ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไม่ว่าคุณจะชอบสไตล์นิวยอร์กหรืออิตาลีก็ตาม ชีสเค้กเป็นของหวานที่เบาและอร่อย เนื่องจากมีนมหรือครีมในปริมาณพอสมควรรวมทั้งชีสเนื้อนุ่มนิ่ม จึงบอกได้ยากว่ามันสุกเมื่อไร อย่างไรก็ตามคุณสามารถทำได้หลายอย่างเพื่อตรวจสอบว่าชีสเค้กพร้อมหรือยัง เช่น การทดสอบอุณหภูมิ การเขย่าพิมพ์เบาๆ และการสัมผัสผิวหน้าของเค้ก
ขั้นตอน
-
หาเทอร์โมมิเตอร์สำหรับทำอาหารแบบอ่านค่าได้ทันที. คุณไม่อยากต้องรอหลายนาทีในขณะที่เทอร์โมมิเตอร์อ่านค่าอุณหภูมิ ดังนั้นควรเลือกรุ่นที่อ่านได้ทันที ให้แน่ใจว่าทำความสะอาดหลังการใช้งานทุกครั้ง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณควรปรับเทียบเทอร์โมมิเตอร์เป็นครั้งคราวเพื่อให้แน่ใจว่าอ่านค่าได้แม่นยำ ซึ่งทำได้โดยการเติมน้ำลงในหม้อใบเล็กแล้วนำไปต้มให้เดือด อุณหภูมิของน้ำควรเป็น 100 องศาเซลเซียส [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หมุนสลักเกลียวหกเหลี่ยมที่ด้านล่างของเทอร์โมมิเตอร์แบบอนาล็อกเพื่อปรับเทียบอุณหภูมิถ้าไม่ถูกต้อง ดูคำแนะนำของผู้ผลิตในการปรับเทียบเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัล [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทดสอบอุณหภูมิตรงกลางเค้ก. ตรงขอบอาจจะร้อนกว่าตรงกลาง ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าเค้กสุกหรือยังคุณจะต้องทดสอบอุณหภูมิตรงกลาง อย่าดันเทอร์โมมิเตอร์ลงไปจนถึงก้นพิมพ์ แค่ปักถึงกึ่งกลางของเค้กก็พอ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จำไว้ว่าการจิ้มเทอร์โมมิเตอร์ลงไปในชีสเค้กอาจจะทำให้เค้กแตกได้ ดังนั้นให้พยายามทดสอบอุณหภูมิเพียงครั้งเดียวแทนที่จะเป็นหลายๆ ครั้ง ถ้าคุณต้องทดสอบมากกว่าหนึ่งครั้งให้จิ้มเทอร์โมมิเตอร์ลงในรูเดียวกับที่คุณใช้ครั้งแรกเพื่อลดการแตกของเค้กลง [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดูค่า 65 องศาเซลเซียส. เมื่อตรงกลางชีสเค้กถึง 65 องศาเซลเซียสแสดงว่าเค้กสุกแล้ว นำออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นสนิทบนตะแกรง ถ้ายังไม่สุกให้นำกลับเข้าเตาอบประมาณ 5 นาทีจากนั้นตรวจดูอีกครั้งว่าสุกหรือยัง ทำซ้ำจนกว่าคุณจะอ่านค่าได้ 65 องศาเซลเซียส [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เขย่าพิมพ์ชีสเค้กเบาๆ . ใส่ถุงมือจับของร้อนแล้วเขย่าพิมพ์เบาๆ ในขณะที่ชีสเค้กยังอยู่ในเตาอบ อย่ารุนแรงเกินไปกับขนมที่ยังร้อน ไม่เช่นนั้นเค้กอาจจะแตกได้ แค่เขย่าพิมพ์เล็กน้อย ถ้าคุณอบชีสเค้กโดยใช้อ่างน้ำให้ระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในพิมพ์ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตรวจดูว่าตรงกลางเด้งแค่ไหน. เมื่อคุณเขย่าพิมพ์และบริเวณตรงกลาง 5 เซนติเมตรเด้งเล็กน้อยแสดงว่าชีสเค้กสุกแล้ว ถ้ามีบริเวณส่วนใหญ่ยังขยับเด้งหรือถ้าของเหลวทำให้ผิวหน้าแตกหรือกระฉอกเลอะขอบพิมพ์แสดงว่าชีสเค้กยังไม่สุก อบชีสเค้กต่ออีกประมาณ 5 นาทีแล้วตรวจดูอีกครั้งว่าสุกหรือยัง [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คาดว่าไส้ครีมเปรี้ยวจะเด้งมากกว่าไส้ครีมชีส. ถ้าคุณใช้ครีมเปรี้ยวในปริมาณที่พอเหมาะในชีสเค้ก มันจะเด้งมากกว่าเค้กที่ใช้ใส้ครีมชีสหรือริคอตต้าเป็นหลัก จะมีจุดที่นุ่มนิ่มขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ดังนั้นให้ดูขอบที่พองขึ้นและเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อบ่งบอกว่าชีสเค้กจะสุกเมื่อไร จำไว้ว่าตรงกลางจะสุกต่อและแน่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อชีสเค้กเย็นตัวลง [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณอบชีสเค้กต่อจนตรงกลางเป็นเนื้อแน่นและไม่เด้งจะเป็นการอบนานเกินไป
โฆษณา
-
ล้างมือและเช็ดให้แห้ง. ก่อนสัมผัสชีสเค้กให้ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ล้างมือด้วยน้ำเปล่าเพื่อขจัดคราบสบู่ออกและเช็ดให้แห้งสนิท
-
ใช้ 1 นิ้วแตะตรงกลางชีสเค้ก. ใช้ 1 หรือ 2 นิ้วแตะผิวหน้าตรงกลางชีสเค้กเบาๆ อย่ากดแรงเกินไปล่ะ! คุณต้องตรวจดูความสุกตรงกลางเค้กแทนที่จะตรวจดูบริเวณใกล้ขอบ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดูว่าผิวหน้ามีเนื้อแน่น. ถ้าผิวหน้าของชีสเค้กอาจจะดูนิ่มเล็กน้อยแต่รู้สึกแน่นแสดงว่าเค้กสุกแล้ว ถ้านิ้วจมลงไปในเค้กหรือมีแป้งติดออกมาแสดงว่าต้องอบเค้กนานขึ้น นำเค้กเข้าอบอีก 5 นาทีก่อนนำมาตรวจดูอีกครั้ง [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ดูการพองตัวและสีน้ำตาลเล็กน้อยตรงขอบ. คุณสามารถบอกได้ว่าชีสเค้กสุกแล้วเมื่อเส้นรอบขอบ 1.5 เซนติเมตรเริ่มเป็นสีน้ำตาลและพองตัวขึ้นเล็กน้อยจากพิมพ์ ไส้ควรจะยังมีสีซีดแทนที่จะเป็นสีทอง อย่าอบต่อ ไม่เช่นนั้นจะอบสุกเกินไปจนเนื้อแห้ง [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดูความแน่นรอบๆ ขอบไส้. ถ้าขอบเหลวแทนที่จะเซ็ตตัวและแน่นแสดงว่าชีสเค้กยังไม่สุก แค่ตรงกลาง 5 เซนติเมตรเท่านั้นที่ควรจะเด้งแทนที่จะแน่นเมื่อชีสเค้กอบสุกเรียบร้อย [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
นำออกจากเตาเมื่อผิวหน้าไม่เป็นเงาแล้ว. เมื่อผิวหน้าของชีสเค้กไม่เป็นเงาอีกต่อไปแสดงว่าสุกแล้ว! ให้แน่ใจว่าเค้กทั้งก้อนรวมถึงส่วนตรงกลางที่นุ่มๆ นั้นไม่เป็นเงาแล้วก่อนนำเค้กออกจากเตาอบ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คนทำขนมบางคนชอบพักให้ชีสเค้กเย็นลงในเตาอบมากกว่า ปิดความร้อนและปล่อยเค้กไว้ในเตาอบโดยแง้มประตูไว้ประมาณ 2.5 เซนติเมตรเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เมื่อถึงจุดนั้นให้นำพิมพ์ออกจากเตาอบ นำพิมพ์เค้กแบบสปริงฟอร์มออกจากอ่างน้ำ (ถ้าใช้) และปล่อยให้ชีสเค้กเย็นสนิทก่อนนำออกจากพิมพ์เค้กสปริงฟอร์ม [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- พยายามอย่าเปิดประตูเตาอบในขณะที่กำลังอบชีสเค้ก การทำแบบนี้สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงและนำไปสู่เค้กที่อบสุกไม่สม่ำเสมอได้ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าทดสอบความสุกของชีสเค้กด้วยการใช้ไม้จิ้มฟันหรือมีดจิ้ม เพราะจะไม่ใช่การประเมินที่แม่นยำและยังสามารถทำให้เกิดรอยแตกในไส้ได้ [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://whatscookingamerica.net/Cake/cheesecaketip.htm
- ↑ http://www.finecooking.com/article/calibrate-your-instant-read-thermometer
- ↑ http://www.finecooking.com/article/calibrate-your-instant-read-thermometer
- ↑ https://whatscookingamerica.net/Cake/cheesecaketip.htm
- ↑ https://www.craftybaking.com/howto/baking-test-doneness
- ↑ https://whatscookingamerica.net/Cake/cheesecaketip.htm
- ↑ http://www.bhg.com/recipes/how-to/bake/what-is-the-best-way-to-check-if-a-baked-cheesecake-is-done/
- ↑ https://www.preparedpantry.com/blog/bake-perfect-cheesecake/
- ↑ http://www.bhg.com/recipes/how-to/bake/what-is-the-best-way-to-check-if-a-baked-cheesecake-is-done/
- ↑ http://www.pastrywiz.com/dailyrecipes/recipes/598.htm
- ↑ http://www.pastrywiz.com/dailyrecipes/recipes/598.htm
- ↑ http://www.bonappetit.com/test-kitchen/common-mistakes/article/cheesecake-common-mistakes
- ↑ http://thebakingpan.com/cheesecake-hints-and-tips/
- ↑ https://www.rockrecipes.com/how-to-bake-the-perfect-cheesecake-every-time/
- ↑ https://www.thekitchn.com/how-to-make-perfect-cheesecake-recipe-cooking-lessons-from-the-kitchen-110760
- ↑ http://thebakingpan.com/cheesecake-hints-and-tips/
- ↑ http://www.bhg.com/recipes/how-to/bake/what-is-the-best-way-to-check-if-a-baked-cheesecake-is-done/
โฆษณา