ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อาการปวดที่แขนซ้ายนั้นอาจเป็นเพราะโรคต่างๆ ตั้งแต่โรคยอดนิยมอย่างโรคปวดกล้ามเนื้อ ไปจนถึงโรคร้ายแรงอย่างหัวใจวาย อาการปวดอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติที่ผิวหนัง เนื้อเยื่ออ่อน เส้นประสาท กระดูก ข้อ กระทั่งความผิดปกติที่หลอดเลือด ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยถึงจะบอกได้แน่ชัดว่าแขนซ้ายคุณปวดเพราะโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือเปล่า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

หัวใจวายแล้วเป็นยังไง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [1] ความเจ็บปวดที่เกิดเพราะหัวใจวายจะรู้สึกเหมือนมีแรงกดทับหรือหัวใจถูกบีบ ระดับความเจ็บปวดมีตั้งแต่ไม่ค่อยเจ็บ หรือไม่เจ็บเลย (หรือที่เรียกกันว่า "silent heart attacks") ไปจนถึงเจ็บมากขนาดที่ให้คะแนนความเจ็บปวดรุนแรงขนาด 10 เต็ม 10 อาการเจ็บปวดมักเกิดแถวหน้าอก จนแผ่ลงมาถึงแขนซ้าย ขึ้นไปที่ขากรรไกร หรือลามไปถึงหลังได้
  2. มีอาการอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาการเจ็บปวดร่วมด้วยหรือเปล่า. [2] นอกจากปวดแขน ขากรรไกร คอ และหลังแล้ว ก็อาจมีอาการอื่นระหว่างหัวใจวายได้ด้วย เช่น [3]
    • คลื่นไส้
    • วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม
    • เหงื่อออก ตัวเย็น
    • หายใจขัด หรือหายใจยากเพราะแน่นหน้าอก
    • ถ้าคุณมีอาการใดอาการหนึ่งด้านบนร่วมกับอาการเจ็บปวด ให้รีบไปหาหมอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ว่าใช่หัวใจวายหรือเปล่า
  3. โทรแจ้งตำรวจหรือเรียกรถพยาบาล ถ้าคุณมีอาการเหมือนหัวใจจะวาย. [4] ถ้าคุณไม่แน่ใจในอาการของตัวเอง จะปลอดภัยกว่าถ้ารีบเรียกรถพยาบาลหรือหน่วยฉุกเฉิน อย่าง 1554 กู้ชีพวชิรพยาบาล 1669 แพทย์ฉุกเฉิน หรือง่ายที่สุดก็คือโทร 191 หาตำรวจให้ช่วยแจ้งหน่วยฉุกเฉิน คุณจะได้ถึงมือหมอโดยเร็วที่สุด จำไว้เสมอว่าถ้าคุณหัวใจวายเมื่อไหร่ ต้องแข่งกับเวลา เพราะช้าเพียงวินาทีเดียวก็อาจหมายถึงชีวิตของคุณ [5]
    • ระหว่างรอรถพยาบาลหรือหน่วยฉุกเฉิน ให้รีบกินแอสไพรินในปริมาณสำหรับเด็ก 2 เม็ด (180 มก.) ก่อน จะได้บรรเทาความรุนแรงของอาการ [6] ยาแอสไพรินจะป้องกันไม่ให้เลือดจับตัวเป็นลิ่ม จริงๆ แล้วก็เพราะมีลิ่มเลือดในหนึ่งในหลอดเลือดหัวใจ (ที่อยู่รอบๆ หัวใจ) นี่แหละ คุณถึงได้หัวใจวายแต่แรก (ดังนั้นแอสไพรินเลยช่วยป้องกันไม่ให้ลิ่มเลือดเยอะไปกว่าเดิม) แต่ห้ามกินยาแอสไพรินเด็ดขาดถ้าคุณเป็นโรคเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือแพ้ยาแอสไพริน
    • ระหว่างนั้นให้กินยาไนโตรกลีเซอรีน (Nitroglycerine) ด้วย ถ้ามี. [7] เพราะช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก ทำให้คุณพอจะทนไหวจนกว่าจะถึงมือหมอ (หลังจากนั้นคุณหมอจะให้ยาแก้ปวดอื่นๆ เพิ่มเติมเอง เช่น มอร์ฟีน เป็นต้น)
    • ห้ามกินยาไนโตรกลีเซอรีนเด็ดขาด ถ้าคุณเพิ่งกินยาไวอากร้า (Viagra) หรือเลวิตร้า (Levitra) ไปภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือยาเซียลิส (Cialis) ใน 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะอาจความดันต่ำจนเป็นอันตราย รวมถึงภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ด้วย แจ้งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินหรือคุณหมอด้วย ถ้าคุณกินยาพวกนี้ไปในระยะเวลาที่ว่า
  4. [8] ถ้าคุณคิดว่าตัวเองคงหัวใจวาย คุณหมอจะทดสอบและตรวจร่างกายหลายขั้นตอน เพื่อให้รู้แน่ชัดและฟันธงได้ว่าตกลงคุณเป็นโรคอะไร เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electrocardiogram หรือ ECG) เพื่อดูจังหวะการเต้นของหัวใจ ถ้าคุณหัวใจวายจริง จะเห็นผิดปกติขึ้นมาเลย การตรวจเลือดเพื่อหา cardiac enzymes ที่เพิ่มขึ้นในกระแสเลือด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่ามีอาการหัวใจวาย
    • ถ้าอาการคุณหนัก หรือคุณหมอตรวจแล้วไม่ชัดเจน ก็อาจต้องวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiography) เอ็กซเรย์หน้าอก ตรวจรังสีหลอดเลือด (angiogram) และ/หรือการตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (exercise stress test หรือ EST)
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ประเมินอาการเจ็บปวด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณปวดแขนซ้ายแค่ช่วงสั้นๆ (ไม่กี่วินาที) เป็นไปได้มากว่าไม่เกี่ยวกับโรคหัวใจ แต่ถึงปวดทีละนานๆ (เป็นวันๆ หรือหลายอาทิตย์) ก็ไม่ได้แปลว่าจะเกิดเพราะโรคหัวใจเหมือนกัน แต่ถ้าคุณปวดแขน 2 - 3 นาทีถึง 2 - 3 ชั่วโมงนี่สิ ที่มีสิทธิ์เป็นเพราะโรคหัวใจ ถ้าคุณปวดทีละน้อยๆ แต่บ่อยๆ ให้คอยจดระยะเวลาที่ปวดและความรุนแรงของอาการไว้ในกระดาษ จะได้เอาให้คุณหมอดู ถ้าเป็นเพราะโรคหัวใจจริง จะได้รักษาได้ทันท่วงที
    • ถ้าเจ็บน้อยลงหรือมากขึ้นเวลาช่องอกขยับ (กลางสันหลัง) แสดงว่าอาจเป็นเพราะกระดูกสันหลังเสื่อม (spinal degenerative disc disease) มักเกิดในคนสูงอายุ ปวดแบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะโรคหัวใจหรอก
    • กรณีเดียวกัน คือถ้าเริ่มปวดหลังออกกำลังแขนมาอย่างหนัก แสดงว่ามาจากกล้ามเนื้อ ลองสังเกตพฤติกรรมในแต่ละวันของคุณดู ว่าที่อยู่ๆ ปวดขึ้นมาเพราะอะไร?
  2. บางทีคุณอาจปวดแขนซ้ายเพราะอาการปวดเค้นหัวใจ. Angina หรืออาการปวดเค้นหัวใจ นั้นเป็นอาการเจ็บปวดที่เกิดเมื่อเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ [9] เวลาเป็นแล้วจะรู้สึกกดทับหรือเหมือนมีใครมาบีบหัวใจ อาจปวดไหล่ เจ็บหน้าอก ปวดแขน หลัง หรือคอร่วมด้วย อาการอาจคล้ายกันกับเวลาคุณอาหารไม่ย่อย [10]
    • ถึงจะหายากว่าปวดเค้นหัวใจแล้วไปปรากฏอาการที่แขนซ้าย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีกรณีแบบนี้
    • อาการปวดเค้นหัวใจมักรุนแรงขึ้นหรือเกิดขึ้นได้เพราะความเครียด ไม่ว่าจะเหนื่อยกาย (เพราะออกแรงมากไป อย่างเดินขึ้นบันไดหลายๆ ช่วง) หรือเหนื่อยใจก็ตาม (เช่น เพิ่งไปเถียงหน้าดำคร่ำเคร่งกับใครมา หรือตกลงกันไม่ได้เรื่องงาน) [11]
    • ถ้าคุณคิดว่าตัวเองน่าจะมีอาการปวดเค้นหัวใจ ให้รีบไปหาหมอด่วน กันไว้ดีกว่าแก้ [12] ถึงจะไม่ร้ายแรงเท่าหัวใจวาย แต่ก็ควรไปตรวจร่างกายและรับการรักษาอย่างถูกวิธีอยู่ดี
  3. นอกจากปวดแขนซ้ายแล้ว ให้คอยจดตำแหน่งอื่นๆ ของร่างกายที่คุณปวดไว้ด้วย นี่แหละข้อมูลที่แน่นและแม่นยำที่สุดที่คุณหมอจะใช้วินิจฉัยได้ว่าคุณปวดแขนซ้ายเพราะโรคหัวใจหรือเปล่า (และร้ายแรงไหม) ถ้าหัวใจวายแล้วมักตามมาด้วยอาการต่อไปนี้ [13]
    • อยู่ๆ ก็เจ็บหน้าอกรุนแรงขึ้นมา และลามลงไปที่แขนซ้าย จริงๆ ก็เป็นได้ทั้ง 2 ข้าง แต่มักรู้สึกชัดกว่าที่แขนซ้าย เพราะอยู่ใกล้หัวใจกว่า
    • ปวดและแน่นขากรรไกร โดยมักปวดที่ขากรรไกรล่างมากกว่า แต่ก็อาจเกิดอาการข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ จะรู้สึกปวดเหมือนเวลาปวดฟันมากๆ
    • ปวดลามไปที่ไหล่ เหมือนมีอะไรหนักๆ กดทับแถวไหล่และอก
    • ปวดหลังทึบๆ เพราะลามมาจากอก ขากรรไกร คอ แล้วก็แขน
    • ย้ำอีกทีว่าบางทีหัวใจวายก็มาแบบ "เงียบๆ" หรือก็คือไม่แสดงอาการรุนแรงแต่อย่างใด
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ถ้าไม่ได้มาจากโรคหัวใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [14] ถ้าปวดมากกว่าเดิมเวลาขยับคอหรือหลังส่วนบน แปลว่าอาจเป็นโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม (cervical spondylosis) ซึ่งเป็นสาเหตุยอดนิยมเวลาปวดแขนซ้าย โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อมนั้นพบมากกว่า 90% ในคนที่อายุ 65 ปีขึ้นไป จากการที่ข้อกระดูกสันหลังฉีกขาดหรือเสื่อมตามกาลเวลา (โดยเฉพาะที่คอ) เพราะข้อแห้งและหดเลยทำให้กระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม ยิ่งอายุมากก็ยิ่งอาการหนัก เพราะหลังก็เสื่อมสภาพไปตามวัย
    • ให้คุณขยับคอหรือกระดูกสันหลังส่วนบนแล้วสังเกตอาการ ถ้าขยับแล้วปวดมากขึ้น แปลว่ามาจากโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม
    • ถ้าเป็นเพราะหัวใจวาย จะขยับหรือกดที่สันหลังหรือคอแล้วไม่ทำให้ปวดมากขึ้นหรือน้อยลง ถ้าขยับหรือกดแล้วปวดโดยไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเพราะโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม แต่ก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วง ต้องรีบไปหาหมออยู่ดี
  2. [15] ถ้าปวดแขนมากขึ้นเวลาขยับไหล่ อาจเป็นเพราะข้อไหล่เสื่อม (shoulder arthritis) หลายคนเลยที่ดิ่งมาแผนกฉุกเฉินเพราะนึกว่าตัวเองหัวใจวาย สุดท้ายกลับเป็นโรคนี้ โรคนี้แหละที่กัดกร่อนผิวนอกเรียบเนียน (cartilage) ของกระดูก พอ cartilage หรือกระดูกอ่อนหมดไป ก็เท่ากับกันชนปกป้องกระดูกลดน้อยลงไปด้วย พอขยับเขยื้อน กระดูกก็จะเสียดสีกัน ทำให้คุณปวดไหล่และ/หรือปวดลามมาที่แขนซ้าย
    • ถึงจะไม่มีวิธีรักษาโรคข้อไหล่เสื่อมให้หายขาด แต่อย่างน้อยก็มีหลายวิธีใช้บรรเทาปวด ถ้าตกลงคุณเป็นโรคนี้ละก็ อย่าเพิ่งเครียดไป มันฟังดูน่ากลัว แต่ก็พอมีวิธีหยุดยั้งการเสื่อมได้บ้าง
  3. ถ้าคุณใช้แขนซ้ายไม่ได้ แปลว่าต้องบาดเจ็บที่เส้นประสาท [16] เส้นประสาทที่แขนจะกระจุกตัวกันอยู่ที่ระดับไขสันหลังในคอส่วนล่าง เรียกว่า brachial plexus โดยจะแตกแขนงออกไปเป็นเส้นประสาทที่แขนด้วย ถ้าเส้นประสาทที่แขนเสียหายตั้งแต่ไหล่ลงมาถึงมือ ก็จะเกิดอาการปวดไม่มากก็น้อย แต่มักจะทำให้คุณใช้แขนไม่ค่อยได้ (เช่น เหน็บชา หรือขยับไม่ค่อยได้) สรุปแล้วคุณอาจปวดแขนเพราะเส้นประสาท ไม่ใช่เพราะโรคหัวใจ
  4. ถ้ามีอะไรผิดปกติไป อาจเป็นเพราะโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (peripheral arterial disease) อันมีสาเหตุมาจากโรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) พบบ่อยในหมู่สิงห์อมควัน [17]
    • ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้หรือเปล่า ให้รีบไปหาหมอ จะได้วัดความดันและอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อวินิจฉัยต่อไป
  5. [18] ลองนึกย้อนไปซิ ว่าคุณเพิ่งบาดเจ็บตรงไหนมาหรือเปล่า ที่คุณปวดแขนซ้ายอาจเพราะบาดเจ็บที่แขนหรือไหล่มาก่อนหน้านี้ก็ได้ ถ้าปวดไม่หายหรือหาสาเหตุไม่ได้ ต้องรีบไปหาหมอทันที
    • ถ้าอยู่ๆ ก็ปวดแขนซ้าย เหงื่อออก สับสนมึนงง และมีอาการเจ็บปวดที่อื่นร่วมด้วย ให้รีบไปหาหมอด่วนเพื่อตัดความเป็นไปได้อื่นๆ ว่าอาจมีภาวะอันตรายถึงแก่ชีวิตออกไป
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 241,758 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา