ส่วนประกอบ
ส่วนต่างๆ ของเนื้อไก่ตามชอบ
- อกไก่ลอกหนังไม่มีกระดูก 450 กรัม
- อกไก่ติดกระดูก 900 กรัม
- สันในไก่ลอกหนัง 450 กรัม
- สะโพกไก่ติดกระดูก 900 กรัม
- น่องไก่ 900 กรัม
- ไก่ทั้งตัว 1,800 กรัม
ต้มด้วยน้ำ
- น้ำ 4 ลิตร
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
ต้มด้วยน้ำสต๊อก
- น้ำซุปไก่หรือน้ำสต๊อกไก่ 4 ลิตร
- หอมหัวใหญ่ 2 – 3 หัว
- แคร์รอต 2 – 3 หัว
- เซเลอรี่ 1 – 2 ก้าน
ต้มด้วยน้ำแอปเปิล
- น้ำแอปเปิลหรือแอปเปิลไซเดอร์ 2 ลิตร
- น้ำ 2 ลิตร
- หอมหัวใหญ่ขนาดกลาง 1 หัว
- แคร์รอต 1 – 2 หัว
- กระเทียมสับ 2 ช้อนชา (10 มล.)
- ใบไธม์สับ 1 ช้อนชา (5 มล.)
- แอปเปิล 1 ผล
- ไวน์ขาวรสไม่หวาน 4 ถ้วย (1 ลิตร)
- น้ำซุปไก่ 4 ถ้วย (1 ลิตร)
- น้ำ 2 ลิตร
- หอมหัวใหญ่ขนาดเล็ก 1 ถ้วยครึ่ง (375 มล.)
- เกลือ 1/2 ช้อนชา (2.5 มล.)
- พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา (1.25 มล.)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
- พาสลีย์สับใหม่ๆ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
- ออริกาโน่สับใหม่ๆ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
- ใบไธม์สับใหม่ๆ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.)
ขั้นตอน
-
ต้มอกไก่ลอกหนังไม่มีกระดูก 15 – 20 นาที. [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อกไก่ชิ้นหนาจะต้องต้มประมาณ 20 นาที ส่วนอกไก่ชิ้นที่บางกว่า แบนกว่า และเล็กกว่าจะต้มแค่ประมาณ 15 นาที
-
ต้มอกไก่ติดกระดูก 30 นาที. หนังและกระดูกไก่เพิ่มความหนาของชิ้นอกไก่ ทำให้ต้องต้มนานกว่า 2 เท่า
-
ต้มสันในไก่ลอกหนังไม่ติดกระดูก 10 นาทีหรือน้อยกว่า. ชิ้นเนื้อไก่ส่วนนี้บางมาก จึงมักจะต้มประมาณ 10 นาทีหรือน้อยกว่านั้น ถ้าเป็นอกไก่ไม่ติดกระดูกหั่นเป็นชิ้นหนา 2 นิ้ว (5 ซม.) ก็จะใช้เวลาประมาณนี้เช่นกัน
-
ต้มเนื้อสะโพกไก่ติดกระดูก 40 นาที. กระดูกทำให้ต้องต้มชิ้นเนื้อส่วนนี้นานขึ้น และเพราะสะโพกเป็นเนื้อสีเข้มด้วย จึงต้องต้มนานกว่าเนื้อหน้าอกเล็กน้อย
-
ต้มน่องไก่ 30 – 40 นาที. เนื่องจากน่องไก่มีเนื้อน้อยกว่าเนื้อสะโพก ตามปกติจึงไม่ต้องต้มนานเท่า
-
ต้มไก่ทั้งตัวประมาณ 1 ชั่วโมง. [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไก่ขนาดมาตรฐาน 1,800 กรัมนั้นต้องต้ม 1 ชั่วโมงเต็ม และเพิ่มเวลาต้ม 10 – 20 นาทีต่อน้ำหนักที่เพิ่มมาทุก 450 กรัมโฆษณา
-
ใส่ไก่ลงไปในหม้อต้ม. ขนาดหม้อต้มที่แน่นอนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าชิ้นไก่ใหญ่แค่ไหนและไก่กินพื้นที่ในหม้อเท่าไหร่ ตามหลักทั่วๆ ไปไก่ควรกินพื้นที่ประมาณ 1/4 – 1/3 ของพื้นที่ในหม้อ
- หม้อต้มขนาด 8 ลิตรนั้นถือว่าค่อนข้างมาตรฐานและมักจะต้มไก่ทั้งตัวได้ แต่สำหรับไก่ที่หนักกว่า 1,800 กรัมก็อาจจะต้องใช้หม้อใหญ่กว่านี้
- คุณสามารถใช้หม้อต้มขนาด 8 ลิตรต้มอกไก่ไม่ติดกระดูกได้ แต่คุณก็สามารถเปลี่ยนมาใช้หม้อใบเล็กกว่าเพื่อให้น้ำเดือดเร็วขึ้นได้เช่นกัน
-
เทน้ำลงไปให้ท่วม. เทน้ำเย็นลงไปในหม้อต้มให้มากพอจนท่วมมิดไก่
- ใช้น้ำเย็นดีกว่าน้ำอุ่น
-
โรยเกลือลงไปในน้ำ. คุณอาจจะโรยเกลือลงไปในน้ำตั้งแต่ 1 ช้อนชา (5 มล.) จนถึง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) เกลือปริมาณน้อยเหมาะกับอกไก่ไม่ติดกระดูกและสันในไก่ แต่ถ้าคุณต้มไก่ทั้งตัวก็อาจจะต้องใช้เกลือเยอะกว่านี้
- คุณจะใส่เกลือหรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ คุณจะต้มไก่โดยไม่ใส่เกลือก็ได้ แต่ก็จะจืดกว่ามากเช่นกัน
-
ต้มจนกว่าจะสุก. ปิดฝาหม้อแล้วต้มไก่ด้วยไฟปานกลาง ต้มตามเวลาที่แนะนำสำหรับประเภทของชิ้นเนื้อไก่ตามที่บอกไว้ในบทความนี้โฆษณา
-
ใส่น้ำซุปไก่ลงไปครึ่งหม้อ. ใส่น้ำซุปไก่ลงไปในหม้อต้มจนถึงครึ่งหม้อ
- น้ำซุปไก่เพิ่มรสชาติให้เนื้อไก่ เนื้อไก่ที่ได้จึงมีรสชาติมากกว่าเนื้อไก่ที่ต้มในน้ำ
- คุณสามารถใช้ซุปกึ่งสำเร็จรูปได้ แต่ถ้าคุณไม่มีซุปกึ่งสำเร็จรูป ให้คุณผสมซุปก้อนรสไก่กับน้ำ ปกติคุณต้องใช้ซุปก้อนรสไก่ 1 ช้อนชา (5 มล.) หรือ 1 ก้อนต่อน้ำ 1 ถ้วย (250 มล.)
- ใช้น้ำสต๊อกไก่แทนน้ำซุปเพื่อให้รสชาติเข้มข้นกว่าและเข้าเนื้อมากกว่า
-
หั่นผัก. การหั่นผักเป็นชิ้นๆ จะทำให้รสชาติซึมเข้าไปในน้ำซุปได้มากขึ้น
- ปอกเปลือกหอมหัวใหญ่แล้วหั่นครึ่งหรือหั่นเป็น 4 ส่วน
- ล้างแคร์รอตและหั่นเป็นแว่นๆ ขนาด 1 นิ้ว (2.5 ซม.)
- ล้างเซเลอรี่และหั่นเป็นชิ้นยาว 1 นิ้ว (2.5 ซม.)
-
ใส่ผักลงไปในน้ำซุป. นำผักที่หั่นแล้วใส่ลงไปในหม้อต้ม ผักจะช่วยทำให้น้ำซุปมีรสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
- แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็คือ คุณไม่จำเป็นต้องใส่ผัก จะต้มไก่ในน้ำซุปธรรมดาก็ได้
-
นำไก่ใส่ลงไปในน้ำซุป. น้ำไก่ใส่ลงในหม้อต้ม ถ้าจำเป็นให้เพิ่มน้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงไปในหม้อเพื่อให้น้ำท่วมไก่
-
ต้มไก่จนสุก. ต้มน้ำซุปด้วยไฟแรง จากนั้นปิดฝาและใช้ไฟปานกลางหรือปานกลาง-อ่อนเพื่อให้ไก่ค่อยๆ เปื่อย
- ต้มตามเวลาที่แนะนำในบทความนี้
- เสร็จแล้วให้ใช้ที่คีบหรือกระบวยมีรูตักไก่ออกมา
- คุณสามารถกรองน้ำซุปที่ใช้ต้มและเก็บน้ำซุปไว้เป็นน้ำสต๊อกสำหรับการทำอาหารครั้งต่อไปได้ถ้าต้องการ คุณสามารถเก็บน้ำสต๊อกไว้ในตู้เย็นได้ 3 วันหรือ 2 เดือนในช่องฟรีซ
- คุณอาจจะต้องทิ้งผักที่ใช้ในสูตรนี้ เพราะเนื้อมันจะเละหมดแล้ว จุดประสงค์หลักของการเติมผักลงไปในสูตรนี้คือเพื่อเพิ่มรสชาติ ไม่ใช่เพื่อนำมารับประทานเป็นเครื่องเคียง
โฆษณา
-
นำไก่ใส่หม้อต้มและเทน้ำเปล่ากับน้ำแอปเปิลลงไป. นำไก่ใส่ลงไปในหม้อต้มและใส่น้ำกับน้ำแอปเปิลจนท่วมมิดไก่
- เพื่อให้ได้รสชาติแอปเปิลมากขึ้น ให้ใส่น้ำแอปเปิล 2 ลิตรลงไปในหม้อต้มก่อน แล้วค่อยใส่น้ำเปล่าลงไปจนท่วมมิดไก่
- แต่ถ้าอยากได้กลิ่นแอปเปิลนิดหน่อย ให้ใส่น้ำแอปเปิลและน้ำเปล่าในปริมาณเท่ากันลงไปพร้อมๆ กัน
- นอกจากนี้คุณจะใช้แอปเปิลไซเดอร์แทนน้ำแอปเปิลก็ได้ แอปเปิลไซเดอร์มักจะมีรสชาติเข้มข้มกว่า บางคนก็เลยชอบมากกว่าน้ำแอปเปิลที่ให้รสชาติอ่อนกว่า
- ส่วนผสมของเนื้อไก่ น้ำเปล่า และน้ำแอปเปิลต้องอยู่ระหว่าง 1/2 - 3/4 ของหม้อ
-
หั่นผักและสมุนไพร. รสชาติออกเค็มของผักที่ใช้ในสูตรนี้จะช่วยตัดรสชาติหวานตามธรรมชาติของน้ำแอปเปิล ทำให้รสชาติกลมกล่อม
- ปอกเปลือกหอมหัวใหญ่แล้วหั่นครึ่งหรือหั่นเป็น 4 ส่วน
- ล้างแคร์รอตในน้ำไหลและหั่นเป็นแว่นๆ ขนาด 1 นิ้ว (2.5 ซม.)
- ถ้าใช้กระเทียม ให้สับกระเทียม 4 กลีบ ถ้าใช้ผงกระเทียม ให้ใส่ผงกระเทียม 1/2 ช้อนชา (2.5 มล.)
- คุณจะใส่ใบไธม์สับใหม่ๆ แค่ไหนก็ได้ตั้งแต่ 1 ช้อนชา (5 มล.) จนถึง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) แต่ถ้าใช้ไบไธม์แห้ง ให้ใส่แค่ 1/3 ของที่ต้องการจะใส่
-
ใส่ผักลงไป. โรยหอมหัวใหญ่ แคร์รอต กระเทียม และใบไธม์ลงไปในส่วนผสมน้ำแอปเปิล
-
ต้มเนื้อไก่จนเกือบสุก. ต้มน้ำให้เดือดด้วยไฟแรง จากนั้นลดไฟลงเพื่อให้น้ำค่อยๆ งวด จากนั้นปิดฝาและต้มตาม "ระยะเวลาในการต้ม" ที่กล่าวไว้ด้านบน
-
เตรียมแอปเปิล. 10 นาทีก่อนไก่สุก ให้เริ่มเตรียมแอปเปิล ปอกเปลือก เอาแกนออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- การใส่แอปเปิลลงไปเพิ่มช่วงที่ไก่ใกล้สุกจะยิ่งทำให้รสชาติแอปเปิลซึมเข้าไปในเนื้อไก่ได้มากขึ้น
-
ใส่แอปเปิลลงไปในน้ำซุปช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนไก่สุก. เมื่อไก่สุกแล้วสะเด็ดน้ำออกให้หมด และเสิร์ฟโดยไม่ต้องตักผัก ผลไม้ เครื่องปรุง หรือน้ำซุปลงไปด้วย
- ส่วนผสมอื่นๆ นั้นมีไว้เพื่อเพิ่มรสชาติให้เนื้อไก่ขณะต้ม แต่เมื่อไก่สุกแล้วส่วนผสมเหล่านี้ก็จะนิ่มและเละเกินกว่าจะน่ารับประทานแล้ว
โฆษณา
-
ใส่ไวน์ขาวรสไม่หวาน น้ำซุปไก่ และน้ำเปล่าลงไปครึ่งหม้อ. ใส่ไวน์ขาวรสไม่หวานกับน้ำซุปไก่ลงไปก่อน จากนั้นค่อยเติมน้ำเปล่าลงไปจนถึงครึ่งหม้อ
- ไวน์จะซึมเข้าไปในเนื้อไก่ทำให้รสชาติเข้มข้นมาก แต่ถ้าใช้มากเกินไปก็อาจจะทำให้รสชาติเข้มข้นเกินไปได้
- ใส่น้ำซุปไก่กับไวน์ขาวรสไม่หวานในปริมาณเท่ากัน ไม่อย่างนั้นรสน้ำซุปไก่จะดันกับรสไวน์
- ใส่น้ำเปล่าลงไปให้แค่พอเจือจาง
-
ใส่หอมหัวใหญ่และเครื่องปรุงลงไปในส่วนผสม. ใส่หอมหัวใหญ่ขนาดเล็ก เกลือ พริกไทย กระเทียม พาสลีย์ ออริกาโน่ และใบไธม์ลงไปในส่วนผสม
- หอมหัวใหญ่ขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องหั่นก่อนใส่
- ถ้าคุณไม่มีกระเทียมสับติดไว้อยู่แล้ว ให้สับหรือทุบกระเทียม 6 กลีบแทน
- ถ้าใช้สมุนไพรสด ให้ใส่สมุนไพรแต่ละชนิดลงไป 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ถ้าเป็นสมุนไพรแห้งให้ลดลงเหลือ 1 ช้อนชา (5 มล.)
-
ต้มหลายๆ นาที. ต้มส่วนผสมจนเดือดด้วยไฟกลาง – แรง ต้มด้วยอุณหภูมินี้ประมาณ 2 – 5 นาทีก่อนจะลดไฟลงให้ส่วนผสมงวด
- วิธีนี้จะทำให้รสชาติของเครื่องปรุงออกมาและทำให้ความขมบางส่วนของไวน์หายไป
-
ค่อยๆ ใส่เนื้อไก่ลงไปในหม้อต้ม. ใช้ที่คีบคีบไก่ลงไปในหม้อต้ม ต้มน้ำให้กลับมาเดือดอีกครั้งก่อนแล้วค่อยลดไฟลง
-
ต้มจนสุก. ปิดฝาหม้อและต้มไก่ให้เปื่อยในอุณหุภูมิเดิมตามระยะเวลาที่บทความนี้แนะนำ
- เสิร์ฟเฉพาะไก่อย่างเดียว ส่วนผสมที่เป็นน้ำและส่วนผสมอื่นๆ ใส่เพื่อเพิ่มรสชาติ ไม่ใช่เพื่อรับประทานคู่กับไก่
-
เสร็จแล้ว.โฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณสามารถเสิร์ฟไก่ต้มได้ทันที หรือเก็บไว้ในภาชนะสำหรับเก็บอาหารที่มีฝาปิดเรียบร้อย อย่าเก็บไก่ไว้ในตู้เย็นเกิน 3 วันและอย่าเกิน 2 เดือนในช่องฟรีซ
- คุณจะเสิร์ฟไก่ทั้งชิ้นหรือเสิร์ฟเป็นไก่ฉีกก็ได้
โฆษณา
คำเตือน
- อกไก่และเนื้อไก่ส่วนอื่นๆ ควรต้มจนมีอุณหภูมิภายในที่ 77 องศาเซลเซียส ส่วนไก่ทั้งตัวนั้นควรมีอุณหภูมิภายในที่ 82 องศาเซลเซียส ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดเนื้อสัตว์เพื่อวัดอุณหภูมิภายใน
- อย่าต้มไก่แช่แข็งเด็ดขาด คุณต้องแน่ใจว่าคุณละลายไก่จนนิ่มแล้วจริงๆ ค่อยต้มด้วยวิธีนี้
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- หม้อต้มไก่ 8 ลิตรพร้อมฝา
- มีดทำครัว
- ที่คีบ
- ตะแกรง
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา