ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การล้างท้องตามวิธีธรรมชาติรวมทั้งการล้างพิษและของเสียที่สะสมออกไปจากร่างกาย จะทำให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มีวิธีทางธรรมชาติหลายวิธีที่คุณสามารถใช้ในการทำความสะอาดและล้างพิษในระบบร่างกายของคุณ ตั้งแต่การสวนล้างทำความสะอาดซึ่งจะล้างพิษจากร่างกายคุณได้อย่างรวดเร็ว หรือด้วยตัวเลือกวิธีการกินดื่มซึ่งคุณสามารถทำได้ในระยะยาว ลองอ่านบทความด้านล่างเพื่อค้นหาวิธีการใช้ธรรมชาติบำบัดที่เหมาะกับคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

โดยการใช้ของที่มีคุณสมบัติในการล้างพิษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การทำความสะอาดระบบร่างกายคุณด้วยน้ำมะนาวหรือที่รู้จักกันในชื่อ “การล้างพิษด้วยการดื่มน้ำเพียงอย่างเดียว” เป็นวิธีการล้างพิษที่แพร่หลายและได้รับความนิยมที่สุด เพราะได้รับการยืนยันจากเหล่าดาราหลายคนว่าได้ผล การล้างพิษด้วยน้ำมะนาวทำได้โดยการเตรียมเครื่องดื่มจากน้ำเปล่า น้ำมะนาว เมเปิลไซรัป และพริกป่น โดยที่คุณต้องดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เพียงอย่างเดียวตลอดช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 3 ถึง 10 วัน การล้างพิษด้วยน้ำมะนาวจะช่วยให้คุณกำจัดสารพิษออกจากระบบ ซึ่งก็มีผลในการช่วยลดน้ำหนักด้วย [1]
    • วิธีการทำน้ำมะนาว 1 แก้ว ให้ผสมน้ำมะนาวคั้นสด 4 ช้อนโต๊ะ พริกป่นครึ่งช้อนชา และเมเปิลไซรัปแบบออแกนิคครึ่งช้อนชา ลงในน้ำเปล่า 10 ออนซ์ คุณต้องผสมตามอัตราส่วนนี้ ประมาณ 4- 5 ครั้ง เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำที่เพียงพอสำหรับดื่มทั้งวัน [1]
    • จำไว้ว่าผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ไม่แนะนำให้ล้างพิษด้วยวิธีนี้ เพราะเป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและพลังงาน จนอาจก่อให้เกิดผลเสียกับสุขภาพ และยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าวิธีนี้สามารถกำจัดสารพิษออกไปได้จริง [2]
  2. การล้างพิษด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่รุนแรงน้อยกว่าการล้างพิษด้วยน้ำมะนาว เพราะทำแค่เพียงสัปดาห์ละครั้ง และสามารถทานของว่างเบาๆ ที่ดีต่อสุขภาพควบคู่ไปด้วยกันได้ นอกจากแอปเปิลกับขิงแล้ว สูตรนี้ยังรวมเทียนเกล็ดหอย ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารจากธรรมชาติประเภทหนึ่ง เชื่อกันว่ามีความสามารถในการจับของเสียให้รวมกันเป็นก้อน ทำให้ร่างกายสามารถขับของเสียออกไปจากระบบได้ง่ายขึ้น [1]
    • ขั้นตอนการทำน้ำผลไม้ล้างพิษ ให้ผสมน้ำแอปเปิลคั้นสดหรือน้ำแอปเปิลออแกนิค 8 ออนซ์ กับขิงบดและเทียนเกล็ดหอยบด ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน หรือใช้เครื่องผสมด้วยความเร็วต่ำ [1]
    • หลังจากดื่มส่วนผสมนี้แล้ว คุณควรดื่มน้ำมากๆ ตลอดวัน เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
    • วิธีนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าสามารถล้างพิษออกไปได้จริง
  3. การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ดูไม่ค่อยน่าสนุกนักในการกำจัดสารพิษและของเสียที่เกิดขึ้นในร่างกาย เกลือเป็นสารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ สามารถทำความสะอาดทางเดินอาหารส่วนลำไส้เล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันที่จริงแล้วกระบวนการนี้ประหยัดและมีประสิทธิภาพมาก บ่อยครั้งก็จะใช้แทนการการล้างพิษลำไส้ใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า การขับของเสียนี้ทำได้โดยการดื่มน้ำเกลือ 1 แก้ว ในขณะท้องว่าง แล้วรอประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง ขณะที่ของเหลวที่ดื่มเข้าไปทำการขับล้างลำไส้ของคุณ ผลที่ได้ก็คือ การถ่ายท้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า [3]
    • วิธีการทำน้ำเกลือ ให้ละลายเกลือทะเลธรรมชาติไม่ผสมไอโอดีน 2 ช้อนชา ลงในน้ำสะอาดที่อุณหภูมิห้องปริมาณ ¼ แกลลอน ดื่มส่วนผสมที่ได้เป็นสิ่งแรกในตอนเช้า โดยดื่มรวดเดียว อาจใช้หลอดดูดได้ถ้าจำเป็น [3]
    • นอนตะแคงขวาครึ่งชั่วโมง เพื่อช่วยให้น้ำเกลือไหลผ่านเข้าไปในลำไส้เล็กได้ ตอนนี้คุณจะรู้สึกถึงความต้องการขับถ่ายขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้นคุณต้องแน่ใจว่าคุณอยู่ใกล้ห้องน้ำ! [3]
    • ข้อพึงระวัง คือ หลังจากการล้างลำไส้ อาจมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง หรือบางครั้งอาจมีการอาเจียนเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่อาการผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้ควรจะดีขึ้นภายใน 1 หรือ 2 ชั่วโมง [3]
    • การล้างพิษด้วยน้ำเกลือนี้ไม่แนะนำให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารหรือไตทำ ถ้าคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการล้างพิษวิธีนี้ควรปรึกษาแพทย์ของคุณก่อน [4]
  4. การล้างพิษด้วยเครื่องดื่มจากผักใบเขียวปั่น. การดื่มน้ำปั่นนี้เป็นวิธีทางธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพและการทำความสะอาดร่างกายที่ดีมาก โดยไม่ทำให้ร่างกายคุณต้องขาดสารอาหารที่จำเป็นหรือต้องทนกับความหิวโหย ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็แค่ ดื่มเครื่องดื่มเพิ่มพลังงานนี้แทนมื้ออาหารสักมื้อในทุกวัน เพื่อให้สารที่ดีต่อระบบย่อยอาหารในเครื่องดื่มทำงานได้อย่างเต็มที่
    • ใส่คะน้า (เอาก้านออก) 1 ถ้วย กับ แอปเปิลเขียวหั่นหยาบๆ 1 ผล กล้วยสุกงอม 1 ผล ผักชีฝรั่งครึ่งถ้วย ลงในเครื่องปั่น [1]
    • ปั่นจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียว ถ้าจำเป็นผสมน้ำเล็กน้อยเพื่อให้ส่วนผสมไม่เป็นก้อน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

กินและดื่มอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อต้องการล้างพิษร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ สิ่งที่จำเป็นที่สุดที่ต้องทำคือ การเพิ่มปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไป คุณควรตั้งเป้าว่าต้องดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้ว หรือ ½ แกลลอน ในแต่ละวัน คุณสามารถเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวันด้วยการ ดื่มน้ำ 1 แก้วทันทีหลังตื่นนอน และทุกครั้งที่กินของว่าง หรืออาหารทุกมื้อ นอกจากนี้ คุณสามารถกินผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมาก เช่น แตงโม สตรอเบอรี่ แตงกวา และมะเขือเทศ [5]
    • น้ำช่วยชำระล้างสารพิษและสิ่งสกปรกจากระบบร่างกายของคุณ โดยช่วยให้ไตและลำไส้ของคุณทำหน้าที่ของมันได้ตามปกติ คือ การกำจัดของเสีย [6]
    • น้ำยังสามารถช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์มีสุขภาพที่ดี ช่วยป้องกันริ้วรอยและช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส [6]
    • น้ำที่เก็บในท่อหรือขวดทองแดงเป็นน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์ เพราะทองแดงมีคุณสมบัติในการกำจัดแบคทีเรีย [7]
  2. ใยอาหารเป็นธาตุอาหารอันดับหนึ่งที่ช่วยให้ระบบย่อยสามารถทำงานได้ตามปกติ และเป็นตัวทำความสะอาดตามธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมด้วย การกินใยอาหารมากขึ้นช่วยร่างกายกำจัดสารมีพิษ สารกันบูด และของเสียที่มีอันตราย ซึ่งก่อตัวขึ้นในระบบทางเดินอาหารเป็นเวลานาน [1]
    • การเพิ่มปริมาณกากใยที่กินเข้าไปจะช่วยในการทำความสะอาดระบบร่างกายของคุณ โดยกระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายตามปกติ ทำให้คุณรู้สึกมีสุขภาพดี เบาตัว ไม่รู้สึกอึดอัด และเฉื่อยชา [1]
    • แหล่งใยอาหารจากธรรมชาติที่ดีที่สุดได้มาจากข้าว พาสต้า ธัญพืชเต็มเมล็ด (โฮลเกรน) ผลไม้สดและผักต่างๆ (โดยเฉพาะที่ยังมีเปลือกอยู่ ถั่วต่างๆ ถั่วฝักยาว และ อัลมอนด์) [8]
  3. คาเฟอีนและแอลกอฮอล์เป็นสารสองชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดระหว่างกระบวนการล้างพิษ ทั้งกาแฟและแอลกอฮอล์มีสารพิษในตัวเอง ทำให้ตับและไตของคุณอ่อนแอลง ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายของคุณไม่สามารถขับสารพิษออกไปตามธรรมชาติได้ เมื่อร่างกายคุณไม่สามารถขับสารพิษออกไปได้ ก็จะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงตามมา เช่น โรคเบาหวาน หรือ โรคอ้วน [9]
    • ในกระบวนการปลูกกาแฟ มักมีการใช้ยาฆ่าแมลงและย่าฆ่าวัชพืชร่วมด้วย ซึ่งอาจก่อนให้เกิดภาวะขาดน้ำ และไม่มีหลักฐานใดแสดงว่ากาแฟมีผลดีต่อร่างกายเลย ถ้าคุณต้องการคาเฟอีนเพื่อเริ่มต้นในแต่ละวัน ชาเขียวเป็นอีกตัวเลือกที่ดีกว่ามาก มีคาเฟอีนในปริมาณไม่มาก และยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพด้วย [1]
    • แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะจำพวกเหล้าดำ เช่น วิสกี้ เหล้ารัม และไวน์แดง มีสารพิษที่เรียกว่า คอนจีเนอร์ (congener) ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการหมัก นอกจากสารคอนจีเนอร์นี้แล้ว เมื่อแอลกอฮอล์ถูกเผาผลาญในร่างกายยังก่อสารพิษที่ชื่อ แอดซิทอลดีไฮด์ขึ้นด้วย [10]
  4. คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวขัดสี ขนมปัง หรือพาสต้าขัดสี โดยพื้นฐานแล้วมีปริมาณสารอาหาร วิตามินค่อนข้างน้อย และยังไม่ค่อยมีสารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายเท่าไรนัก แม้ว่าจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มในช่วงแรก แต่ก็เป็นความอิ่มที่มาพร้อมกับอันตรายอีกด้าน หลังจากนั้นระดับน้ำตาลในเลือดคุณจะลดลง ซึ่งมีผลร้ายกับระดับพลังงานและสุขภาพโดยรวมของคุณ นอกจากนี้ คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวมักจะมีส่วนผสมของสารกันบูด ซึ่งจะไปสะสมในระบบร่างกายของคุณ และเปลี่ยนเป็นสารพิษในเวลาต่อมา [1]
    • เพื่อแก้ปัญหานี้ คุณควรเปลี่ยนมากินอาหารจำพวกที่ไม่ขัดสีซึ่งมีใยอาหารสูง หรือ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ผักที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบมาก อย่างมันฝรั่ง ขนมปัง ธัญพืช พาสต้า ข้าว ที่ไม่ผ่านการขัดสี และพวกพืชตระกูลถั่ว [11]
    • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมีประโยชน์กับระบบย่อยอาหารกว่ามาก และช่วยกำจัดสารพิษและสารกันบูดที่หลงเหลือจากการกินคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว [1]
  5. แม้ว่าคุณควรจะจำกัดการบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูประหว่างการล้างพิษ คุณควรจะกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ อาหารเหล่านี้คืออาหารที่มีคุณค่ากับร่างกายของคุณมาก และจะช่วยให้ร่างกายคุณสามารถเร่งกระบวนการกำจัดของเสียได้เร็วขึ้น อาหารเหล่านี้ได้แก่ บลูเบอรี่ แอปเปิ้ล ต้นแพงพวย ขึ้นฉ่าย กะหล่ำดาว แครอท มะละกอ ข้าวป่า และอาหาร 4 อย่าง ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด ได้แก่ [9]
    • กระเทียม. กระเทียมมีคุณประโยชน์ที่สำคัญมากมาย ซึ่งประการที่สำคัญที่สุดก็คือ ความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ โดยมีส่วนช่วยในกระบวนการผลิตเอนไซม์ซึ่งช่วยให้ตับสามารถขับสารพิษออกจากร่างกายได้ กระเทียมยังมีสารสองชนิด คือ อัลลิซิน และ ซีลีเนียม ซึ่งช่วยในกระบวนการล้างพิษตับด้วย [12]
    • ผักกาดแดง หรือ บีทรูท (beet root). ผักกกาดสีแดงสด คือ อาหารอีกชนิดที่จัดว่าเป็นซุปเปอร์ฟู้ด ที่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก บีทรูทมีคุณสมบัติในการล้างพิษ ต่อต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ เพราะมีสารเบตาเลนในปริมาณมาก เบตาเลน คือ สารสีที่ทำให้เกิดสีสดๆ ของบีทรูท มีข้อควรระวังอย่างหนึ่ง คือ บีทรูทจะสูญเสียคุณค่าต่อสุขภาพไป เมื่อผ่านการปรุงอาหาร ดังนั้นควรกินแบบสดๆ หรือ ผ่านการปรุงให้น้อยที่สุด [12]
    • คะน้า. คะน้าเป็นผักใบเขียวที่ดีต่อสุขภาพมาก โดยมีหลักฐานรับรองถึงความสามารถในการทำความสะอาดทางเดินอาหารด้วย คะน้า และผักใบเขียวต่างๆ เช่น กะหล่ำ เป็นอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่างเล็กน้อย ซึ่งทำให้พวกมันมีความสามารถในการเปลี่ยนน้ำตาลและสารพิษอื่นๆ ให้มีค่าเป็นกลาง ก่อนที่จะขับออกไปจากร่างกาย ด้วยวิธีนี้ คะน้าช่วยให้เลือดมีค่าเป็นด่างเล็กน้อยตามธรรมชาติของคนเรา [9]
    • มะนาวเหลือง. มะนาวเหลือง และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอื่นๆ เช่น เกรปฟรุท มะนาวเขียว ได้รับการยอมรับว่าเป็นสารล้างพิษจากร่างกายตามธรรมชาติที่ดีที่สุด นี่เองเป็นเหตุผลว่าทำไมมะนาวจึงเป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องดื่มล้างพิษ หรือสูตรขับของเสียหลายสูตร กรดซิตริกในมะนาวมีความสามารถในการละลายสารพิษที่ก่อตัวขึ้นในร่างกาย และปล่อยให้ขับออกไปทางปัสสาวะ ลองบีบมะนาวลงในน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว แล้วดื่มเป็นอย่างแรกในตอนเช้า หรือจะกินเกรปฟรุทเป็นอาหารเช้าก็ได้เช่นกัน [12]
  6. การดื่มชาสมุนไพรเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มปริมาณของเหลวที่คุณดื่มเข้าไป ขณะเดียวกันยังได้ประโยชน์ด้านการล้างพิษจากธรรมชาติของสมุนไพรและรากไม้ต่างๆ ที่ได้จากธรรมชาติด้วย ตัวอย่างชาที่ให้ประโยชน์สูงสุด ได้แก่
    • ชาแดนดีไลออน: ชาแดนดีไลออนช่วยล้างร่างกายด้วยการกระตุ้นถุงน้ำดี ไต ตับ และช่วยลดปริมาณการกับเก็บน้ำทำให้ร่างกายของคุณขับถ่ายของเสียออกไปได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าชาแดนดีไลออนมีผลในการทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ชาแดนดีไลออนสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพทั่วไป หรือคุณสามารถต้มดอกแดนดีไลออนที่พึ่งเก็บมาสดๆ เพื่อดื่มเองได้ [9]
    • ชาจากชะเอมเทศ. ชะเอมเทศมีประโยชน์กับสุขภาพในหลายด้าน แต่ในแง่ของการทำความสะอาดระบบภายในจะเป็นการช่วยส่งเสริมการทำงานของตับ และเป็นยาระบายอ่อนๆ กำจัดของเสียที่สะสมในลำไส้ออกไป สามารถหาซื้อชาชะเอมเทศได้ที่ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ หรือคุณอาจต้มดื่มเอง โดยใช้รากชะเอมเทศ ½ ออนซ์ ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยตวง ชาชะเอมเทศอาจก่อให้เกิดผลเสียในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้วิธีนี้ [9]
    • ชาโกโบ (Burdock). รากโกโบถูกใช้ในการรักษาแบบธรรมชาติบำบัดมาหลายศตวรรษแล้ว โดยเชื่อกันว่า เป็นสารฟอกเลือดตามธรรมชาติ ช่วยล้างพิษและขจัดสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นในกระแสเลือด นอนจากนี้ยังช่วยล้างของเสียต่างๆ ออกไปจากระบบทางเดินอาหาร และกระตุ้นการผลิตปัสสาวะ รวมถึงหากดื่มชาโกโบนี้หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก จะยังช่วยป้องกันและซ่อมแซมตับได้ด้วย คุณสามารถหาซื้อชาโกโบหรือต้นรากโกโบในปริมาณน้อยดื่มก็ได้
  7. เลือกซื้อผลไม้และผักที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี รวมถึงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมที่ปลอดสารเคมี แม้ว่าผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์จะมีราคาแพงกว่า แต่ก็ปราศจากยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช และมีการใช้ยาเร่งการเจริญเติบโตรวมถึงยาปฏิชีวนะในการผลิตน้อยมาก [13]
    • การเลือกบริโภคเฉพาะอาหารปลอดสารเคมี เป็นการจำกัดไม่ให้ร่างกายได้รับสารเคมีอันตราย เช่น ยาฆ่าแมลง และสารอื่นๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตอาหารที่ไม่ใช่อาหารปลอดสารเคมี
    • จำไว้ว่า นี่เป็นเพียงการป้องกันตัวคุณจากการรับสารพิษบางอย่างเท่านั้น อาหารจากเกษตรอินทรีย์ที่ผ่านการแปรรูปก็อาจมีอันตราย หรือมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ล้างพิษด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่คุณทำเพื่อนำสารพิษเข้าไปในร่างกาย นอกจากนิโคตินแล้ว บุหรี่ยี่ห้อต่างๆ ส่วนมากยังมีสารเคมีที่เป็นพิษอื่นๆ อีกมากกว่า 4000 ชนิด แม้ว่าคุณจะเลิกสูบบุหรี่ไปแล้ว สารพิษเหล่านี้ก็จะยังคงหลงเหลืออยู่ในร่างกายคุณไปอีกชั่วระยะหนึ่ง ด้วยเหตุผลนี้เอง การเลิกสูบบุหรี่จึงเป็นสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อคุณพยายามล้างพิษจากร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ
    • แม้ว่าร่างกายคุณจะขับสารพิษเหล่านี้ออกไปได้เอง แต่คุณสามารถดื่มน้ำมากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ มีกากใยสูง และออกกำลังกายเพื่อช่วยเร่งกระบวนการนี้ด้วย
  2. นี่เป็นหนึ่งในคำแนะนำที่น่ายินดี การนวดที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยกำจัดสารพิษสะสมในร่างกายออกไปได้จริง โดยจะต้องนวดเน้นบริเวณจุดกดในกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นบริเวณที่สารพิษมักจะไปจับตัวสะสมอยู่ การกระตุ้นที่ลึกจะช่วยให้กล้ามเนื้อนั้นปลดปล่อยสารพิษออกมา ทำให้สามารถขจัดออกไปจากระบบได้โดยกระบวนการทางธรรมชาติ [1]
    • คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้รับการนวดจากนักนวดบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญในเทคนิคการนวดเพื่อกำจัดสารพิษ
    • อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ หลังการนวด เพื่อช่วยเร่งกระบวนการกำจัดของเสีย
  3. การฝังเข็มเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาแบบองค์รวม ซึ่งทำงานโดยการสอดเข็มขนาดเล็กมากๆ ผ่านผิวหนังเข้าไปที่จุดกดทั่วร่างกาย ซึ่งช่วยล้างพิษร่างกายโดยใช้เข็มจิ้มไปที่จุดกดที่มีพิษสะสมอยู่ สารพิษจะถูกขับออกมา ก่อนที่จะถูกขจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติ [1]
    • แม้ว่าอาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่การฝังเข็มเป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายมาก และหลายคนพบว่านี่เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลมากกับหลายๆ โรค ตั้งแต่โรคไซนัส ไปจนถึงปัญหาการมีบุตรยาก [1]
    • คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้รับการักษาจากแพทย์ฝังเข็มที่ได้รับใบอนุญาต เพราะมันจะอันตรายมากถ้าทำไม่ถูกวิธี
  4. วิธีนี้อาจทำได้ยาก โดยเฉพาะในยุคสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศ และการใช้สารเคมีที่มากจนเกินไป แต่เมื่อคุณมีโอกาสควรพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ หลีกเลี่ยงการหายใจเอาไอเสียจากในเมืองและควันจากโรงงานเข้าไป ลองเดินทางไปชนบทหรือชายหาดในช่วงวันหยุด เพื่อเอาควันเสียจากเมืองออกไปจากปอดของคุณบ้าง [1]
    • ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลจากการสูดดมควันบุหรี่ของผู้อื่น และพยายามใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในการทำความสะอาดบ้านของคุณ เพื่อเหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีโดยไม่จำเป็น
    • ออกไปเดินเล่นที่สวนหรือริมทะเลสาบ จะช่วยให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงและช่วยให้ร่างกายและสมองทำงานได้ดีขึ้น
  5. การออกกำลังกายเป็นประจำเป็นวิธีทำความสะอาดร่างกายที่ดีที่สุด และได้สุขภาพดีที่สุด เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายได้ขยับและทำงานอย่างเต็มที่ ช่วยให้คุณลดน้ำหนักและกำจัดสารพิษที่จับตัวในเซลล์ไขมันเป็นเวลาหลายปี สารพิษยังสามารถถูกขับออกมาทางเหงื่อ เป็นการล้างพิษร่างกายที่เป็นธรรมชาติที่สุดที่เป็นไปได้ [1]
    • การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนเลือดและการย่อยอาหาร ซึ่งเป็นการทำงานของร่างกายที่มีส่วนสำคัญมากในการล้างพิษร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติ [1]
    • ลองจัดตารางการออกกำลังกายให้มีตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับเข้มข้น 30 นาที 4 – 5 ครั้ง ลงในตารางกิจกรรมรายสัปดาห์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง ว่ายน้ำ เต้นรำ ปีนเขา แล้วคุณจะรู้สึกถึงสุขภาพที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้นในเวลาไม่นาน [1]
  6. แม้ว่าการนอนหลับจะไม่ได้มีผลโดยตรงกับการทำความสะอาดร่างกาย แต่การนอนหลับก็จำเป็นในการรักษาการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี ร่างกายของคุณต้องการการนอนหลับ เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
    • นอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชม. ต่อคืน ตามที่แพทย์แนะนำ จะช่วยให้ร่างกายของคุณได้มีเวลาเตรียมความพร้อมสำหรับวันต่อไป ร่างกายของคุณจะมีพลังงานมากขึ้นสำหรับการออกกำลังกายและสิ่งต่างๆ ที่ช่วยทำให้คุณมีสุขภาพดี
    • การนอนหลับยังมีความสำคัญกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายด้วย หากนอนหลับไม่เพียงพอร่างกายจะไม่สามารถรับมือกับไวรัส แบคทีเรีย หรือกระทั่งสารพิษต่างๆ ที่บุกรุกเข้ามาในร่างกาย [14]
    • ผู้ที่ได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอมีความเสี่ยงมากกว่าที่จะเกิดโรคหัวใจ โรคไต โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคอ้วน [14]
  7. ความเครียดจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ เพราะความเครียดจะไปลดปริมาณการผลิตฮอร์โมนที่ดี และขัดขวางกระบวนการทำงานต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากร่างกายไม่ได้รับฮอร์โมนที่ดีเหล่านี้ ก็จะเก็บสารพิษต่างๆ ไว้ในร่างกาย ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยและหดหู่ ส่งผลให้น้ำหนักขึ้น และเป็นทางเลือกการใช้ชีวิตในรูปแบบที่ทำร้ายสุขภาพ หากคุณสามารถควบคุมให้ระดับความเครียดน้อยที่สุดจะเป็นผลดีต่อระบบการสร้างฮอร์โมนดีของร่างกาย ทำให้ร่างกายของคุณไม่เก็บสารพิษไว้ คุณก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีความสุขมากขึ้น [1]
    • โยคะและการทำสมาธิเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่ชีวิตวุ่นวายและต้องการลดความเครียดลง การมุ่งความสนใจไปที่ลมหายใจเพียงอย่างเดียว จะช่วยให้คุณสามารถขจัดความคิดวุ่นวายในหัว และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ร่างกายที่ดีขึ้น
  8. การอดอาหารเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม แม้ว่าจะสุดโต่งไปนิด แต่ก็เป็นวิธีการล้างพิษโดยการงดหรือจำกัดอาหารที่กินเข้าไปให้น้อยมาก ขณะที่ทำการล้างระบบภายในของคุณด้วยของเหลวในปริมาณมาก โดยมาจากความคิดที่ว่า ร่างกายของคุณจะกลับมารู้สึกสะอาด สดชื่นเหมือนใหม่ได้อีกครั้ง หลังจากที่ของเสียทุกอย่างถูกขับออกไปจากระบบหมดแล้ว [15]
    • ผู้ที่เลือกวิธีอดอาหารบางคนอาจไม่กินอาหารเลยเป็นเวลาถึง หนึ่ง หรือสองสัปดาห์ แต่ถ้าคุณไม่เคยอดอาหารมาก่อน คุณควรเริ่มต้นเพียงแค่ 1 หรือ 2 วันเท่านั้น เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ [15]
    • แม้ว่าจะมีผู้สนับสนุนวิธีการอดอาหารบางคนบอกว่า ควรดื่มแต่น้ำเปล่าขณะที่ทำการอดอาหาร แต่บางคนก็เชื่อว่า น้ำผลไม้เป็นวิธีที่ที่น้ำตาลจากธรรมชาติจะช่วยในการชำระล้างระบบได้เร็วกว่า [15]
    • คุณควรรู้ว่า ยังไม่มีข้อสรุปรับรองว่าการอดอาหารมีผลกับการชำระล้างระบบของคุณอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ และแพทย์หลายท่านก็เชื่อว่าการอดอาหารที่มากเกินไปจะมีผลเสียมากกว่าผลดี [15]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ลองทำสมาธิเพื่อผ่อนคลายความเครียด
  • ใช้พิรามิดอาหารเพื่อกำหนดโภชนาการที่ดี
โฆษณา

คำเตือน

  • ปรึกษาแพทย์ของคุณทุกครั้ง ก่อนที่จะทำตามแผนการอดอาหารอย่างสุดโต่ง
  • อย่า ทำการล้างพิษร่างกายเพื่อลดน้ำหนัก เพราะคุณจะลดได้แค่น้ำหนักจากน้ำ ซึ่งก็จะกลับขึ้นมาเมื่อคุณกลับมากินทุกอย่างตามปกติ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,650 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา