ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สีตานั้นมีความเป็นลักษณะเฉพาะ และยากที่จะเปลี่ยนถ้าไม่ได้ใช้คอนแทคเลนส์ มันยังเป็นไปได้ที่จะขับสีตาที่แท้จริงของคุณออกมาด้วยการใช้อายแชโดว์แบบเฉพาะในการแต่งตา หรือคุณจะเปลี่ยนสีตาทั้งวันด้วยคอนแทคเลนส์สีก็ได้ การผ่าตัดก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่ในขณะที่บทความนี้กำลังถูกเขียนอยู่ เรื่องการผ่าตัดเปลี่ยนสีตานั้นยังอยู่ในขั้นตอนการทดลองอยู่ บทความนี้จะแสดงให้คุณเห็นถึงวิธีการเปลี่ยนสีตา และให้ข้อมูลเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์สีและการผ่าตัดอีกเช่นกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้อายแชโดว์ช่วยขับสีตาให้สดใส

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้าใจว่าเครื่องสำอางจะเปลี่ยนสีตาได้อย่างไร. คุณไม่สามารถใช้อายแชโดว์เปลี่ยนให้ตาสีฟ้ากลายเป็นสีน้ำตาล หรือให้สีน้ำตาลเป็นสีฟ้าได้ แต่คุณสามารถใช้มันในการช่วยขับสีตาที่มีอยู่แล้วออกมาได้ คุณสามารถทำให้ตาดูสดใสขึ้น หม่นลง หรือให้สีดูอ่อนลงได้ ขึ้นอยู่กับสีอายแชโดว์ที่คุณใช้ ตาบางสีอย่างสีน้ำตาลทองและสีเทา ก็อาจมีสีที่ชัดขึ้นด้วยการทาอายแชโดว์บางสี ในส่วนนี้จะบอกว่าคุณควรใช้อายแชโดว์ในการเปลี่ยนสีตาอย่างไร
  2. สีประเภทสีส้ม อย่างเช่นสีส้มอมแดง (สีปะการัง) และสีส้มแชมเปญ จะเข้ากับดวงตาสีฟ้าของคุณเป็นที่สุด มันจะทำให้ดวงตาของคุณมีสีที่กระจ่างขึ้นและชัดขึ้นกว่าเคย [1] อายแชโดว์ที่เป็นสีฟ้า อาจทำให้ดวงตาของคุณดูสีอ่อนหรือซีดลง และนี่คือการจับคู่สีที่เราแนะนำให้คุณได้ลอง: [2] [3]
    • สำหรับวันธรรมดาทั่วไป กับเสื้อผ้าแบบปกติ ให้แต่งตาในโทนสีปกติ เช่น: สีน้ำตาล สีเทาอมน้ำตาล สีดินเผา หรือสีใดก็ตามที่อยู่ในหมวดสีส้ม
    • สำหรับคืนที่แสนพิเศษ ให้ลองสีจำพวกเมทัลลิค อย่างสีทอง สีทองแดง หรือสีบรอนซ์
    • หลีกเลี่ยงพวกสีที่มืดเกินไป โดยเฉพาะถ้าคุณมีผิวที่ขาว ให้ใช้สีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้มตอนที่เลือกอายไลน์เนอร์แทน จะได้ดูไม่เข้มเท่าสีดำ
  3. คนที่มีตาสีน้ำตาลนั้นสามารถแต่งตาได้แทบทุกสีเลยล่ะ แต่สีโทนเย็นอย่างสีม่วงหรือสีฟ้า จะช่วยทำให้ดวงตาสีน้ำตาลสว่างขึ้นได้ดี และนี่คือตัวเลือกให้ลองแต่งตามดู: [4] [5]
    • ในวันธรรมดา เน้นเป็นสีน้ำตาล เพื่อทำให้ตาดูโดดเด่น ให้ใช้สีน้ำตาลแกมเงิน หรือสีน้ำตาลปนชมพู [6]
    • ถ้าคุณอยากให้ตาดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ลองทาสีฟ้า เทา เขียว หรือม่วงดูสิ
    • สำหรับคืนพิเศษ ให้ลองทาสีจำพวกเมทัลลิค เช่น สีบรอนซ์ สีทองแดง หรือสีทอง สำหรับสีเขียวแกมทองก็ใช้ได้เช่นกัน [7]
    • ถ้าคุณมีดวงตาสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ลองสีที่เป็นเฉดเพชรพลอยดูแทน เช่น สีฟ้าสว่าง หรือสีม่วงอมชมพู หรือจะเป็นสีเงิน หรือสีน้ำตาลช็อคโกแลตก็ได้นะ
  4. ฉายประกายสีฟ้าหรือเขียวออกมาจากตาสีเทา ด้วยการใช้อายแชโดว์สีฟ้าหรือเขียว. ดวงตาสีเทานั้นเหมือนจะใช้อายแชโดว์สีไหนก็ขึ้นไปหมด นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้อายแชโดว์ในการดึงประกายออกจากดวงตาสีเทาให้ดูมีสีฟ้าหรือเขียวได้ ถ้าคุณต้องการขับสีเทาให้ชัดขึ้น ให้เน้นการใช้อายแชโดว์ในเฉดสีคล้ายเขม่า หรือควัน เช่น สีเงิน สีดำถ่าน หรือสีดำ [8] [9] และนี่คือเคล็ดลับบางส่วนที่จะดึงสีฟ้าและสีเขียวออกมาจากนัยน์ตาคุณได้: [10]
    • ในการดึงประกายสีฟ้าออกมา ให้ทาอายแชโดว์สีดังต่อไปนี้: สีทองแดง สีเขียวเมลอน สีน้ำตาลธรรมชาติ สีส้ม สีส้มพีช หรือสีส้มแซลมอน คุณจะสามารถดึงประกายสีฟ้าออกมาได้เพิ่มขึ้น โดยการทาหัวตาเป็นสีฟ้าอีกเล็กน้อย
    • ในการดึงประกายสีเขียวออกมา ให้ทาอายแชโดว์สีดังต่อไปนี้: สีแดงม่วงเข้มอมน้ำตาล สีชมพู สีม่วงลูกพรุน สีน้ำตาลแดง หรือสีแดงไวน์
  5. ทาสีม่วงหรือสีน้ำตาลเพื่อทำให้ดวงตาสีเขียวดูชัดขึ้น. นี่เป็นสีที่เหมาะที่สุดสำหรับสีเขียว เป็นสีที่ตรงข้ามกับสารสีเขียวบนนัยน์ตาของคุณ ซึ่งจะช่วยให้สีเขียวของตาดูสว่างขึ้นและมีชีวิตชีวามากขึ้น ตัวอย่างเช่น ทาอายแชโดว์สีม่วงในคืนพิเศษ และทาสีน้ำตาลประกายหรือสีเทาอมน้ำตาลในวันธรรมดา [11] และนี่คือสีที่คุณควรลองทาดู: [12] [13]
    • สีม่วงทุกเฉดก็ต่างดูเข้ากับตาคุณ ถ้าไม่ชอบสีม่วงล่ะก็ ลองสีชมพูแทนก็ได้นะ
    • ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าจะทาสีม่วงดีหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นทาอายแชโดว์สีเทาอมน้ำตาลบนเปลือกตา แล้วเพิ่มสีม่วงตรงหางตาแถวๆ แนวขนตาสักเล็กน้อยก็ย่อมได้
    • อายไลเนอร์สีดำจะดูเข้มเกินไปสำหรับดวงตาสีเขียว ให้ใช้สีดำถ่าน สีเงิน หรือม่วงเข้มแทน
  6. ดวงตาสีน้ำตาลทองจะมีประกายสีเขียวและทองผสมอยู่ นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้อายแชโดว์สีที่ต่างกันเพื่อดึงสีเหล่านั้นออกมาได้ นี่คือตัวเลือกให้คุณได้ลอง: [14] [15] [16]
    • หลีกเลี่ยงการใช้สีแนวควันแบบเข้มๆ มันจะไปกลบประกายสีเขียวและทองในดวงตาสีน้ำตาลทอง และทำให้ดวงตาดูมัวลงแทน
    • ในการขับสีเขียวและทองออกมานั้น ให้ใช้อายแชโดว์สีบรอนซ์ สีชมพูหม่น หรือสีม่วงมะเขือม่วง ส่วนสีเขียวแบบชุดทหารจะดึงประกายสีเขียวในดวงตาออกมาเป็นพิเศษ
    • ถ้าคุณต้องการให้ดวงตาออกสีน้ำตาลมากกว่าเดิม ให้ทาอายแชโดว์สีทองหรือเขียวดู
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

เปลี่ยนสีตาชั่วคราวด้วยคอนแทคเลนส์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้ว่าคุณจะมีสายตาที่ดีตั้งแต่แรก แต่คุณก็ต้องการความพอดีของคอนแทคเลนส์อยู่ดี ลูกตาคนเรามีรูปร่างที่ต่างกันออกไป และการใส่คอนแทคเลนส์ที่ผิดรูปร่างอาจทำให้ตาคุณเจ็บได้ บางครั้งดวงตาของคุณก็ไม่เข้ากับคอนแทคเลนส์เลย บางทีแพทย์อาจต้องสั่งคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษสำหรับคุณก็ได้ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนตาแห้งด้วยแล้วล่ะก็นะ [17]
  2. ซื้อคอนแทคเลนส์จากร้านค้าที่ถูกต้องตามกฏหมาย. จ่ายเท่าไรก็ได้ของดีเท่านั้น เป็นคติที่ใช้ได้ดีโดยเฉพาะในการซื้อคอนแทคเลนส์ ในกรณีนี้ มันอาจดีกว่าที่จะเพิ่มเงินอีกสักนิดซื้อคอนแทคเลนส์สักคู่แล้วปลอดภัย ถ้าเทียบกับซื้อคู่ที่ถูกกว่าแล้วมาเสียใจทีหลัง ดวงตานั้นเป็นอวัยวะที่บอบบาง และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาไม่ดีก็สามารถทำร้ายดวงตาไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ [18]
    • ที่ที่ดีที่สุดในการซื้อคอนแทคเลนส์คือตามร้านขายแว่น หรือผู้เชี่ยวชาญในการวัดสายตา
    • คอนแทคเลนส์สีที่ออกใบสั่งโดยแพทย์นั้น จะออกใบสั่งได้ก็ต่อเมื่อคนไข้มีปัญหาทางด้านสายตาจริงๆ
  3. คอนแทคเลนส์บางคู่อาจใส่ได้เพียงครั้งเดียว ขณะที่คู่อื่นๆ นั้นสามารถใส่ได้หลายครั้งด้วยกัน เพราะเลนส์สีนั้นมีแววว่าจะแพงกว่าแบบใสธรรมดา คุณจึงต้องตัดสินใจและกำหนดความบ่อยนี้ และนี่คือประเภทต่างๆ ของคอนแทคเลนส์ที่สามารถหาซื้อได้: [19] [20]
    • คอนแทคเลนส์แบบใช้ครั้งเดียวนั้นก็มีราคาแพงได้เช่นกัน คอนแทคเลนส์บางคู่ก็สามารถใส่ได้เพียงแค่ครั้งเดียว ถ้าคุณต้องการใส่คอนแทคเลนส์เพื่อโอกาสสำคัญๆ แค่หนึ่งหรือสองครั้ง ก็ลองตัดสินใจเลือกแบบนี้ดู
    • คอนแทคเลนส์แบบใส่รายวันนั้นต้องถอดออกในเวลากลางคืน ส่วนจะใส่คู่เดิมได้บ่อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวสินค้า บางทีก็เป็นแบบรายสัปดาห์ บางทีก็สามารถใส่ได้ถึงหนึ่งเดือน หรืออาจไม่นานไปกว่านี้
    • คอนแทคเลนส์ที่สามารถใส่ค้างคืนได้หลายวันนั้นสามารถใส่ในเวลานอนได้ แม้ว่าจะไม่เป็นที่แนะนำก็ตามที ยิ่งใส่คอนแทคเลนส์นานเท่าไร การติดเชื้อก็จะยิ่งเป็นไปได้โดยง่าย คอนแทคเลนส์ชนิดที่ใส่ค้างคืนได้ก็เหมือนกับคอนแทคเลนส์ที่ใส่รายวัน ที่ต้องเปลี่ยนคู่บ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวสินค้าเช่นกัน บางทีก็สามารถใส่ได้แค่สัปดาห์เดียว ขณะที่แบบอื่นจะใส่ได้นานกว่านั้นมาก
  4. ใส่คอนแทคเลนส์แบบเพิ่มเม็ดสี (Enhancement-tint lenses) ถ้าคุณมีดวงตาสีอ่อน และต้องการเปลี่ยนสีตาเล็กน้อย. หรือจะใช้คอนแทคเลนส์ชนิดนี้เพื่อเน้นสีตาตามธรรมชาติให้โดดเด่นออกมาก็ได้ (แม้คุณจะมีดวงตาสีเข้มก็ตาม) เพราะคอนแทคเลนส์ชนิดนี้จะมีสีโปร่งใส จึงไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีดวงตาสีเข้ม เพราะอาจมองไม่เห็นสีของคอนแทคเลนส์
  5. ใส่คอนแทคเลนส์สีทึบ (Opaque-tint lenses) ถ้าคุณต้องการให้สีเปลี่ยนแปลงแบบสุดๆ หรือถ้าคุณมีดวงตาสีเข้ม. เหมือนกับชื่อของมัน เลนส์ชนิดนี้จะเป็นสีทึบ และจะเปลี่ยนสีของตาคุณไปเลย คุณจะซื้อแบบสีธรรมชาติ อย่างสีน้ำตาล สีตา สีเทา สีเขียว และสีน้ำตาลทอง หรือสีแบบไม่ธรรมชาติ อย่างสีขาว สีแดง รูปร่างคล้ายตาแมว และสีม่วง ก็ย่อมได้
    • บางที่ก็รับทำคอนแทคเลนส์ที่ปรับสีและลายที่ต้องการได้ด้วยนะ
  6. คุณใส่คอนแทคเลนส์อยู่ ซึ่งมันอาจเลื่อนได้เมื่อคุณกระพริบตา นั่นหมายความว่าถ้าคอนแทคเลนส์เลื่อนเพียงเล็กน้อย สีม่านตาจริงๆ อาจปรากฏออกมา แล้วคนอื่นก็จะรู้ทันทีว่าคุณใส่คอนแทคเลนส์อยู่
    • ถ้าใส่เลนส์สีทึบจะเห็นข้อผิดพลาดนี้ได้ชัดกว่าใส่เลนส์แบบเพิ่มเม็ดสี
  7. ม่านตาและรูม่านตาของคุณจะเปลี่ยนขนาดโดยธรรมชาติขึ้นอยู่กับการรับแสงที่แตกต่างกัน แต่คอนแทคเลนส์จะไม่เปลี่ยนขนาดไปด้วย นั่นหมายความว่า เมื่อคุณเดินเข้าไปยังห้องมืดๆ แล้วรูม่านตาของคุณขยายตัวขึ้น การมองเห็นบางส่วนจะถูกบังโดยส่วนที่เป็นสีของคอนแทคเลนส์ และถ้าคุณเดินไปยังที่ที่มีแสงสว่าง รูม่านตาก็จะหดเล็กลง และส่วนที่เป็นสีตาจริงๆ ของคุณก็อาจโผล่ออกมาตรงส่วนที่เป็นสีใสของคอนแทคเลนส์ได้
  8. ถ้าคุณไม่ทำความสะอาดมันเป็นประจำหรือบ่อยพอล่ะก็ ตาคุณอาจติดเชื้อได้ อาการติดเชื้อในตาบางประเภทนั้นร้ายแรงมาก และอาจทำให้คุณตาบอดได้เลย คุณควรใส่คอนแทคเลนส์ไว้ในตลับตลอดเวลาขณะที่ไม่ได้ใส่มันอยู่ในตา และควรทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ด้วยน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ก่อนที่จะใส่มันอีกครั้ง
    • ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสคอนแทคเลนส์
    • ห้ามใช้น้ำลายในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้คอนแทคเลนส์เด็ดขาด ภายในช่องปากของคนเรามีเชื้อโรคจำนวนมากเลยนะ
    • ห้ามใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับผู้อื่น แม้จะฆ่าเชื้อแล้วก็ตาม
  9. ห้ามใส่คอนแทคเลนส์เกินกว่าระยะเวลาที่แนะนำไว้ และถอดมันออกเมื่อจำเป็น. นั่นหมายความว่าคุณควรถอดคอนแทคเลนส์ออกจากตาก่อนที่จะนอน รวมถึงแบบที่ใส่ค้างคืนได้ก็ควรถอดออกเช่นกัน แม้ว่าแบบที่ใส่ค้างคืนได้นั้นได้บอกคุณสมบัติของตัวมันว่าใส่ข้ามคืนได้ แต่การใส่คอนแทคเลนส์ไว้นานๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในตาขึ้นได้ และคุณควรถอดคอนแทคเลนส์ออกตอนอาบน้ำ ไม่ว่าจะอาบในอ่างหรือฝักบัว รวมถึงตอนที่ว่ายน้ำด้วย [21]
    • คอนแทคเลนส์บางชนิดสามารถใส่ได้หลายครั้ง แต่ก็มีบางชนิดที่ใส่ได้แค่ครั้งเดียว อย่าใช้คอนแทคเลนส์นานเกินระยะเวลาที่กำหนดให้
    • น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์มีวันหมดอายุเช่นกัน อย่าใช้หากมันหมดอายุแล้ว
    • ในการป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโตขึ้นมา ควรเปลี่ยนคู่คอนแทคเลนส์ที่ใส่ทุกๆ สามถึงหกเดือน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เปลี่ยนสีตาด้วยการใช้โปรแกรม Photoshop

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิดโปรแกรม Photoshop และเปิดรูปภาพที่คุณต้องการจะแก้ไข. ไม่ว่ารูปไหนก็นำมาเปลี่ยนสีตาได้ แต่รูปชัดๆ คุณภาพสูงๆ ย่อมดีกว่า ในการเปิดรูปในโปรแกรมนั้น เพียงคลิกที่คำสั่ง "ไฟล์ (File)" บนแถบข้างบนสุด แล้วเลือก "เปิด (Open)" จากเมนูที่โผล่ขึ้นมา
  2. ทำได้โดยการคลิกที่ไอคอนรูปแว่นขยายเล็กๆ ที่จะอยู่ตรงแถบแนวยาวด้านซ้ายมือบนจอ เยื้องลงมาข้างล่างหน่อย ถ้าหาไม่เจอล่ะก็ กดปุ่ม "Z" บนคีย์บอร์ด จากนั้นก็จะสามารถขยายภาพส่วนของลูกตาได้ โดยมีสองวิธีด้วยกัน:
    • คลิกบริเวณดวงตาด้วยเมาส์ซ้าย แล้วรูปจะขยายใหญ่ขึ้น ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นตาได้ชัดพอ
    • คลิกจุดบริเวณบนซ้ายของดวงตา แล้วลากเมาส์ลงมาถึงจุดล่างขวาของดวงตา จะมีกรอบสี่เหลี่ยมปรากฏขึ้น พอปล่อยเมาส์แล้ว สิ่งที่กรอบนั้นคลุมอยู่ก็จะขยายขึ้นมาเต็มหน้าต่างการทำงานในโปรแกรม
  3. ถ้าคุณหาเครื่องมือ Lasso tool แบบธรรมดาไม่เจอ แปลว่าคุณได้เลือกเครื่องมือ Lasso tool แบบอื่นไว้ก่อนหน้านี้ ให้คลิกค้างไว้ที่ไอคอน Lasso tool ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน (มักจะอยู่แถวสามนับตามแนวตั้ง) แล้วเลือกไอคอนที่เป็น Lasso แบบธรรมดาจากเมนูที่ปรากฏขึ้น เมื่อเลือกเครื่องมือได้แล้ว ให้ใช้มันวาดบริเวณม่านตา ไม่ต้องให้เนี้ยบมากก็ได้ เพราะคุณสามารถมาลบมันทีหลังได้
    • ในการวาดในตาอีกข้าง ให้กดปุ่ม Shift ค้างไว้ จากนั้นวาดบนม่านตาอีกข้างเหมือนที่ทำกับข้างแรก [22]
  4. ทำได้โดยการคลิกแถบ "Layer" จากเมนูบนสุด แล้วเลือก "New Adjustment Layer" จากหน้าเมนูที่ปรากฏขึ้นตามมา
    • เมื่อคุณนำเมาส์ไปชี้ที่ "New Adjustment Layer" แล้ว ก็จะมีรายชื่อเมนูให้เลือกปรากฏขึ้นมาอีก ให้เลือก "Hue/Saturation" จากรายการเมนูเหล่านั้น
  5. ไปยังหน้าต่าง Adjustment และดูให้แน่ใจว่าได้เลือกเป็น "Colorize" เอาไว้. หน้าต่าง Adjustment จะอยู่ฝั่งเดียวกับหน้าต่างอื่นๆ รวมถึงที่เป็นเลเยอร์กับชาร์ตสีด้วย คลิกที่หน้าต่าง และดูให้แน่ใจว่าได้ติ๊กถูกที่กล้องหน้าคำว่า "Colorize" เอาไว้ คุณจะเห็นว่าม่านตาทั้งคู่เริ่มมีสีที่เปลี่ยนไป
    • รูม่านตาอาจเปลี่ยนสีไปด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไป ค่อยแก้ไขทีหลังเอาได้
  6. ปรับแถบค่า Hue ค่า Saturation และค่า Lightness จนกว่าจะได้สีที่ต้องการ. แถบค่า Hue จะเปลี่ยนความเข้มของสี แถบค่า Saturation จะทำให้สีชัดขึ้นหรือไม่ก็ดูเทาขึ้น ส่วนแถบค่า Lightness จะทำให้สีดูสว่างขึ้นหรือไม่ก็มืดลง
    • สีอาจดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไร แต่ไม่ต้องห่วง สามารถแก้ไขทีหลังได้อีก
  7. คลิกที่หน้าต่างเลเยอร์ แล้วคุณจะเห็นเลเยอร์สองอันที่ต่างกัน คือเลเยอร์ Background และเลเยอร์ Hue/Saturation ดูให้แน่ใจว่าได้คลิกเลือกเลเยอร์ Hue/Saturation จนมันขึ้นเป็นแถบสีอยู่ คุณจะต้องทำการแก้ไขรูปในเลเยอร์นี้ ส่วนเลเยอร์ Background นั้นจะเป็นรูปต้นแบบที่คุณเปิดขึ้นมาในตอนแรก
  8. ใช้เครื่องมือ Eraser tool (ยางลบ) ในการเผยให้เห็นรูม่านตา และลบรอยรอบๆ ม่านตาออก. คลิกที่เครื่องมือ Eraser tool จากเมนูด้านข้าง ปรับขนาดหากจำเป็น ทำได้โดยการไปยังแถบเมนูข้างบนสุด แล้วคลิกที่รูปจุดเล็กๆ ที่มีตัวเลข ซึ่งอยู่ข้างๆ คำว่า "Brush" เมื่อได้ขนาดที่ต้องการแล้ว ให้ลบส่วนที่เป็นรูม่านตาข้างในอย่างระมัดระวัง เมื่อลบเรียบร้อย ให้มาลบบริเวณขอบม่านตาด้วย ถ้าอยากได้ประกายในดวงตา จะใช้เครื่องมือนี้ลบไปด้วยก็ได้เช่นกัน
    • เมื่อลบเสร็จแล้ว ดวงตาจะดูเหมือนดวงตาจริงๆ ของคุณมากที่สุด เพียงแค่สีต่างกันเท่านั้น
  9. ไปยังหน้าต่างเลเยอร์อีกครั้ง แล้วคลิกบนเมนูที่ปรากฏขึ้นมา คุณจะเห็นตัวเลือกอย่างเช่น Normal, Dissolve, Darken และ Multiply ให้ลองเลือก "Hue" หรือ "Color" จากด้านล่างของเมนู ลักษณะลวดลายในดวงตาของคุณจะเผยออกมาให้เห็นมากยิ่งขึ้น
  10. คลิกขวาที่เลเยอร์ที่ชื่อ "Background" แล้วเลือก "Merge Visible" จากรายการเมนูที่ปรากฏขึ้น
  11. คุณสามารถบันทึกภาพเป็นไฟล์ประเภทใดก็ได้ที่คุณต้องการ โปรแกรม Photoshop จะให้คุณบันทึกเป็นไฟล์ของ Photoshop โดยอัตโนมัติ แต่น่าเสียดาย มันจะยากต่อการอัพโหลดรูปลงบนอินเทอร์เน็ตนี่สิ ให้ลองบันทึกภาพเป็นไฟล์ JPEG ดู ซึ่งสกุลไฟล์นี้ถือเป็นสกุลมาตรฐานของรูปภาพบนอินเทอร์เน็ตนั่นเอง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

รับการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนสีตา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำการผ่าตัดด้วยเลเซอร์เพื่อเปลี่ยนตาสีน้ำตาลให้เป็นสีฟ้า. การผ่าตัดจะใช้เวลามากสุด 20 วินาที มันจะไปลบชั้นด้านนอกของม่านตาสีน้ำตาล และดึงสีฟ้าที่อยู่ข้างใต้ให้เผยออกมานั่นเอง เมื่อทำการผ่าตัดสักสองถึงสี่สัปดาห์ ร่างกายจะกำจัดชั้นข้างนอกของม่านตาออกจนหมด ในระหว่างนั้น ดวงตาจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ
  2. รู้ถึงข้อเสียของการผ่าตัดให้ดวงตาเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีฟ้า. ในขณะที่บทความนี้กำลังถูกเขียนขึ้นอยู่นั้น การผ่าตัดเปลี่ยนสีตายังอยู่ในขั้นการทดสอบ ฉะนั้นผลระยะยาวก็ยังไม่อาจเป็นที่ทราบได้ และการผ่าตัดนี้ก็ยังไม่เป็นที่เผยแพร่ทั่วไปในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทยก็เช่นกัน [23] และยังมีราคาที่แพงมาก ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 800,000 บาท [24] การผ่าตัดนี้สามารถทำได้เพียงการเปลี่ยนตาจากสีน้ำตาลเป็นสีฟ้าโดยถาวร และเหมือนกับการผ่าตัดตาแบบอื่น ผลที่ออกมาอาจทำให้คุณตาบอดได้นั่นเอง
  3. การผ่าตัดเช่นนี้ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีต่อตาข้างหนึ่ง และต้องใช้ยาชา โดยเป็นการใส่ม่านตาสีที่มีความยืดหยุ่นเข้าไปในตา ทับบนม่านตาตามธรรมชาติของคุณเลย [25]
    • การผ่าตัดชนิดนี้ไม่ได้ติดกับตัวคุณอย่างถาวร โดยสามารถเอาออกได้ด้วยการผ่าตัดแบบคล้ายเดิมซ้ำอีกครั้ง
    • เวลาในการฟื้นตัวใช้ประมาณสองสัปดาห์ ระหว่างนั้นคุณอาจมองภาพไม่ค่อยชัด และตาอาจเป็นสีแดง
    • คุณไม่สามารถขับรถหลังจากได้รับการผ่าตัดได้ ถ้าคุณต้องการผ่าตัด ขอให้เตรียมใครสักคนมาพาคุณกลับบ้าน [26]
  4. เหมือนกับการผ่าตัดแบบอื่น การฝังม่านตาลงไปในตาก็มาพร้อมความเสี่ยงหลายประการเช่นกัน ดวงตาคุณอาจมองเห็นได้แย่ลง บางกรณีคุณอาจมองไม่เห็นอะไรเลยก็เป็นได้ ต่อจากนี้คืออาการบางอย่างที่คุณควรรู้ไว้: [27]
    • ม่านตาปลอมจะไปเพิ่มแรงดันในดวงตาของคุณ และอาจเป็นสาเหตุของโรคต้อหิน ที่ทำให้คุณตาบอดได้
    • การผ่าตัดนี้อาจทำให้คุณเป็นต้อกระจกได้ โดยต้อกระจกคืออาการที่เลนส์ของดวงตาขุ่นมัวลง
    • กระจกตาของคุณอาจได้รับความเสียหายขณะที่ผ่าตัดอยู่ คุณอาจต้องปลูกถ่ายกระจกตาเพื่อรักษามัน
    • ม่านตาตามธรรมชาติและบริเวณโดยรอบอาจเกิดการอักเสบ ไม่เพียงแค่จะเจ็บมากเท่านั้น แต่คุณอาจมองเห็นอะไรไม่ชัดจากการอักเสบนี้อีกเช่นกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ต้องรู้ว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนสีตาตามธรรมชาติได้อย่างถาวร ยกเว้นว่าได้รับการผ่าตัด
  • ลองใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือในการเปลี่ยนสีตาดู คุณสามารถซื้อและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ช่วยเปลี่ยนสีตาของรูปที่มีอยู่ในเครื่องได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของมือถือที่ใช้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใส่คอนแทคเลนส์ทิ้งไว้ข้ามวัน ทำแบบนั้นตาคุณอาจติดเชื้อหรืออาจตาบอดได้
  • การผ่าตัดตาอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมาย
  • ถ้าคุณรู้สึกว่าดวงตาของคุณมีสีสว่างหรือเข้มแปลกๆ คุณควรพบแพทย์ในทันที การเปลี่ยนสีตาที่ข้ามสีสุดๆ อย่างการเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีฟ้า อาจทำให้คุณเป็นโรคหรือเป็นอะไรสักอย่างที่ร้ายแรงได้
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,684 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา