ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ใคร ๆ ก็อยากมีผิวขาวกระจ่างใสดูสุขภาพดีกว่าเดิมทั้งนั้น การดูแลผิวอย่างเหมาะสมในแต่ละวันจะช่วยให้ผิวของคุณดูขาวใสและกระชับ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวที่คิดค้นมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะและได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์ก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไปเช่นกัน แต่ถ้าคุณยังอยากรู้วิธีการทำให้ผิวขาวใสอื่น ๆ อีกก็ลองอ่านวิธีการดูแลผิวแบบพื้นบ้านด้วยวิธีธรรมชาติด้านล่างนี้ดู แต่ยังไงก็ระมัดระวังด้วยล่ะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ดูแลผิวในแต่ละวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แสงแดดอาจนำหายนะมากมายมาสู่ผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นกระ จุดด่างดำ หรือกระทั่งอาจทำให้ผิวไหม้หรือเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ถ้าคุณอยากมีผิวขาวใส คุณต้องดูแลผิวอย่างเหมาะสมด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เข้าไว้
    • เมื่อผิวของคุณถูกแสง UVA และ UVB ร่างกายจะสร้างเมลานินจนทำให้ผิวของคุณคล้ำขึ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่จะทำให้ผิวขาวใสก็คือการทาครีมกันแดดทุกวันเมื่อต้องออกแดด ถึงวันนั้นจะไม่ได้ร้อนจัดหรือมีแดดจ้าก็ตาม
    • คุณยังสามารถปกป้องผิวได้ด้วยการใส่เสื้อผ้าแขนยาวเนื้อบางและสวมหมวกและใส่แว่นกันแดดเมื่อต้องออกแดดเป็นเวลานาน
  2. คุณต้องดูแลผิวให้ครบทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก็คือการทำความสะอาดผิวหน้า ขัดหน้า และบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นนั่นเอง
    • ล้างหน้าให้สะอาดหมดจดวันละสองครั้งในตอนเช้าและก่อนเข้านอนเพื่อกำจัดฝุ่นและน้ำมันออกจากใบหน้า การล้างหน้าถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่นำไปสู่การมีผิวที่สุขภาพดีและกระจ่างใสเลยนะ
    • บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ ถ้าคุณมีผิวมันและมีโอกาสเป็นสิวง่าย คุณต้องใช้โลชั่นเนื้อเบา แต่ถ้าคุณมีผิวแห้ง คุณก็ต้องเลือกครีมเนื้อหนาหน่อย
  3. การขัดผิวเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะช่วยกำจัดเซลล์หนังกำพร้าสีคล้ำออกจากใบหน้าและเผยให้เห็นผิวหน้าผลัดใหม่ที่กระจ่างใสเบื้องล่าง คุณอาจขัดผิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอณูเล็กๆ ช่วยขัดผิวหรืออาจจะถูหน้าเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูสะอาดชุ่มน้ำก็ได้
  4. ดื่มน้ำให้เยอะขึ้นและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ. การดื่มน้ำและรับประทานอาหารดีๆ อาจไม่ทำให้ผิวคุณกระจ่างใสในทันที แต่จะช่วยในการผลัดผิวได้
    • เมื่อผิวหน้าฟื้นฟูตัวเอง ผิวหนังเก่าที่กระดำกระด่างจะจางลงเผยให้เห็นผิวหน้าใหม่ที่กระจ่างใสและดูสุขภาพดีกว่าเดิม การดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยเร่งการผลัดผิว ดังนั้นคุณควรดื่มน้ำประมาณหกถึงแปดแก้วต่อวัน
    • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ยังช่วยให้ผิวหน้าคุณดูสดชื่นและสุขภาพดีเพราะคุณจะได้รับวิตามินและสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิว พยายามรับประทานผักและผลไม้สดให้มากที่สุด โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมวิตามินเอ ซี และอี และหลีกเลี่ยงไม่รับประทานอาหารแปรรูปที่มีแคลอรี่สูง
    • คุณอาจลองรับประทานวิตามินเสริมที่ประกอบด้วยสารสกัดจากเมล็ดองุ่นซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือวิตามินที่ประกอบด้วยเมล็ดป่านหรือน้ำมันตับปลาที่ให้โอเมก้า-3 ซึ่งช่วยบำรุงผม ผิวและเล็บดูก็ได้
  5. ใครๆ ก็รู้ว่าบุหรี่นั้นไม่ดีต่อสุขภาพ แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าบุหรี่อาจทำลายผิวได้ การสูบบุหรี่จะทำให้ผิวแก่ก่อนวัย ทำให้เกิดรอยย่นและริ้วรอยและยังทำให้เลือดไม่ไหลเวียนไปที่ใบหน้าจนทำให้หน้าซีดหรือเทาอีกด้วยนะ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ผลิตภัณฑ์และดูแลผิวหน้าตามวิธีที่ได้รับการรับรอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถเลือกซื้อครีมเพื่อผิวขาวได้ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง เจ้าครีมพวกนี้ล้วนช่วยลดเมลานิน (เม็ดสีที่ทำให้ผิวแทนและมีรอยด่างดำจากแดด) ในผิวได้
    • มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยทำให้ผิวขาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ กรดโคจิก กรดไกลโคลิก กรดอัลฟาไฮดรอกซี่ วิตามินซี หรือ อาร์บูติน
    • ผลิตภัณฑ์เหล่านี้โดยทั่วไปแล้วมีความปลอดภัย แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมอ่านวิธีการใช้บนฉลากซะก่อนและหยุดใช้ทันทีที่ผิวแสดงอาการอะไรไม่ดีออกมา
    • อย่าใช้ครีมเพื่อผิวขาวที่มีส่วนผสมหลักเป็นปรอทเด็ดขาด ตอนนี้ครีมทาผิวที่ผสมปรอทนั้นถูกห้ามใช้ในสหรัฐฯ แต่ก็ยังมีวางขายอยู่ในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
  2. ครีมเรตินอยด์นั้นทำมาจากส่วนประกอบที่เป็นกรดของวิตามินเอซึ่งช่วยขัดผิวและเร่งการผลัดของเซลล์ผิวจนทำให้ผิวขาวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
    • ครีมเรตินอยด์ไม่เพียงแต่ทำให้ผิวขาวขึ้นและช่วยปรับสีผิวให้เสมอกันแต่ยังช่วยบรรเทารอยย่นและริ้วรอยและยังทำให้ผิวเต่งตึงและดูสดใสเยาว์วัยขึ้น นอกจากนี้ เรตินอยด์ยังช่วยบรรเทาสิวได้อีกด้วย
    • ครีมเรตินอยด์อาจทำให้ผิวแห้ง แดง และหลุดลอกเป็นแผ่นในช่วงแรก แต่อาการเหล่านี้จะบรรเทาลงเมื่อผิวปรับตัวเข้ากับผลิตภัณฑ์ได้แล้ว นอกจากนี้ เรตินอยด์ยังทำให้ผิวคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้น คุณควรทาเฉพาะตอนกลางคืนและไม่ลืมทาครีมกันแดดในเวลากลางวันด้วย
    • คุณจะซื้อเรตินอยด์ได้ก็ต่อเมื่อมีใบสั่งยา ดังนั้น คุณควรนัดแพทย์ผิวหนังหากสนใจจะดูแลผิวหน้าด้วยตัวยานี้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหาซื้อเรตินอลซึ่งเป็นเรตินอยด์แบบที่ออกฤทธิ์เบากว่าได้ตามเคาน์เตอร์ขายยาทั่วไป [1]
  3. การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีจะทำให้ผิวขาวอย่างได้ผลมาก เพราะขั้นตอนนี้จะไปเร่งการผลัดของเซลล์ผิวชั้นบนซึ่งมีสีเข้มจัดหรือมีสีไม่สม่ำเสมอออกและเผยให้เห็นผิวที่กระจ่างใสกว่าเบื้องล่าง
    • การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีคือการทาสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด (เช่น กรดอัลฟาไฮดร็อกซี่) ทิ้งไว้บนผิวประมาณห้าถึงสิบนาที ในขณะที่เซลล์ผิวกำลังผลัดตัวอาจเกิดอาการชา แสบหรือรู้สึกว่าผิวไหม้และผิวอาจจะแดงหรือบวมไปประมาณวันสองวัน
    • คุณควรเข้ารับการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมีหลายครั้ง (โดยเว้นระยะไปประมาณสองถึงสี่สัปดาห์) โดยคุณควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงที่ผลัดเซลล์ผิวและทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเพราะผิวของคุณจะบอบบางเป็นพิเศษในช่วงนี้ [2]
  4. การทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางจนไม่สามารถผลัดเซลล์ผิวหรือทาครีมที่มีฤทธิ์เป็นกรดได้ โดยขั้นตอนนี้จะช่วยขัดผิวและทำให้ผิวหน้าสะอาดปราศจากชั้นผิวเก่าที่หมองคล้ำและเผยให้เห็นผิวที่สว่างกระจ่างใสขึ้น
    • ในขณะที่ทำไมโครเดอร์มาเบรชั่น ผิวของคุณจะถูกเครื่องดูดวงล้อที่มีหมุดเพชรตรงปลายขัดหน้า ผิวหนังที่ตายแล้วจะถูกขัดออกและดูดขึ้นไปในเครื่องดูด
    • การดูแลผิวขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณสิบห้าถึงยี่สิบนาที แต่คุณอาจต้องทำซ้ำหกถึงสิบสองครั้งกว่าจะเห็นผล
    • บางคนอาจมีอาการผิวแดงหรือแห้งหลังจากทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นแต่โดยปกติแล้วการดูแลผิวด้วยวิธีนี้จะให้ผลข้างเคียงน้อยกว่าวิธีอื่นๆ [2]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้วิธีการพื้นบ้านที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กรดซิตริกในผลเลมอนประกอบด้วยสารฟอกขาวตามธรรมชาติซึ่งอาจช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นได้ถ้าใช้อย่างระมัดระวัง แต่คุณต้องหลีกเลี่ยงไม่ออกไปเจอแสงแดดเด็ดขาดเมื่อมีน้ำของผลไม้ตระกูลส้มอยู่บนหน้า ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องเจ็บตัวจากโรคผื่นผิวหนังอักเสบระคายเคืองได้ [3] To use lemon to safely:
    • คั้นน้ำเลมอนครึ่งลูกและเจือจางความเป็นกรดออกครึ่งนึงด้วยน้ำเปล่า จุ่มสำลีก้อนลงไปและทาน้ำเลมอนลงบนหน้าหรือบริเวณที่คุณอยากให้ขาวขึ้น ทิ้งค้างไว้ประมาณสิบห้าถึงยี่สิบนาที อย่าออกไปข้างนอกระหว่างนี้เพราะน้ำเลมอนจะทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดเป็นพิเศษ
    • ล้างหน้าให้สะอาดหลังจากเสร็จขั้นตอน จากนั้นทามอยซ์เจอไรเซอร์เพราะน้ำเลมอนอาจทำให้ผิวคุณแห้งได้ ทำขั้นตอนนี้ซ้ำสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ไม่ควรทำเกินกว่านี้ [4]
  2. ขมิ้นเป็นเครื่องเทศของอินเดียที่ใช้เพื่อทำให้ผิวขาวขึ้นมานับพันปี แม้ว่าจะยังไม่มีผลการศึกษาแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าขมิ้นจะไปยับยั้งการผลิตเมลานินและป้องกันไม่ให้ผิวหมองคล้ำ
    • ผสมขมิ้นกับน้ำมันมะกอกและผงชิคพีเพื่อให้จับตัวกันเป็นเนื้อเหลว จากนั้นทาครีมลงบนผิวเบาๆ โดยหมุนเป็นวงกลมเพื่อช่วยขัดผิว
    • ทาครีมขมิ้นทิ้งไว้บนผิวประมาณสิบห้าถึงยี่สิบนาทีแล้วค่อยล้างออก ผิวของคุณอาจมีสีเหลืองจางๆ จากขมิ้นแต่จะหายไปเองในไม่ช้า
    • ทำขั้นตอนนี้ซ้ำหนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ส่วนขมิ้นที่เหลือก็เอาไปทำอาหารอินเดียกินซะเลยไง! [5]
  3. เชื่อกันว่ามันฝรั่งดิบมีฤทธิ์ในการฟอกผิวขาวอ่อนๆ เพราะมันฝรั่งประกอบด้วยวิตามินซีซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการทำให้ผิวขาวในครีมบำรุงผิวที่วางขายกันตามเคาน์เตอร์ โดยวิธีการดูแลผิวด้วยมันฝรั่งดิบมีดังนี้ :
    • หั่นมันฝรั่งดิบเป็นสองส่วน จากนั้นแปะด้านที่เป็นเนื้อลงบนผิว ปล่อยให้น้ำจากมันฝรั่งค้างไว้บนผิวราวสิบห้าถึงยี่สิบนาทีแล้วจึงล้างออก
    • คุณต้องทำขั้นตอนนี้ซ้ำหลายครั้งในหนึ่งสัปดาห์กว่าจะเห็นผล โดยคุณอาจใช้มะเขือเทศหรือแตงกวาแทนมันฝรั่งได้เพราะผักทั้งสองอย่างก็มีวิตามินสูงเช่นเดียวกัน [6]
  4. ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอันยอดเยี่ยมที่จะช่วยลบรอยแดงและทำให้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอจางลง นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นซึ่งช่วยในการฟื้นฟูของผิวอีกด้วย
    • ปอกเปลือกว่านหางจระเข้และถูด้านเนื้อคล้ายเจลลงบนผิว
    • ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่บอบบางต่อผิวดังนั้นไม่จำเป็นต้องล้างออก แต่ถ้าคุณรู้สึกเหนอะหนะ จะล้างออกก็ได้ [7]
  5. ว่ากันว่าน้ำมะพร้าวนั้นช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างได้ผลและช่วยให้ผิวนุ่มและเรียบเนียน
    • ใช้สำลีจุ่มน้ำมะพร้าวและทาให้ทั่วบริเวณผิวที่คุณอยากให้ขาวขึ้น น้ำมะพร้าวนั้นอ่อนโยนต่อผิวเพราะเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติดังนั้นคุณไม่ต้องล้างออกก็ได้
    • คุณอาจจะดื่มน้ำมะพร้าวด้วยก็ได้เพื่อเพิ่มระดับน้ำและแร่ธาตุที่สำคัญต่างๆ ในร่างกาย
  6. แพทย์ผิวหนังบางท่านได้แสดงความเห็นว่ามะละกอสามารถช่วยทำให้ผิวกระชับ กระจ่างใส และช่วยทำให้ผิวดูสดชื่นกว่าเดิมได้ มะละกอนั้นเต็มไปด้วยวิตามินเอ อีและซี และยังอุดมไปด้วยกรดอัลฟาไฮดรอกซี่ (AHA) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่อยู่ในครีมชะลอวัยต่างๆ นั่นเอง [8] การรับประทานมะละกอนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง แต่ถ้าคุณอยากนำมะละกอมาบำรุงผิว ก็ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ดูสิ:
    • ตัดมะละกอครึ่งซีกจากนั้นเลาะเมล็ดออก ปั่นมะละกอกับน้ำครึ่งถ้วยจนกระทั่งกลายเป็นเนื้อเหลว นำมะละกอปั่นใส่ภาชนะขนาดเล็กแล้วนำไปแช่ตู้เย็นแล้วนำมาพอกหน้าสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  7. ไฮโดรควิโนนเป็นครีมที่ช่วยให้ผิวขาวอย่างได้ผลและสามารถใช้ได้กับผิวหลายส่วนหรือจะใช้เพื่อทำให้รอยด่างดำจากแดดหรือขี้แมลงวันจางลงก็ได้ ถึงไฮโดรควิโนนจะได้รับการรับรองจากองค์การเภสัชกรรมของสหรัฐอเมริกา แต่ตัวยานี้ถูกห้ามใช้ในหลายประเทศในยุโรปและเอเชียเนื่องจากมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าส่วนผสมอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ นอกจากนี้ ไฮโดรควิโนนยังอาจทำให้สีผิวผิดเพี้ยนอย่างถาวร ดังนั้น คุณต้องใช้ตัวยานี้อย่างระมัดระวัง
    • ปรึกษาเรื่องวิธีการดูแลผิวกับแพทย์หรือแพทย์ผิวหนังก่อน คุณอาจหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีไฮโดรควิโนน 2% ได้ตามเคาน์เตอร์ขายยา ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นกว่า (จนถึง 4%) ต้องมีใบสั่งยาถึงจะซื้อได้ [9]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผสมน้ำเลมอนกับนมและนำมาทาผิวเพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใสใน 4 เดือน
  • ถ้าคุณเป็นสิว อย่าทาน้ำเลมอนลงบนหน้าไม่อย่างนั้นหน้าของคุณอาจเกิดอาการระคายเคืองหรือไหม้ได้ ถ้าจู่ๆ หน้าเกิดไหม้ขึ้นมา รีบล้างหน้าด้วยน้ำเย็นซะ
  • ระมัดระวังขณะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวเพราะบางอย่างก็ประกอบไปด้วยสารเคมีที่เป็นอันตราย
  • อย่าถูหน้าแรงๆ ด้วยสบู่เพราะอาจทำร้ายผิวหน้าและทำให้หน้าแห้งได้ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับผิวซึ่งสามารถหาได้ตามร้านขายยาจะดีกว่านะ
  • ใช้สบู่ล้างหน้าออแกนิกที่ทำจากมะละกอ เช่น สบู่มะละกอยี่ห้อลิกาสจะช่วยให้คุณขาวใสขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำ ถูฟองให้ทั่วผิวประมาณ 3 นาที ถ้าผิวของคุณแห้งหลังล้างหน้าก็ทาโลชั่นหลังจากอาบน้ำเสร็จซะนะ
  • ผสมขมิ้นกับน้ำมะนาวและทาให้ทั่วหน้า ทิ้งจนกระทั่งแห้งติดหน้าแล้วล้างออก
  • การขัดผิวสัปดาห์ละหนึ่งครั้งจะขจัดเซลล์ผิวหนังกำพร้าและทำให้ผิวคุณกระจ่างใสขึ้นได้ ผสมโอ๊ตมีลและน้ำตาลทรายแดงอย่างละสองช้อนโต๊ะกับนม ¼ ถ้วย คนให้เข้ากันจนกลายเป็นเนื้อเหลวจากนั้นนำมาถูใบหน้าเบาๆ ล้างออกและตามด้วยการทามอยซ์เจอไรเซอร์
  • ลงทุนซื้อครีมขัดผิวดี ๆ เพื่อขจัดเซลล์หนังกำพร้าหรือจะทำเองด้วยการผสมน้ำผึ้ง มะนาวและน้ำตาลเข้าด้วยกันก็ได้ นอกจากขัดผิวได้ดีแล้วยังรับประทานได้อีกด้วยนะ!
  • ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าทุกเช้าและก่อนเข้านอนไม่อย่างนั้นหน้าจะแห้งได้
  • ถูโลชั่นจากธรรมชาติ เช่น โลชั่นยี่ห้ออาวีโนที่ประกอบด้วยโอ๊ตมีลเหลวๆ ให้ทั่วร่างกาย ถูโอ๊ตมีลหรือน้ำเลมอนให้ทั่วผิวทุกๆ สามวันต่อกันซักสองอาทิตย์แล้วจะเห็นผลเอง
  • ผสมผงเปลือกส้มกับนมและน้ำผึ้ง
  • ผสมน้ำผึ้งและน้ำเลมอนเข้าด้วยกันและนำมาทาหน้า ปล่อยให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
  • ผิวจะผลัดตัวเองทุกๆ สองถึงสามเดือน ดังนั้นถ้าคุณอดใจรอ ผิวชั้นใหม่ก็จะผลัดมาแทนที่ผิวหนังเก่าและสีผิวของคุณก็จะกลับมาเท่ากันเหมือนเดิม
  • ครีมพอกหน้าจากขมิ้นสามารถช่วยรักษาสิวและทำให้รอยด่างดำจางลงได้
  • การล้างหน้าก่อนเข้านอนและดื่มน้ำให้เยอะขึ้นจะช่วยให้ผิวคุณกระจ่างใสขึ้นได้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใช้ครีมเพื่อผิวขาวเว้นแต่จะได้รับการอนุญาตจากแพทย์ ครีมพวกนี้มักประกอบด้วยสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและอาจจะก่อให้เกิดมะเร็งภายหลังได้
  • ระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยไฮโดรควิโนนเพราะอาจก่อให้เกิดมะเร็งและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้
  • ถ้าคุณรู้สึกระคายเคืองผิวเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า รีบหยุดใช้ทันที คุณต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวคุณภาพดีเท่านั้น
  • ครีมเพื่อผิวขาวอาจทำลายผิวหน้าได้หากทิ้งไว้นานเกินไป ดังนั้น คุณต้องใช้อย่างมีวิจารณญาณและทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,506 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา