ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
รักแร้เปียกเป็นสภาวะที่ไม่น่าพิศมัยและไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย และการรู้วิธีควบคุมไม่ให้รักแร้เปียกก็จะทำให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอย่างดีก็แค่ช่วยปกปิดกลิ่นเหงื่อ แต่ถ้าคุณอยากสยบรักแร้เปียกจริง ๆ คุณต้องใช้มาตรการเชิงรุกขั้นเด็ดขาดกับต่อมบริเวณรักแร้ มาศึกษาวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อเฉพาะที่ที่ถูกต้อง เปลี่ยนการใช้ชีวิตบางอย่างที่ทำให้รักแร้เปียก และวิธีรักษาทางการแพทย์ที่ได้ผลจริงจากบทความนี้กันเลย
ขั้นตอน
-
วินิจฉัยปัญหาที่แท้จริง. ก่อนจะเดินไปซื้อผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายตัวเดิมที่ร้าน คิดสักนิดว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไรเพื่อที่จะได้ซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับความต้องการ บางคนปัญหาของรักแร้เปียกคือกลิ่นตัว แต่บางคนปัญหาใหญ่คืออายที่ตัวเองมีรอยเปียกเป็นดวง ๆ ตรงรักแร้
- แต่ถ้าคุณมีปัญหาทั้งเรื่องกลิ่นตัวและรอยด่างดวง คุณต้องหาผลิตภัณฑ์หรือวิธีการที่แก้ปัญหาแต่ละอย่าง เพราะ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายไม่ได้ช่วยเรื่องรักแร้เปียก แม้ว่ามันจะกำจัดกลิ่นตัวก็ตาม
- คุณไม่สามารถห้ามไม่ให้เหงื่อออกเลยได้ นอกจากจะใช้วิธีทางการแพทย์ซึ่งใช้รักษาเฉพาะรายที่อาการหนักมากจริง ๆ เท่านั้น เพราะถ้าร่างกายของคุณไม่ขับเกลือและสารพิษออกมาทางผิวหนัง คุณก็ตาย
-
ซื้อผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขปัญหาของคุณ. คุณจะซื้อผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ หรือผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขทั้งสองปัญหาก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาของคุณคืออะไร ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีขายทั่วไปในท้องตลาด หรือคุณอาจจะไปพบแพทย์เพื่อขอผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่มีประสิทธิภาพดีกว่าที่ขายทั่วไปก็ได้
- ถ้าปัญหาของคุณคือกลิ่นตัว คุณต้องใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและอ่อนโยนเพื่อช่วยปกปิดกลิ่นตัว นอกจากนี้ก็รักษาความสะอาดของร่างกายเพื่อบรรเทาอาการด้วย อ่านเพิ่มเติมได้ในเคล็ดลับการรักษาความสะอาดทั่วไป
- ถ้าปัญหาของคุณคือรอยด่างดวง ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อทั่วไปที่มีส่วนผสมของ Aluminum Chloride Hexahydrate นั้นช่วยควบคุมปริมาณเหงื่อที่รักแร้ขับออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
ลองหาวิธีรักษากลิ่นตัวด้วยตัวเอง. งานวิจัยล่าสุดพบว่าสาร Aluminum ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อนั้นอาจมีส่วนทำให้เป็นมะเร็งเต้านมและก่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แม้ว่างานวิจัยเรื่องนี้จะยังไม่มีข้อสรุป แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกปลอดภัยกว่าถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากมาย แต่คุณก็ทำผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ช่วยควบคุมปริมาณเหงื่อที่รักแร้เองได้
- ผสมผงฟูกับน้ำเปล่าในปริมาณที่เท่ากันมาทำเป็นครีมพอกรักแร้ ทิ้งไว้ 20–30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
- ลองใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลหรือมอลต์มาช่วยกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นรักแร้ วิธีนี้จะทำให้รักแร้แห้ง มีเหงื่อน้อยลงและแห้งนานขึ้น
- ผสมน้ำมะนาวกับเนื้อมะเขือเทศเข้าด้วยกัน พอกทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนนอน
- ผสมสารสกัดจากใบสะระแหน่กับน้ำเปล่า พอกทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
- ว่ากันว่าชาใบเสจมีฤทธิ์ "เย็น" ทำให้ร่างกายขับเหงื่อน้อยลง
-
ทาผลิตภัณฑ์ให้ถูกวิธี. โดยทั่วไป ถ้าคุณอยากกำจัดปัญหารักแร้เปียก คุณต้องทาผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อหรือระงับกลิ่นกายที่รักแร้ก่อนนอน หลังจากตื่นนอนทันที หรือหลังอาบน้ำ ก่อนทาให้ล้างรักแร้ให้ทั่วด้วยน้ำเปล่าและสบู่ เช็ดให้แห้ง แล้วค่อยทาผลิตภัณฑ์บางๆ ลงบนรักแร้
- บางคนทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเฉพาะก่อนออกจากบ้านหรือก่อนใส่เสื้อผ้า แต่ถ้ารักแร้ของคุณเปียกไปแล้ว ผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่ได้ช่วยควบคุมกลิ่นหรือเหงื่อเลย เพราะฉะนั้นต้องทำความสะอาดรักแร้ก่อนเสมอ
- ถ้าเหงื่อออกแล้ว อย่าทาผลิตภัณฑ์ทับเหงื่อเพราะไม่ช่วยกำจัดกลิ่นเลย คุณต้องทำความสะอาดรักแร้ด้วยสบู่และน้ำเปล่าก่อน ทำร่างกายให้เย็นขึ้นแล้วค่อยทาผลิตภัณฑ์ลงบนรักแร้
โฆษณา
-
1อาบน้ำบ่อยขึ้น. การควบคุมเหงื่อที่รักแร้ แค่ผลิตภัณฑ์และการรักษานั้นไม่พอ การรักษาความสะอาดและทำร่างกายให้แห้งตลอดเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ควบคุมเหงื่อที่รักแร้ได้ตลอดทั้งวัน ปัญหารักแร้เปียกบรรเทาได้ด้วยการอาบน้ำหรืออย่างน้อยก็ทำความสะอาดรักแร้ขั้นต่ำวันละ 1 ครั้ง หรือวันละ 2 ครั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
- ในฤดูร้อนโดยเฉพาะถ้าอากาศชื้น อาบน้ำเสร็จแล้วอย่าเพิ่งใส่เสื้อผ้า ปล่อยให้ร่างกายเย็นและแห้งก่อน ไม่อย่างนั้นเหงื่อจะเริ่มออกตั้งแต่ตอนใส่เสื้อผ้า
-
ซักเสื้อผ้าทุกครั้งหลังใส่. ต้องซักเสื้อผ้าทุกครั้งก่อนนำมาใส่ซ้ำ โดยเฉพาะถ้าเสื้อเปื้อนเหงื่อ เพราะจริงๆ แล้วกลิ่นตัวไม่ได้เกิดจากเหงื่อเสียทีเดียว แต่เกิดจากแบคทีเรียที่ยังอยู่แม้ว่าเหงื่อจะแห้งไปแล้วและทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ถ้าคุณไม่ซักเหงื่อออกจากเสื้อผ้า เวลาผ่านไปแบคทีเรียจากเหงื่อก็จะเพิ่มมากขึ้นและทำให้เกิดกลิ่นรุนแรงขึ้น ดังนั้น ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เสมอและรักษาความสะอาดของเสื้อผ้า
- ถ้าคุณเหงื่อออกมากจริงๆ ระหว่างวันให้เปลี่ยนเสื้อบ่อยๆ ถ้ารู้ว่าตัวเองอาจจะมีเหงื่อออกตอนอยู่ที่ทำงาน ให้พับเสื้อเชิ้ตที่รีดเรียบร้อยแล้วใส่กระเป๋าเผื่อจำเป็น
-
ใส่เสื้อทับ. เสื้อยืดสีขาวสะอาดๆ ช่วยซับเหงื่อได้มาก ทำให้เหงื่อซึมออกไปไม่ถึงเสื้อตัวนอก ถ้าคุณเป็นคนเหงื่อเยอะ ให้ใส่เสื้อทับเอาไว้ข้างในเพื่อที่เหงื่อจะได้ไม่ซึมออกมาที่เสื้อตัวนอกมากนัก
- เสื้อทับก็เหมือนเสื้อตัวนอก ต้องซักทำความสะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์
-
โกนขนรักแร้. ถ้าเหงื่อออกมากคือปัญหาใหญ่ของคุณ การโกนขนรักแร้อาจพอช่วยได้ จริงอยู่ที่การโกนขนรักแร้ไม่ได้ช่วยให้รักแร้เย็นขึ้นหรือขับเหงื่อน้อยลง แต่ก็ช่วยให้เหงื่อไม่จับตัวกันจนเกิดเป็นรอยด่างดวงที่มองเห็นได้ และช่วยให้มีกลิ่นน้อยลงด้วย
- สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ไว้เกี่ยวกับขนตามร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งขนรักแร้หรือแม้แต่ขนบนใบหน้าก็คือ ขนมีไว้เพื่อให้ร่างกายเย็นขึ้นท่ามกลางอากาศร้อน โดยการกักเก็บเหงื่อที่ร่างกายขับออกมาเอาไว้เพื่อให้รู้สึกเย็นขณะที่เหงื่อแห้ง การโกนขนรักแร้อาจทำให้รอยดวงๆ ที่รักแร้จางลง แต่ก็อาจจะทำให้ร่างกายขับเหงื่อมากกว่าเดิมเล็กน้อยด้วย
-
เปลี่ยนเมนูอาหาร. งานวิจัยล่าสุดพบว่า อาหารที่มีกลิ่นแรงหรือผักผลไม้บางตระกูลทำให้เหงื่อมีกลิ่น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณมีปัญหาเหงื่อเยอะอยู่แล้ว พึงระวังว่าอาหารตัวไหนบ้างที่ทำให้เหงื่อเยอะกว่าเดิมหรือมีกลิ่นตัว
- หัวหอมใหญ่ กระเทียม และพืชอื่นๆ ในตระกูล Alliaceous จะทำให้เหงื่อที่กำลังแห้งมีกลิ่นฉุนเนื่องมาจากสารซัลเฟอร์ เครื่องเทศบางชนิด เช่น มหาหิงค์ ยี่หร่า ผงเครื่องกะหรี่ก็ส่งกลิ่นมายังรักแร้ด้วย เช่นเดียวกับผักตระกูลกะหล่ำปลีอย่างกะหล่ำปลีและบร็อกโคลี่
- สารอาหารที่อยู่ในเนื้อแดง ผลิตภัณฑ์จากนม หรือแอลกอฮอล์สร้างกลิ่นเหงื่อเฉพาะตัวที่สักพักคนจะเริ่มชิน
- Capsaicin ที่พบได้ในพริกจะไปกระตุ้นหน่วยรับประสาทสัมผัสในปากแบบเดียวกับที่มันรับรู้ว่าอากาศร้อน ทำให้ร่างกายของคุณคิดว่าคุณกำลังร้อนอยู่ และ Hypothalamus ก็จะส่งสัญญาณให้ร่างกายขับเหงื่อออกมา
-
ออกกำลังกายเพื่อลดค่าดัชนีมวลกาย (BMI). ถ้าร่างกายของคุณมีมวลมากเกินไป ร่างกายจะขับเหงื่อออกมามากขึ้นเพื่อให้เย็นลง ถ้าคุณมีปัญหารักแร้เปียกจริงๆ อาจจะรักษาด้วยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นประจำและลดน้ำหนัก ปล่อยให้เหงื่อไหลออกมาให้หมดตอนออกกำลังกาย
- วิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุดก็คือ ใช้กำลังให้มากขึ้นและลดจำนวนแคลอรี่ที่คุณรับประทานเข้าไปในแต่ละวันให้อยู่ในระดับคงที่ รับประทานโปรตีนไร้ไขมันอย่างถั่วฝักยาว เนื้อไก่ส่วนที่ไม่มีไขมัน หรือไข่แทนของทอด ผลิตภัณฑ์จากนม และเนื้อแดง รับประทานธัญพืชและผักให้มากขึ้น
- เติมน้ำให้ร่างกายตลอดทั้งวันและพยายามออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ เริ่มจากเดินไกลๆ ตอนเช้าและตอนกลางคืน แล้วอาบน้ำเพื่อชำระล้างเหงื่อไคลและทำให้ร่างกายเย็นลง
โฆษณา
-
ปรึกษาแพทย์ว่ารักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง. Axillary hyperhidrosis คือชื่อเรียกทางการแพทย์ของสภาวะเหงื่อออกมากเกินไป ลองปรึกษาแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปเพื่อหาแนวทางการรักษาที่มีอยู่มากมาย ขั้นแรกคุณอาจจะได้ยาทาเฉพาะที่ที่มีส่วนผสมของ Aluminum แต่ในกรณีที่รุนแรงมากก็มีการรักษาแบบอื่นที่เข้มข้นกว่า
- สำหรับบางคนแนะนำให้รับประทานยาที่มีฤทธิ์ต้านโคลีเนอร์จิคอย่าง Rubinol ที่ช่วยควบคุมเหงื่อโดยเฉพาะตรงรักแร้
- ปรึกษาแพทย์เรื่องการฉีด onabotulinumtoxinA เพราะเป็นวิธีการรักษาที่เจ็บตัวน้อยและมีประสิทธิภาพ อยู่ได้เฉลี่ย 6 – 8 เดือน
-
รักษาด้วยการทำ Iontophoresis. การรักษาด้วยไฟฟ้าวิธีนี้ต้องทำ 2 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 20 นาที เป็นวิธีการรักษาโดยการใช้กระแสไฟฟ้านำยาหรือสารเคมีเข้าไปในผิวหนัง ซึ่งช่วยลดเหงื่อได้หลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน แม้วิธีนี้จะค่อนข้างไม่สบายตัวและไม่มีใครการันตีผลการรักษา แต่หลายคนก็หายได้ด้วยวิธีนี้
-
พิจารณา Thoracis Sympathectomy เป็นทางเลือกสุดท้าย. วิธีนี้จะใช้อุปกรณ์ส่องกล้องเล็ก ๆ เสียบเข้าไปใต้รักแร้เพื่อขัดขวางประสาท Sympathetic ที่เป็นสาเหตุของการขับเหงื่อ วิธีนี้มีประสิทธิภาพมาก แต่ก็เสี่ยงมากเช่นกัน เพราะมีผลข้างเคียงทำให้หายใจติดขัด ทำลายระบบประสาท และ/หรือทำให้ร่างกายส่วนอื่นขับเหงื่อมากเกินไป
-
รักษาด้วยการฉีด Botox เพื่อผลลัพธ์ในระยะยาว. ในทางทฤษฎี การฉีด Botox ช่วยควบคุมเหงื่อที่รักแร้ได้สูงสุด 6 เดือน หลายคนรายงานว่าได้ผลพอประมาณ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คุณควรจะรักษาด้วยวิธีนี้ก็ต่อเมื่อคุณมีเหงื่อออกที่รักแร้รุนแรงจริงๆ เพราะค่ารักษาอาจสูงถึง 20,000 บาทและก็เจ็บมากด้วย
- ไม่มีผลรับรองทางการแพทย์ว่า Botox สามารถลดเหงื่อได้จริง และไม่ได้เป็นวิธีรักษาอาการเหงื่อเยอะทั่วไปในวงการแพทย์ แต่ก็มีคนรักษาด้วยวิธีการนี้เช่นกัน
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแห้งสนิทก่อนแล้วค่อยใส่เสื้อผ้า
- ทาแป้งฝุ่นหลังอาบน้ำทันที
- ทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายก่อนเข้านอน
- สวมเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายเพื่อลดการขับเหงื่อ
- ถ้ายังไม่เคยโกนขนรักแร้เลยก็โกนซะ
- ถ้าจำเป็นให้ทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายซ้ำเรื่อยๆ
โฆษณา
คำเตือน
- การรักษาด้วยการรับประทานยานั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้ปากแห้งและตาพร่ามัว จึงไม่ค่อยมีใครรักษาด้วยวิธีนี้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
