ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าสูตรอาหารหรือขนมต้องใส่ครีมสดด้วย แล้วจะใส่นมแทนก็คงไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะเนื้อสัมผัสต่างกัน เช่น คุณทำเนยจากนมสดเต็มมันเนย (whole milk) ไม่ได้ แต่ใช้เฮฟวี่ครีมแทนได้ ซึ่งบอกเลยว่าคุณทำครีมใช้เองได้ง่ายมาก ขอแค่มีนมสดเต็มมันเนย และเนย หรือเจลาติน แต่ถ้าอยากให้ได้ครีมเหมือนที่เขาขายกัน ก็ให้ใช้นม non-homogenized หรือนมที่ไม่ผ่านการตีไขมันแทน

ส่วนประกอบ

  • นมสดเย็น (2% หรือ whole) 3/4 ถ้วยตวง (180 มล.)
  • เนยจืด ⅓ ถ้วยตวง (75 กรัม)

ใช้ทำเฮฟวี่ครีมได้ 1 ถ้วยตวง (240 มล.)

  • น้ำเย็น 1/4 ถ้วยตวง (60 มล.)
  • เจลาตินไม่ปรุงรส 2 ช้อนชา (10 กรัม)
  • นมเต็มมันเนย 1 ถ้วยตวง (240 มล.)
  • น้ำตาลไอซิ่ง ¼ ถ้วยตวง (30 กรัม)
  • วานิลลาสกัด ½ ช้อนโต๊ะ (7.5 มล.)

ใช้ทำวิปครีมได้ประมาณ 2 ถ้วยตวง (470 มล.)

  • นมไม่ตีไขมัน (Non-homogenized milk)

แล้วแต่ปริมาณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำเฮฟวี่ครีม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ใส่เนยจืด ⅓ ถ้วยตวง (75 กรัม) ในหม้อแบบมีด้ามจับ ใช้ไฟอ่อน แล้วรอจนเนยละลายหมด ระหว่างนั้นใช้ช้อนหรือไม้พายยางคนเป็นพักๆ ได้ [1]

    ห้ามใช้มาการีนหรือเนยเค็ม เพราะจะรสไม่เหมือนเฮฟวี่ครีม

  2. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ) กับนมเย็นๆ. เรียกว่าเป็นการ "tempering" ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ถ้าอยู่ๆ เทเนยละลายใส่นมทีเดียวทั้งหมด นมจะร้อนเร็วเกินไปจนจับตัวเป็นก้อน [2]
    • ใช้นมเต็มมันเนยจะเห็นผลดีที่สุด แต่จะใช้นม 2% ก็ได้เหมือนกัน
    • ให้ใช้ภาชนะแยกกัน ถ้าเป็นถ้วยตวงขนาดใหญ่ได้จะดีที่สุด
    • ขั้นตอนนี้ให้ใช้นมสดเย็นทั้ง 3/4 ถ้วยตวง (180 มล.)
  3. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    เทนมที่ tempered แล้วใส่หม้อแบบมีด้ามจับที่ใส่เนยที่เหลือไว้ จากนั้นเปิดไฟอ่อน รอจนนมร้อน ระหว่างนั้นให้ใช้ที่ตีไข่คนไปเรื่อยๆ พอนมเริ่มสุก ก็พร้อมทำขั้นตอนถัดไปแล้ว [3]
    • อย่าให้นมถึงขั้นเดือด
  4. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ใช้เครื่องปั่นจะดีที่สุด แต่จะใช้เครื่องผสมอาหาร เครื่องตีไข่ หรือตะกร้อมือก็ได้ ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหน กว่าครีมจะข้น ก็แล้วแต่อุปกรณ์ที่ใช้ ส่วนใหญ่จะประมาณ 2 - 3 นาที
    • ครีมที่ได้ต้องข้น ครีมมี่ เหมือนเฮฟวี่ครีม
    • แต่สูตรนี้จะไม่ข้นจนกลายเป็นวิปครีม
  5. พอส่วนผสมเย็นตัวเท่าอุณหภูมิห้อง ก็เทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด จากนั้นเก็บในตู้เย็นได้เลย คุณใช้ครีมนี้ในทุกสูตรที่ต้องใช้เฮฟวี่ครีมได้เลย [4]

    พอเวลาผ่านไป ครีมจะ แยกชั้นกัน แบบนี้ให้ เขย่าภาชนะที่ใส่แรงๆ หรือเอาไปตั้งไฟอ่อน แล้วคนผสมอีกครั้ง

    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำวิปครีม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    เทน้ำเย็น 1/4 ถ้วยตวง (60 มล.) ใส่หม้อใบเล็กหรือกลางแบบมีด้ามจับ จากนั้นค่อยๆ ร่อนเจลาตินแบบไม่ปรุงรส 2 ช้อนชา (10 กรัม) ผสมลงไป ทิ้งไว้ 5 นาทีจนเจลาตินผสมกับน้ำ ได้ผิวสัมผัสหยุ่นๆ ขั้นตอนนี้อย่าเพิ่งตั้งไฟ [5]
    • ถ้าไม่มี หรือไม่อยากใช้เจลาติน ให้ใช้ agar agar แทน [6]
    • ถ้าอยากให้ครีมเข้มข้น ให้ใช้นมเต็มมันเนยเย็นๆ 1/4 ถ้วยตวง (60 มล.) แทนน้ำเปล่า [7]
    • อย่าใช้ผงทำเยลลี่หรือเจลาตินแบบแต่งรส เพราะมีน้ำตาลเยอะแถมทำให้ครีมที่ได้เสียรส
  2. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ปกติใช้เวลาไม่กี่นาที ถ้าส่วนผสมร้อนช้า ให้ใช้ไฟอ่อนปานกลางแทน พอเจลาตินละลายหมดและน้ำใส ก็ทำขั้นตอนต่อไปได้เลย [8]

    ถ้าใช้นมแทนน้ำ ก็แน่นอนว่าส่วนผสมจะ ไม่ใส แค่ตั้งไฟจนละลายหมด ไม่เหลือเศษผงก็พอแล้ว

  3. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ทิ้งไว้จนส่วนผสมเย็นตัว แล้วตีผสมกับนมเต็มมันเนยสัก 2 - 3 วินาที. ยกหม้อลงจากเตา แล้วพักไว้จนเย็นตัวเท่าอุณหภูมิห้อง ต่อไปให้เทนม 1 ถ้วยตวง (240 มล.) ลงในชาม แล้วเทเจลาตินที่เย็นแล้วในข้อก่อนลงไป ผสมด้วยที่ตีไข่ประมาณ 20 - 30 วินาทีจนเข้ากัน [9]
    • กว่าเจลาตินที่ผสมแล้วจะเย็นตัวลง ก็แล้วแต่อุณหภูมิในห้องครัว แต่ส่วนใหญ่จะประมาณ 10 - 15 นาที
    • ย้ำว่าต้องใช้นมเต็มมันเนย เพราะมีไขมันสูง ถ้าเป็นนมชนิดอื่นๆ จะออกมาไม่ค่อยดี เพราะไขมันต่ำเกินไป
  4. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ใส่วานิลลาสกัด ½ ช้อนโต๊ะ (7.5 มล.) กับน้ำตาลไอซิ่ง ¼ ถ้วยตวง (30 กรัม) ลงไป ตีผสมอีกทีด้วยที่ตีไข่จนสีและเนื้อสัมผัสเนียนเข้ากัน ไม่มีก้อนหรือสีด่าง [10]
    • จะใช้สารสกัดอื่นก็ได้ ถ้าอยากได้รสชาติอื่น เช่น อัลมอนด์
    • ย้ำว่าต้องใช้น้ำตาลป่นละเอียด น้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลละเอียดผสมแป้งข้าวโพด (confectioners sugar) เท่านั้น ห้ามใช้น้ำตาลเป็นเกล็ดๆ ตามปกติ
    • ถ้าอยากได้ครีมหวานน้อย ก็ใช้น้ำตาลแค่ 2 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม) แล้วไม่ต้องใส่วานิลลาสกัด [11]
  5. เอาพลาสติกใสห่อปิดชามไว้ แล้วแช่ตู้เย็น ทุก 15 - 20 นาทีให้เอาชามออกจากตู้เย็น กวนผสมด้วยที่ตีไข่ไม่ต้องมาก จากนั้นแช่ตู้เย็นตามเดิม ทำแบบนี้ 2 - 3 ครั้งจนผ่านไป 60 - 90 นาที [12]
    • พอแช่ตู้เย็นแล้ว ส่วนผสมจะเริ่มจับตัวกัน ข้นขึ้น ให้ตีผสมเพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมแยกชั้นกัน
    • ถ้าแช่เย็นที่ตีไข่ด้วย ยิ่งเห็นผลดี ช่วยเร่งกระบวนการ และส่วนผสมไม่แยกชั้นกัน [13]
  6. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    เอาชามออกจากตู้เย็น แล้วตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ผสมไปเรื่อยๆ จนข้น ตั้งยอดอ่อนได้ [14]
    • ระหว่างตีผสมให้ขูดข้างชามด้วย ครีมจะพองฟูขึ้นเป็น 2 เท่าเลย
    • จะได้ที่เมื่อไหร่ก็แล้วแต่อุณหภูมิของครีม ความเร็วของเครื่องตี และความข้นตามชอบ แต่ปกติไม่น่าจะเกิน 2 - 3 วินาที
    • ถ้าไม่มีตะกร้อมือ จะใช้เครื่องตีหรือเครื่องผสมอาหารที่ติดที่ตีไข่แทนก็ได้
  7. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    เก็บวิปครีมที่ได้ในตู้เย็น อยู่ได้ประมาณ 2 วัน. ใช้ขวดหรือโหลแก้วที่มีฝาปิดจะดีที่สุด นอกจากช่วยรักษารสชาติแล้ว ยังใช้สะดวก พยายามอย่าใช้ภาชนะพลาสติก เพราะสารเคมีจะซึมเข้าครีม มีผลต่อรสชาติได้ [15]
    • ครีมนี้ถึงจะคล้ายๆ กับเฮฟวี่ครีมทำเอง แต่ก็จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว
    • ใช้ทำท็อปปิ้งได้เลย (กินกับวาฟเฟิล แพนเค้ก สตรอว์เบอร์รี่ เป็นต้น) หรือทำไส้ครีมของเค้กก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

แยกครีมจากนม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เดี๋ยวต้องตักด้วยกระบวย เพราะงั้นขวดโหลที่ใช้ต้องปากกว้างหน่อย จะได้ทำตามขั้นตอนได้สะดวก ถ้าขวดโหลธรรมดาจะปากแคบไป ที่สำคัญคือต้องล้างขวดให้สะอาด [16]
    • ถ้านมที่ใช้อยู่ในขวดโหลแก้วอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
    • วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกับนมที่ ไม่ผ่านการตีไขมัน เท่านั้น เพราะนมที่ผ่านการตีไขมันจะไม่มีชั้นครีมแยกออกมา
    • วิธีเช็คได้ง่ายที่สุด ว่าเป็นนมแบบ non-homogenized ไหม คือดูที่ฉลากตอนซื้อ ถ้านมใส่ขวดแก้วมา ก็ลองสังเกตชั้นครีมดู
  2. จะซื้อนม non-homogenized นี้มาจากร้าน หรือใช้นม non-homogenized ที่รีดสดๆ จากแม่วัวเลยก็ได้ ถ้าเป็นอย่างหลัง ต้องพักไว้ 24 ชั่วโมงขึ้นไป [17]
    • นมสดจะยังแยกชั้นไม่เต็มที่ 24 ชั่วโมงนี้แหละที่จะเป็นเวลาให้ชั้นครีมแยกออกมาจากนม
  3. เขาเรียก "cream line" โดยนมจะโปร่งใสกว่าครีม สีก็อ่อนกว่า ชั้นครีมจะข้นและสีออกเหลือง แน่นอนว่านมจะอยู่ทางด้านล่างของขวด ในขณะที่ชั้นครีมลอยขึ้นด้านบน [18]
    • "cream line" หรือชั้นครีมจะไม่แบ่งเป็นเส้นชัดเจน แต่จะกลืนๆ กันเหมือนน้ำสลัด ที่มีชั้นของน้ำมันลอยอยู่ที่ผิวด้านบน
    • ถ้าสังเกตยากว่ามีชั้นครีมหรือยัง แสดงว่าต้องทิ้งไว้อีกสักพัก หรือเป็นไปได้ว่าคุณซื้อนมแบบตีไขมัน หรือ homogenized มา
  4. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ใช้กระบวยตักซุปหรือซอสที่เล็กพอจะผ่านปากขวดเข้าไปได้ โดยจุ่มลงไปตรงๆ ในครีม แต่ระวังอย่าลึกลงไปถึงชั้นที่เป็นน้ำนม เพราะเราจะช้อนตักชั้นครีมขึ้นมา [19]
    • ถ้าชั้นครีมตื้นมากจนใช้กระบวยตักยาก ให้ใช้หลอดหยดน้ำมันแทน
  5. Watermark wikiHow to ทำวิปครีมจากนม
    ยกกระบวยขึ้นมาจากขวดโหล แล้วเทครีมใส่อีกขวด ถ้าไม่มีขวดโหลสำรอง ให้ใช้ชามหรืออีกภาชนะที่เป็นแก้ว ที่สำคัญคือต้องมีฝาปิด [20]
    • ถ้าใช้หลอดหยดน้ำมัน ต้องระวังอย่าดูดเอานมมาด้วย แบบนั้นจะปล่อยลูกยางที่บีบไว้จนสุดไม่ได้
  6. ) . การเหลือครีมส่วนหนึ่งไว้ในขวดใส่นม ก็เพื่อไม่ให้พลาดช้อนน้ำนมผสมมากับครีมด้วย แถมถ้ามีครีมผสมหน่อย นมจะข้นดี เหมือนนมเต็มมันเนย [21]
    • ถ้าเผลอทำน้ำนมผสมไปกับครีม จะทำให้ออกมาไม่เป็นวิปครีมหรือเนย เหมือนได้วิปครีมหรือเนยผสมน้ำนั่นแหละ
  7. คุณใช้นมทำอาหารและเครื่องดื่มได้เลย กระทั่งใส่ในซีเรียลหรือกาแฟ ครีมที่แยกมาแล้วยังใช้ทำวิปครีมหรือเนยได้ด้วย [22]
    • เวลาเก็บให้ปิดฝาขวดโหล แล้วแช่ตู้เย็น
    • คุณใช้นมและครีมนี้ได้ไม่เกิน 1 อาทิตย์
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สูตรทำเนยกับเจลาติน ออกมาจะไม่ได้ปริมาณเท่าที่ซื้อตามร้าน แค่พอใกล้เคียงเท่านั้น
  • ระวังอย่าผสมวิปครีมเยอะไป ไม่งั้นจะเริ่มแข็งตัวเป็นก้อน กลายเป็นเนยแทน!
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

ทำเฮฟวี่ครีม

  • หม้อแบบมีด้ามจับ
  • ชาม
  • ที่ตีไข่
  • เครื่องปั่นหรือเครื่องผสมอาหาร
  • ขวดโหลหรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด

ทำวิปครีม

  • หม้อแบบมีด้ามจับ
  • ที่ตีไข่
  • เครื่องผสมอาหารหรือแบบปั่นมือ
  • ชามผสมใบใหญ่

แยกครีมจากนม

  • ขวดโหลแก้ว 2 ขวด
  • กระบวย

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 228,729 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา