ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ผู้หญิงทุกคนล้วนมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปากช่องคลอดด้วยกันทั้งสิ้น แต่ในปัจจุบันมะเร็งชนิดนี้เป็นโรคมะเร็งที่พบได้ไม่บ่อยนัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรคมะเร็งปากช่องคลอดจะเกิดขึ้นในคนจำนวนไม่มากนัก แต่ผู้หญิงทุกคนควรมีความเข้าใจและหมั่นสังเกตสัญญาณของมะเร็งปากช่องคลอดให้ดี และเมื่อคุณพบอาการต่างๆ ที่ผิดปกติและดูน่าสงสัย คุณจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโรคและยืนยันอย่างชัดเจนว่าเป็นมะเร็งปากช่องคลอดหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการรักษาโรคมะเร็งปากช่องคลอดมักมีโอกาสประสบผลสำเร็จสูงโดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของของโรคมะเร็งที่เกิดขึ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

สังเกตอาการของโรคมะเร็งปากช่องคลอด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โรคมะเร็งปากช่องคลอดอาจไม่แสดงอาการใดๆ ในระยะแรกแต่อาจมีสัญญาณเตือนปรากฏขึ้นมาบ้างพอให้คุณทราบ หมั่นเฝ้าจับตาอาการที่ผิดสังเกตเพื่อช่วยให้คุณได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาจากแพทย์ได้โดยเร็วที่สุด [1]
    • อาการหรือสัญญาณต่างๆ ของโรคมะเร็งปากช่องคลอดได้แก่ ก้อนเนื้อที่โตขึ้นผิดปกติ อาการคันหรือกดเจ็บที่ผิวหนังบริเวณปากช่องคลอด และการมีเลือดออก [2]
    • หมั่นตรวจเช็คสุขภาพของช่องคลอดเป็นประจำเพื่อให้คุณทราบสภาวะปกติของปากช่องคลอดของคุณและสามารถระบุอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย [3]
  2. ตระหนักถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอด. สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม บรรดาแพทย์ต่างระบุว่าปัจจัยและพฤติกรรมบางอย่างของคนเราสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอดได้ การตระหนักถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอดจะช่วยให้คุณรับรู้ถึงโอกาสในการเกิดโรคและสามารถรับการตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาจากแพทย์ได้อย่างทันท่วงที [4]
  3. คลำหาก้อนเนื้อหรือสิ่งผิดปกติอื่นๆ ที่บริเวณปากช่องคลอด. ก้อนเนื้อหรือสิ่งผิดปกติอื่นๆ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอดได้ ซึ่งคุณสามารถตรวจพบความผิดปกติเหล่านี้ได้โดยใช้นิ้วมือคลำเบาๆ ที่บริเวณปากช่องคลอดของคุณ [10]
  4. สังเกตดูอาการเจ็บปวด อาการคัน หรือภาวะเลือดออก. คอยสังเกตดูว่าที่บริเวณปากช่องคลอดของคุณมีอาการเจ็บปวด อาการคัน หรือภาวะเลือดออกที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติหรือเรื้อรังหรือไม่ เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการยังไม่มีทีท่าว่าจะหายไป [15]
  5. โรคมะเร็งปากช่องคลอดจะเกิดขึ้นที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกเพศหญิงที่ประกอบด้วยคลิตอริส แคม ปากช่องคลอด และผิวหนังหรือเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ [19] หมั่นตรวจเช็คอวัยวะเพศของคุณรวมถึงเฝ้าจับตาอาการที่ผิดสังเกตเพื่อช่วยให้คุณสามารถสังเกตเห็นสัญญาณของการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอดได้ทันท่วงที [20]
    • คุณอาจใช้กระจกเพื่อช่วยให้คุณสามารถตรวจเช็คอวัยวะเพศได้ง่ายยิ่งขึ้น
    • หมั่นตรวจเช็คผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดเป็นประจำเพื่อให้คุณทราบสภาวะปกติของปากช่องคลอดของคุณและสามารถระบุอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย [21]
    • สังเกตดูการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของผิวหนังบริเวณปากช่องคลอด เช่น สีผิวที่เปลี่ยนไปหรือความหนาของผิวที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้สิ่งผิดปกติที่ดูเหมือนหูดหรือแผลเปื่อยก็อาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการเกิดโรคมะเร็งปากช่องคลอดได้เช่นกัน [22]
    • โรคมะเร็งปากช่องคลอดมักเกิดขึ้นตรงขอบด้านในของแคมซึ่งเป็นรอยพับสองฝั่งของผิวหนังส่วนนอกของอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง [23]
    • คุณยังสามารถลองถามคู่รักของคุณว่าเคยสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่บริเวณปากช่องคลอดของคุณหรือไม่ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคู่รักของคุณจะสามารถสังเกตเห็นความแตกต่างได้เร็วกว่าตัวคุณเอง [24]
    • ไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดหากคุณพบอาการผิดปกติดังกล่าว [25]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

รับการตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาโดยแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณพบสัญญาณหรืออาการผิดปกติใดๆ ของโรคมะเร็งปากช่องคลอดหรือที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งดังกล่าว คุณควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด โรคมะเร็งปากช่องคลอดมีโอกาสรักษาให้หายดีได้มาก ดังนั้นการรับการวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็วจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงของขั้นตอนการรักษาให้น้อยลง [26]
    • หากเป็นไปได้ให้คุณปรึกษาสูตินรีแพทย์ซึ่งมีเครื่องมือสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งปากช่องคลอดอย่างครบครัน ซึ่งสูตินรีแพทย์อาจตัดสินใจส่งต่อคุณให้เข้ารับการรักษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะท่านอื่นๆ ในกรณีที่มีความจำเป็น
    • แพทย์ของคุณจะทำการตรวจร่างกายของคุณเพื่อหาสัญญาณของโรคมะเร็งปากช่องคลอด รวมทั้งอาจสอบถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพต่างๆ ของคุณ เช่น พฤติกรรมสุขภาพและประวัติการเจ็บป่วยในอดีต [27]
    • การตรวจร่างกายอาจรวมถึงการตรวจช่องคลอดด้วยเครื่องมือถ่างขยายช่องคลอด [28]
  2. หากแพทย์ตั้งข้อสงสัยว่าคุณอาจเป็นโรคมะเร็งปากช่องคลอด แพทย์ของคุณอาจตัดสินใจตรวจค้นหามะเร็งภายหลังการตรวจร่างกายของคุณซึ่งเป็นเพียงวิธีเดียวที่สามารถยืนยันถึงโรคมะเร็งปากช่องคลอดได้อย่างแน่ชัด [29]
    • วิธีการตรวจค้นหามะเร็งปากช่องคลอดที่พบได้บ่อยที่สุดด้วยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ โดยแพทย์จะทำการเก็บเซลล์หรือเนื้อเยื่อบางส่วนตรงปากช่องคลอดและส่งตรวจห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาสัญญาณของโรคมะเร็ง [30]
    • หากผลการตรวจยืนยันอย่างแน่ชัดว่าคุณเป็นโรคมะเร็งปากช่องคลอด คุณอาจจำเป็นต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อดูว่าเชื้อมะเร็งแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายแล้วหรือไม่ [31]
    • การตรวจค้นหามะเร็งเพิ่มเติมอื่นๆ อาจได้แก่การตรวจภายใน การส่องกล้องปากมดลูกด้วยคอลโปสโคป การเอกซเรย์ การตรวจซีทีสแกน และการตัดชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลือง [32]
  3. ในกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง แพทย์ของคุณจะกำหนดแนวทางการรักษาโดยพิจารณาจากความรุนแรงของโรค การรักษาโรคมะเร็งสามารถทำได้หลายวิธีและอาจประสบผลสำเร็จโดยราบรื่นหากได้รับการวินิจฉัยในช่วงระยะแรกๆ ของการเกิดโรค [33]
    • 4 แนวทางมาตรฐานในการรักษาโรคมะเร็งปากช่องคลอด ได้แก่ การผ่าตัด รังสีรักษา เคมีบำบัด และชีวบำบัด [34]
    • ในปัจจุบันการผ่าตัดเป็นวิธีการรักษาโรคมะเร็งปากช่องคลอดที่แพทย์นิยมใช้มากที่สุดและสามารถกำจัดเชื้อมะเร็งออกไปได้โดยไม่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ [35]
    • แพทย์ของคุณจะแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมตามความรุนแรงของโรคมะเร็งปากช่องคลอด
    • พิจารณาการเข้าร่วมการวิจัยทางคลินิกซึ่งจะเปิดโอกาสให้คุณได้ทดลองเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการใหม่ๆ สำหรับโรคมะเร็งในระยะที่ 1 และ 2 อาจสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียว ในขณะที่โรคมะเร็งในระยะที่ 3 และ 4 อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดแบบถอนรากถอนโคนควบคู่ไปกับคีโมบำบัดและรังสีรักษา [36]
    โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าละเลยต่ออาการผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เพราะหากเซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน มะเร็งชนิดทุติยภูมิอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้
  • ไม่มีวิธีใดๆ ที่สามารถรักษาการติดเชื้อไวรัส HPV ให้หายได้ ดังนั้นหากคุณมีอายุต่ำกว่า 30 ปี คุณอาจพิจารณารับการฉีดวัคซีน HPV เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส HPV [37]
โฆษณา
  1. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  2. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  3. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  4. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  5. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  6. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  7. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  8. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  9. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  10. http://www.cancer.gov/types/vulvar
  11. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/vulvarcancer.html
  12. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  13. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/vulvarcancer.html
  14. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  15. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  16. http://www.cdc.gov/cancer/vagvulv/basic_info/symptoms.htm
  17. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  18. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  19. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/vulvar-cancer/basics/tests-diagnosis/con-20043483
  20. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  21. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  22. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  23. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  24. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  25. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  26. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_0
  27. http://www.cancer.gov/types/vulvar/patient/vulvar-treatment-pdq#link/stoc_h2_3
  28. http://www.cdc.gov/hpv/vaccine.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,687 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา