ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มีเหตุผลหลายอย่างที่อธิบายว่าทำไมกล้วยถึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เมื่อคุณปอกเปลือกกล้วยแล้ว ออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ในกล้วยและเปลี่ยนด้านในกล้วยให้เป็นสีน้ำตาล ถ้าด้านนอกของกล้วยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล นั่นเป็นเพราะว่าสารสีเหลืองของกล้วยถูกทำลายและไม่มีการผลิตมาแทนที่จึงทำให้เกิดเป็นสีน้ำตาล [1] การรู้เรื่องวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการสุกของกล้วยนั้นสำคัญต่อการเรียนรู้ที่จะเก็บกล้วยให้กินได้อย่างสดใหม่และอร่อย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เก็บกล้วยที่ยังอยู่ในเปลือก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซื้อกล้วยที่มีสีเขียวที่ขั้วและมีสีเหลืองตรงกลาง. นี่จะบ่งบอกว่ากล้วยนั้นค่อนข้างจะไม่สุก
    • แน่ใจว่ากล้วยไม่มีจุดสีน้ำตาลหรือรอยช้ำ รอยหรือรูเล็กๆจะทำให้ผิวกล้วยด้านในโดนอากาศภายนอก ซึ่งจะเป็นการเร่งให้กล้วยสุกเร็วขึ้น
    • อย่าซื้อกล้วยที่เป็นสีเหลืองแล้ว กล้วยจะสุกเร็วมากและจะเก็บไว้ไม่ได้นาน [2] ด้วยเหตุผลนี้ คุณอาจจะต้องแน่ใจว่าคุณซื้อกล้วยที่มีสีเขียวบางส่วน ซึ่งจะทำให้คุณเก็บมันไว้ได้นานพอก่อนที่มันจะสุก
  2. เก็บกล้วยไว้ในที่ที่มีอากาศอุณหภูมิห้องจนกระทั่งมันสุก. หลีกเลี่ยงการเก็บกล้วยในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเพราะจะเป็นการเร่งให้มันสุกเร็วขึ้น
    • อย่าเก็บกล้วยไว้ในตู้เย็นก่อนที่มันจะสุก เพราะจริงๆแล้วมันจะให้ผลตรงข้ามและเปลี่ยนให้กล้วยของคุณมีเปลือกสีน้ำตาลเร็วขึ้น นี่เป็นเพราะความเย็นจะทำให้ผนังเซลล์ของกล้วยถูกทำลายขณะที่มันยังเติบโตไม่เต็มที่ ซึ่งจะเกิดการผลิตเมลานินที่จะเปลี่ยนสีของกล้วยให้เป็นสีดำ อย่างไรก็ตาม ภายในของกล้วยจะยังไม่สุกเพราะความเย็นจะยับยั้งกระบวนการสุกของกล้วย [3]
  3. Watermark wikiHow to เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
    นี่จะช่วยป้องกันไม่ให้มันช้ำและโดนอากาศ คุณสามารถห่อขั้วของกล้วยด้วยพลาสติกสำหรับห่ออาหารด้วยก็ได้ [4] นี่จะเป็นการจำกัดปริมาณของออกซิเจนที่จะเข้าไปในบริเวณขั้วและจะทำให้กล้วยยังสดใหม่ไปอีกอาทิตย์หนึ่ง
  4. ผักและผลไม้อื่นๆ จะปล่อยแก๊สที่เร่งทำให้กล้วยสุกเร็ว
    • การเก็บกล้วยไว้ด้วยกันก็จะเป็นการเร่งให้กล้วยสุกเร็ว โดยธรรมชาติแล้ว พืชต่างๆ จะปล่อยแก๊สที่มีชื่อว่าเอทิรีน (Ethylene) ซึ่งจะทำให้มันสุก ผักและผลไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแล้วจะปล่อยแก๊สเอทิรีนมากกว่าปกติ ทำให้พืชผักที่อยู่ใกล้ๆ สุกเร็วขึ้นไปด้วย
    • อย่าเก็บกล้วยไว้ในถุงซีลอาหาร นี่จะทำให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเร็วขึ้นเพราะฮอร์โมนเอทิรีนที่ปล่อยออกมาจะไม่สามารถออกไปจากถุงซีลอาหารได้
  5. เพราะว่ากล้วยได้เริ่มสุกไปแล้ว คุณอาจจะเลื่อนเวลาไม่ให้มันสุกไปเร็วกว่านี้โดยการใช้ความเย็น
    • ในการยับยั้งกระบวนการสุกของกล้วย คุณอาจจะต้องทำให้ปฏิกิริยาเคมีนั้นช้าลง อุณหภูมิที่เย็นจะเป็นการทำให้ปฏิกิริยาช้าลงและทำให้กล้วยสุกช้าลง
    • ไม่ต้องกังวลถ้าเปลือกกล้วยเปลี่ยนเป็นสีดำ ซึ่งปกติมันก็จะเปลี่ยนสีอยู่แล้ว ซึ่งนี่เป็นเพราะสารที่อยู่ในเปลือกกล้วยเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่มันไม่มีผลกระทบอะไรเกี่ยวกับเนื้อกล้วยที่อยู่ด้านใน และมันยังคงเอามาทานได้อย่างอร่อยและค่อนข้างสด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เก็บกล้วยที่ปอกเปลือกแล้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
    เก็บกล้วยที่ปอกแล้วไว้ในกล่องพลาสติกที่อากาศเข้าไปไม่ได้และใส่ไว้ในช่องฟรีซ. คุณสามารถนำกล้วยที่เก็บไว้มาทำให้หายเย็นเพื่อเอาไว้ใช้วันหลังได้
  2. Watermark wikiHow to เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
    [5] กรดที่ทาเคลือบลงไปจะทำหน้าที่เป็นสารที่ช่วยเก็บรักษากล้วยและทำให้กล้วยมีสีเหลืองนานขึ้น
    • คุณไม่จำเป็นต้องทำให้กล้วยชุ่มไปด้วยน้ำมะนาว การเพิ่มน้ำมะนาวไม่ได้แปลว่ากล้วยจะเก็บได้นานขึ้น การทาน้ำมะนาวไปมากๆ จะทำให้กล้วยมีรสเปรี้ยว
    • สำหรับตัวเลือกอื่นๆ ที่มีรสชาติหวานกว่า ให้ใช้น้ำแอปเปิ้ล ส้ม หรือสับปะรด แทนน้ำมะนาว ซึ่งมันมีกรดเพียงพอที่จะทำให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลช้าลงโดยไม่ต้องนำไปเจือจาง น้ำแอปเปิ้ลนั้นอ่อนโยนมากจนแทบไม่รู้ว่าได้ทามันลงไปที่กล้วย ให้เลือกน้ำผลไม้อื่นๆ ถ้าคุณต้องการที่จะผสมกล้วยเข้ากับผลไม้ชนิดอื่นในภายหลัง
  3. Watermark wikiHow to เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
    นี่จะเป็นการใช้กรดในการเก็บรักษากล้วยเช่นเดียวกัน แต่แค่ใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำผลไม้
    • การใช้น้ำส้มสายชูเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าน้ำผลไม้อื่นๆ นั้นเปลี่ยนรสชาติของกล้วยมากจนเกินไป แค่ใส่น้ำส้มสายชูปริมาณ ¼ ถ้วยต่อน้ำเปล่า 1 ถ้วย จุ่มกล้วยที่หั่นเป็นชิ้นหรือกล้วยทั้งลูกก็ได้ลงไปในน้ำประมาณ 3 นาที
    • อย่าทิ้งกล้วยในน้ำส้มสายชูนานกว่า 3 นาที การทิ้งกล้วยแช่ไว้จะทำให้มันนุ่มจนเกินไปและอาจจะมีรสชาติของน้ำส้มสายชูอย่างเข้มข้น ซึ่งนี่จะมีรสชาติแย่กว่าน้ำมะนาวหรือเลมอน
  4. ถ้าคุณไม่มีน้ำผลไม้หรือน้ำส้มสายชู การใช้วิตามินซีก็สามารถให้ผลแบบเดียวกันได้เมื่อนำมันมาบดและละลายในน้ำ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เมนูสำหรับกล้วยที่สุกจนงอม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กล้วยที่สุกจนงอมนั้นไม่ได้แปลว่าคุณไม่สามารถนำมันมาใช้ทำขนมอร่อยๆ ได้
    • จริงๆ แล้ว ขนมปังกล้วยนั้นจะมีรสชาติหวานและอร่อยที่สุดเมื่อทำจากกล้วยสุกงอม สำหรับกล้วยที่แทบจะ "ไม่มีหวัง" แล้ว การทำขนมปังกล้วยก็เป็นตัวเลือกที่ดี [6]
    • จริงๆ แล้ว กล้วยนั้นสามารถนำมาทานได้นานกว่าที่คุณคิด ตราบใดที่กล้วยไม่มีเชื้อรา ไม่มีแมลงหวี่มาตอม หรือไม่มีไข่แมลงวัน ส่วนใหญ่แล้วก็สามารถทานได้ถ้าไม่คำนึงถึงความนุ่มจนเละและความดำของกล้วย
  2. ใส่กล้วยที่งอมแล้วลงไปในโถปั่นพร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ สองสามอย่างเพื่อทำเครื่องดื่มสุดอร่อย
    • สิ่งที่คุณต้องมีคือกล้วยงอม 1 ลูก แอปเปิ้ลที่ปอกเปลือกและแกะแกนออกแล้วครึ่งลูก คุกกี้ Biscoff 4 ชิ้น (สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายของชำส่วนใหญ่) ซินนามอนนิดหน่อย วานิลลาสกัด 1/2 ช้อนชา นม 1 แก้ว และน้ำแข็งก้อน 1 กำมือ
    • ใส่กล้วย แอปเปิ้ล และคุกกี้ Biscoff ไปในโถปั่นก่อนและปั่นให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มและปั่นต่อ คุณอาจจะใส่นมเพิ่มจนสมูทตี้ของคุณมีความข้นแบบที่คุณต้องการ
    • สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ในเนื้อสมูทตี้ อาจจะเพิ่มข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดและปั่นมันเข้าด้วยกัน นี่จะทำให้สมูทตี้ของคุณมีเนื้อกรุบกรอบตัดกับความนุ่มละมุนของสมูทตี้ [7]
  3. นำกล้วยที่ละลายแล้วไปแช่เย็นเพื่อทำหวานเย็นกล้วยฟอสเตอร์ (Bananas Foster Popsicles). กล้วยฟอสเตอร์ (Bananas Foster) เป็นขนมยอดนิยมของรัฐนิวออร์ลีนส์และทำง่ายมากๆ [8]
    • คุณต้องมีกล้วยขนาดใหญ่ที่งอมแล้ว 2 ลูก โดยหั่นสไลด์เป็นชิ้นบางๆ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เนย 1 ช้อนโต๊ะ ซินนามอน ½ ช้อนชา กรีกโยเกิร์ต ½ ถ้วย นม ½ ถ้วย วานิลลา 1 ช้อนชา และรัมสกัด 1 ช้อนชา
    • ขั้นตอนแรก ให่ใส่กล้วย น้ำตาลทราย เนย และซินนามอน ลงไปในถ้วยเล็กๆ จากนั้นนำไปอุ่นในไมโครเวฟทีละ 30 วินาทีจนกว่ากล้วยจะอ่อนนุ่มลง คนให้เข้ากัน ปล่อยให้กล้วยเย็นลง จากนั้นให้ใส่ส่วนผสมลงไปในโถปั่นพร้อมกับกรีกโยเกิร์ต นม วานิลลา และรัมสกัด ปั่นส่วนผสมให้เข้ากัน เทส่วนผสมที่ปั่นแล้วลงไปในแม่พิมพ์หวานเย็น และนำไปเข้าช่องฟรีซ ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงจนกระทั่งมันแข็งตัว นำหวานเย็นออกจากแม่พิมพ์เมื่อทาน [9]
    โฆษณา

คำเตือน

  • ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่เสียแล้ว ถ้าไม่แน่ใจ ให้ทิ้งมันไปทั้งหมด
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 50,864 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา