ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อาการคันเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากที่สุดในคนและสัตว์ อาการคันอาจเกิดจากหลายปัจจัยรวมไปถึงแมลงกัดต่อย ผิวแห้ง และการมีผื่นขึ้นอย่างผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) มีวิธีการรักษาให้เลือกอยู่มากมายเพื่อลดการคันและป้องกันไม่ให้กลับมาคันอีก ในขณะที่การคันไม่ใช่ประเด็นหลักในการรักษา แต่คุณควรไปรับการรักษาถ้าอาการคันของคุณไม่หายไปเองหรือมีผื่นขึ้นควบคู่ มีไข้ หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ลองใช้ยารักษาในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้การเกาจุดที่คันดูเหมือนจะเป็นวิธีบรรเทาอาการคันที่ง่ายที่สุด นั่นกลับทำให้แย่ลงกว่าเดิม การเกาจุดที่คันมีแต่จะทำให้ระคายเคืองมากขึ้น
    • เวลาที่คุณเกาผิวหนังจะรู้สึกเจ็บ ความรู้สึกเจ็บนี้จะกลบเกลื่อนอาการคัน ทำให้คุณรู้สึกว่าอาการคันนั้นบรรเทาลงเวลาที่คุณเกาจุดที่คัน [1] อันที่จริง สมองของคุณปล่อยฮอร์โมนเซโรโทนิน (serotonin) หรือฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความเจ็บปวดและพยายามที่จะบรรเทาอาการนั้น ซึ่งนี่ทำให้ตัวก่ออาการคันเริ่มทำงานและยิ่งทำให้รู้สึกคัน “มาก” ขึ้นกว่าเดิมเสียอีก [2]
    • การเกาเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ การใช้พลาสเตอร์ยา ผ้าพันแผลหรือผ้าก๊อซช่วยปกปิดบริเวณที่มีอาการคันก็เป็นตัวช่วยอย่างหนึ่ง คุณอาจจะเล็มปลายเล็บหรือสวมผ้าที่ปกปิดบริเวณที่คันแทน [3]
  2. อุณภูมิต่ำส่งผลต่อระบบประสาทที่ทำให้รู้สึกคันและบางครั้งอุณภูมิที่เย็นจะช่วยชะลอความรู้สึกดังกล่าวส่งผลให้อาการคันบรรเทาลง ใช้น้ำเย็นลูบผิวหนังบริเวณที่มีอาการคันเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว
    • ใช้น้ำประปาเย็นๆ ฉโลมบริเวณที่มีอาการคัน คุณอาจวางผ้าเย็นไว้บนตัวจนกว่าอาการคันจะหายไปก็ได้ [4]
    • การอาบน้ำเย็นช่วยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจุดที่คันแผ่ขยายเป็นวงกว้าง [5]
    • ถุงน้ำแข็งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี คุณหาซื้อถุงน้ำแข็งได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายยาทั่วไป อย่าลืมใช้ผ้าห่อถุงน้ำแข็งและอย่าวางถุงน้ำแข็งลงบนผิวหนังของคุณโดยตรง [6]
    • ถ้าคุณหาถุงน้ำแข็งไม่ได้ คุณอาจนำก้อนน้ำแข็งใส่ในถุงพลาสติกแล้วโปะแทน หรือใช้ผักแช่งแข็งอย่างถุงถั่วแทน [7]
  3. ข้าวโอ๊ตช่วยทำให้ผิวนุ่มขึ้นสำหรับบางคน และข้าวโอ๊ตเย็นอาจช่วยบรรเทาอาการคันของคุณได้
    • คนนิยมใช้ข้าวโอ๊ตแบบ Colloidal oatmeal เพราะละลายน้ำได้ดี [8] อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณหาผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้ คุณอาจใช้เครื่องปั่นอาหารบดข้าวโอ๊ตไม่ปรุงแต่งรสหนึ่งถ้วย [9]
    • เติมน้ำอุ่นลงในอ่างน้ำแล้วเทข้าวโอ๊ตลงไป คนให้ละลายเข้ากับน้ำ
    • แช่ในอ่างน้ำราว 15 ถึง 20 นาที และเช็ดตัวให้แห้งหลังอาบเสร็จ
  4. ถ้าคุณรู้สึกคัน คุณควรจะลดโอกาสที่จะทำให้บริเวณดังกล่าวระคายเคือง หลายครั้งที่เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ทำให้อาการคันเลวร้ายยิ่งขึ้น
    • ลองหาเสื้อผ้าแบบหลวมตัวทำจากเนื้อผ้าที่ทอเรียบเนียน [10]
    • เลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกสวมชุดที่ไม่ทับบริเวณที่มีอาการคัน
    • ใยผ้าธรรมชาติอย่าง ผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย มักไม่ทำให้ผิวที่มีอาการคันระคายเคือง ไม่แนะนำให้สวมผ้าขนสัตว์
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถหาครีมทาแก้คันได้ตามร้านขายยาและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ครีมเหล่านี้ทำให้อาการคันบรรเทาลง
    • เวลาเลือกซื้อครีมทาแก้คัน ลองมองหาส่วนผสมดังต่อไปนี้เพราะมันมีส่วนช่วยในการรับมืออาการคัน: การบูร เมนทอล ฟีนอล (phenol) พรามอกซีน (pramoxine) ไดเฟนไฮดรามีน (diphenhydramine) และเบนโซเคน (benzocaine) [11]
    • ยาเหล่านี้ทำให้ปลายประสาทการรับรู้ชา ส่งผลให้อาการคันลดลง คุณสามารถทายาพวกนี้ได้ทุกๆ สามสี่นาทีจนกว่าอาการคันหายไป [12]
    • ลองใช้โลชั่นคาลาไมน์ที่มีสารสกัดของเมนทอลสูงถึง 4%
    • คุณต้องอ่านฉลากคำเตือนบนผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาทุกครั้ง และตรวจดูว่ามีสารอะไรบ้างที่อาจทำให้แพ้ แน่ใจก่อนว่าคุณรู้วิธีรับมือหากเกิดอาการแพ้
  2. ยาต้านฮีสทามีน (antihistamines) มักอยู่ในอันดับต้นๆ ของยาที่ใช้รักษาคนที่มีอาการคันกินบริเวณกว้าง
    • ระหว่างวันให้รับประทานยาต้านฮีสทามีนที่มีฤทธิ์ไม่ทำให้ง่วงนอน ยาดังกล่าวรวมทั้งยาแก้แพ้ที่จำหน่ายตามเคาน์เตอร์ เช่น เซทิเรซีน (cetirizine) ของ Zyrtec และลอราทาดีน (loratadine) ของ Clariton [13]
    • ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการคันของคุณก่อน เพราะแพทย์จะเป็นคนตัดสินว่า อาการคันนี้เกิดจากการแพ้หรือไม่ ถ้าเกิดจากสาเหตุอื่น ยาฮีสทามีนอาจใช้ไม่ได้ผล
  3. ครีมไฮโดรคอร์ติโซน (hydrocortisone creams) เป็นครีมรูปแบบขี้ผึ้งที่มีจำหน่ายอยู่ตามเคาน์เตอร์ในหลากหลายรูปแบบ ครีมนี้ใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการคัน มีประโยชน์ในบางสถานการณ์แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเลือกใช้ครีมนี้เสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ของอาการคัน
    • ครีมไฮโดรคอร์ติโซนช่วยบรรเทาอาการคันได้ต่อเมื่อเกิดจากผื่นอย่างเช่น โรคผิวหนัง (eczema) ครีมที่จำหน่ายตามเคาน์เตอร์มักออกฤทธิ์อ่อนๆ และผสมยาคอ-ทิโซนในปริมาณแค่ 1% แต่ถ้าคุณเป็นโรคผิวหนังหรือมีอาการทางผิวหนังอย่างอื่น เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (seborrhea) ยาพวกนี้พอจะช่วยบรรเทาอาการคันได้บ้าง [14]
    • ถ้าอาการคันของคุณเกิดจากปฏิกิริยาตอบสนองอาการแพ้ โดนแมลงสัตว์กัดต่อย หรือผิวแห้ง ครีมไฮโดรคอร์ติโซนอาจจะช่วยบรรเทาแทบไม่ได้เลย [15]
    • และอย่าลืมว่า ควรใช้ยาที่จำหน่ายตามร้านค้าเท่าที่จำเป็น และปรึกษาแพทย์ก่อนนำยามาใช้เอง
  4. อาการคันมักไม่ใช่เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ แต่ถ้าคุณมีอาการอย่างอื่นปรากฏร่วมด้วย หรือมีรู้สึกคันมาก คุณควรเข้ารับการรักษา
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ป้องกันการคัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าอาการคันของคุณเกิดจากการถูกแดดเผา คุณควรทาครีมกันแดดลงบนผิวที่อยู่นอกร่มผ้าเวลาออกไปข้างนอก [20]
    • ถ้าผิวของคุณไวต่อแสงแดด หลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์ในชั่วโมงที่แดดแรงจัด นั่นหมายถึงตั้งแต่ 10 โมง ไปจนถึงบ่ายสองโมง ชั่วโมงเหล่านี้วัดจากค่ารังสียูวีไม่ใช่จากแสงพระอาทิตย์ ดังนั้น ให้ยึดช่วงเวลาดังกล่าวตลอดทั้งปี [21]
    • อย่าเชื่อในค่า SPF เสมอไป ตัวอย่าง ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อยู่ที่ 50 ไม่ได้แปลว่าป้องกันแสงแดดได้ดีเป็นสองเท่าของค่า SPF 25 เลือกยี่ห้อครีมกันแดดโดยดูสิ่งที่ได้รับการปกป้องมากกว่าดูค่า SPF หายี่ห้อที่ปกป้องรังสี UVA และ UVB โดยเฉพาะ [22] ครีมกันแดดเหล่านี้มักเขียนอยู่บนฉลากว่า "broad spectrum"
    • ในขณะที่ค่า SPF ไม่ใช่ตัววัดประสิทธิภาพของครีมกันแดดที่ดีที่สุด แต่เป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรเข้าใจว่าแพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่แนะนำครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่านี้
  2. ผิวแห้งจะมีโอกาสคันง่าย ดังนั้น ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ประสิทธิภาพสูงเพื่อช่วยลดโอกาสเกิดอาการคันบริเวณผิวหนัง
  3. อาการคันของคุณอาจเกิดขึ้นเวลาที่คุณไปสัมผัสกับของที่แพ้หรือสิ่งที่ทำให้ผิวระคายเคือง ถ้าคุณสงสัยว่าอาการคันมาจากสิ่งนั้น ให้หลีกเลี่ยงโอกาสที่คุณจะไปสัมผัสพวกมัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ค้นคว้าว่ามียาพิเศษตัวไหนเหมาะกับปัญหาอาการคันแต่ละประเภทที่หาซื้อได้ ตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์จากร้านทั่วไปรักษาริดสีดวง และการติดเชื้อยีสต์ เพราะยาเหล่านี้มุ่งกำจัดไปที่สาเหตุของโรคเหล่านั้น


โฆษณา
  1. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  2. http://www.medicinenet.com/itch/page5.htm#what_are_topical_itch_treatments_are_there_any_home_remedies_for_itching
  3. http://www.medicinenet.com/itch/page5.htm#what_are_topical_itch_treatments_are_there_any_home_remedies_for_itching
  4. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/treatment/con-20028460
  5. http://www.medicinenet.com/itch/page5.htm#what_are_topical_itch_treatments_are_there_any_home_remedies_for_itching
  6. http://www.medicinenet.com/itch/page5.htm#what_are_topical_itch_treatments_are_there_any_home_remedies_for_itching
  7. http://www.medicinenet.com/itch/page6.htm#when_should_the_doctor_be_consulted_for_itching
  8. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/symptoms/con-20028460
  9. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/symptoms/con-20028460
  10. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/symptoms/con-20028460
  11. http://www.medicinenet.com/itch/page6.htm#can_itching_be_prevented
  12. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/best-sunscreen/art-20045110
  13. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/best-sunscreen/art-20045110
  14. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  15. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  16. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  17. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  18. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,465 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา