ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การทักทายผู้คนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันและเป็นทักษะสำคัญที่สมควรเรียนรู้ไม่ว่าคุณจะยังเรียนหนังสืออยู่ ใช้เวลากับเพื่อน หรือทำธุรกิจ ลองอ่านคำแนะนำอันแสนเข้าใจง่ายด้านล่างเพื่อเรียนรู้ว่าจะทักทายผู้คนที่พบอย่างจริงใจและเป็นมิตรได้อย่างไร

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทักทายคนที่คุณไม่รู้จักอย่างเป็นกันเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องเดินเข้าหาอีกฝ่ายอย่างมั่นใจและยิ้มแย้มเข้าไว้ อย่าทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อย่างกับคนโรคจิตชอบสะกดรอยตามชาวบ้านเชียวล่ะ
  2. เมื่อคุณสบตากันแล้ว ทักทายอีกฝ่ายว่า “สวัสดีครับ/ค่ะ สบายดีไหมครับ/คะ?” หรือพูดอะไรที่ฟังดูเป็นมิตรพอ ๆ กัน
    • เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เช่น ถ้าทุกคนที่นั่นทักกันว่า “เฮ้” แทนที่จะพูดว่า “หวัดดี” ก็ทัก “เฮ้” ไปกับเขา หรือถ้าเขาพูด “ฮัลโหล” กันก็ตามน้ำ “ฮัลโหล” ไปด้วยเสียเลย
  3. ยิ้มและแนะนำตัวหลังจากอีกฝ่ายพูด “หวัดดี” กลับมา
    • คุณอาจจะบอกไปว่าคุณรู้จักอีกฝ่ายได้อย่างไรหรืออาจจะย้ำเตือนความจำว่าอีกฝ่ายเคยพบเจอคุณมาก่อนก็ได้ เช่น “หวัดดี ผมชื่อจอห์นนี่นะ เราเคยเรียนวิชาภาพยนตร์ด้วยกันเทอมที่แล้วไง” การเกริ่นนำอย่างนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ชวนขายหน้าหรือความเงียบชวนอึดอัดเมื่อคน ๆ นั้นดันจำคุณไม่ได้
  4. หลังจากแนะนำตัวเองแล้ว คุณคงจะอยากรู้จักคน ๆ นั้นให้ดีขึ้นใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณและคน ๆ นั้นสนใจอะไรคล้าย ๆ กันก็คุยเรื่องนั้นเสียเลยสิ คุณอาจจะพูดว่า “คุณเป็นแฟนหนังของริชาร์ด ลิงค์เลเทอร์หรือเปล่า?” หรือ “ผม/ฉันอยากคุยกับคุณต่อสักหน่อย เราหนีหนาวไปหาที่คุยกันดีไหมครับ/คะ?”
  5. ถ้าคน ๆ นั้นมองคุณแปลก ๆ และชิ่งหนี อย่าไล่ตามเขาหรือเธอ ไม่เพียงแต่คุณจะดูโรคจิตแต่คุณอาจจะเจอปัญหาใหญ่เลยก็ได้นะ แต่ถ้าอีกฝ่ายยิ้มและเริ่มพูดคุยกับคุณ ยินดีด้วย! คุณทักทายคนสำเร็จและมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว!
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทักทายอย่างเป็นทางการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีการทักทายคนที่คุณเพิ่งรู้จักอย่างสุภาพคือการพูดว่า “สวัสดียามบ่ายครับ/ค่ะ เจสซี่ ยินดีที่ได้พบนะครับ/คะ”
    • เป็นฝ่ายยื่นมือเข้าหาก่อน กระชับมือเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือกลับมา อย่าบีบมืออีกฝ่ายแรงๆ
    • ถามไถ่ว่า “สบายดีไหมครับ/คะ?” การทักทายเช่นนี้จะช่วยละลายพฤติกรรมและเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ทักทายคุณกลับเช่นกัน แค่จำไว้เสมอว่าเมื่อคุณถามไถ่ใครก็ตามว่าสบายดีไหม อีกฝ่ายมักจะตอบว่า “ก็ดี” ไม่ว่าชีวิตของคน ๆ นั้นจะดีจริง ๆ หรือไม่ก็ตาม เตรียมตัวเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นไว้เลย ลองสังเกตอะไร ๆ ในตัวอีกฝ่ายสิ คน ๆ นั้นใส่เสื้อผ้าแบบไหน หรือถ้าเจ้าภาพที่จัดงานเลี้ยงวันนั้นเคยบอกคุณว่าเพื่อนใหม่คนนี้ทำงานทำการอะไรก็ชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องนั้นซะ
  2. คุณอาจชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องทั่ว ๆ ไปเพื่อที่จะดำเนินบทสนทนาต่อไป เช่น เรื่องดินฟ้าอากาศ ครอบครัว เคยไปเที่ยวไกลถึงไหนมาบ้าง แถวนี้มีร้านอะไรเหมาะจะไปรับประทานอาหารกลางวันไหม หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นหัวข้อทั่ว ๆ ไปที่คนมักสนใจ อย่าพยายามทำให้อีกฝ่ายประทับใจเกินไป แค่ทำตัวเป็นมิตร เป็นกันเอง น่าเข้าหาก็พอแล้วล่ะ
  3. ถ้าคนที่คุณกำลังคุยด้วยเอาแต่หันหน้าหันหลังหรือก้มดูนาฬิกา นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเขาหรือเธอไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับคุณสักเท่าไหร่ ผละออกมาอย่างสง่างามและไปหาอะไรจิบปลอบใจตัวเองซะ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทักทายอย่างเป็นทางการยามติดต่อธุรกิจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทักคนที่พบเจออย่างเป็นมิตรแต่รักษาท่าทางอย่างมืออาชีพเอาไว้
  2. คุณอาจจะเป็นกันเองได้มากกว่าเมื่อทักทายเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เช่น คุณอาจพูดว่า “ไงคะ แดน ดีใจจังที่ได้เจอคุณ ฉันได้ยินว่าคุณมีผลงานดี ๆ เพียบเลย นี่รอร่วมงานกับคุณอยู่เลยนะคะเนี่ย”
    • ถ้าคุณพบกับคนที่มีหน้ามีตาในสังคมหรือเป็นคนที่คนในชุมชมให้ความเคารพนับถือ คุณอาจทักทายอีกฝ่ายด้วยชื่อชั้นทางสังคมแทนที่จะเรียกเพียงชื่อจริง เช่น “สวัสดีครับคุณแคมป์เบล ยินดีที่ได้พบนะครับ” ฟังดูเป็นมืออาชีพและสร้างความประทับใจอันยาวนานได้ดีกว่าแค่พูดว่า “ไง บิล สบายดีไหมพวก?” แน่ ๆ ล่ะ
    • ลองทักทายคนที่ตำแหน่งหน้าที่การงานอยู่ในระดับล่างกว่าคุณเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ดูสิ เช่น การทักทายว่า “สวัสดีครับ คุณครอฟอร์ด ยินดีที่ได้พบนะครับ” เป็นการส่งสัญญาณว่าคุณคาดหวังให้อีกฝ่ายรักษาความเป็นมืออาชีพเมื่อต้องทำงานร่วมกับคุณ
  3. ไม่มีใครอยากติดแหง่กอยู่กับบทสนทนาที่ไม่อาจหลุดพ้น เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ เลยนะโดยเฉพาะในแวดวงธุรกิจ คุณคงไม่อยากโดนนินทาว่าเป็นพวกปากไม่มีหูรูดหรอกใช่ไหม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยิ้มแย้มอยู่เสมอและพดจาชัดถ้อยชัดคำ ที่สำคัญที่สุดคือต้องสบตาผู้ฟัง การทำเช่นนี้จะทำให้คน ๆ นั้นรู้สึกว่าคุณให้ความสนใจกับเขาหรือเธอจริง ๆ
  • ถ้าคุณไม่รู้จักชื่อของคน ๆ นั้น ทักทายว่า “ยินดีที่ได้พบ” หรือ “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง” แทนสิ
  • ถ้าคุณกำลังจะทักทายผู้ใหญ่ ยิ้มอย่างสุภาพก่อนกล่าวสวัสดี
  • หรือคุณอาจจะถามชื่อคน ๆ นั้นตรง ๆ อย่างสุภาพด้วยการพูดว่า “ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ/คะ แต่น่าเสียดายที่ผม/ดิฉันจำชื่อคุณไม่ได้” ถึงจะฟังดูไม่สุภาพอย่างไรชอบกล แต่ก็ยังดีกว่าเรียกชื่ออีกฝ่ายผิดก็แล้วกัน
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าแสดงท่าทีมั่นใจจนเกินไปเพราะจำให้คุณดูไม่น่าคบหา
  • ถ้าอีกฝ่ายถามว่าคุณสบายดีหรือไม่ก่อน จะเป็นการสุภาพหากคุณตอบคำถามและถามอีกฝ่ายกลับไปบ้าง
  • จำไว้ว่าการทักทายนั้นต่างกันไปตามวัฒนธรรม ถึงการทักทายทั่ว ๆ ไปอย่างตะวันตกจะแพร่หลายจนการจับมือทักทายไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอะไร ยังไงก็ระวังความแตกต่างวัฒนธรรมอันเปราะบางไว้บ้างก็ดี ตัวอย่างเช่น ในทวีปเอเชีย การสบตาและการจ้องตานั้นมีความแตกต่างกันอยู่นะ
  • อย่าเข้าหาคนที่ดูไม่อยากให้คุณเข้าหา (สังเกตภาษากายอีกฝ่ายที่มีต่อคุณให้ดีเชียวล่ะ)
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 21,178 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา