ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

รอยช้ำนั้นสามารถเกิดขึ้นและหายได้เอง แต่มันยังอาจจะเป็นสิ่งที่ก่อความรำคาญได้ ถ้าคุณต้องการกำจัดรอยช้ำได้เร็วขึ้น ลองอ่านบทความวิกิฮาวนี้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การรักษาที่แนะนำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การวางอะไรเย็นๆ ลงบนรอยช้ำจะช่วยลดอาการบวมและช่วยให้มันหายเร็วขึ้น ทำเช่นนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และคุณอาจจะหยุดรอยช้ำไม่ให้กระจายไปไกลได้
    • เติมน้ำแข็งใส่ถุงซิปล็อคพลาสติก หรือหาถุงผักแช่แข็งอย่างเช่น ข้าวโพดหรือถั่ว ห่อถุงด้วยผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อยืดและวางมันไว้เหนือรอยช้ำ
    • ถุงประคบเย็นแบบเจลที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับอาการบาดเจ็บต่างๆ นั้นมีวางจำหน่ายในร้านอุปกรณ์กีฬา นักกีฬามักจะเก็บไว้ใกล้มือสองสามอันเพื่อรักษาอาการฟกช้ำ
    • วางน้ำแข็งไว้บนบริเวณนั้น 15 นาทีทุกชั่วโมง การทำให้ผิวรอบๆ บริเวณที่ช้ำเย็นเกินไปอาจจะทำให้เกิดบาดแผลจากการถูกความเย็นจัดได้
  2. ลดการไหลเวียนเลือดไปยังบริเวณนั้นโดยอาศัยแรงโน้มถ่วง การยกบริเวณที่มีรอยช้ำเพื่อให้อยู่เหนือหัวใจของคุณจะช่วยป้องกันไม่ให้เลือดเกาะตัวรวมกันในบริเวณที่ช้ำและลดการเปลี่ยนสี
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดรอยช้ำที่ขาของคุณ ให้นั่งบนโซฟาและวางขาไว้บนหมอนสักสองสามใบ ถ้าขาของคุณอยู่เหนือหัวใจสักสองสามนิ้วก็จะดี
    • ถ้าแขนของคุณมีรอยช้ำ ให้ลองยกขึ้นวางไว้บนพนักวางแขนหรือหมอนสักสองสามใบ เพื่อให้อยู่ในระดับหัวใจหรือสูงกว่า
    • ถ้าคุณมีรอยช้ำที่ลำตัว คุณอาจจะโชคไม่ดี ให้ใช้วิธีวางน้ำแข็งบริเวณนั้นแทน
  3. ถ้ารอยฟกช้ำนั้นปวดเป็นพิเศษ ให้กินยาแก้ปวดที่หาซื้อได้เองตามร้านขายยาเพื่อบรรเทาอาการ อ่านขนาดยาที่แนะนำบนฉลาก
    • หลีกเลี่ยงยาแอสไพรินซึ่งเป็นยาเจือจางเลือด และอาจจะทำให้รอยช้ำของคุณแย่ลงได้
  4. การออกกำลังกล้ามเนื้อจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณนั้น และการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่ใช่ สิ่งที่คุณต้องการให้เกิดกับรอยช้ำ หยุดพักแล้วก็ใจเย็นๆ ก่อน เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปและให้โอกาสรอยช้ำของคุณนั้นได้ฟื้นตัว
    • นั่งเล่นพักผ่อนบนโซฟา ดูหนัง เล่นเกม อ่านหนังสือ หรือทำอะไรที่ไม่ต้องการการออกแรงมากนัก
    • เข้านอนแต่หัวค่ำ ร่างกายของคุณต้องการนอนหลับเพื่อซ่อมแซมตัวเอง ดังนั้นให้ไปนอนทันทีที่คุณรู้สึกง่วง
  5. รอยช้ำส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุถึงสภาพทางการแพทย์ที่ร้ายแรง และสามารถรักษาได้เองอย่างปลอดภัยที่บ้าน แต่อย่างไรก็ตาม ให้ลองโทรหาแพทย์ถ้าเกิดอาการข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้กับคุณ:
    • คุณเกิดรอยช้ำโดยไม่มีการกระทบกระแทก หกล้ม หรืออาการบาดเจ็บอื่นๆ
    • คุณมีไข้สูง หรือคุณเห็นสัญญาณของการติดเชื้อรอบๆ รอยช้ำ (อาการแดง หนอง หรือมีของเหลวอื่นๆ ออกมา)
    • ถ้าคุณรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างรุนแรงบริเวณรอยช้ำซึ่งมีขนาดใหญ่ ให้โทรหาแพทย์ทันที การที่เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงบริเวณหนึ่งไม่พออย่างรุนแรงนั้น เรียกว่า ความดันในช่องกล้ามเนื้อสูง (Compartment Syndrome) และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
    โฆษณา

วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การจัดการกับรอยช้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำแบบนี้วันละหลายๆ ครั้ง โดยให้เริ่มวันหลังจากที่เกิดรอยช้ำ ซึ่งนี่จะช่วยให้ระบบน้ำเหลืองตามปกติของร่างกายของคุณดำเนินการเพื่อกำจัดมันออกไปได้
    • จำใส่ใจไว้ว่าเมื่อกดไปแล้วไม่ควรจะเจ็บ ถ้ารอยช้ำเจ็บเกินกว่าจะสัมผัสได้ก็ให้รอไปก่อน
  2. แสงอัลตราไวโอเลตจะสลายบิลิรูบินซึ่งเป็นผลมาจากการสลายตัวของฮีโมโกลบินที่ทำให้เกิดสีเหลืองของรอยช้ำ ถ้าเป็นไปได้ให้รอยช้ำสัมผัสกับแสงแดด (ในปริมาณที่ปลอดภัย ไม่ใช่มากจนผิวไหม้) เพื่อเร่งฏิกิริยาไอโซเมอไรเซชันของบิลิรูบินที่เหลืออยู่
    • ลองรับแสงแดดโดยตรงวันละ 10 ถึง 15 นาที นี่ควรจะเพียงพอที่จะช่วยสลายรอยช้ำของคุณโดยไม่ทำให้ผิวไหม้
    โฆษณา

วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การรักษาที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่นและถูบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ น้ำส้มสายชูจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดใกล้ผิวหนังชั้นนอก จึงอาจจะช่วยสลายเลือดที่เกาะรวมตัวกันอยู่ในบริเวณที่มีรอยช้ำได้ วิชฮาเซล (Witch hazel) ก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นกัน
  2. บรอมีเลน (Bromelain) ชึ่งเป็นเอนไซม์ย่อยอาหารที่พบใน สับปะรด จะสลายโปรตีนที่กักของเหลวไว้ในเนื้อเยื่อหลังได้รับบาดเจ็บ
  3. นำใบผักชีฝรั่งหนึ่งกำมือมาบดและทาให้ทั่วรอยช้ำ พันบริเวณนั้นด้วยผ้าพันแผลยืดหยุ่น ผู้เชี่ยวชาญบางคนอ้างว่าผักชีฝรั่งช่วยลดอาการอักเสบ ลดอาการปวด และอาจจะทำให้รอยช้ำจางหายไปได้เร็วขึ้น
  4. ดอกอาร์นิกาเป็นสมุนไพรที่ได้รับการแนะนำสำหรับรอยฟกช้ำมาอย่างยาวนาน มันมีสารประกอบที่ช่วยลดอาการอักเสบและบวม หาครีมที่มีอาร์นิกาและถูเหนือรอยช้ำวันละหนึ่งหรือสองครั้ง
  5. ถ้าคุณได้เข้าร้านขายยาแบบองค์รวมหรือร้านขายยาจีนที่มีสินค้าหลายอย่าง คุณสามารถใช้ปลิงที่ยังมีชีวิตได้ มันจะกำจัดเลือดในบริเวณผิวด้านนอกของรอยช้ำภายในสองสามกี่วินาที น้ำลายของปลิงยังทำหน้าที่เป็นยาแก้ปวดอ่อนๆ อีกด้วย ดังนั้นคุณจะไม่รู้สึกว่าถูกกัด ทาแอลกอฮอล์หรือปิโตรเลียมเจลลี่เพื่อเอาปลิงออก
    • แนะนำให้ใช้เฉพาะเมื่อคุณมั่นใจได้ว่าปลิงนั้นเป็นปลิงที่เลี้ยงในฟาร์มและปราศจากโรคเท่านั้น
  6. ยกบริเวณที่บาดเจ็บวางบนเบาะหรือหมอน ใช้ถุงประคบร้อนแบบที่ใช้ซ้ำได้ พยายามอย่าใช้ผ้าห่มไฟฟ้า ความร้อนที่เปียกจะดีต่ออาการบาดเจ็บมากกว่าความร้อนที่แห้ง
    • ใช้ถุงประคบร้อนเพียงสองสามนาทีในแต่ละครั้ง และหลังจากที่พยายามใช้ถุงประคบเย็นแล้ว เท่านั้น ลองใช้วิธีแบบใช้ความร้อนถ้าน้ำแข็งทำให้เจ็บมากเกินไป หรือทำให้ผิวของคุณปวด สำหรับบางคนแล้ว นี่เป็นปัญหาจริงๆ และน้ำแข็งอาจจะทำให้ปฏิกิริยาต่อความเย็นแย่ลงได้
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • อย่าแคะหรือตีหรือเการอยช้ำ เพราะจะทำให้มันแพร่กระจายหรือมีผลเสียมากขึ้น
  • อย่านวดบริเวณที่เป็นรอยช้ำโดยตรง ให้นวด 1-2 ซ.ม. รอบๆ บริเวณที่เป็นรอยช้ำ เนื่องจากรอยช้ำจะมีแนวโน้มว่าจะใหญ่กว่าที่เห็นและการนวดบนรอยช้ำอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้รอยช้ำนั้นแย่ลงได้
  • ลองวางเปลือกกล้วยลงบนรอยช้ำประมาณ 10-15 นาที ซึ่งนี่น่าจะทำให้สีจางหายไป
  • ครีมวิตามินเคช่วยทำให้รอยช้ำเลือนหายไป
  • เจลว่านหางจระเข้จะบรรเทาความเจ็บปวด
  • ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณเกิดรอยช้ำง่ายเกินไป คุณอาจจะขาดวิตามินเคซึ่งเป็นปัจจัยร่วมในการสังเคราะห์ปัจจัยของการแข็งตัวของเลือด แต่ถ้าคุณกินยาเจือจางเลือดใดๆ ก็ตาม อย่าเพิ่มระดับวิตามินเคของคุณทันที ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • อย่าแตะมันบ่อยๆ เพราะว่าอาจจะเจ็บและปวดมากขึ้น
  • คุณควรจะคอยยกแผลให้อยู่สูงไว้ อย่าพยายามออกกำลังกายหรือออกแรงเคลื่อนไหว ถ้าไม่อย่างนั้นคุณอาจทำให้อาการบาดเจ็บแย่ลง
  • ถ้ารอยช้ำเจ็บมากเกินไปก็อย่านวด ให้ไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
  • วางน้ำแข็งลงไปแต่อย่านานเกินไป ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นรอยแดง
  • ถ้ารอยช้ำเริ่มบวมหรือมีอาการปวดอย่างรุนแรง ให้รีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • ถ้ารอยช้ำของคุณมีขนาดใหญ่ให้ทาว่านหางจระเข้ปริมาณมาก ถ้ามีขนาดเล็กให้ทาเล็กน้อยก็พอ ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้สีของรอยช้ำดูแย่ลง
  • หลังเกิดการกระแทก ให้ยกบริเวณที่เป็นรอยช้ำขึ้นสูงต่อไปอีกสองสามชั่วโมง
  • พยายามไม่ใช้แขนขาที่มีรอยช้ำ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะทำให้เกิดผลเสียหรืออาการระคายเคืองมากขึ้น
  • อย่าปิดพลาสเตอร์ถ้าเป็นรอยช้ำของทารก
  • ทิ้งไว้และปล่อยให้หายเอง ถ้ามันเจ็บและคุณไม่ต้องการให้มันสัมผัสโดนอะไร ให้แปะพลาสเตอร์บนรอยช้ำ
โฆษณา

คำเตือน

  • เมื่อเกิดรอยฟกช้ำขึ้นทันทีโดยไม่มีสาเหตุ คุณควรจะขอคำแนะนำทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ
  • ปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มยาใหม่ๆ หรือหยุดยาที่ใช้อยู่
  • ให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้แพ้อะไรก่อนที่จะลองใช้วิธีใดๆ ก็ตามที่กล่าวมา
  • อย่าใช้อาร์นิกากับแผลตัดหรือแผลเปิด
  • ถ้ารอยช้ำกระจายไปทั่วและเริ่มเจ็บมากขึ้น ให้ไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรงมากขึ้น
  • การรักษาที่บ้านเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยช้ำที่ไม่ได้รับการทดสอบทางการแพทย์ อย่างเช่น การรักษาที่บ้านใดๆ ก็ตาม อาจจะมีความเสี่ยงที่เราไม่รู้ก็ได้ [1]


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,285 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา