ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณมีขนบริเวณที่สร้างความอับอายให้กับคุณ หรือมีขนบนร่างกายที่แข็งเกินไปหรือไม่ ขนที่ไม่ต้องการหรือมีมากเกินไปนั้นเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากจะพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นขนบริเวณปกติ เช่น ขนขา หรือขนบริเวณที่ไม่ปกติ เช่น ขนบนใบหน้าหรือหลังก็ตาม แต่ยังพอมีวิธีดูแลและมีวิธีทางธรรมชาติที่อาจจะช่วยชะลอการเติบโตของขนได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้วิธีพื้นฐาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแว็กซ์ขนนั้นอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวด แต่ก็เป็นวิธีชะลอการเกิดขนที่ได้ผลดีในระดับหนึ่ง เพราะเมื่อคุณถอนขนออกจากรากขนไปแล้ว ขนที่เกิดมาใหม่จะนุ่มขึ้น บางลง และช้าลง คุณสามารถซื้อแว็กซ์มาทำเองที่บ้าน หรือจะไปสปาหรือร้านเสริมสวยเพื่อให้ได้รับการดูแลโดยมืออาชีพก็ได้
    • แว็กซ์มีสองประเภทด้วยกัน ถ้าคุณต้องการจะแว็กซ์ขนเองที่บ้าน คุณรู้ก่อนว่าควรใช้แว็กซ์แบบแข็งในบริเวณที่บอบบาง เช่น ใบหน้า ใต้วงแขน หรือขอบชุดว่ายน้ำ ส่วนแว็กซ์แบบอ่อนสามารถใช้ได้บริเวณที่ไม่บอบบางมาก เช่น ขา หลัง หน้าอก หรือแขน คุณสามารถซื้อแว็กซ์แล้วนำมาอุ่นด้วยไมโครเวฟ และซื้อแผ่นผ้าได้ตามร้านขายของทั่วไป นอกจากนี้ คุณยังสามารถซื้อแผ่นแว็กซ์สำเร็จรูปได้ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะมาอุ่นแว็กซ์ด้วยตัวเอง
    • ข้อเสียของการแว็กซ์ขนก็คือคุณต้องจะแว็กซ์ขนได้ประมาณ 30 วันต่อครั้ง นั่นหมายความว่าขนที่งอกใหม่ต้องมีความยาวพอสมควรถึงจะสามารถแว็กซ์ต่อได้ เพราะฉะนั้น คุณอาจจะรู้สึกอึดอัดในช่วงแรกๆ ที่ทำ โดยเฉพาะบริเวณส่วนที่มีปัญหา แต่เมื่อนานๆ ไป ขนที่งอกออกมาจะช้าลงจนสังเกตเห็นได้ยากมากขึ้น [1]
  2. ถ้าขนของคุณยังมีปริมาณที่มากเกินไปอยู่ คุณยังสามารถกำจัดมันออกไปได้ด้วยการโกน แม้จะมีความเชื่อที่ว่ายิ่งโกน ขนก็จะยิ่งขึ้นและยิ่งแข็ง แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน การโกนขนจะช่วยลดปริมาณขนได้ระยะเวลาหนึ่งในขณะที่คุณรอขนให้ยาวช้าลงด้วยวิธีอื่น [2]
    • วิธีนี้อาจก่อให้เกิดความระคายเคือง ถ้าคุณโกนขน คุณต้องทาครีมสำหรับโกนขนให้มากๆ หรือให้ท่วมบริเวณที่คุณโกนเพื่อลดการเกิดตอและลดการระคายเคืองของผิว
  3. ครีมกำจัดคนเป็นสารเคมีที่จะละลายขนบริเวณที่ทาด้วยครีมชนิดนี้ ซึ่งครีมกำจัดขนในยุคแรกๆ จะมีกลิ่นเหม็นและทำให้ผิวตึง แต่ก็ได้รับการพัฒนาจนสามารถใช้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ครีมกำจัดขน เช่นยี่ห้อ Nair จะทำหน้าที่ละลายขนที่อยู่บนผิวหนัง แม้ว่าขนที่งอกมาใหม่นั้นจะเร็วกว่าการแว็กซ์เล็กน้อย แต่ขนจะนุ่มขึ้นและบางลงจากการกำจัดขนด้วยวิธีนี้
    • วิธีนี้จะสร้างความเจ็บปวดน้อยกว่าการแว็กซ์และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิว นอกจากนี้ยังไม่ทำให้ขนงอกใหม่เร็วขึ้นเหมือนกับการโกน
    • คุณยังสามารถซื้อครีมกำจัดขนที่ผลิตมาเพื่อใช้ในบริเวณเฉพาะ เช่น ใบหน้า ขอบชุดว่ายน้ำ และขา [3]
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ชะลอการเกิดขนด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จากงานวิจัยพบว่าการบริโภคชากลิ่นสเปียร์มินต์ช่วยลดปริมาณฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ในกระแสเลือด ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดขนที่มากเกินไป ดังนั้น ให้ซื้อชากลิ่นสเปียร์มินต์หรือใบสเปียร์มินต์สดๆ มาทาน นอกจากนี้ การดื่มชาวันละ 2 ครั้งติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์จะช่วยชะลอการเกิดขนได้ [4] [5]
  2. ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากถั่วเหลืองจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในร่างกาย ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนแอนโดรเจนได้ เพราะฮอร์โมนแอนโดรเจนจะกระตุ้นการเกิดขน ดังนั้นการปรับสมดุลหรือลดฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยให้ขนเกิดช้าลง ดังนั้น พยายามทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง เช่น ถั่วแระญี่ปุ่น (Edamame) นมถั่วเหลือง หรือเบอเกอร์ถั่วเหลือง ซึ่งจะช่วยลดการเกิดของขนได้เมื่อทานติดต่อกันในระยะเวลาหนึ่ง [6]
  3. ลองใช้มาส์กแป้งกรัม (Gram flour mask) หรือที่รู้จักกันในชื่อแป้งเบซัน (Besan) หรือแป้งเคิร์ด (Curd) ให้ผสมขมิ้นชัน 1 ช้อนโต๊ะกับแป้งกรัม 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำเพื่อให้เนื้อเหนียวข้น เมื่อผสมเสร็จแล้ว ให้นำมานวดบริเวณผิวของคุณแล้วพักให้แห้ง จากนั้นนำมาถูเบาๆ บนใบหน้า การทำแบบนี้วันละ 1 รอบจะลดปริมาณขนที่งอกออกมาได้ [7]
    • คุณยังสามารถใช้โยเกิร์ตหรือครีมแทนการใช้น้ำได้ ซึ่งอาจจะทำให้เนื้อเหนียวข้นมากยิ่งขึ้น แต่ก็ใช้ในรูปแบบเดิม เพราะส่วนผสมที่ทำจากนมมีสารอาหารที่จะช่วยชะลอการเกิดขนได้มากขึ้น [8]
  4. ขณะที่คุณอาบน้ำอยู่นั้น ให้ใช้หินพัมมิสชุบน้ำแล้วถูเบาๆ เป็นวงกลมบริเวณที่มีขน แรงเสียดทานจะช่วยกำจัดขนที่อยู่ในรูขุมขนและทำให้ขนหลุดออกมา แม้ว่าจะไม่อาจทำให้ขนทั้งหมดออกมาได้ในครั้งแรก แต่ก็มีขนหลุดออกมาพอสมควร นอกจากนี้ ปริมาณขนโดยรวมก็จะงอกออกมาช้าลงอีกด้วย
    • สร้างความชุ่มชื้นบริเวณที่ขัดผิวหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วเพื่อลดการระคายเคืองหรือความอึดอัด [9]
    • พยายามขัดผิวให้เบาๆ การขัดผิวด้วยหินแรงเกินไปจะทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นรอยถลอกได้
  5. ผสมน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาว 2 ช้อนโตะและน้ำเปล่าครึ่งถ้วย จากนั้นนำมาทาที่ผิวหนังบริเวณที่มีขน โดยทาเป็นทางทิศเดียวกันกับขน ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก การทำแบบนี้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยให้ขนงอกช้าลงได้
    • มะนาวมีคุณสมบัติกัดกร่อนอยู่ ดังนั้น มะนาวจึงช่วยให้ขนบางลงและทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นในเวลาเดียวกัน
    • ถ้าน้ำตาลหยาบเกินไปสำหรับคุณ ให้ลองใช้น้ำผึ้งทดแทน หากใช้น้ำผึ้งก็ไม่ต้องใช้น้ำเปล่ามาผสม นอกจากนี้ยังสามารถใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำมะนาวกับผิวหน้าด้วยการใช้ก้านสำลีหรือแผ่นสำลีได้ [10]
  6. ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำตาลและน้ำมะนาวอย่างละ 1 ช้อนชา เมื่อผสมกันแล้วให้น้ำไปอุ่นในเตาไมโครเวฟเป็นเวลาประมาณ 3 นาทีหรือจนกว่าส่วนผสมจะเหนียวข้น เสร็จแล้วพักเอาไว้ให้เย็นจนคุณคิดว่ามันจะไม่ลวกผิว จากนั้น ให้ใช้แป้งข้าวโพดหรือแป้งสาลีทาบริเวณที่ต้องการจะกำจัดขนเพื่อช่วยให้ส่วนผสมเกาะกับผิวหนังเราได้ แล้วทาส่วนผสมบริเวณผิวหน้าที่ต้องการด้วยที่ปาดแว็กซ์หรือมีดหั่นเนยในทิศทางเดียวกับขน จากนั้นให้นำแผ่นผ้ามาวางบริเวณที่มีส่วนผสมเกาะอยู่แล้วกดให้แน่น แล้วดึงแผ่นผ้าในทิศทางตรงข้ามกับขน ให้ทำซ้ำๆ บริเวณที่ต้องการจะกำจัดขน เมื่อเวลาผ่านไป ขนจะขึ้นน้อยลงในบริเวณนั้นและสีจะอ่อนลงและหยิกน้อยลง
    • ให้ใช้วิธีนี้ไม่ว่าจนจะยาวพอที่จะติดกับแว็กซ์ได้แล้วหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่จะทำซ้ำทุก 30 วัน [11] [12]
    • ตรวจสอบให้ดีว่าส่วนผสมจะไม่ลวกผิวของตัวเอง โดยส่วนผสมจะร้อนมากในตอนที่ทำเสร็จใหม่ๆ ให้รอจนกว่าส่วนผสมจะเย็นสนิทก่อนที่จะใช้งาน
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้วิธีอื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าการเกิดขนของคุณนั้นมีผลมาจากปัญหาทางสุขภาพ เช่น ภาวะขนดก (Hirsutism) หรือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome; PCOS) คุณอาจจะต้องทานยาคุมกำเนิดเพื่อช่วยลดการเกิดขน เพราะปัญหาสุขภาพทั้งสองรูปแบบเกิดจากร่างกายผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไป ดังนั้น การทานยาคุมกำเนิดจะช่วยลดการผลิตฮอร์โมนชนิดนี้ได้ เมื่อฮอร์โมนแอนโดเจนลดลง ขนก็จะเกิดช้าลง นุ่มและบางขึ้นกว่าแต่ก่อน [13]
    • ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปัญหาขนที่เกิดจากปัญหาสุขภาพเหล่านี้ ถ้าคุณไม่มีปัญหาสุขภาพใดๆ ก็ไม่ควรทานยาคุมกำเนิดเพื่อลดการเกิดขนถ้าไม่ได้รับการสั่งยาจากแพทย์โดยตรง]
  2. การจี้ไฟฟ้า (Electrolysis) เป็นกระบวนการกำจัดขนโดยการใช้เข็มเล่มเล็กๆ แทงบริเวณรูขุมขนและปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไป โดยไฟฟ้าจะไปทำลายขนในระดับรูขุมขน การรักษาแบบนี้มักจะใช้กับบริเวณเล็กๆ แม้ว่าจะสามารถใช้ในบริเวณกว้างได้ แต่ก็ต้องทำหลายรอบ หากคุณต้องการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ ให้ลองไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้กระแสไฟฟ้าทางการแพทย์ดู แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร
  3. การกำจัดขนด้วยเลเซอร์นั้นได้ผลดีกว่า เร็วกว่า และคงอยู่ได้นานกว่าการจี้ไฟฟ้า โดยทั่วไปนั้น คุณอาจจะต้องทำเลเซอร์ประมาณ 4-6 ครั้ง ซึ่งใช้ได้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ การกำจัดขนด้วยวิธีนี้จะทำให้การเกิดขนก็จะช้าลง อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการกำจัดขนด้วยวิธีนี้จะต้องเป็นแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูง [15]
    • การกำจัดขนอย่างถาวรด้วยเลเซอร์จะเห็นผลได้ในบางตำแหน่งที่ทำ และจำไว้ว่าผู้ที่มีภาวะขนดกหรือภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบยังสามารถกลับมามีขนตามเดิมได้หลังจากที่กำจัดขนด้วยวิธีนี้แล้ว [16]
  4. มีครีมเวชกรรมใหม่ที่ผลิตมาเพื่อชะลอการเกิดขนได้ ผลิตภัณฑ์กำจัดขน เช่น Vaniqa จะช่วยลดการงอกของขนสำหรับผู้หญิงบริเวณใบหน้าและลำคอด้วยการปิดกั้นการผลิตเอนไซม์ในผิวหนังที่ก่อให้เกิดขน ผลที่ได้ก็คือช่วยให้ขนยาวช้าลงและทำให้ขนที่มีอยู่บางลงและนุ่มขึ้น [17] [18]

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 29,941 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม