ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ซอสเลมอนก็คล้ายๆ กับน้ำเลมอนที่หนืดขึ้นมาอีกนิด มีรสชาติเหมือนเลมอน หวาน เข้ม หนาเป็นครีมนิดๆ เพราะมีส่วนผสมของแป้งข้าวโพด เอาไว้ใช้ทานกับขนมหวานที่แห้ง เช่น ขนมปังขิงแบบก้อนได้ ซอสเลมอนยังมีไขมันและคอลเลสเตอรอลน้อยกว่าครีม "แท้ๆ" และซอสที่ทำจากครีมและไข่ (คัสตาร์ดหรือเคิร์ด) อีกด้วย อีกทั้งยังไม่ต้องเติมน้ำตาลมาก เราจะมาสอนคุณทำซอสเลมอนแบบดั้งเดิม (นุ่มนวลเนื้อเบา) และแบบเพิ่มครีม (เนื้อหนาและรสชาติเข้มข้นขึ้น) มาเริ่มกันเลย
ส่วนประกอบ
ซอสเลมอนแบบดั้งเดิม
- น้ำเย็น 1 ถ้วย (8 ออนซ์) แป้งข้าวโพดละลายได้ไม่ดีในน้ำอุ่น
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
- น้ำตาล 1/2 ถ้วย (100 กรัม)
- น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
- เนย 1 ช้อนโต๊ะ
- เลมอนครึ่งลูกหรือผิวเลมอนขูด (เมื่อขูดผิว เลมอนจะแห้งขึ้น ดังนั้นเป็นการดีหากจะทานเลมอนทันทีเมื่อทำซอส)
สำหรับ 4 ท่าน
- ตีไข่ขนาดใหญ่ 1 ฟอง
- น้ำเย็น 1/4 ถ้วย
- น้ำมะนาวที่คั้นจากเลมอน 1 ลูก (ประมาณ 3 ช้อนชา)
- ผิวเลมอนครึ่งลูกขูด
- น้ำตาล 3/4 ถ้วย (150 กรัม)
- เนย 1/2 ถ้วย (1 แท่งหรือ 113 g)
สำหรับ 4 ท่าน
ขั้นตอน
นำเข้าไมโครเวฟ
เนื่องจากสูตรนี้ใช้ความร้อนกับของเหลวปริมาณมาก การนำเข้าไมโครเวฟใช้ได้ดีพอๆ กับการอุ่นโดยใช้เตาแบบ "ดั้งเดิม" บางทีอาจดีกว่าด้วยซ้ำ เนื่องจากไมโครเวฟสามารถให้ความร้อนอย่างทั่วถึงอีกทั้งยังใช้ความร้อนน้อยกว่าซึ่งทำให้ไหม้ยาก
-
ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันในชามใสทนความร้อน. หากจะเตรียมไว้ทำทีหลังควรมีฝาปิดที่เข้าชุดกันไว้ด้วยหรือใช้กระดาษทำขนมปิดแทนเพื่อกันซอสหกเลอะ
-
คนจนแป้งข้าวโพดละลายหมดและส่วนผสมเป็นสีขุ่น. น้ำตาลและเนยจะไม่ละลายทันที หลังจากผสมเข้ากันแล้วก็พร้อมนำไปอุ่น
-
ปิดฝาชามหลวมๆ เพื่อกันซอสหกใส่ไมโครเวฟ. ปิดให้หลวมๆ พอ เพราะถ้าปิดแน่นจะทำให้เกิดแรงดันและฝาหลุดกระเด็นได้ คุณกำลังจะอุ่นร้อนดังนั้นเหลือที่ว่างไว้ให้อากาศผ่านบ้าง
-
ตั้งไมโครเวฟที่ความร้อนสูงสุด แต่ อย่า ให้ถึงระดับสุก. ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีสำหรับส่วนผสมหนึ่งส่วน จากนั้นคนเร็วๆ แล้วนำเข้าไมโครเวฟอีก
- หากส่วนผสมเริ่มเดือด ให้นำออกจากไมโครเวฟมาทิ้งให้เย็นลงประมาณ 30 วินาที จากนั้นคนและนำเข้าไมโครเวฟอีกครั้ง
-
อุ่นในไมโครเวฟจนเดือดประมาณ 2 นาที. ระวังอย่างให้สุกจนเกินไป เมื่อส่วนผสมเริ่มเกิดฟองปุดๆ ให้คนแล้วนำเข้าไมโครเวฟอีก 15-30 วินาที ทำอย่างนี้เรื่อยๆ จนกว่าส่วนผสมจะใสและรวมเป็นเนื้อเดียวกัน (แม้ว่ามองลงไปตรงๆ จะไม่ใส) แทนที่จะขุ่นเหมือนแป้ง
- ไมโครเวฟแต่ละตัวไม่เหมือนกัน ให้ดูอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน หากซอสเป็นเนื้อเดียวกันและใสแล้วถือว่าเสร็จสิ้น ให้นำออกมาได้
-
นำออกจากไมโครเวฟ. อย่าเสิร์ฟขณะร้อนเพราะจะลวกลิ้นเวลาทาน ทิ้งให้เย็นสักครู่หนึ่ง ตรวจอุณหภูมิก่อนก่อนให้เด็กเล็กๆ ทาน
- เก็บซอสที่เหลือใส่ตู้เย็นในภาชนะที่เปิดปิดได้เพื่อใช้ครั้งต่อไป สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2-3 อาทิตย์
โฆษณา
ใช้เตาทำ
-
ผสมน้ำเย็น แป้งข้าวโพดและน้ำตาลเข้าด้วยกัน. ใช้กระทะก้นหนาเพื่อกันส่วนผสมจับตัวกันเป็นก้อนจะได้ไม่ไหม้ติดก้นกระทะ อีกทั้งยังกระจายความร้อนได้ดีกว่าด้วย
- น้ำต้องเย็น หากไม่เย็นส่วนผสมจะละลายได้ไม่ดี
-
เปิดเตาใช้ไฟอ่อน-ปานกลางจากนั้นคนช้าๆ. คนเร็วขึ้นเมื่อส่วนผสมเริ่มข้นขึ้นซึ่งเกิดจากแป้งข้าวโพดนั่นเอง
-
เติมน้ำเลมอน เนย ผิวเลมอนขูดจากนั้นจึงเสิร์ฟ. คนอีกครั้งเพื่อให้เนยละลายเข้ากับส่วนผสมอื่นดี เมื่อส่วนผสมเริ่มเข้ากันและใสเป็นอันใช้ได้
- โดยมากมักเติมส่วนผสมให้รสชาติตอนทำเสร็จ แต่หากอยากผสมแต่แรกก็ทำได้เช่นกัน ส่วนผสมมักจะร้อนขึ้นเมื่อใกล้สุก ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก ดังนั้นระวังอย่าให้ไหม้
โฆษณา
-
ใช้ที่ตีไข่ผสม ไข่ น้ำ น้ำเลมอนและผิวเลมอนเข้าด้ยกันในกระทะซอสจนกระทั่งเข้ากันเป็นเนื้อเดียว. ต้องได้ส่วนผสมที่เข้ากันดี เปลือกเลมอนต้องกระจายทั่ว
- เมื่อทำขั้นตอนข้างต้นเสร็จแล้ว จะได้ซอสเลมอน 1 1/2 ถ้วย
-
อุ่นส่วนผสมด้วยไฟปานกลาง. คนจนน้ำตาลและเนยละลายจนเหลว คนบ่อยๆ จนเนยละลายและซอสเริ่มเดือด
-
เมื่อเดือดแล้วให้ยกลงจากเตา. ทิ้งให้เย็นสักครู่ จากนั้นเสิร์ฟอุ่นๆ ซอสเลมอนครีมเอาไว้ราดพุดดิ้งขนมปัง ขนมปังขิง หรือไอศกรีมก็ได้ ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ
- คุณสามารถเก็บซอสไว้ในตู้เย็น (ใส่ภาชนะสุญญากาศ) ได้ถึง 1 เดือน แม้ว่าดีที่สุดคือเสิร์ฟอุ่นๆ ซึ่งคงจะไม่เหลือให้เก็บไว้นานหรอก
โฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณจะเพิ่มหรือลดสูตรก็ได้ แต่ถ้าส่วนผสมเยอะและข้นเกินไปและเวลาอุ่นบนเตาจะทำให้ความร้อนกระจายตัวไม่ทั่วถึงและอาจไหม้ได้
- สำหรับสูตรไร้แคลอรีหรือลดน้ำหนัก ลองใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเช่น ซูคราโลส (ปกติจำหน่ายอยู่ภายใต้ชื่อ Splenda)
- หากต้องการทำแบบแปลกใหม่ ให้ใช้มาการิต้าแบบไม่มีแอลกอฮอล์ หรือถ้าอยากให้แปลกกว่าเดิมก็ลองผสมแอลกอฮอล์ดู หากคนทานต้องขับรถให้หลีกเลี่ยงสูตรนี้ และหากใส่มากไปอาจเกิดปัญหากับแป้งข้าวโพดได้
- ผิวผลไม้ตระกูลส้มอื่นๆ ส่วนมากมักไม่เปรี้ยวเท่าเลมอน ดังนั้นดูส่วนผสมน้ำตาลให้สมดุลจะได้รู้รสเลมอนด้วย สำหรับส้มให้แทนน้ำครึ่งหนึ่งด้วยน้ำส้มและลดน้ำเลมอนลงครึ่งหนึ่ง จากนั้นเติมผิวเปลือกส้มขูดให้มีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น (และมีสีเปลือกส้มกระจายอยู่ถ้าคุณชอบ)
- กลิ่นสกัดขวดเล็กโดยมากมีน้ำมันให้กลิ่น ไม่มีกรด ดังนั้นให้เติมกรดด้วยการใส่น้ำเลมอนในปริมาณปกติลงไปด้วย
- ใส่สีนิดหน่อยให้สวยงามและเพื่อให้รู้ว่าเป็นรสอะไร สีเหลืองอ่อนสวยงามเหมาะสมสำหรับเลมอนแต่ถ้าใส่เยอะเกินไปจะดูประหลาด ไม่น่าทาน หากทำรสส้มให้ใส่สีส้มและกลิ่นส้มลงไปแทนที่จะใช้น้ำส้ม หรือใช้สีเขียวสำหรับซอสมะนาว
- รสชาติไม่เปรี้ยวอื่นๆ เช่น วานิลลาจะดีกว่าผลไม้ตระกูลส้มเมื่อทานกับขนมหวานรสไม่จัดเช่น เค้กช็อกโกแลต (ใส่ซอสนิดหน่อยพอจะได้ไม่เยิ้มจนเกินไป) อย่าใช้ซอสเลมอนสำหรับช็อกโกแลต
- นำส่วนผสมที่เหลือแช่เย็น
โฆษณา
คำเตือน
- ซอสจะไม่น่าทานหากจับตัวเป็นก้อนหรือเย็น ให้เสิร์ฟอุ่นๆ และไม่เป็นก้อน
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- กระทะซอส (หากอุ่นบนเตา)
- ชามทนความร้อนพร้อมฝา (หากใช้ไมโครเวฟ)
- ช้อน
- ที่ตีไข่
- อุปกรณ์ตวง
ข้อมูลอ้างอิง
- Lemon Sauce, Diana Rattray, About.com
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 20,407 ครั้ง
โฆษณา