ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สำหรับหลายๆ คน บางทีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยาก แต่ถึงจะเป็นเป็นอย่างนั้น มันก็คุ้มค่าที่เราจะระลึกไว้เสมอว่าชีวิตย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในขณะที่เราดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ เราอาจจะตกงาน สูญเสียคนที่เรารัก ย้ายที่อยู่อย่างกะทันหัน หรือมีสิ่งอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตเกิดขึ้นกับตัวเรา แต่จริงๆ ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตเราอยู่แล้ว เราอาจจะไม่ชอบวิถีที่สังคมมันเปลี่ยนไป หรือไม่ชอบที่ผู้คนรอบๆ ตัวเรานั้นเปลี่ยนไป แต่เราก็ต้องมีความสามารถที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นด้วยวิถีที่เป็นเชิงบวก โชคดีที่ว่ายังมีหลายทางให้เราได้สำรวจความเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะรับมือกับมันและยอมรับมันให้ได้ในที่สุด

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

รับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยอมรับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อความเปลี่ยนแปลง. ความเปลี่ยนแปลงแบบไหนก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกทุกข์ร้อนใจ ให้คุณยอมรับความรู้สึกนั้นให้ได้ เพราะมันไม่มีทางที่คุณจะผ่านมันไปได้ ถ้าคุณมองข้ามมันและไม่หาทางจัดการกับมันก่อน หากคุณยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้ การที่คุณจะเติบโตและดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าก็จะเป็นสิ่งที่ง่ายกว่าเดิมเยอะ
    • แสดงความรู้สึกของตัวเองให้คนอื่นรู้ แต่ว่าต้องทำด้วยวิธีที่สุภาพ
    • หากคนที่คุณรักเพิ่งเสียไป ให้คุณปลดปล่อยความเสียใจออกมา
    • หากคุณเพิ่งจะตกงาน ให้คุณปล่อยให้ตัวเองได้รู้สึกโกรธและ/หรือผิดหวังบ้าง
    • หากผู้คนรอบๆ ตัวคุณเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ ให้คุณบอกกับเพื่อนๆ คุณไปเลย [1]
  2. ทำความเข้าใจว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว. ก่อนที่จะถึงเวลาให้ตัวคุณเองได้ยอมรับกับความเปลี่ยนแปลง ให้คุณเรียนรู้เอาไว้ว่าการที่สิ่งเก่าๆ หายไปและมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาแทนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ประวัติศาสตร์ทุกอย่างบนโลกใบนี้และประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั้นถูกกำหนดด้วยการเปลี่ยนแปลง วิวัฒนาการ และความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและการดำรงอยู่ และการเปลี่ยนแปลงก็มักจะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ซึ่งในบางครั้งก็เป็นโอกาสที่ดีเลยล่ะ! [2]
  3. การที่คุณรู้สึกสับสนกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและปล่อยให้มันมาควบคุมอารมณ์ของคุณนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ แต่ว่าคุณสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นไปในทางบวกมากกว่าเดิมได้ หากคุณใช้เวลาพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยเหตุผล โดยคุณอาจจะใช้เทคนิคต่อไปนี้
    • ตีกรอบสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง ถามตัวเองด้วยคำถามบางคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะถามตัวเองว่า “ทำไมเราถึงหัวเสียและต้องมากังวลกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วย?” แล้วถามต่ออีกว่า “เราคิดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลทำให้มีอะไรเกิดขึ้นตามมาบ้าง?” และถามต่อไปว่า “ความคิดและความเชื่อพวกนี้มันถูกต้องและมีเหตุผลจริงๆ หรือเปล่า?” การถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถพิจารณาได้ว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ควรจะต้องเอามากังวลจริงๆ หรือเปล่า [3]
    • ให้คุณทำลิสต์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณรู้สึกยินดีในชีวิต เพราะในบรรดาสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่นๆ การฝึกความรู้สึกยินดีในชีวิตนั้นสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้น หลับดีขึ้น และอาจจะทำให้คุณเอาชนะความช้ำใจของตัวเองได้ การฝึกให้ตัวเองมีความยินดีในชีวิตจึงเป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยม หากคุณกำลังรับมืออยู่กับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตอยู่ [4]
      • ในทุกๆ วัน ให้คุณพยายามเขียนสิ่งที่คุณรู้สึกยินดีในชีวิตออกมาให้ได้สัก 10 อย่าง และเขียนเพิ่มลงในลิสต์ให้ได้ทุกวัน โดยคุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการเขียนอะไรที่ดูเบสิกๆ ไปก่อนอย่างเช่น มีที่ให้นอน มีอาหารให้กิน มีน้ำอุ่นให้อาบ มีเพื่อนๆ มีครอบครัว ฯลฯ จากนั้น เมื่อมีสิ่งต่างๆ เพิ่มในลิสต์ขึ้นเรื่อยๆ ให้คุณลองเพิ่มบางสิ่งที่ดูเล็กน้อยอย่าง พระอาทิตย์ตกสวยๆ กาแฟดีๆ สักแก้ว หรือการโทรคุยเล่นกับเพื่อนสักคน
  4. มองไปยังด้านสว่าง . แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงอาจจะมีผลกระทบด้านลบกับชีวิตคุณ แต่ในแทบจะทุกสถานการณ์ก็ย่อมมีด้านดีๆ ให้มองอยู่เสมอ ดังนั้น ให้คุณนำสิ่งนี้มาใช้เป็นหนทางในการเปลี่ยนความสูญเสียหรือความเปลี่ยนแปลงด้านลบให้กลายเป็นโอกาส หรือหนทางให้คุณได้ค้นหาความสนุกสนานในชีวิตของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
    • หากคนในครอบครัวคุณเสียไปคนหนึ่ง ให้คุณคิดถึงคนอื่นๆ ที่เหลืออยู่ในครอบครัวคุณ และให้ประสบการณ์ที่คุณเจอเป็นสิ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวคุณให้แข็งแกร่งและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
    • หากคุณเพิ่งตกงาน ให้มองว่านี่คือโอกาสให้คุณได้หางานใหม่ อาชีพใหม่ หรือหนทางใหม่ที่จะสนับสนุนให้ตัวคุณสามารถบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้มากขึ้น
    • หากคุณแยกทางกับคนสำคัญในชีวิตคุณไป ให้นึกเอาไว้ว่าเรื่องนี้มันมีเหตุผลของมัน และคุณทั้งคู่ก็อาจจะมีความสุขในระยะยาวมากกว่า และสามารถหาความสัมพันธ์ที่เติมเต็มชีวิตคุณได้มากกว่านี้ [5]
  5. พยายามทำความเข้าใจว่าทำไมความเปลี่ยนแปลงถึงทำให้คุณทุกข์ใจมากขนาดนี้. มันยากที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและยอมรับมันให้ได้ หากคุณยังไม่รู้เลยว่าทำไมมันถึงทำให้คุณอึดอัดและทุกข์ใจมากมายขนาดนั้น การพิจารณาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและมองลึกเข้าไปข้างในจึงเป็นสิ่งที่อาจจะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้อาจจะช่วยลดความกังวลของคุณที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงลงไปได้บ้าง ดังนั้น ให้คุณลองพิจารณาด้วยคำถามต่อไปนี้
    • การตายของคนที่คุณรักทำให้คุณต้องพบเจอกับความตายของตัวเองด้วยหรือเปล่า?
    • การเปลี่ยนแปลงทางสังคมให้ความรู้สึกไม่มั่นคงกับคุณ และทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่คุณรู้จักกำลังจะพังทลายลงหรือเปล่า?
    • การเลิกกับคนรักนั้นทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าตัวเองมีอารมณ์เปราะบางเกินไปและกำลังขาดกำลังใจอยู่หรือเปล่า? [6] [7]
  6. ยอมรับธรรมชาติและความสามารถในการปรับตัวของตัวเอง. พยายามมองความเปลี่ยนแปลงให้เป็นความท้าทายและโอกาสให้ตัวเองได้เติบโตขึ้น เตือนตัวเองว่าคุณนั้นแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นอยู่ในตัว และผลลัพธ์ที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็คือ คุณจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น ดังนั้น นึกไว้เสมอว่าความเปลี่ยนแปลงสามารถกลายเป็นตัวกระตุ้นอันทรงพลังที่จะช่วยให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ ของตัวเองได้ [8]
    • ถ้าเป็นไปได้ พยายามใช้การเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนกับแรงผลักดัน ตัวอย่างเช่น หากคุณตกงาน คุณอาจจะใช้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของชีวิตให้เป็นแรงผลักดันให้คุณกลับไปเรียนต่อหรือไม่ก็มุ่งไปยังอาชีพที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ลงมือทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จัดการความเครียดหรือความไม่สบายใจเพราะการเปลี่ยนแปลงด้วยการทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด. มีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการความเครียดและความไม่สบายใจเพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณได้ ซึ่งวิธีการก็ง่ายๆ เลยคือ ให้คุณยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามหาทางจัดการกับมันและหาความสงบภายใน รวมถึงค้นหาการเติมเต็มชีวิตของตัวเองให้ได้ด้วย
  2. หากคุณกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบด้านลบในชีวิตคุณ ให้คุณทำตัวเองให้ยุ่งเข้าไว้ เพราะการที่เราทำตัวเองให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลาด้วยการทำงาน สร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างขึ้นมา หรือมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมนั้นไม่ได้เพียงแต่จะช่วยดึงความสนใจคุณออกมาจากความไม่สบายใจได้แค่นั้น แต่มันยังช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้เป็นไปในทางบวกเพื่ออนาคตข้างหน้าได้
    • การทำให้ตัวเองยุ่งตลอดเวลานั้นจะช่วยให้คุณสามารถดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าได้และหันมาคิดถึงด้านอื่นๆ ของชีวิตบ้าง
    • การทำให้ตัวเองยุ่งอยู่ตลอดเวลาอาจจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับคุณได้
    • หางานอดิเรกใหม่ๆ ทำ โดยให้คุณลองทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต เพราะการมองหาความสุขในกิจกรรมใหม่ๆ ที่คุณทำ จะช่วยให้คุณสามารถเอ็นจอยชีวิตหลังจากที่เจอกับการเปลี่ยนแปลงได้ แล้วคุณจะดีใจที่ตัวเองได้คว้าโอกาสนั้นไว้! [9]
  3. ให้คุณพูดให้คนอื่นฟังว่าความเปลี่ยนแปลงที่คุณเจอมันทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจยังไง เพื่อนๆ ของคุณและคนที่คุณรักอาจจะเข้าอกเข้าใจในตัวคุณ หรืออาจจะมีไอเดียที่แตกต่างในเรื่องผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คุณไม่สบายใจ หากคุณลองปรึกษากับพวกเขา พวกเขาอาจจะเสนอมุมมองบางอย่างที่สามารถช่วยปรับเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงและช่วยให้คุณยอมรับมันได้
    • และผลลัพธ์อีกแบบหนึ่งที่คุณอาจจะได้เรียนรู้ก็คือ คุณค้นพบว่าคนอื่นนั้นก็ทุกข์ใจเหมือนกับคุณเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นในชีวิตพวกเขา ซึ่งการรับรู้ว่าคนอื่นๆ นั้นอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายๆ กับคุณ อาจจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้คุณและทำให้คุณกล้าที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงและดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าได้
  4. สิ่งสำคัญในการยอมรับการเปลี่ยนแปลงคือ การหาหนทางที่จะดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าและคิดถึงเรื่องอนาคตของตัวเอง และด้วยการมองไปข้างหน้าและมองไปยังอนาคต คุณก็จะสามารถรับมือกับอดีตได้ดีขึ้นและยอมรับได้ว่ามันคือบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวคุณก็เพื่อที่จะให้คุณได้ดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้า ดังนั้น ให้คุณลองคิดถึงสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
    • หางานงานใหม่ที่ดีกว่าเดิมทำ
    • ออกกำลังกายและเป็นคนที่มีสุขภาพดี
    • ออกไปท่องเที่ยวและไปยังสถานที่ใหม่ๆ [10]
  5. ให้คุณยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ และมุ่งมั่นที่จะลองใช้พลังงานที่คุณมีเพื่อทำให้โลกดีขึ้น ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงและยังสามารถพลิกมันกลับไปเป็นอีกด้านได้ รวมถึงใช้สิ่งนี้มาเติมเต็มพลังงานให้กับสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี โดยให้คุณพิจารณาใช้เทคนิคต่อไปนี้
    • เป็นอาสาสมัครให้กับโครงการที่คุณคิดว่าสำคัญ
    • ช่วยเหลือใครบางคนที่คุณรู้ว่าเขาขัดสน
    • รับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ไร้บ้าน [11]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,912 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา