ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถุงน้ำดีเป็นอวัยวะขนาดเล็กในระบบย่อยอาหาร ทำหน้าที่เก็บน้ำดีที่ตับผลิตขึ้น บางครั้งถุงน้ำดีอาจทำงานบกพร่องและเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ โรคที่เกิดในถุงน้ำดีมักเกิดในผู้หญิง คนที่มีน้ำหนักมาก คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและคนที่มีระดับคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง โรคที่เกิดในถุงน้ำดีอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน นิ่วในถุงน้ำดีเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคในถุงน้ำดี อย่างไรก็ตาม ยังมี 2 สาเหตุที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักได้แก่ โรคมะเร็งถุงน้ำดีและโรคถุงน้ำดีอักเสบ การตรวจสอบอาการเบื้องต้นและหาวิธีรักษาโรคในถุงน้ำดีสามารถช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและรักษาได้ง่ายยิ่งขึ้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ปัญหาในถุงน้ำดีที่พบบ่อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อน้ำย่อยในถุงน้ำดีแข็งตัวกลายเป็นตะกอน มันอาจก่อตัวเป็นก้อนนิ่วได้ ตะกอนมีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเท่าเม็ดทรายไปจนขนาดเท่าลูกกอล์ฟขนาดใหญ่
  2. หากคุณสังเกตเห็นรอยสีเหลืองตามผิวหนังหรือบริเวณตาขาวและอุจจาระมีสีขาวหรือสีซีด โรคดีซ่านมักเกิดขึ้นเมื่อนิ่วในถุงน้ำดีอุดตันท่อน้ำดี [1] ทำให้น้ำดีทะลักเข้าสู่ตับและอาจไหลเข้าสู่กระแสเลือด
  3. โรคถุงน้ำดีอักเสบอาจเกิดจากนิ่วในถุงน้ำดี เนื้องงอกหรือปัญหาอื่นๆ ในถุงน้ำดี [2] โรคถุงน้ำดีอักเสบมักมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงบริเวณด้านขวาของร่างกายหรือบริเวณกระดูกสะบัก อาการเจ็บปวดมักมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้และปวดท้อง [3]
    • การสะสมน้ำดีที่มากเกินไปในถุงน้ำดีเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคถุงน้ำดีอักเสบ
    • ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีอาการจากโรคถุงน้ำดีอักเสบแตกต่างกัน แม้ว่าอาการเจ็บส่วนใหญ่จะเกิดทางด้านขวาของร่างกายหรือบริเวณกระดูกสะบัก แต่ก็สามารถเจ็บบริเวณหลังส่วนล่าง ช่องท้องและส่วนอื่นๆ ได้
  4. รู้ว่าอาหารประเภทไหนส่งผลต่อถุงน้ำดีอย่างไร. อาหารมื้อใหญ่หรืออาหารที่มีไขมันมากอาจก่อให้เกิดโรคถุงน้ำดีอักเสบได้ [4] อาการอักเสบมักเกิดขึ้นในตอนเย็น ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังกินอาหารเสร็จ
    • โดยปกติโรคถุงน้ำดีอักเสบจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนว่ามีบางอย่างผิดปกติในถุงน้ำดี เพราะเมื่อถุงน้ำดีทำงานผิดปกติและไม่สามารถระบายน้ำดีได้เร็วเท่าที่ควร โรคถุงน้ำดีอักเสบจึงจะเกิดขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

อาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับถุงน้ำดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาการเริ่มต้นของโรคถุงน้ำดีได้แก่ แก๊สในท้อง เรอ แสบร้อนกลางหน้าอก ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องผูก อาหารไม่ย่อย สัญญาณเหล่านี้อาจถูกละเลยไม่ได้รับการรักษาเพราะเหมือนเป็นปัญหาเล็กๆ แต่การรักษาอาการเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ มีความสำคัญมาก
    • อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าร่างกายย่อยอาหารได้ไม่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในโรคที่เกี่ยวข้องกับถุงน้ำดี
    • อาจมีอาการ “เจ็บ” จุกเสียดจากแก๊สหรือปวดกล้ามเนื้อบริเวณช่วงกลางลำตัว
  2. 2
    ต้องระวังเพราะอาการที่มีลักษณะคล้ายกับโรคไข้หวัดลงกระเพาะหรืออาการอาหารเป็นพิษแบบอ่อน. โรคเหล่านี้จะมีอาการคลื่นไส้ตลอดเวลา วิงเวียนไม่สบาย อ่อนเพลียและอาเจียน [5]
  3. โรคถุงน้ำดีมักมีอาการเจ็บบริเวณช่องท้องช่วงบนและมักเจ็บไปถึงไหล่ทางขวา (แต่ก็ไม่เสมอไป) อาการเจ็บนี้อาจเกิดขึ้นตลอดเวลาหรือเป็นๆ หายๆ ขึ้นกับสาเหตุของโรคที่ถุงน้ำดี [6]
  4. สังเกตว่ามีกลิ่นตัวหรือกลิ่นลมหายใจหรือไม่. [8] ถ้าคุณมีกลิ่นตัวหรือกลิ่นลมหายใจเหม็นตลอดเวลา อาจดูเป็นเรื่องปกติ แต่หากอาการเหล่านี้เพิ่งเกิดขึ้นและไม่หายไปในเวลาสองสามวัน อาการนี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพบางอย่างเช่น ถุงน้ำดีทำงานผิดปกติ
  5. หนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่ทำให้รู้ว่ามีปัญหาถุงน้ำดีคืออุจจาระที่มีสีอ่อนซีด [9] อุจจาระมีสีอ่อนและเหลวมากเป็นผลจากการขาดน้ำดี รวมทั้งคุณอาจปัสสาวะมีสีเข้มกว่าปกติทั้งๆ ที่ดื่มน้ำในปริมาณปกติเท่าเดิม
    • บางคนอาจท้องเสียเป็นเวลานานถึง 3 เดือนหรือมากกว่านั้นและอาจถ่ายถึง 10 ครั้งต่อวัน
  6. อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นในโรคถุงน้ำดีที่มีระดับอาการที่รุนแรงขึ้น [10] แน่นอนว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรคอื่นๆ เช่นกัน แต่หากคุณมีปัญหาในช่องท้องและสัญญาณบ่งชี้อื่นๆ ที่บอกว่าคุณเป็นโรคถุงน้ำดี อาการมีไข้จะเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกว่าโรคกำลังลุกลามรุนแรงมากขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

วิธีการรักษา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พบแพทย์หากคุณมีอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคถุงน้ำดี. ถ้าคุณมีหลายอาการตรงกับอาการในข้างต้น คุณควรไปพบแพทย์ หากคุณมีอาการต่างๆ อาการกำลังทรุดลงหรือมีอาการเพิ่มมากขึ้น ต้องรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
    • ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับถุงน้ำดี เช่น นิ่วในถุงน้ำดีขนาดเล็ก อาจไม่ต้องผ่าตัด [11] อาจหายได้เองตามธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามคุณต้องไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
  2. [12] การทำอัลตร้าซาวน์เป็นวิธีตรวจการทำงานของถุงน้ำดีว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่ มีอะไรขวางการทำงานของมันหรือไม่ อีกทั้งยังช่วยดูนิ่วในถุงน้ำดี การไหลเวียนของน้ำดีและสัญญาณของเนื้องอก (ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้น) [13]
    • ติ่งเนื้อส่วนมากที่พบในถุงน้ำดีระหว่างการทำอัลตร้าซาวน์มักมีขนาดเล็กมากและไม่จำเป็นต้องเอาออก แพทย์อาจตรวจสอบติ่งเนื้อขนาดเล็กโดยการทำอัลตร้าซาวน์เพิ่มอีกเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่โตไปกว่านี้ ติ่งเนื้อที่มีขนาดใหญ่แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งถุงน้ำดี
    • การตัดติ่งเนื้อในถุงน้ำดีออกอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
  3. ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับถุงน้ำดีหลายๆ อย่างอาจแก้ไขได้ด้วยการผ่าเอานิ่วในถุงน้ำดีออกหรือผ่าเอาถุงน้ำดีออกมาเลย [14] [15] ร่างกายคนเราสามารถทำงานได้เหมือนเดินโดยไม่มีถุงน้ำดี ดังนั้นอย่าตกใจไปหากแพทย์แนะนำให้คุณตัดมันออก
    • นิ่วถุงน้ำดีแทบจะไม่สามารถรักษาได้โดยการกินยา การกินยาสลายนิ่วถุงน้ำดีอาจใช้เวลาหลายปีและนิ่วที่สลายตัวมักเป็นนิ่วขนาดเล็กมากๆ เท่านั้น ดังนั้นการกินยาจึงไม่ใช่วิธีที่ดีในการกำจัดนิ่วถุงน้ำดี
    • การตัดถุงน้ำดีออกไปอาจมีผลข้างเคียงตามมา เช่น ถ่ายเหลว แต่โดยส่วนมากก็ไม่มีปัญหาอะไร
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ลดอาหารมัน
  • ดื่มน้ำเยอะๆ และกินอาหารให้สมดุล
  • เอนไซม์ย่อยอาหารต่างๆ ช่วยลดความถี่ในการเกิดอาการต่างๆ ได้ เช่น แก๊ส อาการเจ็บปวด โดยการช่วยย่อยให้ไขมันแตกตัว ย่อยผลิตภัณฑ์จากนมวัวและอาหารมื้อใหญ่ๆ
โฆษณา

คำเตือน

  • เลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดโรคถุงน้ำดีอักเสบ เช่น เนื้อที่มีมันเยอะ กะหล่ำดอก อาหารเผ็ด เนื้อหมู ไข่ไก่ เมล็ดพันธุ์ต่างๆ ข้าวโพด เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้อาการของถุงน้ำดีแย่ลง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,135 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา