ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เราอาจรู้สึกว่าตนเองพร้อมเลี้ยงสุนัขแล้ว แต่การโน้มน้าวให้พ่อแม่เห็นด้วยกับเรานั้นเป็นเรื่องยาก ในการโน้มน้าวพ่อแม่จนยอมให้เราเลี้ยงสุนัขนั้น เราอาจต้องเริ่มด้วยการชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการเลี้ยงสุนัข เช่น เราจะได้มีเพื่อนเดินเล่นและช่วยกล่อมเกลาให้เรามีจิตใจที่อ่อนโยน จากนั้นแสดงให้พวกท่านเห็นว่าเรามีความเป็นผู้ใหญ่และความรับผิดชอบด้วยการอาสาทำงานบ้านเพิ่มเติม การคำนึงถึงสิ่งที่จำเป็นในการเลี้ยงสุนัขจะแสดงให้พ่อแม่เห็นว่าเราพร้อมที่จะเลี้ยงสุนัขแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เสนอความคิดเรื่องการเลี้ยงสุนัข

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บอกว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงสำหรับ “ครอบครัว”. บอกพ่อกับแม่ว่าการมีสุนัขไว้ในบ้านจะทำให้เราอยู่บ้านมากขึ้นเพื่อที่จะได้ดูแลมัน บอกพวกท่านว่าการมีสุนัขจะทำให้ทั้งครอบครัวมีเพื่อนเล่นสนุก ได้พาสุนัขไปเดินเล่นพร้อมกัน หรือเวลาออกไปเที่ยวบริเวณที่โล่งกว้าง อาจเล่นขว้างจานร่อนให้เจ้าตูบรับก็ได้ [1]
    • บอกพ่อแม่ว่าจะดีสักแค่ไหนที่มีสุนัขอยู่ข้างกายเมื่อรับประทานพร้อมหน้าพร้อมตา หรือมีสุนัขนั่งอยู่ปลายเท้าตอนนั่งดูหนังด้วยกันภายในครอบครัว
  2. บอกว่าการเลี้ยงสุนัขจะทำให้เราได้ออกข้างนอกบ้านมากขึ้น. ถ้าพ่อกับแม่เป็นห่วงที่เราเอาแต่อยู่ในห้องมืดๆ คนเดียวตลอดเวลา จ้องหน้าคอมพิวเตอร์ หรือเล่นวีดีโอเกม และพวกท่านมักจะบอกให้เราออกไปข้างนอกเพื่อรับแสงแดด ถ้าเป็นเช่นนั้น บอกพวกท่านว่าการเลี้ยงสุนัขจะทำให้เราได้ออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะมากขึ้น ได้ออกกกำลังกายแทนที่จะเอาแต่นั่งแชทกับเพื่อนหรือคอยแต่กินจุบกินจิบอยู่เรื่อย [2]
    • บอกพวกท่านว่าการเลี้ยงสุนัขจะช่วยให้เรามีโอกาสจดจ่อกับหน้าจอน้อยลงและได้ออกไปพบเจอเพื่อนหรือคนวัยเดียวกันเมื่อผ่านสุนัขออกไปเดินเล่น
  3. แสดงให้เห็นว่าการเลี้ยงสุนัขนั้นสามารถทำให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นได้. การเลี้ยงสุนัขนั้นเป็นการบำบัดโรค คนที่เลี้ยงสุนัขจะมีอายุยืนและมีความสุขกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยง สุนัขจะรู้เมื่อเราทุกข์ใจและสามารถช่วยให้เราผ่อนคลายยามที่เครียดได้ สุนัขเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณ จึงรู้ว่าจะทำให้เจ้าของร่าเริงขึ้นได้อย่างไร ถ้าพ่อแม่ของเรางานยุ่งมาก ก็สามารถบอกได้ว่าการเลี้ยงสุนัขจะไม่เพียงช่วยให้ทุกคนสบายใจขึ้นเท่านั้น ยังทำให้เรามีเพื่อนยามที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้านด้วย [3]
  4. บอกพ่อแม่ว่าการเลี้ยงสุนัขช่วยให้บ้านของเราปลอดภัยขึ้น. สุนัขจะปกป้องฝูงของตนและจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกคนในบ้านซึ่งถือว่าเป็นครอบครัวของมันปลอดภัย เราจะรู้สึกปลอดภัยขึ้นเมื่อมีสุนัขอยู่ในบ้าน ถ้าได้รับการฝึกที่ดี สุนัขก็จะเรียนรู้ว่าใครมาดีและใครมาร้าย [4]
    • บ้านที่เลี้ยงสุนัขไว้จะมีโอกาสถูกโจรเข้ามาลักขโมยของน้อยลง แสดงให้พ่อแม่เห็นว่าสุนัขที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีไม่ใช่เพียงเพื่อนร่วมทางที่ดีเท่านั้นแต่ยังเป็นผู้อารักขาเราได้อีกด้วย ถ้าเราโตพอที่จะเดินทางท่องเที่ยวโดยลำพัง เราก็จะรู้สึกอุ่นใจขึ้นที่มีสุนัขร่วมเดินทางไปกับเราด้วย
  5. อธิบายว่าการเลี้ยงสุนัขจะทำให้เราเป็นคนมีความรับผิดชอบ. ถึงแม้เราควรจะแสดงให้พ่อแม่เห็นว่าตนเองมีความรับผิดชอบพอที่จะเลี้ยงสุนัขได้ แต่เราก็สามารถบอกเหตุผลให้พวกท่านฟังว่าการเลี้ยงสุนัขนั้นจะทำให้เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและละเอียดรอบคอบขึ้นได้อย่างไรด้วย เหตุผลมีดังต่อไปนี้
    • การเลี้ยงสุนัขจะทำให้เราเป็นคนมีระเบียบวินัย เพราะเราจะต้องให้อาหาร พาไปเดินเล่น และเล่นกับสุนัขตามเวลาที่กำหนดไว้ในตารางชีวิตประจำวัน
    • การเลี้ยงสุนัขทำให้เราต้องเข้านอนเร็วและตื่นเช้าเพื่อที่จะสามารถพาสุนัขไปเดินเล่นได้ จึงไม่สามารถเล่นอินเตอร์เน็ตหรือดูทีวีจนถึงตีสามได้
    • การเลี้ยงสุนัขจะสอนให้เรามีความรับผิดชอบเพราะเราต้องเป็นคนดูแลมัน
  6. ลองค้นคว้าดูสักนิดเพื่อจะได้รู้ว่าเราต้องการสุนัขพันธุ์ใดและเพราะอะไร ไม่ว่าเราต้องการสุนัขพันธุ์เล็กอย่างมิเนเจอร์ชเนาเซอร์ (miniature schnauzer) หรือสุนัขพันธุ์ใหญ่อย่างแลบราดอร์ (Labrador) อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงต้องการสุนัขสายพันธุ์นี้ เมื่อต้องพูดถึงสายพันธุ์สุนัขที่เราต้องการ เราอาจต้องเตรียมตัวพูดเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
    • บอกว่าเราเหมาะที่จะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไหนมากที่สุดและสุนัขพันธุ์นั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ขึ้นชื่อว่าฝึกง่าย จงรักภักดีมาก หรือแค่น่ารักเหลือเกินเท่านั้นไหม
    • อธิบายว่ามีแผนที่จะฝึกสุนัขสายพันธุ์นี้อย่างไร แสดงให้พ่อแม่เห็นว่าเรานั้นรู้วิธีฝึกสุนัขที่บ้านและสอนคำสั่งพื้นฐานเช่น “นั่ง” และ “คอย”
    • เอารูปสุนัขสายพันธุ์ที่ต้องการเลี้ยงให้พ่อแม่ดู การให้พ่อแม่ดูภาพสุนัขตัวนั้นอาจช่วยให้พ่อแม่เกิดความรักและเอ็นดูสุนัขมากขึ้น ใครเล่าจะไม่ชอบสุนัขหน้าตาน่ารักกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

แสดงให้เห็นว่าเรามีความรับผิดชอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความคิดอยากเลี้ยงสุนัขนั้นเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ดูภาพยนตร์เกี่ยวกับสุนัข แต่การเลี้ยงสุนัขจริงๆ นั้นต้องการอะไรมากกว่านั้นเยอะ ถึงแม้เราจะอยากเลี้ยงสุนัข แต่มีเวลา มีเงิน และความพยายามที่จะดูแลสุนัขหรือ เราจะยอมสละเวลาพบปะผู้อื่นเพื่อมาเล่นกับสุนัขหรือเปล่า
  2. ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุนัขนั้นมาก เพราะมีค่าอาหาร ค่าเสริมสวย ค่ารักษาพยาบาล และค่าของเล่น ลองคิดสิว่าเราจะสามารถช่วยค่าใช้จ่ายภายในบ้านพวกนี้อย่างไร จากนั้นอาสาออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด หรือเพียงบางส่วน เราจะต้องทำตามสัญญา ฉะนั้นเราต้องแน่ใจว่าตนเองมีเงินที่พอที่จะเลี้ยงสุนัขจริงๆ [5]
    • เราอาจหางานพิเศษทำละแวกบ้านก็ได้ ส่งหนังสือพิมพ์ หรือใช้เงินเก็บที่ได้ในโอกาสพิเศษต่างๆ ซื้อสุนัข
  3. ถ้าอยากให้พ่อแม่เห็นว่าเรามีความรับผิดชอบมากพอที่จะเลี้ยงสุนัขได้ เราก็ต้องสามารถทำงานง่ายๆ เช่น เก็บเตียงให้เรียบร้อย หมั่นทำความสะอาดห้องนอน ล้างจาน และทำงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องบอก ขอร้อง หรือสั่งได้ จากนั้นอาจลองช่วยเหลืองานอื่นๆ เพิ่มเติมเช่น เป็นลูกมือช่วยทำอาหารเย็น ถางหญ้า ซักรีดผ้า และอาจแม้แต่ช่วยชงกาแฟให้พ่อแม่ดื่มเมื่อพวกท่านต้องการ หรือช่วยงานอะไรก็ตามที่นอกเหนือจากการทำหน้าที่ตามปกติ . [6]
  4. ถ้าอยากให้พ่อแม่เห็นว่าเราสามารถรับผิดชอบดูแลสุนัขได้ เราก็ควรพยายามรักษาผลการเรียนให้ดีด้วย ขณะที่พยายามโน้มน้าวพ่อแม่ขอเลี้ยงสุนัขอยู่เรื่อยๆ พยายามเรียนให้ดีขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามุ่งมั่นและตั้งใจเลี้ยงสุนัขจริงๆ [7]
    • ถ้าเราตัดสินใจที่จะสัญญาปากเปล่ากับพ่อแม่ เราต้องพูดให้ชัดเจน เราอาจพูดว่า “หนูจะรักษาเกรดเอวิชาคณิตศาสตร์” หรือ “หนูจะทำคะแนนวิชาวิทยาศาสตร์ให้ได้เอ”
  5. ให้พ่อแม่มอบหมายบางสิ่งบางอย่างให้เราดูแลชั่วระยะเวลาหนึ่ง อาจเป็นไข่สักใบ (ดูแลอย่าให้แตก) แป้งหนึ่งถุง ต้นไม้ หรือแม้แต่หนูแฮมสเตอร์สักตัว การดูแลสิ่งต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดีจะช่วยแสดงให้เห็นว่าเรานั้นมีความรับผิดชอบและอยากเลี้ยงสุนัขจริงๆ ถึงการทำแบบนี้อาจดูเหมือนงี่เง่า เราก็ต้องทำด้วยความตั้งใจจริง
  6. ถ้าเรามีเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวที่ต้องการให้มีใครสักคนช่วยดูแลสุนัขสักระยะหนึ่ง ให้เรารับอาสาดูแลแทนเขา การดูแลสุนัขเป็นอย่างดีสองสามวันจะทำให้พ่อแม่เห็นว่าเราพร้อมที่จะมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตนเอง และจะทำให้พวกท่านเห็นว่าเรานั้นมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเจ้าตูบขนปุย
  7. พึงระลึกไว้ว่าอย่าตื้อขอพวกท่านซ้ำๆ ทุกวัน ไม่อย่างนั้นพวกท่านจะไม่รับฟังเราอีก ถ้าพ่อแม่ปฏิเสธไม่ยอมให้เลี้ยงสุนัข อย่าแสดงท่าทีไม่พอใจและพยายามทำความเข้าใจพวกท่าน คอยช่วยเหลืองานบ้านและอาจกล่าวถึงเรื่องการเลี้ยงสุนัขได้เป็นบางครั้งบางคราวเผื่อพ่อแม่จะได้กลับมาทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง การทำตัวดีอย่างสม่ำเสมอและการรู้จักอดทนจะทำให้พ่อแม่เห็นว่าเราสมควรได้ในสิ่งที่เราต้องการ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำให้พ่อแม่วางใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พวกท่านอาจกังวลว่าพอเราได้สุนัขแล้ว หลังจากเบื่อมัน ก็จะส่งผลให้พวกท่านจำต้องพาสุนัขไปเดินเล่นแทน บอกพ่อแม่ว่าเราได้กำหนดเวลาอันเหมาะสมที่จะเดินเล่นเรียบร้อยแล้วและจะพาสุนัขไปเดินเล่นทุกวัน ถ้าเรามีพี่หรือน้อง เราก็จะต้องแบ่งหน้าที่กันพาสุนัขไปเดินเล่น สุดท้ายนี้เราจะต้องพาสุนัขไปเดินเล่นตามเวลาที่กำหนดไว้จริงๆ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเราพูดจริงทำจริง [8]
  2. พ่อแม่อาจกลัวว่าถ้าเลี้ยงสุนัขแล้ว มันจะกัดแทะข้าวของและสายไฟ ทำบ้านสกปรกและทำขนร่วงไปทั่ว เราต้องรับรองกับพวกท่านว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น เมื่อเราพูดคุยกับพ่อแม่เรื่องนี้ สิ่งที่เราต้องพูดคือ
    • บอกพ่อแม่ว่าเราจะซื้อของเล่นมามากๆ ไว้ให้สุนัขกัดเล่นเพื่อป้องกันไม่ให้มันกัดข้าวของภายในบ้าน ถ้ามีสายไฟระเกะระกะ เราจะนำเทปมาพันหรือหุ้มสายไฟไว้ บ้านจะได้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นด้วย
    • อธิบายวิธีป้องกันสุนัขไม่ให้ทิ้งรอยเท้าสกปรกไว้ในบ้าน อาจอธิบายไปว่าเราจะล้างอุ้งเท้าของมันก่อนที่จะให้สุนัขเข้ามาในบ้าน
    • อธิบายว่าจะป้องกันไม่ให้มีขนสุนัขภายในบ้านได้อย่างไร สุนัขย่อมต้องผลัดขน เพราะฉะนั้นจึงต้องแก้ปัญหาด้วยการกำหนดตารางทำความสะอาดบ้านเพื่อขจัดเศษขนของสุนัข
    • ให้พวกท่านรู้ว่าเรามีแผนจะอาบน้ำให้สุนัขทุกสัปดาห์หรืออาบน้ำตามกำหนดเวลาที่เหมาะสมสำหรับสายพันธุ์นั้น
  3. สุนัขของเราจะต้องได้กินอาหารอย่างน้อยที่สุดวันละครั้ง แต่โดยปกติจะวันละสองครั้ง ลองศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมสิว่าเราควรให้อาหารแบบเปียก แบบแห้ง หรือแบบผสมแก่สุนัข หาซื้ออาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและเหมาะกับงบประมาณของเรา จากนั้นร่างตารางเพื่อให้เห็นว่าควรให้อาหารสุนัขเมื่อไรและควรให้มากเท่าไร เราอาจคำนวณค่าอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ [9]
  4. ถ้าวางแผนจะเลี้ยงสุนัขที่โตแล้ว มันอาจได้รับการฝึกมาเรียบร้อยแล้ว แต่เราจะต้องฝึกลูกสุนัขหรือสุนัขที่อายุยังน้อยให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง รับรองกับพ่อแม่ว่าเราจะไม่เพียงแค่จัดการเก็บมูลของสุนัขเท่านั้น เราจะทำความสะอาดและวางแผ่นรองซับฉี่ของมันตามจุดที่กำหนดไว้ด้วย [10]
  5. เราต้องทำให้พ่อแม่วางใจว่าเราสามารถนำสุนัขไปเข้ารับการรักษาได้เมื่อมันเจ็บป่วย ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมดูสิว่าแถวบ้านเรานั้นมีโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์ดีๆ ที่ไหนบ้าง อาจขอให้เพื่อนที่เลี้ยงสุนัขแนะนำโรงพยาบาลหรือคลินิกดีๆ ให้ หรือจะลองค้นหาเองก็ได้ พยายามหาโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ใกล้บ้าน เราจะได้เดินทางไปที่นั่นได้สะดวก การทำแบบนี้เป็นการแสดงให้พ่อแม่เห็นว่าเราได้ทำการศึกษาค้นคว้ามาเป็นอย่างดีและพร้อมที่จะดูแลสุนัขแล้ว [11]
  6. มีแผนการดูแลสุนัขในช่วงไปเที่ยวและช่วงออกไปข้างนอกนานๆ. แสดงให้พ่อแม่เห็นว่าเราเตรียมแผนการที่จะดูแลสุนัขในช่วงที่ออกไปเที่ยวกับครอบครัวไว้แล้ว คุณแม่อาจถามเราว่า “เราจะทำยังไง ถ้าเราอยากไปเที่ยวทะเลกันสักสัปดาห์หนึ่ง” อย่าวิตกกังวลไปและลองหาวิธีแก้ปัญหาดู เราอาจหาศูนย์บริการรับฝากสุนัขใกล้บ้านและให้ศูนย์ดูแลตอนที่เราไม่อยู่ หรือขอให้เพื่อนหรือเพื่อนบ้านที่ชอบสุนัขดูแลมันให้ [12]
  7. เราต้องทำให้เห็นพ่อแม่เห็นว่าเมื่อได้สุนัขมา เราจะไม่มีทางเบื่อมัน พ่อแม่อาจกลัวว่าพอเราได้สุนัขแล้ว เราจะหยุดดูแลเอาใจใส่มันหลังจากผ่านไปสองสามสัปดาห์ บอกพ่อแม่ว่าเรายินดีที่จะรอไปอีกสองสามเดือน ถ้าพ่อแม่ยังไม่สะดวกให้เลี้ยงสุนัขตอนนี้และหมั่นพูดถึงเรื่องการเลี้ยงสุนัขอยู่เสมอเพื่อให้พ่อแม่เห็นว่าเราไม่ได้พูดตามอารมณ์ แต่เราอยากเลี้ยงสุนัขจริงๆ และยินดีที่จะรอคอยจนกว่าพ่อแม่เห็นว่าเราพร้อมที่จะเลี้ยงสุนัขสักตัวแล้ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ลองมองหาสุนัขจรจัดหรือไม่มีเจ้าของมาเลี้ยงก็ได้ เราจะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อลูกสุนัขจากผู้เพาะพันธุ์สุนัขหรือร้านสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยสุนัขพวกนี้ให้มีบ้านอยู่ด้วย
  • นอกจากค้นหาข้อมูลการเลี้ยงสุนัขแล้ว อย่าลืมหาข้อมูลการฝึกสุนัขด้วย พ่อแม่จะได้เห็นว่าเรานั้นไม่เพียงแค่ต้องการเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อนเล่นเท่านั้นแต่ต้องการฝึกมันให้เป็นสุนัขที่ดีด้วย
  • ขณะที่กำลังรอให้พ่อแม่อนุมัติคำขอ ลองดูสิว่ามีศูนย์พักพิงสัตว์ใกล้บ้านบ้างไหมและลองไปเป็นอาสาสมัครดูแลพวกสุนัขจรจัดดู หรือถ้ามีเพื่อนบ้านต้องการให้มีใครมาดูแลสุนัขตอนที่เขาไม่อยู่ ลองรับอาสาดูแลสุนัขของเขาไปก่อนก็ได้
  • ลองค้นหาสุนัขที่ต้องการตามศูนย์พักพิงสัตว์และยอมรับการตัดสินใจของพ่อแม่ ถ้าพวกท่านต้องการสุนัขสายพันธุ์ที่ต่างออกไปจากที่คุยกันไว้หรือสุนัขจากศูนย์พักพิงอื่น
  • ไปเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อพิสูจน์ว่าเราต้องการเลี้ยงสุนัขและดูแลเอาใจใส่มันจริงๆ ไปช่วยงานที่ศูนย์พักพิงสัตว์อย่างสม่ำเสมอ (เช่น สัปดาห์ละครั้ง) เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราพูดจริง
โฆษณา

คำเตือน

  • ต้องแน่ใจว่าเราต้องการที่จะดูแลและรับผิดชอบชีวิตของสุนัขจริงๆ
  • ถ้าพ่อแม่ของเราคนใดคนหนึ่งเราแพ้สุนัขหรือสะเก็ดผิวหนังของสุนัข เราก็ต้องนำเรื่องนี้มาใคร่ครวญด้วยเพื่อจะได้ซื้อสุนัขที่เหมาะสมกับครอบครัวของเรา เลือกสุนัขที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และอาจต้องยอมเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อสายพันธุ์แท้ [13]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,437 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา