วิธีการ ทำเนื้อปลาแฮดดัครมควัน

ร่วมเขียน โดย Jason Mayer

เนื้อปลานั้นเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแถมกินคู่กับอะไรก็อร่อย เนื้อปลาแฮดดัคสามารถหาซื้อได้ง่าย หาซื้อได้ทั้งแบบสดและรมควัน เนื้อปลาแฮดดัครมควันนั้นอาจมีสีเหลือง (ผสมสีสังเคราะห์) หรืออาจจะไม่มีสีผสมก็ได้ตามความต้องการของคุณในการเลือกซื้อเอง วิธีการปรุงปลาแฮดดัคนั้นมีไม่มากนัก ในการปรุงคุณควรเตรียมเนื้อปลาราวๆ 170-225 กรัม ต่อคน และอย่าลืมให้คนขายปลาแล่และเอาก้างออกก่อนซื้อเพื่อป้องกันประสบการณ์แย่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

เวลาการเตรียมของ : 5-10 นาที
เวลาการปรุงอาหาร : 10 นาที
รวมเวลาทั้งหมด : 15-20 นาที

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

การลวกปลาแฮดดัครมควัน

ดาวน์โหลดบทความ

1
เติมนมลงไปในกระทะ. ขนาดของกระทะและปริมาณของนมนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของเนื้อปลาที่คุณต้องการปรุงในแต่ละครั้ง กระทะควรใหญ่พอที่จะใส่เนื้อปลาตามที่คุณต้องการ โดยมีที่ว่างเหลือให้สำหรับใช้ไม้พายสำหรับทำอาหารคน และควรจะมีนมมากพอท่วมเนื้อปลาแต่ละชิ้น ^{[1]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สามารถใช้ครีมผสมกับน้ำอย่างละครึ่งแทนนมได้
- ห้ามใช้น้ำเปล่าอย่างเดียว เพราะจะทำให้รสชาติถูกดึงออกจากเนื้อปลาไปหมด
บดเม็ดพริกไทยดำสดเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อปลาแฮดดัค คุณสามารถเพิ่มเครื่องปรุงอื่นๆ ในระหว่างปรุงหากต้องการ เครื่องปรุงอื่นๆ อาจเป็นใบเบย์, หัวหอม, กระเทียม, ใบพาสลีย์หรือผักชีลาวก็ได้
ห้ามใช้ไฟแรงเพื่อต้มนม ให้ค่อยๆ เพิ่มความร้อนเพื่ออุ่นนมให้ร้อนจนเกือบเดือดเท่านั้น หากนมเริ่มมีการเดือดให้เอาออกจากไฟทันทีและรอจนกว่านมจะหายเดือด เมื่ออุ่นนมเสร็จแล้วให้เบาไฟลงเพื่อป้องกันการเดือด ^{[2]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ให้ใส่เนื้อปลาลงไปในนมที่ถูกอุ่นจนเกือบเดือด จัดวางเนื้อปลาแต่ละชิ้นบนกระทะให้มีนมท่วมเนื้อปลาครบทุกชิ้น
ปล่อยให้เนื้อปลาถูกเคี่ยวในนมประมาณ 10 นาที บนไฟปานกลาง หรืออีกวิธีหนึ่ง หากเนื้อปลานั้นชิ้นเล็ก อาจปรุงในนมอุ่นที่โดยไม่ต้องเปิดไฟให้ความร้อนเลยก็ได้ ^{[3]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} โดยนำกระทะออกจากเตา ใส่เนื้อปลาลงในนมอุ่นและปิดฝากระทะหลังจากใส่ลงไปแล้ว
6
เช็คเนื้อปลา. เมื่อเนื้อปลาถูกปรุงจนสุกแล้ว สีของเนื้อปลาจะขุ่นขึ้นและเนื้อปลาจะฉีกออกจากกันได้ง่ายขึ้น หากเนื้อปลายังสีใสอยู่หรือยังมีความเหนียว ไม่แยกออกจากกันง่ายๆ เวลาฉีก ให้เพิ่มเวลาปรุงเนื้อปลาขึ้นอีกสักพัก
- อย่าลืมเช็คความสุกบริเวณตรงกลางของเนื้อปลา เพราะส่วนปลายที่อยู่รอบๆ เนื้อปลาจะสุกก่อนส่วนอื่นๆ
7
เสิร์ฟปลาแฮดดัคขึ้นโต๊ะในขณะที่ยังร้อน. เนื้อปลาแฮดดัคลวกนั้นเป็นอาหารบริติชที่มักจะเสิร์ฟคู่กันกับขนมปังและเนย นมที่ใช้ในการปรุงให้นำไปกรองออกเพื่อนำไปใช้เป็นซอสและขนมปังนั้นใช้เพื่อปาดเก็บซอสที่เหลืออยู่บนจานให้เรียบร้อย
- เนื้อปลาแฮดดัคลวกนั้นสามารถนำไปฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อเอาไปใช้ในเมนูอื่นได้เช่นกัน เช่น พายปลาหรือเค็ดเจอรี (ข้าวผัด) ^{[4]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

การอบปลาแฮดดัครมควัน

ดาวน์โหลดบทความ

{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/b\/bd\/Cook-Smoked-Haddock-Step-8-Version-3.jpg\/v4-460px-Cook-Smoked-Haddock-Step-8-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/b\/bd\/Cook-Smoked-Haddock-Step-8-Version-3.jpg\/v4-728px-Cook-Smoked-Haddock-Step-8-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

อุ่นเตาอบให้เป็นที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
วางเนื้อปลาแฮดดัคลงบนกระดาษฟอยล์หรือกระดาษไขรองอบ. คุณสามารถใช้กระดาษแผ่นใหญ่แผ่นเดียวสำหรับเนื้อปลาทั้งหมด หรือจะใช้แยกแต่ละแผ่นสำหรับเนื้อปลาในแต่ละชิ้นก็ได้ ไม่ว่าจะใช้ในทางใดก็ตาม กระดาษที่ใช้ควรมีขนาดใหญ่กว่าเนื้อปลาที่จะใช้ห่อสักสองเท่า
ทาเนยบางๆ บนเนื้อปลาแต่ละชิ้น จากนั้นปรุงด้วยเครื่องปรุงตามที่คุณต้องการ เครื่องปรุงนั้นอาจจะเป็น พริกไทย, น้ำมะนาว, ใบพาสลีย์, ใบเบย์, หรือผงพริกก็ได้ เนื้อปลาแฮดดัครมควันส่วนใหญ่มีรสชาติที่เค็มอยู่แล้ว จึงไม่แนะนำให้ใส่เกลือเพิ่ม
4
ห่อเนื้อปลาด้วยกระดาษฟอยล์หรือกระดาษไข. หลังจากห่อเนื้อปลาแล้ว ให้ม้วนขอบกระดาษให้เรียบร้อยเพื่อให้กระดาษหุ้มเนื้อปลา เนื้อปลาควรถูกห่อในกระดาษอย่างอย่างมิดชิด
- หากต้องการ คุณสามารถใส่ผักลงไปในห่อเนื้อปลาเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่ควรจะระวังไว้ว่าผักบางชนิดนั้นใช้เวลาทำให้สุกด้วยการอบมากกว่าเนื้อปลา ซึ่งอาจจะไม่เหมาะที่จะรับประทานคู่กัน ยกเว้นแต่ว่าผักได้ถูกปรุงสุกก่อนนำมาห่อกับเนื้อปลาแล้ว ^{[5]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
วางเนื้อปลาในเตาอบ. หากห่อด้วยกระดาษฟอยล์ คุณสามารถวางเนื้อปลาลงบนตะแกรงของเตาอบได้เลย หรือคุณอาจวางเนื้อปลาห่อกระดาษฟอยล์ลงบนแผ่นเตาอบ จากนั้นวางแผ่นเตาอบในเตาอบ หากห่อด้วยกระดาษไขนั้นควรจะวางเนื้อปลาลงบนแผ่นเตาอบก่อนนำเข้าเตา เนื่องจากกระดาษไขนั้นมีความทนทานน้อยกว่ากระดาษฟอยล์
- หากคุณห่อเนื้อปลาทั้งหมดในกระดาษแผ่นใหญ่แผ่นเดียว คุณอาจต้องวางเนื้อปลาลงบนแผ่นเตาอบก่อนนำเข้าเตาอบ เพื่อความสะดวกในการจัดการและป้องกันไม่ให้หล่นได้ง่าย
6
อบเนื้อปลาจนสุก. ให้อบเนื้อปลาในเตาอบเป็นเวลาประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าเนื้อปลาจะสุก เมื่อเนื้อปลาถูกปรุงจนสุกแล้ว สีของเนื้อปลาจะขุ่นขึ้นและเนื้อปลาจะฉีกออกจากกันได้ง่ายขึ้น หากเนื้อปลายังสีใสอยู่หรือยังมีความเหนียว ไม่แยกออกจากกันง่ายๆ เวลาฉีก ให้เพิ่มเวลาปรุงเนื้อปลาขึ้นอีกสักพัก
- อย่าลืมเช็คความสุกบริเวณตรงกลางของเนื้อปลา เพราะส่วนปลายที่อยู่รอบๆ เนื้อปลาจะสุกก่อนส่วนอื่นๆ
เสิร์ฟเนื้อปลาด้วยผักอย่างน้อย 2 ชนิด หรือ ผัก 1 ชนิดกับอาหารจำพวกแป้งอีก 1 ชนิด เพื่อสุขภาพและความกลมกล่อมในการรับประทาน หรือหากต้องการกินแบบบริติช ให้เสิร์ฟพร้อมกันกับไส้กรอกเลือดหั่นเป็นชิ้น

โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

การทอดปลาแฮดดัครมควัน

ดาวน์โหลดบทความ

ให้ใช้กระทะแบนเพิ่มไฟปานกลางจนถึงสูง จากนั้นค่อยลดไฟลงมาจนเหลือไฟปานกลางเพื่อป้องกันการไหม้
จะเป็นน้ำมัน (หรือเนย) ชนิดใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ แต่น้ำมันที่ดีที่สุดในการปรุงอาหารประเภทปลาคือ น้ำมันมะกอก คุณไม่จำเป็นต้องชั่งตวงน้ำมัน เพียงแค่ใส่ลงไปทีละนิดให้ทั่วกระทะและรอให้ร้อนก็เพียงพอแล้ว
3
เตรียมเนื้อปลาแฮดดัค. ระหว่างรออุ่นกระทะคุณสามารถเตรียมเนื้อปลาได้ โดยมีวิธีการเตรียมอยู่สองวิธีคือ : หมักเนื้อปลาในน้ำมัน หรือนำไปคลุกกับแป้ง โดยทั้งสองวิธีนั้นต้องเติมเครื่องปรุงสมุนไพรชนิดต่างๆ เช่นพริกไทย, น้ำมะนาว, ใบพาสลีย์, ใบเบย์, ผักชีลาวหรือผงกะหรี่ลงไปบนเนื้อปลาเช่นกัน
- หมักเนื้อปลาด้วยน้ำมัน โดยให้ทาน้ำมันมะกอกบนเนื้อปลาทั้งสองด้านจากนั้นโรยเครื่องปรุงสมุนไพรตามลงไป ทาให้ทั่วและพักเนื้อปลาไว้เพื่อให้รสชาติซึมเข้าไปในเนื้อ ^{[6]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คลุกเนื้อปลาด้วยแป้ง โดยการผสมแป้งกับเครื่องปรุงสมุนไพร จากนั้นให้นำเนื้อปลาลงไปคลุก จากนั้นให้นำขึ้นมาและเขย่าเล็กน้อยให้แป้งส่วนเกินหลุดออก ^{[7]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
หากชิ้นเนื้อปลายังมีหนังปลาติดอยู่ในด้านใดด้านหนึ่ง ให้เริ่มทอดจากด้านที่มีหนังก่อน ให้ทอดเนื้อปลาราวๆ 8 นาที จนเนื้อปลาเริ่มกรอบและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ^{[8]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ระวังเนื้อปลาไหม้ ให้ทอดด้วยไฟปานกลางแทนไฟสูงเพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการทำเนื้อปลาไหม้ได้
5
กลับเนื้อปลา. กลับเนื้อปลาอีกด้านเพื่อทอดต่ออีกสักพักจนเนื้อปลาเริ่มกรอบและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หากกระทะเริ่มแห้ง คุณอาจเติมน้ำมันหรือเนยลงไปตอนที่คุณกลับเนื้อปลาก็ได้ ^{[9]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ฝั่งที่ไม่มีหนังจะใช้เวลาทำให้สุกน้อยกว่าฝั่งที่มีหนัง ให้คอยดูความสุกของเนื้อปลาให้ดี
6
เช็คเนื้อปลา. เมื่อเนื้อปลาถูกปรุงจนสุกแล้ว สีของเนื้อปลาจะขุ่นขึ้นและเนื้อปลาจะฉีกออกจากกันได้ง่ายขึ้น หากเนื้อปลายังสีใสอยู่หรือยังมีความเหนียว ไม่แยกออกจากกันง่ายๆ เวลาฉีก ให้เพิ่มเวลาปรุงเนื้อปลาขึ้นอีกสักพัก
- อย่าลืมเช็คความสุกบริเวณตรงกลางของเนื้อปลา เพราะส่วนปลายที่อยู่รอบๆ เนื้อปลาจะสุกก่อนส่วนอื่นๆ
ควรเสิร์ฟเนื้อปลาทันทีก่อนที่เนื้อปลาจะเย็น คุณสามารถบีบน้ำมะนาวลงบนเนื้อปลาระหว่างเสิร์ฟเพื่อเพิ่มรสชาติได้ ^{[10]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} หรือราดด้วยซอสเลม่อนเคเปอร์ ^{[11]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} เสิร์ฟเนื้อปลาด้วยผักอย่างน้อย 2 ชนิด หรือ ผัก 1 ชนิดกับอาหารจำพวกแป้งอีก 1 ชนิด เพื่อสุขภาพและความกลมกล่อมในการรับประทาน

โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

การทำปลาแฮดดัครมควันราดซอสมัสตาร์ด

ดาวน์โหลดบทความ

1
เตรียมมันฝรั่ง. หั่นมันฝรั่งแดง (หรือมันฝรั่งชนิดอื่นก็ได้ ตามที่คุณต้องการ) ให้เป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นให้นึ่ง, ต้ม, อบหรือย่างจนนุ่ม จากนั้นแบ่งมันฝรั่งออกเป็นหลายๆ จาน
- คุณอาจไม่ต้องหั่นมันฝรั่งพื้นบ้านหรือมันฝรั่งขนาดเล็กๆ แต่ใช้ทั้งลูกไปเลยก็ได้
ให้ดูจากหัวข้อ “การลวกปลาแฮดดัครมควัน” ข้างบน สำหรับรายละเอียด หลังจากเนื้อปลาสุกแล้ว ให้นำออกจากนมและวางเนื้อปลาลงบนแต่ละจานที่แยกมันฝรั่งไว้
ให้เก็บนมไว้ และกรองเอาเศษเครื่องปรุงหรือเศษเนื้อปลาออก ^{[12]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ในกระทะเดียวกันที่ให้ปรุงเนื้อปลา ละลายเนยบนไฟปานกลาง จากนั้นให้ใส่แป้งลงไป (ปริมาณพอๆกันกับเนย) คนให้เข้ากัน โดยให้เวลาปรุงราวๆ 2-4 นาที
5
เทนมลงบนส่วนผสม. ค่อยๆเทนมที่กรองออกมาลงบนส่วนผสมของแป้งและเนย คนให้เข้ากันระหว่างเท ให้เทลงไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ความข้นของซอสที่คุณต้องการ ^{[13]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- คุณสามารถปรับความข้นของซอสได้โดยการเพิ่มนมหากอยากให้ซอสจางลงหรือเพิ่มแป้งหากอยากให้ซอสข้นขึ้น ให้ระวังไว้ว่าซอสนั้นจะข้นขึ้นจากเดิมขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่เย็นตัวลงด้วย
ใส่มัสตาร์ดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะลงไปนซอสและคนให้เข้ากัน ซึ่งคุณอาจใส่เครื่องปรุงอื่นๆ ลงไปในตอนนี้ได้เช่น ใบทาร์รากอนสด เป็นต้น ^{[14]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
7
เทซอสลงบนเนื้อปลาและมันฝรั่ง. ซอสควรเสิร์ฟตอนร้อนๆ ซึ่งจะทำให้เนื้อปลาและมันฝรั่งนั้นอุ่นขึ้น หลังจากเทซอสลงบนเนื้อปลาแล้ว ควรเสิร์ฟขึ้นโต๊ะทันที ^{[15]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากคุณกังวลว่าเนื้อปลาและมันฝรั่งจะเย็นเสียก่อน คุณสามารถใส่ทั้งสองลงไปในกระทะที่ทำซอสที่ยังร้อนอยู่ไปพร้อมกันได้เลย แต่ควรระวังการทำเนื้อปลาเละด้วย (รสชาติของเนื้อปลาจะยังดีเหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะดูไม่ดีนักหากเนื้อปลานั้นเละเป็นชิ้นระหว่างเอาลงกระทะซอส)
- คุณสามารถตกแต่งจานให้สวยงามด้วยการโรยใบพาสลีย์เล็กน้อย
8
หากต้องการดัดแปลงเมนู. คุณอาจต้องการเพิ่มผักชนิดอื่นๆ ลงไปเช่น คุณสามารถใส่ผักโขมไว้ระหว่างมันฝรั่งและชิ้นเนื้อปลา หรือคุณสามารถใช้ถั่วลันเตาเป็นเครื่องเคียงแทนมันฝรั่งได้
- การวางไข่ลวกลงบนเนื้อปลาแต่ละชิ้นก่อนเทซอสก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมทำเช่นกัน ^{[16]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา