ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การเจาะจมูกเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเจาะบนใบหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และโดยทั่วไปก็สามารถดูแลความสะอาดได้ค่อนข้างง่าย อย่างไรก็ตาม บางครั้งบริเวณที่เจาะอาจเกิดอาการติดเชื้อ แต่ก็รักษาได้โดยง่าย ยิ่งถ้ารีบไปพบแพทย์ล่ะก็ อาการของคุณจะดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน! ในบทความนี้ เราจะมาบอกเล่าถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติและวิธีการดูแลแผลเจาะจมูกของคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

การรักษาโดยแพทย์ (แนะนำ)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณเพิ่งเจาะจมูก รอยแดงหรืออาการเจ็บรอบๆ แผลเจาะถือเป็นเรื่องปกติสุดๆ แต่สิ่งที่เราต้องคอยสังเกตคืออาการเหล่านี้
    • รอยแดงอักเสบเป็นแถบๆ หรือจุดๆ บนผิวรอบจุดที่เจาะ
    • มีรอยแดง บวม รู้สึกร้อนๆ ขึ้น หรือกดแล้วเจ็บบริเวณรอบๆ จุดที่เจาะ
    • มีของเหลวสีเหลืองๆ เขียวๆ เหมือนน้ำหนองไหลออกมาจากจุดที่เจาะ ถ้าเห็นเลือดไหลหรือซึมๆ ออกมาจากแผลเจาะเล็กน้อยนั่นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องคอยระวังน้ำหนองที่มีอาการบวมแดงร่วมด้วย
    • ต่อมน้ำเหลืองด้านบนหรือใต้แผลเจาะเกิดอาการบวมหรือกดเจ็บ
    • เป็นไข้ ถ้าก่อนหน้านี้สุขภาพยังปกติดี (ไม่มีไข้หรือหวัด) แต่จู่ๆ กลับเป็นไข้ขึ้นมา นี่ล่ะคือสิ่งที่เราต้องเป็นกังวล
  2. หากมีอาการใดๆ ข้างต้นและแผลเกิดการติดเชื้อ การดูแลอย่างถูกวิธีนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การติดเชื้อในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส [1] และอาจเป็นอันตรายร้ายแรงหากไม่ได้รับการรักษา
    • แพทย์มักจ่ายครีมหรือยาปฏิชีวนะให้แก่ผู้ป่วย ให้ใช้ครีมทาเฉพาะที่หรือทานยาตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 10 วันถึง 2 สัปดาห์
    • ทานยาปฏิชีวนะให้ครบตามที่แพทย์สั่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
  3. ล้างมือให้สะอาดหมดจดด้วยน้ำอุ่นและสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย ขัดผิวบริเวณใต้เล็บเพื่อเอาสิ่งสกปรกออก และเป่ามือให้แห้ง
    • การใช้ผ้าขนหนูอาจทำให้มือของคุณไม่สะอาดอีกครั้ง แม้ผ้าขนหนูจะดูสะอาดดีก็ตาม
  4. แม้อาจจะดูเป็นความคิดที่ดี แต่มันอาจทำให้คุณเป็นฝีหนองได้ เพราะฉะนั้น ให้ใส่จิวไว้ตามเดิม เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้ถอดออก
    • ขอเตือนไว้ก่อนว่า ถ้าอาการของคุณน่าจะเกิดจากการแพ้มากกว่าการติดเชื้อ คุณจะต้องถอดจิวออกในทันที สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณมีอาการแพ้ คือ รู้สึกปวดแสบผิว แผลขยายใหญ่ และ/หรือมีน้ำสีเหลืองใสๆ ไหลออกมา
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

การรักษาด้วยตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พิจารณาว่าเมื่อไหร่ที่ไม่ควรรักษาด้วยตัวเอง. แม้คุณอาจสามารถจัดการกับแผลที่ติดเชื้อได้เองที่บ้าง แต่การติดเชื้อสแตปฟิโลคอคคัสอาจรุนแรงและอันตราย อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ยังไม่สามารถไปพบแพทย์ คุณอาจลองนำวิธีการต่อไปนี้ไปใช้ได้
  2. เช็ดจมูกทั้งด้านในและด้านนอกด้วยยาระงับเชื้อจากธรรมชาติ เช่น เกลือทะเลผสมน้ำอุ่น โดยจุ่มคอตตอนบัดลงในส่วนผสมที่เตรียมไว้ และแต้มลงไปในรูแผลเจาะเพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่างๆ
  3. จุ่มจมูกลงไปในแก้วน้ำเกลือให้นานที่สุดเท่าที่ทนได้ มันอาจรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่แต่ก็ช่วยทำความสะอาดแผลเจาะได้หมดจดทีเดียวเชียว
  4. น้ำมันทีทรีออยล์เป็นยาปฏิชีวนะธรรมชาติที่สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าทั่วไป
    • จุ่มคอตตอนบัดลงในทีทรีออยล์ จากนั้นจึงถูลงบริเวณที่ติดเชื้อประมาณ 2-3 วินาทีและทิ้งให้แห้ง ทำอีกครั้งในตอนกลางคืน อาการติดเชื้อควรจะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสแผลเจาะจมูก และพยายามเอามือออกห่างจากใบหน้าในช่วงเวลาอื่นๆ
  • น้ำใสๆ ที่ไหลออกมาจากแผลเจาะถือเป็นเรื่องปกติสุดๆ จึงไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด
  • แม้การไม่ล้างแผลเจาะบ่อยเกินไปจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่คนส่วนใหญ่จะแนะนำให้ล้างประมาณ 3 ครั้งต่อวัน
  • อย่าใส่อะไรลงไปหลังจากทำความสะอาดจมูกแล้ว!
  • อย่าให้ช่างเจาะใช้วัสดุอื่นๆ เป็นจิวเจาะนอกจากโลหะหรือไทเทเนียมที่ใช้ในเครื่องมือการแพทย์ เพราะวัสดุอื่นๆ เช่น ทองหรือเงินอาจทำให้เกิดปัญหา และอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นถาวรได้อีกด้วย
  • ถ้าดึงออกมาแล้วเช็ดทำความสะอาดด้วยยาระงับเชื้อ (antiseptic) บริเวณรอบวงแหวนแล้วจึงดันกลับเข้าไปอย่างระมัดระวัง ให้ล้างวงแหวนด้วยน้ำเกลืออีกครั้งเมื่อใส่กลับเข้าไป
  • เมื่อล้างหน้าด้วยอะไรก็ตามใกล้กับบริเวณที่เพิ่งเจาะใหม่ๆ ต้องแน่ใจว่าสิ่งที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของสีย้อมและน้ำหอม และต้องล้างออกให้สะอาด
  • ล้างมือด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียทุกครั้งก่อนสัมผัสจิวเวลรี่ และหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลที่เพิ่งเจาะใหม่ๆ โดนน้ำสาธารณะที่มีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่ เพราะเชื้อแบคทีเรียอาจเข้าไปในแผลเจาะและทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • อย่าถอดจิวเวลรี่ออกถ้าไม่มีการติดเชื้อ เพราะแผลจะต้องแห้งในขณะที่คุณใช้ยาปฏิชีวนะ และถ้าคุณถอดจิวเวลรี่ออก มันจะทำให้เกิดฝีหนองที่เจ็บอย่าบอกใคร และมักจะต้องให้คุณหมอ (เจาะ) ตัด/เอาออกเท่านั้น
โฆษณา

คำเตือน

  • ใช้เกลือทะเลเท่านั้น ไม่ควรใช้เกลือบริโภคเพราะมีไอโอดีนซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้ระคายเคือง
  • ชาดอกคาโมมายล์สามารถช่วยรักษาแผลเจาะอย่างได้ผลเท่าๆ กับการจุ่มลงในน้ำเกลือเลยทีเดียว เพียงต้มน้ำและใส่ถุงชาลงไป (สามารถใส่เกลือเพิ่มลงไปสัก 1/4 ช้อนชาถ้าต้องการ) เมื่อชาเย็นลงพอสมควรแล้ว ให้ใช้ถุงชากดลงไปบนแผลเจาะของคุณ โดยแนะนำให้ทำสัก 2 ครั้งต่อวันถ้าไม่ได้เติมเกลือลงไป
  • อย่าใช้มือสกปรกสัมผัสแผลเจาะของคุณเป็นอันขาด รวมถึงพยายามอย่าเอามือไปเล่น เพราะจะทำให้สิ่งสกปรกติดเข้าไปในแผล
  • อย่าเปลี่ยนจิวเวลรี่หากยังใส่ได้ไม่ถึง 3 เดือน เพราะแผลเจาะยังอยู่ในขั้นตอนการเยียวยา และอาจทำให้สิ่งสกปรกติดเข้าไปในแผลมากขึ้น
  • ทำให้น้ำมันทีทรีออยล์เจือจางลงก่อนทุกครั้ง เพราะน้ำมันเข้มข้นจะทำให้ปวดแสบผิวสุดๆ! จึงห้ามแต้มลงไปโดยที่ยังไม่เจือจาง
  • อย่าใช้น้ำยาที่เป็นขวด ผลิตภัณฑ์ควบคุม (TCP) และเพอร์ออกไซด์ เพราะถึงแม้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำความสะอาดแผลได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ฆ่าเซลล์ดีไปด้วยเช่นเดียวกัน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เกลือทะเล
  • น้ำร้อน
  • คอตตอนบัด


ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 57,755 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา