ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เวลาที่คุณออกจากการอดอาหาร คุณต้องค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกายให้กลับเข้าสู่กระบวนการย่อยอาหารตามปกติอีกครั้ง และเนื่องจากว่าระบบย่อยอาหารของคุณน่าจะผลิตเอนไซม์น้อยลงและมีผลต่อเมือกที่อยู่ในกระเพาะ การรับประทานอาหารมากเกินไปหรือการรับประทานอาหารบางอย่างเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง หรือท้องเสียได้ การค่อยๆ กลับไปรับประทานอาหารปกติแบบค่อยเป็นค่อยไปและมีแบบแผนจะช่วยให้คุณออกจากการอดอาหารได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ออกจากการอดอาหาร (วันที่ 1)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องรู้ระยะเวลาในการออกจากการอดอาหาร ส่วนใหญ่ระยะเวลาในการอดอาหารจะเป็นตัวกำหนดระยะเวลาของการออกจากการอดอาหารด้วย อย่าข้ามการออกจากการอดอาหารในขั้นแรกไปหากคุณไม่อยากรู้สึกคลื่นไส้และทำให้ความพยายามที่ทำมาทั้งหมดสูญเปล่า
    • สำหรับการอดอาหารเป็นเวลานาน (มากกว่า 7 วัน) คุณจะต้องแบ่งเวลาไว้ 4 วันสำหรับการออกจากการอดอาหาร ช่วงวันแรกๆ จะจำกัดอยู่แค่อาหารพื้นฐานไม่กี่อย่างก่อนจะเริ่มเพิ่มอาหารอย่างอื่นเข้ามาด้วย
    • ถ้าคุณอดอาหารสั้นกว่านั้น (ประมาณ 1 สัปดาห์) ให้แบ่งเวลา 1-3 วันสำหรับการออกจากการอดอาหาร วันแรกอาจจะรับประทานแค่น้ำผลไม้และอาจจะมีซุปใสบ้าง และคุณอาจจะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปได้อย่างรวดเร็วใน 2 วันถัดไปแล้วแต่ว่าร่างกายตอบสนองอย่างไร
    • ถ้าเป็นการอดอาหาร 1 วัน ให้แบ่งเวลา 1-2 วันเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ถึงแม้ว่าระบบย่อยอาหารจะไม่ได้ตึงเครียดขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะลุยและเริ่มรับประทานอาหารขยะได้เลย
  2. หนึ่งในวิธีที่จะทำให้คุณสามารถทำตามตารางและไม่รับประทานอาหารที่ไม่ควรไปเสียก่อนก็คือ การวางแผนรับประทานอาหารอย่างเจาะจงตามระยะเวลาที่คุณต้องออกจากการอดอาหารเพื่อให้ระบบย่อยอาหารกลับมาทำงานอีกครั้ง ตัวอย่างแผนการรับประทานอาหาร (สำหรับการออกจากการอดอาหารเป็นเวลา 4 วัน) อาจเป็น :
    • วันที่ 1: น้ำผัก/ผลไม้ (แคร์รอต ผักใบเขียว กล้วย แอปเปิล) ปริมาณถ้วย 8 ออนซ์ 2 ถ้วยที่เจือจางกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 50:50 รับประทานห่างกันครั้งละ 4 ชั่วโมง
    • วันที่ 2: น้ำผัก/ผลไม้เจือจางปริมาณมากขึ้นกับน้ำซุปกระดูกและผลไม้ (ลูกแพร์และแตงโม) 2 ถ้วยทุก 2 ชั่วโมง
    • วันที่ 3: มื้อเช้าเป็นโยเกิร์ต 1 ถ้วยและน้ำผลไม้ อาหารว่างเป็นแตงโมครึ่งถ้วยกับน้ำผัก มื้อกลางวันเป็นซุปผักกับน้ำผลไม้ อาหารว่างเป็นแอปเปิลครึ่งถ้วย มื้อเย็นเป็นผักใบเขียวราดด้วยโยเกิร์ตและน้ำผลไม้
    • วันที่ 4: มื้อเช้าเป็นไข่ลวกกับน้ำผลไม้ อาหารว่างเป็นโยเกิร์ตกับเบอร์รี่ มื้อกลางวันเป็นถั่วต้มกับผัก ของว่างเป็นแอปเปิลกับถั่วเปลือกแข็ง มื้อเย็นเป็นซุปผักที่ดีต่อสุขภาพกับน้ำผลไม้
  3. ในช่วงออกจากการอดอาหารวันแรกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอดอาหารมาสักระยะ คุณจะต้องเริ่มจากการเติมน้ำกลับเข้าไปในร่างกายก่อน วิธีการก็คือในวันแรกหรือสองวันแรก คุณจะต้องดื่มน้ำผัก/ผลไม้เจือจางเท่านั้น
    • ในการออกจากการอดอาหารนั้น ให้ดื่มน้ำผักหรือน้ำผลไม้เจือจางปริมาณถ้วย 8 ออนซ์ 1 ถ้วย เลี่ยงชนิดที่เติมน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งเพิ่มเติม เพราะสุดท้ายแล้วส่วนประกอบพวกนั้นก็จะถูกขับออกจากระบบย่อยอาหารอยู่ดี
    • ภายใน 4 ชั่วโมงก็ให้ดื่มน้ำผัก/ผลไม้เจือจางปริมาณถ้วย 8 ออนซ์อีก 1 ถ้วย
  4. ในอีก 4 ชั่วโมงคุณก็อาจจะเริ่มเพิ่มผักหรือซุปกระดูกเข้าไปในเมนูอาหารด้วยแล้วแต่การตอบสนองของร่างกาย
    • ถ้าคุณอยากลองอะไรที่ตื่นเต้นหน่อย ให้ลองทำน้ำสต๊อกไก่หรือซุปเนื้อดู แถมคุณยังได้เล็มเนื้อเล่นๆ ขณะทำด้วย
    • คุณต้องให้ระยะเวลาร่างกายได้ปรับตัวอย่างเพียงพอหลังจากการอดอาหาร คุณไม่ควรยัดอาหารเข้าไปในระบบย่อยอาหารมากเกินไป เนื่องจากว่าหากคุณเอาอาหารเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากเข้าไปในทันที ระบบย่อยอาหารจะนำเข้าและย่อยอาหารใหม่ได้ยาก แม้จะเป็นแค่ซุปใสก็ตาม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ออกจากการอดอาหาร (วันที่ 2)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เริ่มรับประทานผลไม้ดิบ โดยเฉพาะถ้าคุณอดอาหารเป็นระยะเวลาสั้นๆ. ถ้าคุณอดอาหาร 2-3 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น การรับประทานแต่น้ำผัก/ผลไม้และน้ำสต๊อกหรือซุปใสไปก่อนก็อาจจะดีกว่า แต่ถ้าไม่ได้อดอาหารนานขนาดนั้นก็ได้เวลาเปลี่ยนไปรับประทานผลไม้เป็นชิ้นๆ แล้ว เพราะผลไม้หลายชนิดมีน้ำเยอะและย่อยง่าย แถมยังมีสารอาหารและพลังงานสูงอีกด้วย ระบบย่อยอาหารต้องการอาหารที่ย่อยง่ายและทำงานได้แบบไม่หนักเกินไป
    • คุณอาจจะเริ่มรับประทานผลไม้เล็กน้อยช่วงท้ายวันที่ 1 และวันที่ 2
    • ผลไม้ที่เหมาะจะรับประทานมากที่สุดได้แก่ แตง (โดยเฉพาะแตงโม) องุ่น แอปเปิล และลูกแพร์เพราะย่อยง่าย
  2. ระหว่างนี้ งดผลไม้ตระกูลส้ม เช่น เลมอนหรือส้ม และผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น สับปะรด. ร่างกายย่อยผลไม้ที่มีกากใยสูงได้ยาก และผลไม้ที่เป็นกรดสูงอาจทำให้ไม่สบายท้อง
  3. หลังจากการอดอาหารคุณควรรับประทานโยเกิร์ต เพราะโยเกิร์ตจะช่วยเพิ่มแบคทีเรียที่ดีและเอนไซม์ในทางเดินอาหารที่หายไปในช่วงอดอาหาร ซึ่งสุดท้ายแล้วพรีไบโอติกส์เหล่านี้ก็จะช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารง่ายขึ้น
    • รับประทานโยเกิร์ตในวันที่ 2 หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มรับประทานผลไม้ เพราะคุณต้องให้ระบบย่อยอาหารมีเอนไซม์โดยเร็วที่สุด แต่ต้องไม่ให้มากจนเกินไป
    • โยเกิร์ตที่รับประทานต้องเป็นรสธรรมชาติ เพราะน้ำตาล (น้ำตาลทราย ไม่ใช่น้ำตาลในผลไม้) จะทำให้ท้องไส้คุณปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิม
  4. ร่างกายจะบอกคุณเองว่าคุณข้ามขั้นตอนเร็วเกินไปหรือเปล่า อาการบางอย่างเป็นอาการปกติ เช่น หิวจัดหรือเวียนหัวเพราะคุณไม่ได้รับประทานอาหารมาสักพักแล้ว แต่ก็มีอาการอื่นๆ ที่บอกว่าคุณออกจากการอดอาหารไม่ถูกวิธี [1]
    • ถ้าคุณท้องผูก ท้องเป็นตะคริว หรือรู้สึกเหมือนจะอาเจียน (หรืออาเจียนออกมาจริงๆ) คุณควรกลับไปดื่มน้ำผลไม้เจือจางและซุปใสเหมือนเดิม
    • คุณควรถ่ายอย่างน้อย 1 ครั้งหลังจากดื่มน้ำผลไม้ไป 2-3 แก้วแรก แต่ถ้าไม่ถ่ายคุณอาจจะต้องข้ามไปรับประทานผลไม้เลย
    • นอกจากนี้คุณก็ต้องสังเกตอาหารที่คุณกลับมารับประทานใหม่ด้วยเพราะคุณอาจจะพบว่าตัวเองแพ้อาหารบางอย่าง สังเกตว่าพอรับประทานอาหารเข้าไปแล้วคุณรู้สึกอย่างไร เช่น คลื่นไส้ ง่วงซึม คันปากและลิ้น ทำให้เลือดคั่ง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ออกจากการอดอาหาร (วันที่ 3 และ 4)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เริ่มจากผักใบเขียว เช่น ผักกาดหอมและผักปวยเล้ง โดยรับประทานแบบสดและราดด้วยโยเกิร์ต รับประทานผลไม้และดื่มน้ำผลไม้ต่อไปขณะที่ร่างกายของคุณจัดการกับระบบย่อยอาหาร
    • หลังจากรับประทานผักกาดหอมและผักปวยเล้งแล้ว ให้เริ่มรับประทานผักอย่างอื่นทั้งแบบสดและสุก หรือคุณจะทำซุปผักก็ได้ (แต่อย่าเลือกแบบสำเร็จรูป เพราะมีน้ำตาล เกลือ และสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ดีต่อร่างกายอยู่มาก)
    • ต้นอ่อนก็เป็นผักที่เหมาะมาก เพราะมีแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายต้องการอยู่มากและย่อยง่าย
  2. คุณจะต้องทำให้สุกดีเสียก่อนแล้วจึงรับประทานควบคู่กับผักและผลไม้ ความอยากอาหารของคุณจะรุนแรงขึ้นเมื่อคุณกลับมารับประทานอาหารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
    • เมื่อคุณเริ่มชินกับการรับประทานอาหารแล้ว (ถ้าอดอาหารนานก็คือวันที่ 4 ถ้าอดอาหารวันเดียวก็คือวันที่ 2 และถ้าอดอาหารระยะเวลาปานกลางก็คือวันที่ 3) ให้ลองถั่วเปลือกแข็งกับไข่ วิธีรับประทานไข่ที่ง่ายที่สุดก็คือทำเป็นไข่ลวกหรือไข่คน เพราะถ้าเป็นไข่ต้มร่างกายจะย่อยยากกว่า
  3. ดูให้ดีว่าร่างกายพร้อมแล้วก่อนเริ่มรับประทานตามปกติ. ถ้าร่างกายสามารถย่อยผักและผลไม้ได้แบบไม่มีปัญหา (เช่น ตะคริว คลื่นไส้ เป็นต้น) คุณก็เริ่มรับประทานอาหารที่ย่อยยากขึ้นได้เลย แต่ถ้าจนถึงตอนนี้แล้วระบบอาหารยังทำงานได้ไม่ดี ก็ให้รับประทานแต่อาหารที่ทำให้มีอาการน้อยที่สุด วางใจอาหารที่เข้ากับร่างกายได้ดีก่อน
  4. ในตอนเริ่มต้น (หลังจากที่คุณดื่มน้ำผลไม้เจือจางทุก 4 ชั่วโมงแล้ว) คุณอาจจะเริ่มรับประทานทุก 2 ชั่วโมง แล้วคุณก็จะได้รับประทานอาหารมื้อใหญ่ขึ้นเมื่อร่างกายของคุณปรับตัวเข้ากับปริมาณอาหารที่มากขึ้นได้แล้ว
    • ท้ายที่สุดตารางรับประทานอาหารสูงสุงในแต่ละวันก็คืออาหารหลัก 3 มื้อและของว่าง 2 มื้อ พอคุณมาถึงขั้นนี้แล้ว ร่างกายของคุณก็น่าจะกลับไปเป็นปกติและหวังว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นหลังจากได้ล้างพิษไปแล้ว
  5. การเคี้ยวคือการบดอาหารให้ละเอียดเพื่อให้ระบบย่อยอาหารย่อยง่ายขึ้น รับประทานช้าๆ และให้ร่างกายได้เตรียมตัวย่อย พยายามเคี้ยวให้ได้อย่างน้อยคำละ 20 ครั้งก่อนรับประทานคำถัดไป [2]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

แก้ไขปัญหาทั่วไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รู้ว่าอาการท้องเสียและการถ่ายบ่อยๆ หลังจากกลับไปรับประทานอาหารแข็งเป็นเรื่องปกติ. วันแรกคุณติดแหง็กอยู่กับน้ำแตงโม แล้วพอวันที่ 2 คุณก็เริ่มรับประทานองุ่นกับลูกแพร์ พอรับประทานองุ่นกับลูกแพร์ไปได้นิดหน่อย คุณก็ท้องเสียทันทีและของแข็งทั้งหมดก็ออกจากร่างกายไป มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
    • คนที่อดอาหารมักจะมีอาการนี้ค่อนข้างบ่อยหลังจากที่พวกเขาเริ่มกลับไปรับประทานอาหารแข็ง เพราะในระหว่างที่อดอาหาร ระบบย่อยอาหารของคุณได้พักผ่อนและไม่ได้ทำงาน เอนไซม์ต่างๆ ที่อยู่ในลำไส้ก็ไม่คุ้นเคยกับการทำงาน แต่จู่ๆ ก็มีอาหารเข้ามาและพวกมันต้องติดเครื่องจาก 0 เป็น 60 ภายในระยะเวลาสั้นๆ จึงไม่แปลกที่มันจะปั่นป่วนไปหมด
    • วิธีการแก้ปัญหานี้ก็คืออดอาหารต่อไปก่อน เพราะส่วนใหญ่ปัญหาไม่ได้เกิดจากอาหาร แต่แค่เป็นเพราะว่าคุณกำลังสั่งให้ร่างกายทำในสิ่งที่มันยังไม่พร้อมที่จะทำ ให้รับประทานแค่น้ำผักและผลไม้ควบคู่ไปกับซุปใสและน้ำสต๊อกก่อน จากนั้นค่อยรับประทานอาหารแข็งย่อยง่ายบ้างเป็นครั้งคราว แล้วร่างกายของคุณก็จะปรับตัวได้ใน 1 หรือ 2 วัน
  2. รู้ว่าแก๊สและอาการท้องผูกก็เป็นอาการที่พบได้ค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน. ในทางกลับกันถ้าคุณถ่ายไม่ออกหลังจากเริ่มรับประทานอาหารแข็ง ก็ไม่ต้องตกใจ คุณไม่ได้ผิดปกติอะไรและไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ :
    • ผสม Metamucil (หรือใยอาหารเสริมอื่นๆ) 1 ช้อนชากับว่านหางจระเข้ 1 ช้อนชาในน้ำปริมาณ 250 มล. และดื่มก่อนมื้ออาหาร ทั้งใยอาหารเสริมและว่านหางจระเข้เป็นยาระบายอ่อนๆ ที่น่าจะช่วยให้คุณถ่ายได้
    • เลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้ท้องผูกหรือทำให้ท้องผูกกว่าเดิม แม้ว่าถั่วเปลือกแข็ง เคล และกาแฟจะเป็นของดิบและดีต่อร่างกาย แต่มันทำให้อาการท้องผูกแย่ลง เพราะฉะนั้นให้รับประทานแต่ผลไม้ย่อยง่าย เช่น ลูกพรุน และผัก เช่น มันเทศและฟัก
  3. รู้ว่าการรับประทานอาหารหลากหลายเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่กลับไปรับประทานอาหารแข็ง อาจทำให้ระบบย่อยอาหารมีปัญหาได้. สิ่งสำคัญที่สุดของการออกจากการอดอาหารก็คือความเรียบง่าย หาน้ำผลไม้ที่เหมาะกับคุณและดื่มแค่น้ำผลไม้ชนิดนี้ทั้งวัน วันต่อมาก็ให้หาผลไม้ง่ายๆ ที่เหมาะกับคุณและรับประทานอย่างเดียวตลอดทั้งวัน คนที่อดอาหารหลายคนคิดว่าระบบย่อยอาหารของพวกเขาอึดกว่าที่มันเป็นและลงโทษมันด้วยการให้ในสิ่งที่พวกเขา คิดว่า มันอยากได้ ซึ่งก็คืออาหารที่หลากหลาย ในขณะที่จริงๆ แล้วมันต้องการความเรียบง่าย เลือกรับประทานของง่ายๆ แล้วร่างกายจะตอบแทนคุณ
  4. ระวังอาหารที่มีน้ำมันเยอะในช่วงสัปดาห์แรกของการออกจากการอดอาหาร. แม้แต่อาหารที่มีน้ำมันที่มีประโยชน์อย่างอะโวคาโดและถั่วเปลือกแข็งเองก็อาจจะทำให้ระบบย่อยอาหารที่ไม่ได้รับอาหารแข็งเลยในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาได้ ในช่วงแรกให้รับประทานแต่ผักและผลไม้ที่มีน้ำมันไม่มากก่อน ค่อยๆ ดูว่าร่างกายตอบสนองต่ออาหารที่มีไขมันสูง เช่น อะโวคาโด อย่างไรเมื่อคุณพร้อมที่จะกลับไปรับประทานอาหารเหล่านี้อีกครั้ง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • รักษานิสัยการรับประทานอาหารที่ดีเอาไว้ จำไว้ว่าการอดอาหารคือประสบการณ์ล้างพิษสำหรับร่างกาย อย่าเพิ่งเอาอาหารขยะและมื้ออาหารที่ผ่านการปรุงแต่งใส่เข้าไปในทันที ทำให้การอดอาหารเป็นจุดเริ่มต้นของวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ
  • ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ขณะออกจากการอดอาหาร คุณต้องหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองไม่ให้มัวคิดแต่ว่าตัวเองหิวแค่ไหน หาภาพยนตร์สนุกๆ ดู ไปเที่ยวกับเพื่อน หรือหัดถักนิตติ้ง
  • รักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำ ดื่มน้ำและน้ำผลไม้สดๆ ต่อไประหว่างที่คุณออกจากการอดอาหาร [3]
โฆษณา

คำเตือน

  • เตือนไว้ว่าคุณจะรู้สึกหิวมากๆ หลังจากเลิกอดอาหาร แต่คุณต้องมีวินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระเพาะและระบบย่อยอาหารกลับมาทำงานอีกครั้ง
  • อย่ารับประทานทุกอย่างที่ขวางหน้าในช่วงออกจากการอดอาหาร คณอาจจะอยากยัดอาหารทุกอย่างที่คุณอยากรับประทานช่วงอดอาหารเข้าไปในท้อง แต่การทำเช่นนี้อาจทำให้คุณป่วยได้และเป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหารและลำไส้อย่างมาก
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน
จดไดอารี่อาหาร
ผอมด้วยวิธีธรรมชาติ
รับประทานอาหารแบบแบรทไดเอท (BRAT Diet)
คำนวณแคลอรี่จากโปรตีน
ยับยั้งอาการอยากของหวาน
ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 1 เดือน
เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
ลดน้ำหนักใน 1 อาทิตย์
ลดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์
รักษาหุ่นโดยที่ยังดื่มแอลกอฮอล์ได้
เผาผลาญไขมันและมีสุขภาพดี
ทำให้หน้าท้องแบนเรียบในหนึ่งสัปดาห์
วิธีทานอาหารเสริมจากส้มแขก: ความเสี่ยง, คุณประโยชน์ และข้อมูลด้านความปลอดภัย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,648 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา