ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คนที่มีอัตราการเต้นของหัวใจสูงกว่า 100 ครั้งต่อนาที ในขณะที่ผ่อนคลายอยู่ จะมีความเสี่ยงสูงถึง 78 เปอร์เซ็นต์ต่อการเป็นโรคหัวใจ หากหัวใจของคุณเต้นเร็วเกินไปเมื่อกำลังพักผ่อน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์หรือมีความเครียดสูง นอกจากนี้ หากคุณมีอาการหัวใจเต้นเร็วมากๆ คุณจำเป็นต้องพยายามควบคุมให้อัตราการเต้นช้าลง

ข้อควรระวังอย่างยิ่ง: อาการนี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia) ซึ่งสามารถเป็นภาวะหนึ่งของอาการหัวใจวายที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์แบบฉุกเฉินโดยทันที

ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจที่ “สูง” อย่างเรื้อรังหรืออัตราการเต้นของหัวใจที่ “สูงมาก” ที่ (หวังว่า) เกิดขึ้นนานๆ ครั้งให้ลดลงแบบชั่วคราว

จากนั้น ให้รักษาให้ดีขึ้นอย่างถาวรโดยการดูแลร่างกายให้สมบูรณ์

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นเร็วมากให้ช้าลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    แม้การหายใจแบบนี้อาจดูเหมือนยาก แต่การลดความเร็วในการหายใจของคุณให้ช้าลงนั้นจะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลงได้ หายใจเข้า 5-8 วินาที กลั้นลมหายใจไว้ประมาณ 3-5 วินาที จากนั้น ค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออกช้าๆ ประมาณ 5-8 วินาที โดยพยายามปล่อยลมหายใจออกให้สุดเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ [1]
  2. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    ทำ Valsalva Maneuver หรือการหายใจโดยการปิดปากและจมูกแล้วพยายามเบ่งลมหายใจออก. วิธีนี้จะกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส (Vagal Nerve) ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ ในการหายใจแบบ Valsalva Maneuver หลังจากหายใจเข้าลึกๆ แล้ว ให้เกร็งกล้ามเนื้อที่ช่องท้องในลักษณะเดียวกันกับการเบ่งอุจจาระ โดยเกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 5 วินาที แล้วคลายออก คุณอาจต้องทำอย่างนี้หลายๆ ครั้งเพื่อให้เกิดผลที่ต้องการ
  3. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    หลอดเลือดแดง Carotid เป็นเส้นเลือดที่อยู่ข้างคอถัดจากเส้นประสาทเวกัส ให้ใช้ปลายนิ้วนวดที่เส้นเลือดแดงนี้เพื่อช่วยกระตุ้นเส้นประสาทค้างเคียงให้ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจของคุณให้ช้าลง
  4. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    ราดน้ำเย็นลงบนใบหน้าของคุณเพื่อกระตุ้นกลไก Dive Reflex ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมกระบวนการเผาผลาญพลังงานของคุณให้ช้าลง ให้ราดน้ำเย็นบนใบหน้าของคุณไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสังเกตได้ว่าหัวใจเต้นช้าลง [2]
  5. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    หากคุณมีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วผิดปกติอยู่บ่อยๆ มาระยะหนึ่งแล้ว คุณสามารถขอรับยาที่ช่วยในการลดอัตราการเต้นของหัวใจจากแพทย์ได้ ให้นัดพบแพทย์ของคุณเพื่อตัดสินใจว่าควรใช้ยาตัวไหนจึงจะเหมาะสม [3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

รักษาอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติอย่างถาวร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    ปรึกษาแพทย์ว่าคุณควรออกกำลังกายอย่างหนักได้ขนาดไหนถึงจะพอดี. ไม่ควรเริ่มก้าวแรกด้วยการออกกำลังกายอย่างหักโหม แต่ให้ค่อยๆ ออกกำลังกายโดยเพิ่มความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ การออกกำลังกายแบบเผาผลาญพลังงานอย่างรวดเร็วในระยะสั้นๆ เช่น การวิ่งเร็วในระยะสั้นสลับเป็นช่วงกับการพักเพื่อไม่ให้เหนื่อยจนหมดแรง หรือที่เรียกว่า Interval Training จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของหัวใจได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิคตามปกติที่ทำอย่างต่อเนื่องถึงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
    • ค่อยๆ เพิ่มความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะออกกำลังกายในช่วงสุดท้ายด้วยอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงสุดแต่ยังปลอดภัย จากนั้น คุณก็สามารถคูลดาวน์ได้ ให้ปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายเป็นระยะๆ เช่น เดิน, เครื่องออกกำลังกาย, พื้นที่ลาดเอียง, บันได, ยกน้ำหนัก, เต้น, ว่ายน้ำ, วิ่งบนถนน, เดินเขา เป็นต้น เพื่อให้หัวใจของคุณสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยอัตราการเต้นที่ลดลง
    • สำหรับนักวิ่ง : หากคุณวิ่งบนลู่วิ่ง ให้ใช้การตั้งค่าแบบ Interval แต่ถ้าหากคุณวิ่งแบบกลางแจ้งหรือวิ่งบนลู่ในร่ม ให้อบอุ่นร่างกายก่อน 5 นาที จากนั้น ให้วิ่งเร็ว 1 นาที และวิ่งเหยาะช้าๆ 1 นาที ให้ทำซ้ำเป็นรอบๆ ประมาณ 6 หรือ 8 ครั้ง ก่อนที่จะคูลดาวน์ 5 นาที
    • สำหรับนักว่ายน้ำ : ว่ายท่าฟรีสไตล์ระยะ 50 เมตร 10 ครั้ง โดยที่พักระหว่างรอบการว่ายแบบคู่ประมาณ 15 วินาที ในขณะที่คุณว่ายน้ำ ให้ว่ายแบบแอโรบิคโดยการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้เร็วขึ้นแต่ไม่เร็วเกินไป อย่าว่ายอย่างหักโหมจนหายใจไม่ทัน [4]
    • สำหรับนักปั่น : อบอุ่นร่างกาย 90 วินาที จากนั้น ปั่นแบบเผาผลาญพลังงานอย่างรวดเร็วประมาณ 30 วินาที และลดความเร็วลงมาอยู่ที่อัตราเร็วแบบคาร์ดิโอประมาณ 90 วินาที ก่อนที่จะทำการปั่นแบบเผาผลาญพลังงานอีก 30 วินาที โดยช่วงการปั่นแบบเผาผลาญพลังงานอย่างรวดเร็วแต่ละรอบควรมีความหนักหน่วงมากกว่ารอบก่อนหน้า [5]
  2. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    ใส่ที่อุดหูหากคุณจำเป็นต้องลดระดับเสียงรบกวนในห้องนอน ปัญหาการนอนไม่หลับเนื่องจากเสียงรบกวนสามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจคุณได้สูงถึง 13 ครั้งต่อนาที
  3. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    คนที่กลั้นปัสสาวะไว้จนกระเพาะปัสสาวะเต็มนั้นจะมีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นถึง 9 ครั้งต่อนาที กระเพาะปัสสาวะที่เต็มมากๆ จะเพิ่มการทำงานของระบบประสาทซิมพาเทติก ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดหดตัวลงและบังคับให้หัวใจของคุณเต้นเร็วขึ้น
  4. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    ถ้าต้องการให้ดียิ่งขึ้น ให้กินน้ำมันปลาหมึกซึ่งมี DHA อันเป็นโอเมก้า-3 ชนิดที่สำคัญที่สุดในปริมาณมากกว่า ดร.ออส แนะนำให้รับประทาน “น้ำมันปลาหรือแหล่งโอเมก้า-3 อื่นๆ ที่มี DHA อย่างน้อย 600 มก. เป็นประจำทุกวัน” [6] แคปซูลน้ำมันปลาที่กินวันละหนึ่งเม็ดเป็นประจำอาจช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจของคุณให้ช้าลงได้ถึง 6 ครั้งต่อนาที ภายใน 2 สัปดาห์เท่านั้นเอง นักวิจัยเชื่อว่าน้ำมันปลาจะช่วยให้หัวใจประสานการทำงานได้ดียิ่งขึ้นกับเส้นประสาทเวกัส ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ [7]
  5. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    รับประทานอาหารที่ดีต่อหัวใจและช่วยร่างกายของคุณควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ พยายามกินแซลมอน ซาร์ดีนหรือปลาทู ธัญพืช ผักใบเขียน ถั่ว และอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงอย่างกล้วยและอะโวคาโดให้มากขึ้น [8]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นเร็วอย่างเรื้อรังให้ช้าลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    นอนลงบนพื้นที่นุ่มสบาย เช่น เตียงนอนหรือโซฟาของคุณ เป็นต้น หากไม่มีพื้นที่สามารถนอนได้อย่างสะดวกสบาย ให้ลองนั่งในท่าที่ผ่อนคลายแทน
    • ควรทำให้แน่ใจว่าห้องนั้นเงียบสงบและสบาย หากมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วมีทิวทัศน์ที่วุ่นวาย ก็ให้ปิดผ้าม่านหรือมู่ลี่
    • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พักผ่อนในท่านี้และปล่อยให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลงตามจังหวะของมันเอง
  2. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    ทำจิตใจและร่างกายให้สงบโดยใช้การสร้างมโนภาพในการชักจูงและจินตนาการถึงสถานที่ที่ทำให้คุณมีความสุข ตัวอย่างเช่น คุณสามารถนึกถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ทิวทัศน์ในธรรมชาติ หรือความคิดฝันที่คุณรู้สึกผ่อนคลาย
    • หาภาพพิมพ์หรือรูปถ่ายของสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย คุณสามารถนั่งลงบนเตียงในท่าทำสมาธิและจ้องมองที่ภาพดังกล่าวเพื่อพยายามสงบจิตใจและร่างกาย
    • เขียนเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ที่คุณอยากไปหรือสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกสงบสุขลงในสมุดบันทึก จากนั้น ปิดสมุดและนึกภาพสถานที่ดังกล่าวในใจ แล้วปล่อยให้ความสงบเข้าถึงจิตใจของคุณ
  3. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    เพ่งจิตไปยังจังหวะการเต้นของหัวใจ พยายามใช้พลังในการตั้งสมาธิของคุณควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
  4. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    ลองทำตามเคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อใช้ลมหายใจในการกำหนดอัตราการเต้นของหัวใจให้สงบลง:
    • การหายใจโดยใช้ช่องท้อง : ในขณะที่คุณกำลังนั่ง ให้แนบมือบนท้องของคุณต่ำจากชายโครงลงมาเล็กน้อย หายใจเข้าผ่านทางจมูกโดยให้ท้องดันมือออกในขณะที่หน้าอกไม่เคลื่อนไหว จากนั้น หายใจออกผ่านทางปากโดยที่ห่อริมฝีปากไว้ราวกับกำลังผิวปากและใช้มือดันลมออกจากช่องท้อง ทำซ้ำตามความจำเป็น [9]
    • การหายใจแบบสลับรูจมูก : เริ่มหายใจเข้าผ่านทางรูจมูกซ้ายโดยใช้นิ้วหัวแม่มือปิดรูจมูกขวาแล้วนับถึง 4 ปิดรูจมูกทั้งสองข้างและกลั้นลมหายใจโดยนับถึง 16 หายใจออกทางรูจมูกขวาโดยนับถึง 8 จากนั้น หายใจเข้าทางรูจมูกขวาโดยนับถึง 4 แล้วกลั้นลมหายใจอีกครั้งโดยนับถึง 16 และหายใจออกทางรูจมูกซ้ายโดยนับถึง 8 ผู้ฝึกโยคะเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะทำให้สมองทั้งสองซีกของคุณมีความสมดุล และทำให้จิตใจและร่างกายของคุณรู้สึกสงบ [10]
  5. Watermark wikiHow to ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลง
    การไปนวดตัวหรือนวดกดจุดเป็นประจำอาจช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลงได้ถึง 8 ครั้งต่อนาที คุณอาจจ่ายเงินเพื่อรับการนวดจากผู้เชี่ยวชาญ หรือให้คนรักมานวดให้ก็ได้เช่นกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือไฟฟ้าในการวัดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหรือไบโอฟีดแบ็ค (Biofeedback) เพื่อวัดความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ [11] ในระหว่างช่วงการทดสอบไบโอฟีดแบ็ค คุณจะมีเซ็นเซอร์ไฟฟ้าติดอยู่บนร่างกายเพื่อสังเกตอัตราการเต้นของหัวใจ จากนั้น คุณจะต้องใช้จิตใจควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลงเพื่อเพิ่มสมรรถภาพปอด ลดความดันโลหิต และลดความเครียดลง
  • ควรแน่ใจว่าคุณหายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปาก
โฆษณา

คำเตือน

  • ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ได้แก่:
    • อายุที่มากขึ้น การเสื่อมถอยของหัวใจอันเนื่องมาจากอายุขัยอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
    • ครอบครัว หากครอบครัวของคุณมีประวัติเกี่ยวกับความผิดปกติในการเต้นของหัวใจ คุณอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ สภาวะใดๆ ก็ตามที่หักโหมหรือเป็นอันตรายต่อหัวใจสามารถเพิ่มความเสี่ยงของคุณได้ การรักษาทางการแพทย์อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้จากปัจจัยต่อไปนี้: [12]
    • โรคหัวใจ
    • ความดันโลหิตสูง
    • การสูบบุหรี่
    • การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก
    • การบริโภคคาเฟอีนอย่างหนัก
    • การใช้ยาเพื่อการผ่อนคลาย
    • ความเครียดทางจิตหรือความวิตกกังวล
  • หากอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักผ่อนของคุณนั้นเร็วมาก คุณอาจไม่ทันได้สังเกตจนกว่าจะเกิดอาการเวียนหัว หายใจติดขัด เป็นลม หรือความรู้สึกใจสั่น หรือเจ็บหน้าอก ซึ่งหมายความว่าคุณอาจมีภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ “Tachycardia”

    ข้อควรระวังอย่างยิ่ง: หากเกิดอาการนานหลายนาที คุณจำเป็นต้องโทร 191 หรือเดินทางไปยังห้องฉุกเฉิน

    มิเช่นนั้น หากมีอาการไม่นานนัก ให้นัดพบแพทย์ให้เร็วที่สุด [13]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 77,508 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา