ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่ (Peanut butter and jelly sandwich หรือที่หลายคนเรียกว่า PB&J) เป็นเมนูยอดนิยมของชาวอเมริกัน และด้วยวิธีการทำที่รวดเร็วและง่ายดาย จึงเหมาะแก่การเตรียมไว้สำหรับเป็นอาหารกลางวันหรืออาหารว่างเป็นอย่างยิ่ง คุณสามารถทำแซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่ได้ตามแบบฉบับดั้งเดิม หรือจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณในการดัดแปลงแซนด์วิชให้มีรสชาติอร่อยและดูน่าทานมากขึ้น พร้อมทานแซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่แสนอร่อยแล้วใช่มั้ย งั้นเริ่มจากแซนด์วิชแบบดั้งเดิมกันก่อนเลย!

ส่วนประกอบ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ทำแซนด์วิชแบบดั้งเดิม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เนยถั่ว แยม และขนมปังเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำแซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่ และอาจทาเนยบนขนมปังเพิ่มเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับแซนด์วิชของคุณ เนื่องจากขนมปังและวัตถุดิบสำหรับทามีมากมายหลายชนิดให้คุณได้เลือกใช้ คุณจึงอาจต้องทดลองรสชาติสักนิดเพื่อค้นหารสชาติที่คุณชื่นชอบที่สุด
    • เนยถั่วโดยส่วนใหญ่มักผสมน้ำตาลและน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนในปริมาณมาก ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้ หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ คุณสามารถเลือกใช้เนยถั่วสูตรออร์แกนิคแทนได้ เนยถั่วสูตรธรรมชาติอาจมีน้ำมันแยกตัวเป็นชั้นอยู่ด้านบน แต่หากคุณคนอย่างระมัดระวังหลังจากเปิดฝาและนำเนยถั่วแช่ไว้ในตู้เย็น น้ำมันในเนยถั่วก็จะไม่กลับมาแยกตัวอีกครั้ง
    • แยมมีให้เลือกมากมายหลายรสชาติ โดยรสชาติที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือองุ่นและสตรอเบอร์รี่ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือกใช้แยมที่มีรสชาติเข้มข้นมากขึ้นอย่างราสเบอร์รี่ หรือจะลองผสมแยมหลากหลายรสชาติเข้าด้วยกันก็ได้เช่นกัน
    • ขนมปังที่เลือกใช้ไม่ควรมีรสชาติมากเกินไปจนกลบรสชาติอื่นๆ (เช่น ขนมปังไรย์หรือขนมปังซาวโดว์) ดังนั้นให้เลือกใช้ขนมปังโฮลวีทหรือขนมปังขาวจึงจะดีที่สุด
  2. Watermark wikiHow to ทำแซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่
    คุณสามารถทาเนยถั่วได้มากน้อยตามใจชอบ แต่หากคุณต้องการทำแซนด์วิชไว้สำหรับพกไปทานข้างนอก คุณอาจต้องทาเนยถั่วเพียงบางๆ ไม่หนาเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้ไหลเลอะเทอะก่อนที่คุณจะได้ทาน
    • คนเนยถั่วก่อนนำไปทาเพื่อให้เนยถั่วนิ่มขึ้นและสามารถทาบนขนมปังได้อย่างง่ายดาย และอีกเคล็ดลับหนึ่งในการทาเนยถั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนยถั่วชนิดหยาบที่มีถั่วผสมในเนื้อครีม คือการตักเนยถั่วใส่ชามและนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยไฟสูงประมาณ 20 วินาที เนยถั่วที่อุ่นเสร็จแล้วนั้นจะสามารถนำไปปาดบนขนมปังได้อย่างง่ายดายเหมือนกับเนยนิ่มๆ เลยทีเดียว
    • หากต้องการทาเนย คุณสามารถทาลงไปบนขนมปังแผ่นเดียวกันนี้ให้เรียบร้อยก่อนเริ่มทาเนยถั่วลงไป
  3. Watermark wikiHow to ทำแซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่
    ใช้ช้อนหรือมีดปาดแยมให้ทั่วขนมปัง และเช่นเดียวกับขั้นตอนก่อนหน้านี้ หากคุณไม่ได้ทำแซนด์วิชเพื่อทานทันทีและไม่ได้ชอบแยมมากนัก พยายามอย่าทาแยมบนแซนด์วิชมากเกินไป
  4. Watermark wikiHow to ทำแซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่
    ประกบขนมปังเข้าด้วยกันให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เนยถั่วและแยมไหลเลอะเทอะ โดยใช้มือทั้งสองข้างถือขนมปังไว้ข้างละแผ่นและประกบเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
  5. Watermark wikiHow to ทำแซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่
    วิธีการตัดแบ่งแซนด์วิชที่เหมาะสมที่สุดคือการตัดในแนวทแยงมุมจากมุมหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่งเพื่อให้ได้แซนด์วิชทรงสามเหลี่ยมสองชิ้น หรือจะตัดแบ่งแซนด์วิชตามแนวตรงให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมสองชิ้นก็ได้เช่นกัน
  6. เพียงเท่านี้แซนด์วิชแสนอร่อยที่ทำได้ง่ายๆ ก็พร้อมทานแล้ว!. อย่าลืมล้างมือให้สะอาดหลังจากที่ทานแซนด์วิชเสร็จแล้ว เพราะมือของคุณอาจเปื้อนเนยถั่วและแยมและทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ดัดแปลงแซนด์วิช

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพิ่มความน่าทานให้แซนด์วิชของคุณโดยการเติมขนมกรุบกรอบอย่างกราโนล่า เพรทเซล หรือแครกเกอร์ นอกจากนี้ กราโนล่ายังมีคุณประโยชน์เพิ่มเติมอื่นๆ คือช่วยเพิ่มไฟเบอร์และสารอาหารให้ร่างกายของคุณและเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
  2. มีส่วนผสมรสหวานมากมายหลายชนิดที่คุณสามารถเพิ่มลงไปในแซนด์วิชของคุณ ทั้งน้ำเชื่อม (โดยเฉพาะน้ำเชื่อมเมเปิ้ล) กล้วยตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ น้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง หรือเบอร์รี่ชนิดต่างๆ (บลูเบอร์รี่ ทับทิม เป็นต้น)
  3. การปิ้งขนมปังจะช่วยเพิ่มความกรุบกรอบและรสชาติให้กับแซนด์วิชของคุณ ทั้งยังช่วยให้คุณปาดเนยถั่วได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะขนมปังที่ปิ้งแล้วนั้นจะไม่ฉีกขาดง่ายเท่าขนมปังธรรมดา [1]
    • คุณสามารถเลือกใช้บิสกิตแทนขนมปังก็ได้เช่นกัน เนื่องจากเนยถั่วและแยมสามารถปาดบนบิสกิตได้อย่างง่ายดายและมีรสชาติแตกต่างจากเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  4. เตรียมขนมปัง 2 แผ่น ไข่ 1 ฟอง นมสด 2 ช้อนโต๊ะ อบเชยเล็กน้อย น้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย และส่วนผสมที่ขาดไม่ได้อย่างเนยถั่วกับแยม [2]
    • ผสมอบเชย ไข่ นมสด และน้ำตาลทรายแดงเข้าด้วยกัน จากนั้นจุ่มขนมปังลงไปในส่วนผสมโดยระวังอย่าให้ขนมปังชุ่มจนเกินไป นำขนมปังไปปิ้งบนกระทะนาน 2 นาที แล้วจึงพลิกด้านขนมปังและปิ้งต่ออีก 2 นาที จากนั้นนำขนมปังขึ้นจากกระทะและทาเนยถั่วและแยมให้เรียบร้อยก่อนนำกลับลงไปปิ้งอีกครั้งด้วยไฟปานกลางนาน 1 นาที เมื่อเสร็จแล้วจึงนำมาวางบนจน ตัดแบ่งครึ่ง และเริ่มทานกันเลย!
  5. เตรียมขนมปังกล้วยหอมไว้และทาด้วยเนยถั่วและแยมตามปกติ แซนด์วิชแสนอร่อยสูตรนี้ผสมผสานด้วยคุณประโยชน์จากกล้วยหอมพร้อมทั้งความหวานของเนื้อขนมปัง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ลองตัดขอบขนมปังออกโดยใช้พิมพ์กดคุกกี้หรือพิมพ์กดแซนด์วิช คุณสามารถตัดขอบขนมปังได้อย่างรวดเร็วโดยการตัดหลายชิ้นพร้อมๆ กัน
  • หากต้องการพกแซนด์วิชไปทานข้างนอกหรือที่โรงเรียน ลองใช้ถุงซิปล็อกที่สามารถรูดปากถุงเปิดปิดได้ เมื่อนำแซนด์วิชใส่เข้าไปในถุงแล้ว ให้รูดปากถุงปิดเพียงบางส่วนให้เหลือช่องเล็กๆ ไว้ จากนั้นเป่าลมเข้าไปในถุงเหมือนเป่าลูกโป่งและรีบรูดปากถุงปิดให้สนิท วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้แซนด์วิชถูกกดจนเละ
  • ลองทำแซนด์วิชเปิดหน้าโดยใช้ขนมปังเพียงแผ่นเดียวและทาเนยถั่วและแยมในปริมาณตามต้องการ โดยเริ่มทาเนยถั่วก่อนแล้วจึงตามด้วยแยม อย่างไรก็ตาม แซนด์วิชเนยถั่วกับเจลลี่นี้อาจทานยากเล็กน้อย ทานระวังกันหน่อยนะ!
  • หากต้องการเตรียมแซนด์วิชสำหรับเป็นอาหารกลางวัน คุณสามารถทำแซนด์วิชได้โดยใช้ขนมปังแช่แข็ง โดยขนมปังจะละลายเรื่อยๆ แต่ยังคงเย็นอยู่เล็กน้อยเมื่อคุณทานเข้าไป
  • อย่าลืมทำความสะอาดหลังจากทำแซนด์วิชเสร็จเพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมายุ่งยากกับการเก็บกวาดพื้นที่ที่รกรุงรัง
  • หากไม่มีแยม คุณสามารถทำแซนด์วิชเนยถั่วกับมาร์ชเมลโลหรือแซนด์วิชเนยถั่วกับน้ำผึ้งก็ได้เช่นกัน
  • หากทิ้งแซนด์วิชไว้นานเกินไปก่อนเริ่มทาน แยมอาจซึมลงไปในขนมปังและทำให้ขนมปังแฉะได้ ดังนั้น หากคุณต้องการทานแซนด์วิชในภายหลัง ให้ทาเนยถั่วบนขนมปังทั้งสองแผ่นและปาดแยมไว้ตรงกลางเพื่อป้องกันไม่ให้แยมซึมลงไปในขนมปัง โดยควรทาเนยถั่วให้บางลงกว่าปกติ นอกจากนี้ การทาเนยบางๆ บนขนมปังก่อนเริ่มทาแยมยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ขนมปังแฉะขึ้นได้อีกด้วย
  • คุณสามารถทำแซนด์วิชชิ้นเล็กๆ ด้วยขนมปังเพียงแผ่นเดียวโดยการพับขนมปังครึ่งหนึ่ง
  • สำหรับผู้ที่แพ้ถั่วลิสง แหล่งโปรตีนอื่นๆ ที่เป็นตัวเลือกที่ดีได้แก่ครีมชีส โดยเลือกใช้ครีมชีสไขมันต่ำ (Neufchatel) ที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำกว่าครีมชีสทั่วไป หรือจะแทนด้วยเนยถั่วที่ทำจากเมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ หรือมะม่วงหิมพานต์ ขึ้นอยู่กับความไวของร่างกายของคุณต่ออาหารที่แพ้ โดยนำถั่วเหล่านี้มาปั่นให้ละเอียดในเครื่องผสมอาหารเพื่อทำเป็นเนยถั่ว
  • หรือจะเลือกใช้เนยถั่วที่ทำจากถั่วเหลืองก็ได้เช่นกัน ซึ่งเนยถั่วจากถั่วเหลืองนี้นั้นมีรสชาติที่เหมือนกับเนยถั่วจนแยกไม่ออกเลยทีเดียว!
โฆษณา

คำเตือน

  • หากมีสมาชิกในบ้านคนใดที่แพ้เนยถั่ว ควรระมัดระวังอย่านำมีดที่ใช้ปาดเนยถั่วจิ้มลงไปในขวดแยม เพราะเนยถั่วแม้ปริมาณเพียงเล็กน้อยก็สามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้เนยถั่วได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • จานหรือกระดาษอเนกประสงค์
  • มีดปาดเนย

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,819 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา