ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อะโวคาโด ผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบนั้นทั้งอร่อย อุดมไปด้วยสารอาหาร และสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู แต่การจะดูว่าเมื่อไหร่ที่ควรผ่าไปรับประทานได้แล้วก็อาจจะยากอยู่สักหน่อย หากพูดถึงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพจากการรับประทานอาหารที่เสียแล้วนั้น อะโวคาโดที่สุกเกินไปอาจไม่ก่อให้เกิดอันตรายก็จริง แต่มันจะไม่อร่อยเลย การรู้วิธีสังเกตดูและวิธีการเก็บอะโวคาโดจะทำให้คุณไม่ต้องพบกับความผิดหวัง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

สังเกตลักษณะของอะโวคาโด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ดูว่าอะโวคาโดเสียหรือยัง
    บางคนแนะนำให้สังเกตความนิ่มด้วยการกดลงไปหรือดึงขั้วออก ถ้าขั้วดึงออกง่ายแสดงว่าสุกแล้ว และเมื่อดึงขั้วออกแล้วก็จะเห็นสีของเนื้อข้างในด้วย [1] วิธีนี้อาจใช้ดูความนิ่มได้เท่านั้น แต่จะใช้ดูสีไม่ได้ เพื่อให้รู้ว่าคุณภาพของเนื้อเป็นอย่างไร คุณต้องเห็นผิวด้านบนมากกว่านี้
    • ถ้าคุณกำลัง เลือกซื้ออะโวคาโด อย่าใช้วิธีนี้เพราะมันจะทำให้ผลเสียหาย การดึงขั้วออกอาจทำให้คุณภาพของอะโวคาโดลดลงสำหรับผู้ซื้อคนอื่นๆ
  2. ความแข็งและสีของอะโวคาโดคือสิ่งที่บอกได้ชัดเจนว่ามันสุกหรือยัง
    • ถืออะโวคาโดไว้ในมือและกดเบาๆ อะโวคาโดที่สุกแล้วเมื่อกดลงไปเบาๆ ก็จะยุบลงเล็กน้อย แต่ถ้ากดลงไปเบาๆ แล้วเป็นรอยบุ๋มลงไปเลย แสดงว่ามันน่าจะเสียแล้ว [2]
    • สังเกตผิวด้านนอกของอะโวคาโด ถ้าผิวเหี่ยว เป็นรอย บุ๋มลึก มีราที่มองเห็นได้หรือกลิ่นเหม็นเน่า แสดงว่ามันไม่เหมาะจะนำมารับประทานและควรทิ้งไปได้แล้ว [3]
    • สังเกตสี อะโวคาโดสายพันธุ์ต่างๆ จะมีสีที่ต่างกัน อะโวคาโดพันธุ์แฮสซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มจัดหรือสีม่วงเมื่อมันสุก [4] ถ้าอะโวคาโดสายพันธุ์แฮสกลายเป็นสีดำสนิท ก็อาจเลยช่วงที่อร่อยที่สุดไปแล้ว
  3. Watermark wikiHow to ดูว่าอะโวคาโดเสียหรือยัง
    ถ้าคุณซื้ออะโวคาโดมาแล้ว วิธีนี้เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการดูว่าอะโวคาโดเสียหรือยัง เนื้อควรจะเป็นสีเขียวอ่อน ถ้าเนื้อเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล แสดงว่าไม่เหมาะจะนำมารับประทานแล้ว แต่ถ้ามีรอยช้ำเล็กน้อยเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลกระจายอยู่เป็นหย่อมๆ แสดงว่ายังรับประทานได้ [5]
  4. Watermark wikiHow to ดูว่าอะโวคาโดเสียหรือยัง
    ถ้าคุณตรวจดูเนื้อถี่ถ้วนแล้วแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าอะโวคาโดเสียหรือยัง คุณจะลองชิมรสชาติดูก็ได้ อย่าชิมตรงที่เป็นจุดสีน้ำตาล แต่ให้ชิมตรงเนื้อสีเขียวคำเล็กๆ อะโวคาโดควรมีรสมัน รสอ่อน และหวานน้อยๆ แต่ถ้ามันมีกลิ่นแรงหรือรสชาติแปลกๆ ก็แสดงว่ามันเสียแล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เก็บอะโวคาโดให้คงความสด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เก็บอะโวคาโดให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้สุกเกินไป. ถ้าอะโวคาโดสุกเต็มที่แล้วแต่คุณยังไม่รับประทานทันที ให้เก็บไว้ในตู้เย็น อะโวคาโดที่สุกแล้วและยังไม่ได้ผ่าสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ประมาณ 3-4 วัน และเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 7-10 วัน [6]
  2. Watermark wikiHow to ดูว่าอะโวคาโดเสียหรือยัง
    ในการเก็บอะโวคาโดที่หั่นแล้ว ให้ใช้พลาสติกแร็ปพันให้แน่นและ/หรือเก็บไว้ในภาชนะที่อากาศเข้าไม่ได้ได้สูงสุด 2-3 วัน [7] ในการทำให้เนื้ออะโวคาโดเป็นสีเขียวให้นานที่สุดนั้น ให้บีบน้ำมะนาวเล็กน้อยลงบนเนื้อที่หั่นแล้ว กรดปริมาณเล็กน้อยจะช่วยยับยั้งการเกิดออกซิเดชันและทำให้เนื้ออะโวคาโดไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเร็วนัก
    • เมื่อเนื้ออะโวคาโดเกิดการออกซิเดชันก็ไม่ได้หมายความว่าจะนำมารับประทานไม่ได้แล้ว ใช้ช้อนหรือส้อมค่อยๆ ขูดเนื้อด้านบนที่เป็นสีน้ำตาลออก เนื้ออะโวคาโดที่อยู่ข้างใต้น่าจะยังเป็นสีเขียวอ่อนอยู่
  3. แช่อะโวคาโดไว้ในช่องแข็งเพื่อไม่ให้เสียของ. ในการยืดอายุของอะโวคาโดนั้น ให้น้ำเนื้อไปผสมกับน้ำมะนาวเพื่อทำเป็นพูเรและเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดแน่น พูเรสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้นานสูงสุด 4 เดือน [8]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วอะโวคาโดยังคงสุกต่อไปเรื่อยๆ และใช้เวลาในการสุกไม่เกิน 4-5 วันเมื่อเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง [9]
โฆษณา

คำเตือน

  • อะโวคาโดผลิตเอธิลีนซึ่งเป็นแก๊สที่ทำให้ผลไม้สุกเร็ว การเก็บอะโวคาโดในพื้นที่จำกัดหรือเก็บไว้กับผลไม้อื่นๆ ที่ผลิตเอธิลีนเหมือนกัน เช่น กล้วย ลูกพีช และแอปเปิล จะทำให้อะโวคาโดยิ่งสุกเร็ว [10]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 57,895 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา