ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การรักษาทางการแพทย์ ปัญหาสุขภาพ และสถานการณ์ทางสังคมมักจะทำให้เราลดการทานอาหารหรือลดน้ำหนักของตัวเอง แต่คุณอาจจะอยากทานอาหารให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนักเดิมเอาไว้ ซึ่งการเพิ่มปริมาณอาหารอาจจะทำได้ยากกว่าที่คิดคุณเอาไว้ โดยเฉพาะคนที่มีความอยากอาหารน้อยยิ่งแล้วใหญ่ อย่างไรก็ตาม มีวิธีและเคล็ดลับเล็กน้อยที่ช่วยให้คุณเพิ่มปริมาณอาหารและทานอาหารให้มากขึ้นได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เพิ่มปริมาณอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนๆ นั้นอาจจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนที่ชอบทำอาหาร โรงเรียนสอนทำขนมหวาน หรือนักโภชนาการ เป็นต้น
  2. ถ้าคุณอยากเพิ่มน้ำหนัก คุณอาจจะอยากทานอาหารเพื่อให้ได้พลังงานมากขึ้นในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าการเพิ่มน้ำหนักอย่างช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไปเป็นวิธีเพิ่มน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพที่สุด
    • โดยทั่วไปผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจะแนะนำให้รับพลังงานมากกว่าปกติประมาณ 250-500 แคลอรี่ เพื่อเพิ่มน้ำหนักอย่างปลอดภัย โดยจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาประมาณ 250-500 กรัมต่อสัปดาห์
    • ปริมาณพลังงานที่คุณต้องรับเข้าไปในร่างกายในแต่ละวันอาจจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักปัจจุบัน อายุ เพศ และสุขภาพโดยรวม ให้ลองปรึกษากับแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อพิจารณาปริมาณพลังงานที่คุณควรได้รับอย่างแน่นอน
    • มองหาอาหารที่ให้พลังงานสูงแทนที่จะทานอาหารให้มากๆ แต่ให้พลังงานน้อย ยกตัวอย่างเช่น ถั่วประมาณ 30 กรัมจะให้พลังงานประมาณ 160-190 แคลอรี [1] ในขณะที่ขนมปังเพรทเซล (Pretzel) 30 กรัมให้พลังงานเพียง 100 แคลอรี [2]
  3. แม้ว่าคุณจะต้องการพลังงานมากขึ้นเพื่อเพิ่มน้ำหนัก แต่คุณก็ต้องดูว่าอาหารที่คุณทานนั้นมีสารอาหารที่ช่วยให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดีหรือไม่ [3]
    • อาหารที่ให้พลังงานสูงนั้นดีก็จริง แต่อาหารที่ให้พลังงานแต่ไม่มีสารอาหารก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ถ้าทานมากเกินไป [4] ดังนั้น หลีกเลี่ยงการทานอาหารจำพวกของหวาน ขนมหวาน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อาหารทอด อาหารทานด่วนหรือเนื้อที่ผ่านกรรมวิธีมาแล้วในปริมาณที่มากเกินไป
    • การทานอาหารมันหรือหวานเป็นครั้งคราวอาจจะช่วยเพิ่มน้ำหนักได้ แต่ก็ยังเป็นภัยต่อร่างกายอยู่ดี ดังนั้น อย่าพึ่งพาอาหารเหล่านี้ในการเพิ่มน้ำหนัก เพราะอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางสารอาหารที่น้อยมาก
  4. ไขมันให้พลังงานต่อกรัมมากกว่าโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต การเพิ่มปริมาณไขมันในแต่ละวันจะช่วยเพิ่มพลังงานรวมในร่างกายและช่วยให้น้ำหนักมากขึ้น
    • ไขมันดีเป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ลองทานอาหารที่มีไขมันดี เช่น ถั่ว เมล็ดผลไม้ อะโวคาโด มะกอก น้ำมันมะกอก และไขมันปลา เป็นต้น
    • มีงานวิจัยยืนยันว่าการเพิ่มพลังงานโดยรวมยังมีส่วนช่วยให้หัวใจแข็งแรงอีกด้วย [5]
  5. โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณอยากเพิ่มน้ำหนักหรือพยายามที่จะรักษาน้ำหนักเดิมเอาไว้ การทานอาหารที่มีโปรตีนเพียงพอต่อร่างกายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
    • โปรตีนยังช่วยเสริมสร้างกระบวนการเผาผลาญและช่วยรีดไขมันออกจากกล้ามเนื้อ เมื่อคุณผอมไปหรือกำลังลดน้ำหนักอยู่ คุณอาจจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปบางส่วนได้ การทานโปรตีนที่เพียงพอจะช่วยบรรเทาการสูญเสียกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น [6]
    • ลองทานอาหารที่มีโปรตีนประมาณ 90-120 กรัมต่อมื้อ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณได้รับโปรตีนในปริมาณที่แนะนำต่อวัน [7]
    • เลือกทานทั้งอาหารที่มีโปรตีนไร้ไขมันและโปรตีนที่มีไขมันพอเหมาะ ยกตัวอย่างเช่น เลือกทานนมวัวไม่พร่องมันเนย ไข่ไก่ ไขมันปลา และเนื้อดำของสัตว์ปีก เป็นต้น
    • อย่าทานเนื้อทอด เนื้อติดมัน หรือเนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธีแล้ว เพราะอาหารเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพและยังเป็นพลังงานส่วนเกินที่ไม่จำเป็น
    • โปรตีนจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มหรือช่วยให้รู้สึกอิ่มอย่างพอใจ [8] ถ้าเป้าหมายของคุณคือการทานอาหารมากขึ้นมากกว่าเพิ่มพลังงาน ก็ให้ตระหนักไว้เสมอว่าการเพิ่มอาหารที่มีโปรตีนอาจจะทำให้คุณรู้สึกหิวน้อยลง
  6. แม้ว่าธัญพืชไม่ได้ให้พลังงานสูงนัก แต่ก็มีความสำคัญต่อการทานอาหารเพื่อสุขภาพ
    • ลองเลือกทานธัญพืชเต็มเมล็ด เพราะธัญพืชเหล่านี้ยังมีส่วนของรำ แกลบ จมูกข้าว และเมล็ดอยู่ [9]
    • ธัญพืชเต็มเมล็ดช่วยเพิ่มทั้งพลังงานในร่างกายและใยอาหาร นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีกด้วย
    • ลองทานธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวบาร์เลย์ กีนัว (Quinoa) ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีท 100% และพาสต้า
    • เติมอาหารที่ให้พลังงานสูงผสมกับธัญพืชเต็มเมล็ดเพื่อเพิ่มพลังงาน ยกตัวอย่างเช่น เหยาะน้ำมันมะกอกเล็กน้อยลงบนข้าวกล้องหรือทาเนยถั่วลงบนข้าวโอ๊ต
  7. อาหารทั้งสองกลุ่มนี้ไม่ได้ให้พลังงานสูงมากนัก แต่ก็มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลาย ซึ่งมีความสำคัญต่อการทานอาหารของคุณ
  8. วิธีทานให้มากขึ้นและเพิ่มน้ำหนักอีกวิธีหนึ่งก็คือการทานจุบจิบและทานบ่อยๆ การทานบ่อยๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกหิวมากยิ่งขึ้น
    • วิธีนี้จะช่วยได้ถ้าคุณไม่ค่อยรู้สึกหิว เพราะการทานทีละน้อยๆ จะทำได้ง่ายกว่าการทานทีละมากๆ
    • ตั้งไว้ว่าจะทานจุบจิบเพิ่มเติมจากอาหารหลัก 3 มื้อเป็นจำนวน 2-3 ครั้งตลอดทั้งวัน
    • อาหารจุบจิบที่จะทานควรมีสัดส่วนของโปรตีน แป้ง ผัก และไขมันดีอย่างน้อย 3 ใน 6 ของปริมาณทั้งหมดเพื่อให้ได้รับสารอาหารโดยรวมสูงสุด
    • แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเชื่อกันแพร่หลายว่าการทานบ่อยๆ จะช่วย “เร่ง” กระบวนการเผาผลาญ แต่งานวิจัยก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าความคิดนี้เป็นจริง [14] [15]
  9. ถ้าคุณรู้สึกอิ่มเกินกว่าที่จะทานต่อได้แล้ว คุณยังเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้ด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง [16]
    • เช่นเดียวกับอาหารที่ให้พลังงานสูง เครื่องดื่มที่ให้พลังงานและสารอาหารสูงนั้นมีประโยชน์กว่าอาหารที่ให้พลังงานแต่ไม่มีสารอาหาร (เช่น เครื่องดื่มอัดลมหรือค็อกเทลผสมน้ำผลไม้)
    • เครื่องดื่มที่เป็นทางเลือกที่ดีอาจจะเป็นน้ำผลไม้ปั่นซึ่งมีผลไม้ โยเกิร์ตชนิดที่มีไขมัน นมสด และเนยถั่ว
    • คุณยังสามารถผสมน้ำผลไม้ปั่นด้วยผงแป้ง เมล็ดแฟลกซ์ หรือเมล็ดเชียเพื่อเพิ่มสารอาหารในเครื่องดื่ม
  10. อาหารบางชนิดจะผลิตแก๊สออกมาเมื่อทานเข้าไป ซึ่งจะไปลดความสามารถในการทานอาหารต่อได้ [17]
    • อาหารที่ผลิตแก๊สออกมาโดยทั่วไปก็จะมี บล็อคโคลี่ ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี กะหล่ำดาว พรุน และถั่ว
    • เมื่อคุณทานอาหารเหล่านี้ คุณจะรู้สึกอิ่มและแน่น ซึ่งจะไปลดความหิวหรือทำให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วกว่าปกติ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

กระตุ้นความหิวของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณกำลังมีปัญหาในการกระตุ้นความหิวหรือความอยากทานอาหาร ให้ลองออกไปเดินเล่นสั้นๆ ก่อนอาหารดู
    • การทำกิจกรรมเคลื่อนไหวออกแรง (Physical activity) เล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยกระตุ้นความหิวและช่วยให้คุณรู้สึกหิวมากยิ่งขึ้นได้
    • คุณไม่จำเป็นต้องเดินยาวๆ และเดินอย่างหนักหน่วง เพียงแค่เดินสั้นๆ สัก 15 นาทีด้วยกำลังพอดีๆ ก็ช่วยได้แล้ว
  2. ถ้าคุณไม่รู้สึกหิว แนะนำว่าอย่าดื่มของเหลวใดๆ ประมาณ 30 นาทีก่อนอาหารและอย่าดื่มระหว่างมื้อด้วย [18]
    • เมื่อคุณดื่มของเหลวทันทีก่อนอาหาร กระเพาะของคุณจะเต็มไปด้วยของเหลว ซึ่งจะส่งสัญญานไปยังสมองว่าคุณไม่หิว ทำให้ความหิวของคุณลดลง
    • การทานและการดื่มในเวลาเดียวกันจะทำให้เกิดผลแบบเดียวกัน คุณอาจจะรู้สึกอิ่มมากขึ้นและเร็วขึ้นเพราะคุณแบ่งพื้นที่ในกระเพาะด้วยของเหลวไปส่วนหนึ่ง
  3. ถ้าคุณยังไม่หิว ให้ลองเตรียมหรือซื้ออาหารโปรดที่คุณถูกปาก
    • หลายครั้งที่อาหารถูกปากจะมีไขมันและให้พลังงานสูง (แต่ก็ไม่เสมอไป) การปล่อยตัวเองให้ทานอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ระดับพลังงานที่ทานเข้าไปมากยิ่งขึ้น
    • คุณควรจะลองทานอาหารเมนูใหม่ๆ ถ้าคุณไม่ได้สนใจอาหารโปรดหรือขนมของคุณ ให้ลองหาเมนูใหม่ๆ เพื่อช่วยให้เกิดความหิว
    • มองหาเมนูที่คุณอยากจะทำชั่วคราว แม้ว่าอาหารนั้นจะไม่ได้ดีต่อสุขภาพมากนัก แต่ก็ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

จัดการพฤติกรรมการใช้ชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardiovascular exercise) จะช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้น้ำหนักลดลง
    • คุณสามารถออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแบบเบาๆ เพื่อให้หัวใจมีสุขภาพที่ดีได้ การลดระดับความหนักของกิจกรรมจะให้ผลลัพธ์เหมือนกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแต่ไม่ได้เผาผลาญพลังงานมากนัก
    • ลองทำกิจกรรมจำพวก เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือโยคะ
    • คุณไม่ควรและไม่ตัดการออกกำลังกายออกจากกิจวัตรประจำวัน แต่การออกกำลังกายแบบแอโรบิกเบาๆ จะดีกว่าการออกกำลังแบบหนักหน่วง
  2. มีหลายครั้งที่ความเครียดมักมีผลต่อการเพิ่มน้ำหนักแบบส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่ก็มีบางคนที่ไม่รู้สึกหิวเมื่อมีความเครียด [19]
    • ถ้าคุณเป็นพวกที่ไม่ค่อยหิวเมื่อมีความเครียด ให้ลองจัดการกับความเครียดและฝึกฝนเทคนิคการคลายเครียดก่อน
    • คุณอาจจะลองพักผ่อนและคลายเครียดด้วยการฟังเพลง ออกไปเดินเล่น พูดคุยกับเพื่อน หรือจดบันทึก
    • ถ้าความเครียดส่งผลต่อความหิวและน้ำหนักของคุณ ให้ลองพิจารณาขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรม และนักบำบัด
  3. ถ้าคุณไม่รู้สึกหิวหรือทานได้น้อยมาก ให้ลองทานวิตามินรวมทุกวัน เริ่มต้นด้วยการทานวิตามิน แร่ธาตุ และไขมันดีควบคู่ไปกับการพยายามดูแลร่างกายให้บรรลุเป้าหมาย [20]
    • แม้ว่าคุณจะไม่ควรทานวิตามินรวมแทนวิตามินที่ได้จากอาหาร แต่ก็สามารถทานเพื่อช่วยให้ได้รับสารอาหารในปริมาณขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันได้
    • ทานวิตามินรวมให้เหมาะสมกับช่วงอายุ เพราะผลิตภัณฑ์บางชนิดก็ทำมาเฉพาะช่วงอายุ เช่น เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,365 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา