ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หินปูนคือแร่ธาตุชนิดแข็งที่ก่อตัวขึ้นเมื่อคุณไม่ได้กำจัดคราบต่างๆ บนผิวฟัน คุณสามารถกำจัดหินปูนได้ด้วยการทำความสะอาดโดยทันตแพทย์เท่านั้นเพราะฉะนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงหินปูนตั้งแต่แรก คุณควรรักษาสุขลักษณะในช่องปากให้ดีเพื่อป้องกันหินปูนซึ่งหมายถึงการกำจัดคราบต่างๆ อย่างรวดเร็วด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำและทำความสะอาดโดยทันตแพทย์ ฟันของคุณจะมีสุขภาพดีและปราศจากหินปูนไปอีกหลายปีถ้าได้รับการดูแลที่ดี [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การรักษาสุขลักษณะในช่องปากให้ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แปรงฟัน อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน. คุณต้องแปรงฟันเพื่อกำจัดคราบต่างๆ ที่ติดอยู่บนฟันและป้องกันไม่ให้หินปูนก่อตัว คุณควรแปรงฟัน 2 ครั้งต่อวันเพื่อป้องกันคราบและหินปูน [2]
    • โดยทั่วไปคุณควรแปรงฟันในตอนเช้าเมื่อตื่นนอนและตอนกลางคืนก่อนเข้านอน อย่างไรก็ตามคุณสามารถเลือกกิจวัตรการแปรงฟันที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณและทำตามกิจวัตรนั้น
  2. หินปูนสามารถก่อตัวระหว่างซี่ฟันถ้าหากคุณไม่กำจัดเศษอาหารที่ตกค้าง คุณสามารถกำจัดสสารที่ก่อให้เกิดคราบและหินปูนด้วยการใช้ไหมขัดฟันทุกวัน [3]
    • เมื่อคุณขัดฟันก็ควรเลื่อนไหมขัดฟันไปมาระหว่างซี่ฟัน เลื่อนไหมขัดฟันไปทุกซี่ฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ตกค้าง จากนั้นจึงดึงไหมขัดฟันออกในลักษณะเดียวกับเลื่อย
    • น้ำตาลและแป้งที่ก่อตัวขึ้นระหว่างฟันสามารถกลายเป็นคราบและหินปูน ถ้าหากคุณรับประทานน้ำตาลหรือแป้งบ่อยๆ ก็ควรใช้ไหมขัดฟันทันทีหลังการรับประทาน
  3. มีน้ำยาบ้วนปากที่ออกแบบมาเพื่อช่วยกำจัดคราบฟัน น้ำยาบ้วนปากสามารถช่วยให้คราบร่อนตัวเพื่อให้การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันมีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้น้ำยาบ้วนปากเหล่านี้ 1 ครั้งต่อวันควบคู่กับการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันสามารถส่งเสริมสุขลักษณะที่ดีในช่องปากและป้องกันหินปูนได้ [4]
    • ใช้น้ำยาบ้วนปากหลังการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันเพื่อชะล้างเศษอาหารที่ตกค้าง
    • ดูฉลากของน้ำยาบ้วนปากเพื่อให้มั่นใจว่ามีสารช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดคราบฟัน น้ำยาบ้วนปากที่ดีต้องมีตรารับรองจากองค์การทันตแพทย์ต่างๆ
  4. คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดคราบฟันเพื่อป้องกันไม่ให้คราบฟันก่อตัว อาหารเหล่านี้ได้แก่อาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลและแป้ง เช่น ลูกอม น้ำอัดลมและขนมปัง [5]
    • ถ้าหากคุณรับประทานอาหารเหล่านี้ก็ควรแปรงฟันหลังจากรับประทาน อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณไม่สามารถแปรงฟันทันทีก็ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อชะล้างเศษอาหารจากซี่ฟัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การกำจัดคราบฟันอย่างมีประสิทธิภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าหากคุณต้องการกำจัดคราบฟันและป้องกันหินปูนก็ควรเลือกแปรงสีฟันที่มีประสิทธิภาพ ใช้แปรงสีฟันที่มีซี่แปรงนุ่มเพื่อกำจัดคราบแต่ไม่ทำลายเหงือกและเคลือบฟัน
  2. มียาสีฟันให้คุณเลือกมากมายแต่คุณควรเลือกยาสีฟันที่มีฉลากระบุว่าช่วยป้องกันหินปูน ยาสีฟันเหล่านี้มีสารขัดฟันอ่อนๆ ที่สามารถกำจัดคราบบนผิวฟันได้ [7]
    • ถ้าหากคุณมีอาการเสียวฟันก็ควรเลือกยาสีฟันที่ระบุว่าเหมาะสำหรับช่วยป้องกันหินปูนและการเสียวฟัน
  3. คุณต้องวางแปรงสีฟันโดยทำมุมให้ถูกต้องเพื่อกำจัดคราบจากแนวเหงือก ซี่แปรงของแปรงสีฟันสามารถซอกซอนชั้นบนของเหงือกได้เมื่อคุณถือแปรงสีฟันโดยทำมุม 45 องศา [8]
    • ใช้การแปรงฟันแบบสั้นๆ นุ่มนวลและเป็นวงกลมซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการกำจัดคราบและเศษอาหาร
  4. ใช้เวลาทำความสะอาดฟันทุกซี่ คุณจะใช้เวลาประมาณ 2 นาทีถ้าหากคุณทำความสะอาดฟันทุกซี่ [9]
    • คุณต้องแปรงฟันทุกด้าน ใช้เวลาแปรงฟันด้านใน ด้านนอกและด้านบนของฟัน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อให้ฟันปราศจากหินปูน คุณควรนัดทำความสะอาดล่วงหน้าเพื่อทำความสะอาดฟันเป็นประจำ
    • ถึงแม้ว่าทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ทำความสะอาดฟัน 2 ครั้งต่อปีแต่จำนวนครั้งที่คุณต้องทำความสะอาดฟันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ปรึกษาทันตแพทย์ว่าคุณควรทำความสะอาดฟันบ่อยแค่ไหนโดยอิงจากปัจจัยความเสี่ยงหรือปัญหาในช่องปากที่คุณมี [10]
  2. ปรึกษาทันตแพทย์เมื่อคุณพบสิ่งผิดปกติในช่องปาก. ถ้าหากคุณรู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองในช่องปากก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ต้องการการรักษา ปรึกษาทันตแพทย์และนัดพบเพื่อตรวจช่องปากและรักษา
  3. สิ่งแรกคือทันตแพทย์จะตรวจช่องปากและตรวจสภาพฟัน ทันตแพทย์จะตรวจฟันทุกซี่และมองหาสัญญาณของคราบและหินปูน [11]
    • ทันตแพทย์จะมองหาสัญญาณของปัญหาในช่องปากอื่นๆ อีกด้วย เช่น โรคเหงือกอักเสบ
  4. เมื่อคุณให้ทันตแพทย์ทำความสะอาดฟันพวกเขาจะเริ่มโดยการกำจัดคราบและหินปูนโดยใช้อุปกรณ์โลหะที่เรียกว่าเครื่องขูดเกล็ด จากนั้นทันตแพทย์จะทำความสะอาดฟันด้วยแปรงฟันด้วยยาสีฟันชนิดหยาบซึ่งจะกำจัดคราบและหินปูนบนฟันของคุณ [12]
    • ทันตแพทย์ใช้ยาสีฟันชนิดหยาบเพื่อให้ฟันของคุณเงางามแต่คุณควรใช้เพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น การใช้ยาสีฟันชนิดหยาบบ่อยๆ สามารถทำลายเคลือบฟันได้
  5. คุณอาจจะต้องดูแลฟันเพิ่มเติมหลังจากที่ทันตแพทย์ทำความสะอาดฟันตามปกติ ถ้าหากคุณมีคราบและหินปูนจำนวนมากทันตแพทย์ของคุณอาจจะทำความสะอาดโดยใช้คลื่นความถี่สูงซึ่งใช้การสั่นและน้ำเพื่อกำจัดหินปูนหนาๆ [13]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,808 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา