ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การแสดงถึงความเคารพต่อคนอื่น ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน การเรียนรู้ที่จะเคารพในความตั้งใจ ความสามารถ ความคิดเห็น และความแตกต่างของคนอื่น จะช่วยทำให้คุณเป็นคนที่มีความสุข และประสบความสำเร็จในเรื่องมนุษยสัมพันธ์ได้ นอกจากนี้ การให้ความเคารพต่อตัวเองยังจะช่วยทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตต่อไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถแสดงออกถึงความเคารพได้จนเป็นนิสัย และแบ่งปันสิ่งนี้ให้กับคนที่อยู่รอบๆ ตัวคุณได้ด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เคารพในความตั้งใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่ได้รับมาจากคนอื่นอยู่เสมอ และเราควรจะต้องจดจำทุกๆ คนที่เคยได้ช่วยเหลือเราในตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉะนั้น ให้แสดงความเคารพต่อคนเหล่านั้นออกมาด้วยการกล่าวคำขอบคุณเสมอ และถึงแม้ว่าในบางเหตุการณ์อาจจะไม่ชัดเจนมาก ว่าเราจะต้องกล่าวคำขอบคุณ แต่จริงๆ การแสดงความรู้สึกขอบคุณออกมาอย่างสม่ำเสมอนั้นมีความหมายกับคนอื่นๆ มาก ฉะนั้น คุณอาจจะส่งคำขอบคุณเป็นจดหมาย โทรไปหา ส่งอีเมลไป และส่งข้อความหาคนที่ขาดการติดต่อกับคุณไปก็ได้ จำไว้ว่า การแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมานั้นไม่ต้องใช้เวลาอะไรมากมายหรอก ฉะนั้น อย่าลืมขอบคุณคนที่อยู่ในลิสต์ด้านล่างนี้ด้วย
    • พ่อแม่
    • พี่น้อง
    • เพื่อนร่วมงาน
    • เพื่อนร่วมชั้น
    • เพื่อนของคุณเอง
    • คุณครู
    • เพื่อนบ้าน
  2. เมื่อคนอื่นประสบความสำเร็จ ก็ให้ลองให้ความสนใจกับสิ่งนั้นดู และร่วมยินดีไปกับความสามารถและความสำเร็จของพวกเขาด้วย ลองเรียนรู้ที่จะตระหนักเวลาที่คนอื่นพยายามทำบางสิ่งอย่างสุดความสามารถของพวกเขาแล้วประสบความสำเร็จ และก็ชื่นชมในสิ่งที่พวกเขาทำด้วย โดยให้คุณแสดงความยินดีกับพวกเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อที่คำชมเชยของคุณจะได้ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจจริง
    • แทนที่คุณจะคิดว่า “ทำไมเรื่องดีๆ แบบนั้นไม่เกิดขึ้นกับเราบ้าง?” ให้คุณพยายามบอกตัวเองว่า “นั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับพวกเขาจริงๆ !” การมีทัศนคติที่ดีแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณเลิกโฟกัสแต่เรื่องของตัวเอง และมีความปรารถนาดีต่อกับคนรอบๆ ตัวได้
    • หากคนที่คุณให้ความเคารพนั้นดูเหมือนว่าจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก หรือดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรให้กล่าวชื่นชมเท่ากับคนอื่นๆ ก็ให้คุณพยายามกล่าวยกย่องในความพยายาม ทัศนคติ หรือคุณลักษณะดีๆ อย่างอื่นในตัวของพวกเขา
  3. แม้ว่าการขอบคุณและการชื่นชมคนอื่นจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่จำไว้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่ให้ความนับถือกับคนที่ชอบประจบประแจงหรอก ฉะนั้น คุณต้องขอบคุณด้วยใจจริง และแสดงความนับถือในความพยายามของคนอื่น ด้วยการพูดออกมาจากใจของคุณจริงๆ
    • แม้แต่คำพูดง่ายๆ อย่าง “ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอเธอนะ” ก็มีความหมาย และแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อกันได้แล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำหรือพูดอะไรที่ซับซ้อนเลย
  4. หากบอกไว้ว่าจะทำอะไร หรือวางแพลนกับใครไว้ คุณก็ต้องทำให้ได้ตามที่ตกลงกันเอาไว้ เพราะการเป็นคนน่าเชื่อถือจะแสดงให้เห็นว่าตัวคุณนั้นให้ความเคารพต่อเวลาของคนอื่น และแสดงให้เห็นว่าคุณพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำบางอย่างร่วมกับพวกเขา ฉะนั้น ให้คุณเคารพในความตั้งใจของคนอื่นด้วยการเป็นคนตรงต่อเวลา เตรียมพร้อมตัวเอง และมีความกระตือรือร้น
    • ทำตัวเองให้พร้อมไปทำงาน ไปโรงเรียน หรือไปซ้อมกีฬาอยู่เสมอ เตรียมของที่ต้องใช้ไว้ให้เป็นระเบียบ และทำงานทุกอย่างที่สำคัญให้เสร็จก่อนเวลา การทำแบบนี้จะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณให้ความเคารพต่อคนอื่น ด้วยการไม่ทำให้พวกเขาเสียเวลา
    • จริงอยู่ว่าการพูดปฏิเสธใครสักคนด้วยคำว่า “ไม่” อาจจะเป็นสิ่งที่ดูไม่สุภาพ แต่คุณก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำตัวให้คงเส้นคงวา และประเมินความสามารถของตัวเองไปตามความเป็นจริงด้วย เพราะจริงๆ คงไม่มีใครให้ความเคารพกับคนที่ชอบโลเลเปลี่ยนใจไปมาหรอก
  5. เวลาที่ดูเหมือนจะมีใครสักคนต้องการความช่วยเหลือ ให้คุณลองไปหาพวกเขาแล้วเสนอความช่วยเหลือดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะมาช่วย ฉะนั้น ลองอาสาช่วยเพื่อนย้ายของ หรือกลับบ้านช้าสักหน่อยเพื่อช่วยทำความสะอาดหลังจากงานโรงเรียนจบลงก็ได้ และพยายามช่วยเหลือในสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในหน้าที่ของตัวเองเสมอ แม้แต่การช่วยสอนการบ้านให้น้องชายคุณ หรือช่วยพ่อทำความสะอาดสนามโดยที่ไม่ต้องรอให้ถาม ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่คุณมีต่อตัวพวกเขาได้อย่างมากแล้ว
    • หากคุณสังเกตเห็นว่าเพื่อนคนหนึ่งหรือเพื่อนบ้านกำลังรู้สึกแย่ หรือกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ลองพูดให้กำลังใจพวกเขาดู เพราะบางทีพวกเขาอาจจะต้องการสิ่งนั้นอยู่ และการเรียนรู้ที่จะพูดประโยคอย่าง “เธอทำได้อยู่แล้ว!” นั้นก็สามารถสร้างความแตกต่างบนโลกใบนี้ให้กับใครสักคนที่กำลังอาจต่อสู้กับความยากลำบากอยู่ได้
  6. บางครั้งการยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือมากเกินไปก็อาจจะกลายเป็นการไม่ให้ความเคารพได้ นอกจากนี้ มันก็เป็นเรื่องที่ดีด้วย หากเราจะปล่อยให้คนอื่นได้พิสูจน์ตัวเอง และจัดการกับสถานการณ์ หรือปัญหาต่างๆ ด้วยตัวของพวกเขาเองบ้าง
    • พยายามทำความเข้าใจอยู่เสมอ เมื่อคนอื่นสามารถที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง และอย่าเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของพวกเขา เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่พวกเขาสมควรได้รับ จำไว้ว่า การเสนอความช่วยเหลือให้ใครสักคนเวลาที่พวกเขากำลังเสียใจจากความรักมา กับการยืนกรานที่จะช่วยใครบางคนเตรียมซีเรียลนั้นเป็นอะไรแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

เคารพในความคิดเห็น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นผู้ฟังที่ดี . ฝึกทำให้ตัวเองเป็นคนที่ฟังอย่างตั้งใจ เพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณเคารพในความคิดเห็นและแนวคิดของพวกเขา ฉะนั้น ให้มองและเงียบเวลาที่คนอื่นกำลังพูด และใช้เวลาในการคิดไตร่ตรองในสิ่งที่พวกเขากำลังพูดมาด้วย
    • บ่อยครั้ง เรามักจะรอให้ถึงทีเราพูด มากกว่าที่จะฟังไอเดียของคนอื่นอย่างตั้งใจ ฉะนั้น ถึงแม้จะไม่เห็นด้วย ก็ให้พยายามพิจารณามุมมองที่พวกเขาเสนอออกมา และทำความเข้าใจในส่วนนั้นก่อนที่จะตอบโต้ออกมา สิ่งนี้จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความเคารพที่คุณมีต่อตัวคนนั้น เพราะคุณตั้งใจฟัง และเปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูดความคิดของตัวเองออกมา ไม่แน่นะ คุณอาจจะประหลาดใจในสิ่งที่คุณได้ยินก็ได้
  2. เพื่อที่จะแสดงความเคารพในความคิดเห็นของคนอื่น ให้คุณลองถามคำถามดู ลองถามคำถามนำแบบปลายเปิดที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจในแนวคิดของพวกเขา และแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังฟังอย่างตั้งใจจริงๆ จำไว้ว่า การตั้งคำถามนั้นไม่ได้หมายความว่า คุณกำลังพยายามที่จะหาข้อผิดพลาดในเรื่องที่พวกเขาพูด หรือหมายความว่าคุณไม่เชื่อที่พวกเขาพูดออกมา ฉะนั้น ให้ถามคำถามไปเรื่อยๆ หากดูเหมือนว่าพวกเขามีสิ่งอื่นๆ ที่จะบอกคุณได้อีก
    • แทนที่จะถามรายละเอียดเพิ่มเติม ให้คุณลองถามอีกฝ่ายดูว่าพวกเขารู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ เช่น เวลามีใครกำลังเล่าเรื่องอยู่ก็ให้คุณถามว่า “แล้วเธอรู้สึกยังไงหลังจากนั้น?” ถึงแม้ว่าคุณอาจจะพอรู้อยู่แล้ว ก็ให้คุณปล่อยให้พวกเขาพูดมาก่อน ให้พวกเขาได้แสดงเหตุผลของตัวเองออกมา
    • เรียนรู้ที่จะแบ่งปันสิ่งดีๆ กัน หากดูเหมือนว่ามีใครบางคนไม่ค่อยพูดเวลาที่มีการพูดคุยกันในกลุ่ม ให้คุณลองถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่องดู เพื่อที่จะได้เปิดโอกาสให้คนๆ นั้นได้พูดสื่อสารออกมา และจำไว้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องไปดึงความสนใจด้วยการพูดออกไปด้วยประโยคอย่างเช่น “เธอดูเงียบจังเลยนะทิว” แต่คุณควรจะพูดประโยคอย่างเช่น “ทิว เธอว่างานซูเปอร์โบว์ลปีนี้เป็นยังไงบ้างอ่ะ?” ซึ่งน่าจะเข้าท่ากว่า
  3. การเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจในความคิดของคนที่มีประสบการณ์และมุมมองที่ต่างจากตัวเรามากๆ นั้น จะช่วยทำให้คุณสามารถเรียนรู้ที่จะให้ความเคารพในตัวอื่นได้ จำไว้ว่า จงภูมิใจในความคิดและมุมมองของตัวเอง แต่อย่าคิดเอาเองว่าคนอื่นจะรู้สึกในแบบเดียวกันกับคุณ และให้หลีกเลี่ยงการนำสิ่งนี้ไปสู่สถานการณ์ที่น่าอึดอัดด้วย พยายามลดความยึดมั่นในความคิดของตัวเองลงสักหน่อย และพยายามทำความเข้าใจในจุดยืนของคนอื่นก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกไป เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าตัวเองควรจะตอบออกไปอย่างไร
    • ถึงแม้ว่าบางทีการแสดงความคิดเห็นง่ายๆ ในกลุ่มคนที่มาจากหลายที่ว่าฟุตบอลเป็นเรื่องที่ “ไร้สาระ” จะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ก็อย่าลืมว่าคุณไม่มีทางรู้หรอกว่า อาจจะมีปู่ของใครบางคนในกลุ่มที่เพิ่งเสียไปนั้นมีอาชีพเป็นผู้ตัดสินฟุตบอล และหลงรักในกีฬานี้อย่างมากมายก็เป็นได้
  4. บางครั้งการกล้าที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาก็แสดงให้เห็นถึงความเคารพได้ ในแบบเดียวกับการที่คุณให้ความเคารพในความคิดความสามารถคนอื่นนั่นแหละ แต่กลับกันในบางครั้ง การเลือกที่จะเก็บความคิดของตัวเองไว้คนเดียวก่อน และหลีกเลี่ยงการโต้เถียงด้วยอารมณ์โดยไม่จำเป็นก็เป็นสิ่งที่ควรทำเหมือนกัน เพราะสิ่งนี้คือการให้ความเคารพต่อกันนั่นเอง
    • ในครั้งแรกที่คุณจะพูดโต้แย้งออกมา ให้พยายามทำข้อโต้แย้งของตัวเองให้อ่อนลงก่อน หากคุณคิดว่าทีมฟุตบอลของโรงเรียนคือช่องทางการมาของเงินสกปรก ก็ให้คุณสื่อสารสิ่งที่ตัวเองคิดออกไปอย่างสุภาพ แม้ว่าคนอื่นจะไม่เห็นด้วยก็ตาม อย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า “ฉันกลัวว่าโรงเรียนจะใช้เงินมากมายลงไปกับนักกีฬาโรงเรียนจนหมด แทนที่จะเอาไว้ใช้กับเรื่องอื่นที่จำเป็นมากกว่านี้ เธอคิดว่าไง?” ให้แสดงความเคารพในความคิดเห็นของคนอื่นด้วยการแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกไป แล้วก็ฟังในสิ่งที่คนอื่นโต้แย้งมา
    • บางทีการโต้เถียงกับปู่ของคุณเรื่องการแต่งงานเพศเดียวกันเป็นร้อยเป็นพันครั้งก็เป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์ ลองคิดดูสิว่ามันจะคุ้มค่าหรือเปล่า ที่จะเอาเรื่องนี้มาเถียงกันตอนกินข้าวเย็น?
  5. เวลาที่คุณเห็นว่าต้องพูดแย้งออกมา ให้พูดแบบใจเย็น และทำให้ถูกกาลเทศะ เคารพในมุมมองของคนอื่น อย่าดูถูกความคิดหรือแนวคิดของพวกเขา แม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
    • พยายามหาจุดที่มีความคิดเห็นร่วมกันให้ได้ ก่อนที่จะแสดงข้อโต้แย้งอะไรออกไป โดยให้คุณเริ่มต้นด้วยคำพูดในเชิงเห็นด้วย แล้วจากนั้นก็เสริมในส่วนที่ตัวเองต้องการจะแย้งเข้าไป แค่การพูดง่ายๆ อย่าง “นั่นเป็นความคิดที่ดีนะ แต่ว่าฉันมองเรื่องนี้แตกต่างออกไปนิดหน่อย...” ก็สามารถช่วยทำให้คำโต้แย้งของคุณดูเบาลงได้แล้ว
    • คุณต้องมีความชัดเจนในคำวิจารณ์ และหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาไปในเชิงดูถูกอย่าง “เธอน่ะผิดแล้ว” หรือ “นั่นมันไร้สาระมากเลย”
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เคารพตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อที่จะแสดงความเคารพในตัวเองได้ คุณจะต้องพยายามมองตัวเองให้เท่ากับคนอื่นก่อน อย่าเปลี่ยนแปลงแนวคิดและความต้องการของตัวเองไปตามสิ่งที่คนอื่นพูด จำไว้ว่า คุณก็มีค่าเท่ากับพวกเขา
    • คุณต้องรู้ด้วยว่าเมื่อไรควรจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น จริงอยู่ที่คุณต้องมีความเคารพในความสามารถและทักษะของตัวเอง แต่คุณก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับเวลาตัวเองต้องใช้ความช่วยเหลือจากภายนอกด้วย อย่าทำให้มันยากเกินไปโดยไม่จำเป็นเลย
    • พาตัวเองออกไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ และให้ของขวัญตัวเองบ้างเป็นครั้งคราว หรือใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ และทำอะไรสนุกๆ ในช่วงเวลาว่างของตัวเองก็ได้
  2. การดื่มมากจนเกินไปอยู่บ่อยๆ หรือมีนิสัยชอบติเตียนตัวเอง จะส่งผลเสียทั้งต่อร่างกายและจิตใจของคุณ ฉะนั้น พยายามทำตัวเองให้ดีขึ้น และล้อมรอบตัวเองด้วยคนที่สร้างกำลังใจ มีความเข้าอกเข้าใจ และมีน้ำใจจะดีกว่า
    • เพื่อนๆ ของคุณที่อยู่ตอนนี้เป็นคนประเภทที่คุณอยากจะอยู่ด้วยหรือเปล่า? พวกเขาชอบติเตียนคุณ หรือชอบทำให้คุณรู้สึกแย่หรือไม่? ถ้าเป็นแบบนั้น ให้คุณลองทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ ดูบ้างก็ได้
  3. ไปตรวจเช็คร่างกายกับหมอให้เป็นประจำ เพื่อที่คุณจะได้มั่นใจว่าร่างกายตัวเองนั้นแข็งแรงดี พยายามจัดการกับปัญหาสุขภาพที่เพิ่งเกิดขึ้นในร่างกายให้ได้ และอย่าไปตีโพยตีพายว่านั่นเป็น “ข่าวร้าย” จำไว้ว่า การหลีกเลี่ยงการไปหาหมอเพราะว่าคุณไม่อยากไปนั้น ไม่ได้เป็นการแสดงถึงความเคารพและความเป็นอยู่ของตัวคุณเองหรอก
    • ออกกำลังกายเป็นประจำ และ ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยให้คุณเริ่มจากกิจวัตรง่ายๆ อย่างการเดินออกกำลังกายสักวันละ 2-3 กิโลเมตร หรือยึดเส้นยืดสายเพื่อสัมผัสถึงความรู้สึกในร่างกายตัวเองบ้าง และรักษาร่างกายของตัวเองเอาไว้ เลิกทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และหันไปทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนจะดีกว่า
  4. เวลาอยากจะได้อะไร ก็ให้คุณออกไปเอาสิ่งนั้นมา อย่าปล่อยให้ความกลัวที่จะออกไปเผชิญด้วยตัวคนเดียวมาขัดขวางไม่ให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่จะทำให้ให้คุณมีชีวิตที่ดีขึ้น และทำให้คุณมีสิ่งดีๆ ในชีวิต หากคุณมีความคิดเห็นอะไรบางอย่าง ก็ให้แชร์มันออกมา หากคุณอยากจะเปลี่ยนงาน ก่อตั้งวงดนตรี หรือเพิ่งเริ่มสนใจเรื่องการแสดงในวัย 40 ให้คุณทำมันซะ ตัดสินใจและพยายามทำสิ่งนั้นให้ได้
  5. เราทุกคนต่างก็ติดอยู่ในสภาพที่เคยชินจนน่าเบื่อ ซึ่งหลายๆ อย่างก็เป็นผลมาจากการกระทำของตัวเราเอง ฉะนั้น ให้คุณวางแผนและวางขั้นตอนต่างๆ ให้ตัวเองเพื่อทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จลุล่วง โดยให้วางแผนการใช้ชีวิตให้ตัวเองเอาไว้ เพื่อให้ตัวเองสามารถดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าและพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ได้ และให้แสดงความเคารพในตัวเองด้วยการเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • ลองพิจารณาเรื่องการวางแผนเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการจะทำให้สำเร็จภายใน 5 ปีดู หากคุณยังเรียนหนังสืออยู่ คุณจะวางแผนสำหรับมหาวิทยาลัยเอาไว้อย่างไร? แล้วหลังจากที่จบออกมาคุณมีแพลนว่าจะทำอะไร? และคุณจะทำเป้าหมายเหล่านั้นให้เป็นจริงขึ้นมาอย่างไรได้บ้าง?
    • หากคุณอยู่ในวัยทำงานแล้ว ลองถามตัวเองดูสิว่าคุณมีความสุขกับงานของตัวเองบ้างหรือเปล่า? คุณได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักอยู่หรือไม่? ต้องทำอะไรบ้างเพื่อที่ตัวเองจะสามารถมีรายได้จากการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก? ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าสิ่งนั้นจะเป็นจริงขึ้นมาได้? สิ่งนั้นดูเป็นไปได้หรือเปล่า? ให้คุณตอบคำถามเหล่านี้ไปตามความเป็นจริงและตอบให้ชัดเจน เพื่อที่คุณจะได้สามารถวางแผนสู่ความสำเร็จให้ตัวเองได้
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เคารพ “ศัตรู”

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าไปตัดสินใครจนกว่าจะรู้จักตัวตนของพวกเขา. ให้ลองเลือกที่จะเชื่อใจใครสักคนไปก่อน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ค่อยประทับในตัวคนนั้นในครั้งแรกที่รู้จักกันก็ตามที จำไว้ว่า ทุกคนย่อมพยายามที่จะทำสิ่งดีๆ อยู่แล้ว ฉะนั้น ให้คิดเอาไว้ก่อนว่าที่เขาเป็นแบบนั้น ทำแบบนั้น หรือมีความเชื่อแบบนั้น บางทีเขาอาจจะมีเหตุผลบางอย่างอยู่ก็ได้
  2. บางครั้งก็เป็นเรื่องง่ายที่คุณจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้คุณไม่ชอบใครบางคน หรือไม่เคารพ หรือไม่ใส่ใจในตัวคนนั้น แต่เราอยากให้คุณมองที่ความพิเศษและด้านดีๆ ในตัวคนอื่น และเปลี่ยนใจยอมรับในตัวพวกเขาบ้าง เพราะนั่นจะทำให้การแสดงความเคารพในตัวคนอื่นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
    • ให้ตีความความแปลกของคนอื่นให้เป็นจุดแข็งของคนๆ นั้นซะ เพื่อที่คุณจะได้สามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองได้ แทนที่คุณจะคิดว่า “คนนั้นพูดมากจัง แถมยังอีโก้สูงอีก” ก็ให้คุณคิดว่า “คนๆ นั้นพูดออกมาจากใจจริง และฉันก็ชอบจุดนั้นด้วย”
  3. หากคุณไม่รู้ว่าจะพูดอะไรที่เป็นประโยชน์ออกมาได้บ้าง คุณก็น่าจะรู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร. บางเรื่องก็ควรจะเก็บเอาไว้ในใจก่อน ฉะนั้น ต้องรู้จักที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างการโต้แย้งที่จำเป็นต้องทำ กับการโต้เถียงแบบไร้สาระให้ได้ก่อน ถ้าคุณทำได้ คุณก็จะกลายเป็นคนที่มีเหตุผล และได้รับความเคารพจากคนอื่นจากการที่คุณรู้จักที่จะเงียบในช่วงเวลาที่เหมาะสม จำไว้ว่าอย่าดึงตัวเองไม่สู่ความยุ่งเหยิงจะดีกว่า
  4. อย่าเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องของคนอื่น และสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น จำไว้ว่า คนที่ชอบยุ่งวุ่นวายเรื่องของคนอื่นมักจะสร้างศัตรูได้แบบง่ายๆ นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่มีเรื่องอื่นให้ทำจนตัวเองว่างเกินไป ฉะนั้น พยายามทำให้ตัวเองยุ่งเข้าไว้ และทำชีวิตให้เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ และพยายามทำกิจกรรมหลายๆ อย่าง เพื่อที่คุณจะได้ไม่มีเวลาและมีแรงไปกังวลในสิ่งที่เพื่อนบ้านกำลังทำอยู่ หรือไปกังวลในสิ่งที่เพื่อนร่วมชั้นกำลังทำในการบ้านของพวกเขา
    • หางานอดิเรกใหม่ๆ ทำ และใช้เวลาบน Facebook ให้น้อยลง จำไว้ว่า การเล่นสื่อสังคมออนไลน์เป็นสิ่งที่ช่วยฆ่าเวลาได้ แต่มันก็สามารถสร้างความไม่พอใจและความอิจฉาขึ้นมาโดยไม่จำเป็นได้เหมือนกัน
  5. การเมินเฉยคนที่คุณไม่ชอบ อาจจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน แต่การทำแบบนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่โหดร้ายและหยาบคายเกินไปก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียน หรือในการทำงานที่ทุกคนอยากรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ จำไว้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แต่แค่ให้คุณเคารพในตัวของคนอื่นด้วยการไม่ละเลยพวกเขาก็เท่านั้นเอง
    • การพยายามแสดงความเป็นมิตรสักครั้งหนึ่งกับคนที่คุณไม่ชอบเป็นพิเศษด้วยการพูดประโยคอย่างเช่น “วันนี้เป็นยังไงบ้าง?” จะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยคุณก็ได้พยายามแล้ว ไม่แน่นะ การทำแบบนี้อาจจะทำให้คุณมีความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมก็ได้
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,684 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา