากหลาย กลายเป็นว่าคุณไปจำกัดสารอาหารที่จะได้รับไป [6]
    • เรื่องนี้เป็นความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผักกับผลไม้ อาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินกับแร่ธาตุและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ผักกับผลไม้ที่มีสีสันแตกต่างกันจะมีสารต้านอนุมูลอิสระต่างชนิดกันซึ่งจะช่วยเรื่องสุขภาพในเรื่องที่ต่างกันออกไป [7]
    • วางเป้าหมายที่จะบริโภคผักผลไม้ที่ปลูกเองในท้องถิ่น เพราะมันสดตามฤดู ดังนั้นจึงให้ประโยชน์ในเรื่องวิตามินกับแร่ธาตุได้อย่างสมบูรณ์กว่า
  3. นอกจากจะกินอาหารให้หลากหลายและมั่นใจว่าบริโภคสารอาหารตามที่แนะนำได้ครบถ้วนแล้ว คุณยังควรสร้างสมดุลว่ากินเข้าไปกี่แคลอรี่ในแต่ละวันด้วย
    • การกินให้ได้แคลอรี่จำนวนที่ถูกต้องกับอายุ ระดับการออกกิจกรรม และเพศนั้นจะช่วยในเรื่องการมีน้ำหนักตัวที่ถูกสุขภาพ การกินแคลอรี่มากหรือน้อยเกินไปมีผลทำให้น้ำหนักตัวสูงเกินหรือต่ำกว่าเกณฑ์ [8]
    • โดยทั่วไป ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการพลังงานราว 1,500 แคลอรี่ต่อวัน ส่วนผู้ชายต้องการประมาณ 2,000 แคลอรี่ต่อวัน ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับช่วงอายุ เพศ ระดับการออกกิจกรรม และสุขภาพโดยรวมด้วย
    • หากต้องการจะเพิ่มหรือลดน้ำหนักตัว มันก็ยังจำเป็นที่จะต้องกินให้ได้แคลอรี่ในปริมาณที่เหมาะสม ระดับแคลอรี่ที่สูงหรือต่ำจนเกินไปนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ [9]
  4. อย่าทำตามแผนไดเอทที่โฆษณาว่าห้ามกินอาหารโน่นนี่หรือให้กินอาหารอีกตัวให้เต็มที่ การควบคุมแนวนี้มีแต่จะทำให้คุณกินสารอาหารอย่างหนึ่งมากเกินไปและไปขาดสารอาหารตัวอื่นแทน ซึ่งส่งผลให้การกินอาหารไม่สมดุล [10]
    • การไดเอทแบบคาร์บต่ำจะเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณของอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น ผลไม้ ผักที่เป็นแป้ง ถั่ว ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นมทั้งหลาย ข้อห้ามที่ไปจำกัดอาหารจากหลายหมู่นี้จะทำให้คุณเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร [11]
    • การไดเอทแบบไขมันต่ำก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น เนื้อที่มีมันเยอะ ไข่ ปลาเนื้อมัน นมเต็มมันเนย และเนยหรือน้ำมัน ถึงแม้ว่าการจำกัดไขมันสู่ร่างกายจะมีประโยชน์ก็จริง ไขมันก็ยังจำเป็นสำหรับใช้ดูดซึมวิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน (อย่างวิตามินเอหรือดี) [12]
    • การไดเอทแบบเน้นโปรตีนจะเน้นไปที่การบริโภคอาหารอุดมโปรตีน เช่น เนื้อไก่ ไข่ เนื้อหมู เนื้อวัว อาหารทะเล หรือถั่ว การได้โปรตีนในระดับปานกลางนับเป็นเรื่องดี แต่โปรตีนในระดับที่มากเกินจะทำให้ไตเสียหายในระยะยาว [13]
  5. การคุมอาหารที่สมดุลนั้นสามารถให้มีการกินพวกของที่มีแคลอรี่สูงหรือดื่มด่ำในรสชาติของยั่วน้ำลายทั้งหลายได้ ถึงอาหารจำพวกนี้จะไม่ควรกินบ่อยๆ แต่ก็พอยอมรับได้ในการไดเอทที่สมดุลเพื่อสุขภาพ [14]
    • รวมการตามใจปากนานๆ ครั้งหรือการดื่มเพื่อเข้าสังคมลงไปในแผนไดเอท มันอาจเป็นของหวานหรือไวน์สักแก้วก็ได้
    • ระมัดระวังไม่ให้ดื่มด่ำกับมันมากเกินไปหรือเลือกอาหารพวกนี้มากินเป็นประจำ นี่จะทำให้อาหารที่กินมีความไม่สมดุลยิ่งขึ้น และอาจทำให้อ้วนขึ้นหรือมีสิทธิเป็นโรคเรื้อรังอย่างพวกโรคความดันโลหิตสูงหรือเบาหวานเอาได้
    • นี่รวมถึงเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะนับแบบตามใจปากแล้ว ผู้หญิงก็ไม่ควรดื่มเกินวันละหนึ่งแก้ว และผู้ชายไม่ควรเกินวันละสองแก้ว [15]
  6. เพื่อช่วยให้วางแผนการไดเอทได้ดีขึ้น การเขียนแผนอาหารให้ตัวเองจึงอาจช่วยได้ มันจะทำให้คุณเห็นว่าได้ทำถึงตามมาตรฐานของการคุมอาหารแบบได้รับสารอาหารพอเพียงหรือไม่ เช่น กินอาหารจากแต่ละหมู่อาหารและให้มีความหลากหลายตลอดทั้งสัปดาห์ [16]
    • เวลาเขียนแผนอาหาร ให้แน่ใจว่าได้รวมไปทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน กับมื้อเย็น รวมไปถึงอาหารว่างที่กะไว้ว่าจะกินด้วย
    • หลังจากได้เขียนไปสักหลายๆ วันหรือเป็นสัปดาห์ ให้ย้อนกลับมาดูเพื่อความแน่ใจว่าคุณได้เลือกอาหารที่หลากหลายจากอาหารแต่ละหมู่ หากสังเกตเห็นว่าวันไหนขาดอะไรไป ก็กลับไปแก้ไขได้ถ้าจำเป็น
    • คุณสามารถดาวน์โหลดแอปบันทึกแผนอาหารลงในสมาร์ทโฟนเพื่อทำให้มันสะดวกขึ้นได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

รักษาการไดเอทที่มีความสมดุล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นซึ่งร่างกายต้องการในปริมาณมาก ให้รวมอาหารที่มีโปรตีนในทุกมื้อจะช่วยทำให้กินได้ตามเป้า [17]
    • โปรตีนพบได้ในอาหารที่หลายหลากประเภทมาก เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู ถั่ว ไข่ ผลิตภัณฑ์นม และเต้าหู้หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
    • โปรตีนหนึ่งหน่วยบริโภคเท่ากับประมาณ 85-110 กรัม นั่นคือขนาดราวสำรับไพ่หรือสมุดเช็ค [18] ผู้หญิงต้องการโปรตีนวันละ 46 กรัมและผู้ชายต้องการวันละประมาณ 56 กรัม
    • ถ้าคุณกำลังควบคุมน้ำหนัก เลือกแหล่งโปรตีนที่ไร้ไขมันหรือไขมันต่ำ มันจะมีแคลอรี่น้อยกว่าและช่วยในการลดน้ำหนัก โปรตีนไร้มันก็เช่น เนื้ออกไก่ไร้กระดูกที่เอาหนังออกแล้ว เนื้อไก่งวง เนื้อวัวบดที่มีเนื้อ 90% หรือสูงกว่านั้น หรือถั่วไม่อบเกลือ [19]
  2. อาหารเหล่านี้อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ พวกมันยังเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสุขภาพซึ่งคุณจะไม่มีทางรับจากอาหารกลุ่มอื่นด้วย [20]
  3. อาหารกลุ่มธัญพืชนั้นมีทั้งแบบโฮลเกรนหรือที่ผ่านการขัดสี ถ้าทำได้ก็ให้เลือกธัญพืชที่กินเป็นแบบโฮลเกรน 100% หรืออย่างน้อยก็ขอให้ได้สักครึ่ง
    • ธัญพืชโฮลเกรนนั้นผ่านการแปรรูปมาน้อยมากและยังมีครบทุกส่วนของเมล็ด นั่นคือ จมูกข้าว เอนโดสเปิร์ม และรำข้าว [24] รวมกันแล้วพวกมันจะให้ไฟเบอร์ โปรตีน และสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ตัวอย่างก็เช่น เส้นพาสต้าแบบทำจากธัญพืชโฮลเกรน 100% ข้าวโพด ควินัว ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง และขนมปังโฮลวีท 100%
    • ธัญพืชที่ผ่านการขัดสีมานั้นมีการแปรรูปมากกว่าและไม่ได้มีส่วนของจมูกข้าวกับรำข้าวหลงเหลืออยู่ (ซึ่งเลยลดปริมาณสารอาหารที่มีอยู่ลง) ตัวอย่างก็เช่น ขนมปังขาว เส้นพาสต้าทั่วไป ข้าวขาว และอาหารอะไรก็ตามที่ทำจากแป้งขาวเป็นหลัก
    • ธัญพืชหนึ่งหน่วยบริโภคเท่ากับ 28 กรัมหรือ 1/2 ถ้วย ตั้งเป้ากินธัญพืชวันละสองถึงสามหน่วยบริโภค พยายามทำให้ครึ่งหนึ่งของธัญพืชที่กินเป็นแบบโฮลเกรน 100%
  4. ไขมันไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหาร กระนั้น มันก็ถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับแผนไดเอทที่สมดุลเหมือนกัน แต่อย่างที่รู้ คุณต้องระมัดระวังไม่กินไขมันมากเกินไปหรือกินไขมันผิดประเภทมากเกินไป
    • เน้นไปที่ไขมันที่ดีต่อหัวใจอย่างไขมันโอเมก้า 3 และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว การศึกษาพบว่าพวกมันช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง [25] ตัวอย่างเช่น มะกอกกับน้ำมันมะกอก ไขมันปลา อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็งหรือน้ำมันจากถั่วเปลือกแข็ง
    • ไขมันหรือน้ำมันหนึ่งหน่วยบริโภคคือ 1 ช้อนชา ตั้งเป้ากินหนึ่งถึงสองหน่วยบริโภคต่อวัน แต่ห้ามเกินกว่าสองหน่วยบริโภค
    • หลีกเลี่ยงหรือลดไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวให้เหลือน้อยที่สุด พวกมันถูกพบว่าเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน ไขมันประเภทนี้จะอยู่ในอาหารต่อไปนี้ อาหารฟาสต์ฟู้ดหรือของทอด อาหารแปรรูป หรือโปรตีนเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง [26]
  5. บางทีมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะบริโภคอาหารให้ครบทั้งห้ากลุ่มหรือกินได้หลากหลาย นั่นอาจมาจากสาเหตุว่าแพ้อาหาร ไวต่ออาหาร หรือมีโรคเรื้อรัง ในกรณีแบบนี้ มันก็ยังจำเป็นที่จะต้องบริโภคสารอาหารที่สำคัญให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการผ่านทางแหล่งอื่น เช่น อาหารเสริมจำพวกวิตามินกับแร่ธาตุ แต่พยายามให้ได้รับสารอาหารจากอาหารที่กินให้มากที่สุด และใช้อาหารเสริมแค่ตอนจำเป็น
    • การกินอาหารเสริมอาจช่วยให้คุณทำได้ตามเป้าหมายการรับสารอาหาร คุณอาจลองคิดการใช้พวกวิตามินรวม, แคลเซียม (โดยเฉพาะถ้าคุณแพ้นมหรือแพ้น้ำตาลแลคโตส), น้ำมันปลา (ถ้าคุณแพ้อาหารทะเลหรือไม่กินปลา), หรือวิตามินดี (ซึ่งยากจะได้จากอาหาร แต่สามารถได้จากแสงแดด) [27]
    • ผู้ที่เป็นมังสวิรัติอาจจำเป็นต้องกินอาหารเสริมที่มีวิตามินบี12 หรือธาตุเหล็ก เพราะอาหารที่กินอาจจำกัดปริมาณของสารอาหารเหล่านี้ที่จะได้จากอาหาร
    • ไปพบหมอก่อนทุกครั้งที่จะเริ่มใช้อาหารเสริมจำพวกวิตามิน แร่ธาตุ หรือสมุนไพร ถึงแม้โดยทั่วไปมันจะไม่เป็นอันตราย แต่อาหารเสริมบางตัวก็ทำปฏิกิริยารุนแรงกับยาที่ใช้รักษาหรือโรคเรื้อรังบางชนิด หมอจะบอกได้ว่าตัวไหนที่ปลอดภัยและเหมาะกับคุณบ้าง
    • อย่าพึ่งแต่อาหารเสริมในการรับสารอาหารจำเป็นแก่ร่างกาย พึงเลือกให้ได้รับสารอาหารส่วนใหญ่จากอาหารที่กินเท่าที่จะทำได้ [28]
  6. การจะไดเอทอาหารให้สมดุลไปตลอดนั้นอาจเป็นเรื่องยากหรือชวนสับสน อย่างไรก็ตาม การไปพบนักโภชนาการจะช่วยให้คุณมีข้อมูลและคำแนะนำมากขึ้นรวมถึงกำลังใจในการเปลี่ยนการกินอาหารนี้
    • นักโภชนาการที่มีใบทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการที่ชำนาญเรื่องสารอาหาร การกินที่ดีต่อสุขภาพ และการลดน้ำหนัก
    • ค้นหานักโภชนาการในละแวกที่อยู่หรือให้หมอแนะนำคนที่เคยทำงานร่วมกันให้คุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • กินช้าๆ จะได้ไม่กินเกินพอดี การค่อยๆ กินจะช่วยให้จิตใจได้ส่งสัญญาณไปยังร่างกายในตอนที่อิ่มแล้ว ถ้าคุณกินเร็ว สมองจะส่งสัญญาณเหล่านี้ไปไม่ทันจนคุณได้กินเกินพอดีไปแล้ว
  • แผนการกินแบบลดแคลอรี่ที่รวมอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นจะช่วยคุณลดน้ำหนัก โดยการทำตามแผนไดเอทที่สมดุลดีนั้น คุณจะได้ไม่ต้องหยุดกินอาหารที่มีสารอาหารที่ดีไปทั้งหมู่ แล้วกลายเป็นขาดสารอาหารสำคัญที่มีในพวกมัน การเริ่มต้นที่ดีคือให้เลือกแผนการกินที่มีอาหารที่หลากหลาย
  • หาถั่วแบบผสมหลายๆ ชนิดมากินทีละน้อย แต่อย่ากินบ่อยไป
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน
ผอมด้วยวิธีธรรมชาติ
จดไดอารี่อาหาร
รับประทานอาหารแบบแบรทไดเอท (BRAT Diet)
คำนวณแคลอรี่จากโปรตีน
ยับยั้งอาการอยากของหวาน
ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 1 เดือน
เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
ลดน้ำหนักใน 1 อาทิตย์
ลดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์
รักษาหุ่นโดยที่ยังดื่มแอลกอฮอล์ได้
เผาผลาญไขมันและมีสุขภาพดี
ทำให้หน้าท้องแบนเรียบในหนึ่งสัปดาห์
วิธีทานอาหารเสริมจากส้มแขก: ความเสี่ยง, คุณประโยชน์ และข้อมูลด้านความปลอดภัย
โฆษณา
  1. http://www.uhs.berkeley.edu/eda/NODieting.pdf
  2. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/low-carb-diet/art-20045831?pg=2
  3. http://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/low-fat/
  4. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/expert-answers/high-protein-diets/faq-20058207
  5. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/heart-disease/in-depth/health-tip/art-20048749
  6. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/alcohol/art-20044551
  7. http://www.healthline.com/health/balanced-diet#Calories2
  8. http://www.pcdfoundation.org/en/staying-healthy-with-pcd/eat-a-healthy-balanced-diet
  9. http://www.choosemyplate.gov/protein-foods
  10. https://www.presidentschallenge.org/motivated/healthy-eating/protein.shtml
  11. http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/NutritionCenter/HealthyEating/Can-antioxidants-in-fruits-and-vegetables-protect-you-and-your-heart_UCM_454424_Article.jsp
  12. http://www.choosemyplate.gov/fruit
  13. http://www.choosemyplate.gov/vegetables
  14. http://www.choosemyplate.gov/vegetables
  15. http://wholegrainscouncil.org/whole-grains-101/what-are-the-health-benefits
  16. http://www.pcdfoundation.org/en/staying-healthy-with-pcd/eat-a-healthy-balanced-diet
  17. http://www.pcdfoundation.org/en/staying-healthy-with-pcd/eat-a-healthy-balanced-diet
  18. http://www.berkeleywellness.com/healthy-eating/food/lists/14-keys-to-a-healthy-diet/slideid_190
  19. http://www.berkeleywellness.com/healthy-eating/food/lists/14-keys-to-a-healthy-diet/slideid_190

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,914 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา