ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คุณรู้สึกแย่ที่มีถุงหรือรอยคล้ำใต้ตาใช่ไหม? การมีถุงใต้ตาเป็นเรื่องธรรมชาติเมื่อมีอายุมากขึ้นแต่ก็อาจเกิดขึ้นได้จากการนอนหลับไม่เพียงพอ ภูมิแพ้ หรือนิสัยส่วนตัวที่ทำให้เกิดการคั่งของน้ำ นอกจากนี้ ถุงใต้ตายังเป็นปัญหารบกวนรูปลักษณ์เพราะอาจทำให้คุณดูเหนื่อยหรือป่วยอีกด้วย ดังนั้น มาเรียนรู้วิธีการลดถุงใต้ตาด้วยวิธีรักษาแบบเร่งด่วน วิธีรักษาแบบระยะยาว และการแก้ปัญหาอย่างถาวรด้วยการเสริมความงามกันดีกว่า
ขั้นตอน
-
ดื่มน้ำเยอะ ๆ. ถุงใต้ตามักเกิดจากการคั่งของน้ำอันเกิดจากบริเวณดังกล่าวมีความเข้มข้นของเกลือสูง คุณอาจตื่นมาพร้อมถุงใต้ตาหลังจากรับประทานอาหารเย็นรสเค็มจัดหรือร้องไห้ ไม่ว่าถุงใต้ตาจะเกิดจากน้ำตาหรืออาหาร เกลือจะทำให้ใบหน้าบวมน้ำและกักเก็บน้ำไว้ใต้ตาได้
- ระบายปริมาณเกลือที่มากเกินไปจากระบบของร่างกายด้วยการดื่มน้ำเยอะ ๆ หลีกเลี่ยงไมรับประทานอาหารเค็ม ๆ ในช่วงเวลาที่เหลือของวัน
- หลีกเลี่ยงไม่ดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้ร่างกายขับน้ำออก เช่น กาแฟ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-
บรรเทาดวงตาด้วยอะไรเย็น ๆ. [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คุณอาจเคยได้ยินมาว่าการวางแตงกวาฝานไว้เหนือตาจะช่วยลดถุงใต้ตาได้ แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ช่วยบรรเทาอาการบวมคืออุณหภูมิที่เย็นของแตงกวาต่างหาก แตงกวาก็แค่มีรูปทรง ขนาดและผิวสัมผัสที่เหมาะเจาะกับการรักษาถุงใต้ตาพอดี ดังนั้น หยิบแตงกวาขึ้นมาฝานซะเดี๋ยวนี้เลย แต่อย่าลืมเอาไปใช่ในตู้เย็นซะก่อนล่ะ
- ถ้าคุณดันไม่มีแตงกวา แช่ถุงชาซักสองสามถุงไว้ในช่องฟรีซหรือตู้เย็นก่อนที่จะนำมาวางไว้เหนือตา ใช้ชาที่มีกลิ่นหอมจรรโลงใจเช่นชาคาโมไมล์หรือชาเป็ปเปอร์มิ้นต์ดูสิ คุณจะได้ทั้งรักษาถุงใต้ตาและบำบัดร่างกายด้วยกลิ่นหอมไปพร้อม ๆ กันเลยไงล่ะ
-
ทาคอนซีลเลอร์ซะบ้าง. ในระยะสั้น การปกปิดถุงและรอยคล้ำใต้ตาด้วยคอนซีลเลอร์และเครื่องสำอางซักหน่อยคือวิธีการที่เร็วและได้ผลที่สุดแล้ว การใช้เครื่องสำอางที่เหมาะสมจะช่วยลดการปรากฏของถุงใต้ตาและทำให้คุณดูสดใสไปทั้งวัน ลองทำตามวิธีการทาคอนซีลเลอร์ด้านล่างดูสิ:
- เลือกสีคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นที่เหมาะกับสีผิวของคุณ ถ้าถุงใต้ตาคุณสีออกคล้ำ คุณอาจเลือกคอนซีลเลอร์หรือรองพื้นที่สีอ่อนลงได้หนึ่งเฉด ใช้นิ้วมือหรือก้อนสำลีค่อย ๆ แตะคอนซีลเลอร์เบา ๆ ไม่ใช่ถูจนซึมเข้าสู่ผิว เครื่องสำอางจะปกปิดถุงใต้ตาได้ดีกว่านะถ้าแค่ทาไว้บนผิวหน้าน่ะ
- กลบคอนซีลเลอร์ด้วยแป้งเพื่อที่คอนซีลเลอร์จะได้อยู่ตัวและติดทนนานตลอดวัน ใช้แปรงปัดแป้งเกลี่ยแป้งสีพื้น (แบบที่ไม่มีประกายชิมเมอร์) กลบถุงใต้ตาซักหน่อย
-
ใช้ถุงชา. บางครั้งแทนนินในชาก็สามารถช่วยบรรเทาอาการถุงใต้ตาบวมได้เช่นกัน
- ต้มน้ำและหย่อนถุงชาสองถุงลงไปในน้ำร้อน
- ดึงขึ้นลงจนกระทั่งถุงชาทั้งสองถุงชุ่มน้ำจนทั่ว
- ดึงถุงชาออกจากหม้อและปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นลงบนจาน โดยคุณอาจปิดหน้า จมูกและดวงตาด้วยผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้าก็ได้
- หาที่สบาย ๆ แล้วนอนลง วางถุงชาชุ่มน้ำทั้งสองถุงไว้เหนือตาแต่ละข้าง ยกเท้าทั้งสองขึ้น ผ่อนคลายสักสองสามนาที
- หลังจากพักผ่อนสักพักแล้ว นำถุงชาออก หากได้ผล ตาของคุณอาจบวมน้อยลงเมื่อลองส่องกระจกดู
โฆษณา
-
รักษาภูมิแพ้. ถุงใต้ตามักเป็นผลจากภูมิแพ้ที่ทำเกิดอาการอักเสบบนใบหน้า [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เนื่องจากผิวรอบดวงตาบอบบางกว่าผิวที่ส่วนอื่น ของเหลวในร่างกายจะถูกกักเก็บไว้ที่ใต้ตาและทำให้ผิวบริเวณนั้นบวมได้
- ใช้ยาแก้แพ้เพื่อรักษาอาการไข้ละอองฟางหรืออาการภูมิแพ้ประจำฤดู โดยคุณอาจซื้อยาตามร้านขายยาหรือให้แพทย์สั่งยาให้ก็ได้
- หลีกเลี่ยงไม่ไปใกล้สิ่งที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ดอกไม้ ฝุ่น หรือสัตว์ ดูดฝุ่นในบ้านให้สะอาดและซักผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ ด้วย
-
เปลี่ยนท่าทางการนอน. [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คนที่นอนคว่ำหรือนอนตะแคงมีโอกาสสูงที่จะตื่นมาพร้อมถุงใต้ตาเพราะท่านอนทั้งสองท่าจะทำให้เกิดการกักเก็บของเหลวที่บริเวณใต้ตาในขณะที่นอนหลับ คนที่ชอบนอนตะแคงอาจจะสังเกตเห็นว่าถุงใต้ตาตาข้างเดียวกับที่นอนตะแคงจะบวมกว่าตาอีกข้าง
- พยายามนอนหงายให้บ่อยกว่านอนคว่ำหรือนอนตะแคง การเปลี่ยนท่านอนไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น คุณอาจจะมีปัญหาในการปรับตัวเล็กน้อยในช่วงแรก ลองหาหมอนมาวางไว้ข้างตัวเพื่อที่จะได้นอนหงายได้ง่ายขึ้นดูสิ
- เสริมหมอนเพิ่มเป็นสองใบเพื่อหนุนศีรษะหากคุณนอนหงายอยู่แล้ว เมื่อศีรษะอยู่ในองศาที่เอียงลงเล็กน้อย ของเหลวจะไม่คั่งอยู่ใต้ตายามคุณนอนหลับ
-
ดูแลใบหน้าอย่างอ่อนโยน. ผิวหน้าโดยเฉพาะบริเวณใต้ตาบอบบางจึงมีโอกาสเสียหายและอ่อนแอได้ง่ายซึ่งจะยิ่งทำให้ถุงใต้ตาใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อที่จะดูแลผิวหนังใต้ตาอย่างระมัดระวังยิ่งขึ้น:
- อย่าเข้านอนทั้ง ๆ ที่ยังแต่งหน้าอยู่. สารเคมีในเครื่องสำอางอาจทำให้ตาระคายเคืองได้ขณะนอนหลับ การล้างหน้าก่อนเข้านอนเป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลรักษาใบหน้าที่ถูกสุขลักษณะนะ
- ล้างและเช็ดหน้าอย่างอ่อนโยน. การถูหน้าแรง ๆ เพื่อทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนูอาจทำให้ผิวรอบดวงตาอ่อนแอได้ คุณควรเช็ดเครื่องสำอางออกด้วยน้ำยาล้างเครื่องสำอางคุณภาพดี วักน้ำเพื่อล้างหน้าซักสองสามครั้งและซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าทุกคืน. ดูแลให้ใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาให้ชุ่มชื้นเพียงพอเพื่อที่ผิวหนังจะได้คงความยืดหยุ่นและแข็งแรง ใช้โลชั่นหรือน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นทุกคืนก่อนนอน
- ทาครีมกันแดดทุกวัน. แสงแดดอาจทำให้ผิวบาง ๆ รอบดวงตายิ่งเปราะบาง ดังนั้น คุณต้องปกป้องผิวส่วนนี้เป็นประจำทุกวันแม้ว่าจะอยู่ในฤดูหนาวก็ตาม
-
เปลี่ยนนิสัยการรับประทานอาหาร. การรับประทานอาหารรสเค็มคู่กับค็อกเทลสักนิดหน่อยนาน ๆ ทีก็พอไหว แต่ถ้าคุณรับประทานอาหารรสเค็มและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำทุกวัน นิสัยเหล่านี้อาจส่งผลระยะยาวต่อถุงใต้ตาของคุณได้ น้ำที่ถูกกักเก็บไว้เป็นเวลาหลายปีที่บริเวณใบหน้าอาจทำให้ถุงใต้ตาขยายออกเป็นการถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น คุณควรเปลี่ยนแปลงนิสัย ดังนี้:
- รับประทานเกลือให้น้อยลงหรือลดปริมาณเกลือที่ใช้ในการทำอาหารในแต่ละวัน ลดเกลือสักครึ่งหนึ่งหรือตัดทิ้งไปเลยแล้วคุณจะต้องประหลาดใจว่าอาหารยังคงอร่อยอยู่แม้ว่าจะไม่ได้ใส่เกลือเยอะ ๆ ลองลดปริมาณเกลือในอาหารจานอบและหลีกเลี่ยงไม่เติมเกลือขณะรับประทานอาหารเย็นเพราะร่างกายจะไม่มีเวลาพอที่จะสร้างสมดุลของสารต่าง ๆ ก่อนที่คุณจะเข้านอน
- ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง. การดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดการกักเก็บน้ำ ดังนั้น ยิ่งคุณดื่มแอลกอฮอล์น้อยลงเท่าไหร่ ถุงใต้ตาของคุณก็จะยิ่งบวมน้อยลงเมื่อคุณตื่นขึ้นในตอนเช้า ในคืนที่คุณดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำตามแอลกอฮอล์แต่ละแก้วในปริมาณเท่า ๆ กัน หยุดดื่มตั้งแต่ช่วงเย็นแทนที่จะดื่มแก้วสุดท้ายเอาตอนก่อนจะเข้านอน
โฆษณา
-
ฉีดฟิลเลอร์. ถุงหรือรอยดำใต้ตาซึ่งเกิดจากอายุที่มากขึ้นจะไม่สามารถเยียวยาได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวัน แต่การฉีดฟิลลเรอ์ไฮยาลูโรนิกอาจช่วยให้สภาพใต้ดวงตาดูดีขึ้นได้ การฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ดวงตาจะทำให้ริ้วรอยที่เบ้าตาดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม
- กระบวนการนี้อาจอันตรายได้หากไม่ได้ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น หาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะไปฉีดฟิลเลอร์นะ
- การฉีดฟิลเลอร์อาจมีราคาสูงถึงหลายพันบาทและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำหรือรอยบวมได้
-
ศัลยกรรม. เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ตะกอนไขมันจะเคลื่อนตัวจากลูกตาและรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณใต้ตาซึ่งทำให้เกิดถุงใต้ตานั่นเอง การผ่าตัดบริเวณเปลือกตาเป็นขั้นตอนเพื่อกำจัดหรือเปลี่ยนจุดที่ไขมันจะไปรวมตัวกันซึ่งจะตามด้วยการรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อทำให้ผิวหนังกระชับในบริเวณดังกล่าว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การผ่าตัดบริเวณเปลือกตาอาจมีราคาสูงถึงหกหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท
- อาจใช้เวลาพักฟื้นหลายสัปดาห์หลังผ่าตัด
โฆษณา
เคล็ดลับ
- แช่ช้อนสองคัน (ที่ไม่ใช่ช้อนพลาสติก) ในช่องฟรีซไว้สักสิบห้านาที นำออกมาและวางไว้เหนือตาแต่ละข้างโดยให้หลังช้อนอยู่เหนือตา หลับตาลงและทิ้งค้างไว้จนกระทั่งช้อนกลับมาอุ่นเหมือนเดิม
- นอนให้นานขึ้น. เลิกดูพวกรายการทีวียามดึกหรือเล่นเกมบนไอแพดและเพิ่มชั่วโมงนอนขึ้นอีกสักหน่อย หลังจากเลิกนอนดึกสักหนึ่งอาทิตย์ คุณจะเห็นความแตกต่างเชียวล่ะ
- พยายามไม่ดื่มน้ำเยอะก่อนที่จะเข้านอนไม่อย่างนั้นของเหลวจะถูกกักเก็บไว้ในช่วงที่คุณกำลังนอนหลับ
- แช่ถุงน้ำแข็งและวางไว้เหนือผ้าขนหนูเหนือตา.
- หายใจให้ลึกขึ้น การไม่ได้รับออกซิเจนที่มากพออาจทำให้เกิดถุงใต้ตาคล้ำ ๆ ได้
- วางช้อนแช่เย็นไว้เหนือตาแต่ละข้าง
- วางแตงกวาไว้เหนือตา
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าถุงหรือรอยคล้ำใต้ตาขนาดใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน อาจเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นจากอาการป่วย ไปพบหมอเพื่อปรึกษาอาการหากการเปลี่ยนนิสัยยังไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.com/health/bags-under-eyes/DS01151
- ↑ http://www.mayoclinic.com/health/bags-under-eyes/DS01151/DSECTION=lifestyle-and-home-remedies
- ↑ http://www.mayoclinic.com/health/bags-under-eyes/DS01151/DSECTION=lifestyle-and-home-remedies
- ↑ http://www.mayoclinic.com/health/blepharoplasty/MY00298
โฆษณา
