ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

Liposuction ก็คือการดูดไขมัน บางทีเรียก body contouring หรือการสร้างโครงร่างขึ้นมาใหม่นั่นเอง เป็นหนึ่งในขั้นตอนศัลยกรรมความงามที่นิยมกันมากที่สุดในโลก [1] ศัลยแพทย์ตกแต่งจะกำจัดไขมันส่วนเกินไปจากร่างกายคุณ ด้วยการใช้เครื่องมือผ่าตัดชนิดพิเศษดูดออกมา [2] ส่วนของร่างกายที่คนนิยมไปดูดไขมันกันก็เช่น สะโพก บั้นท้าย ต้นขา แขน หน้าท้อง และหน้าอก [3] ถ้าคุณเพิ่งผ่านการดูดไขมันมา หรือกำลังจะไปดูดไขมัน แนะนำให้ศึกษารายละเอียดแต่เนิ่นๆ จะได้อุ่นใจ แน่นอนว่าต้องมีเจ็บตัวบ้างระหว่างพักฟื้น และใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี แต่ถ้าพักฟื้นถูกวิธีแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอน [4]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

พักฟื้นหลังดูดไขมัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปรึกษาคุณหมอเรื่องการปฏิบัติตัวหลังดูดไขมัน. การดูดไขมันเป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่ง แน่นอนว่าเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ [5] เลยสำคัญว่าต้องใส่ใจคำแนะนำของคุณหมอให้ดี เรื่องการปฏิบัติตัวหลังดูดไขมัน ถ้าสงสัยตรงไหนให้ถามได้เลย แผลจะได้หายเร็ว และลดความเสี่ยงการเกิดอาการแทรกซ้อน [6]
    • แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอโดยละเอียด ในนัดครั้งสุดท้ายก่อนวันดูดไขมันจริง จะได้ไขทุกข้อข้องใจ ไร้กังวล
    • คนที่จะพาคุณกลับบ้านหลังดูดไขมัน ก็ต้องตั้งใจฟังขั้นตอนที่คุณหมออธิบายด้วย เผื่อคุณอ่อนเพลียหรือมึนงงหลังดูดไขมันหรือถูกวางยาสลบ จะได้ดูแลคุณได้ถูกวิธี
  2. ไม่ว่าจะดูดไขมันแล้วพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลหรือกลับบ้านเลย ก็ต้องพักฟื้นต่ออีกอย่างน้อย 2 - 3 วัน แต่ส่วนใหญ่แค่ไม่กี่วัน คุณก็กลับไปเรียนหรือทำงานได้แล้ว [7]
    • ปรึกษาคุณหมอว่าหลังดูดไขมัน ควรพักฟื้นกี่วัน [8]
    • ระยะเวลาในการพักฟื้น ขึ้นอยู่กับว่าแผลผ่าตัดใหญ่แค่ไหน และดูดไขมันออกไปมากแค่ไหน ถ้าแผลใหญ่ ก็ต้องพักฟื้นนานกว่าปกติ [9]
    • ทำความสะอาด จัดบ้านและห้องนอนให้พร้อมก่อนไปดูดไขมัน ถ้าห้องสะอาดน่านอน มีเตียงนุ่มๆ พร้อมหมอนและเครื่องนอนหอมๆ จะทำให้คุณพักผ่อนได้ดี ฟื้นตัวเร็ว [10]
  3. หลังดูดไขมัน คุณหมอจะทำแผลให้ และอาจแนะนำให้สวมใส่อุปกรณ์รัดประคอง เช่น ผ้ารัด ถ้าใช้ผ้ายืดพันแผลหรือผ้ารัด จะช่วยกดบริเวณแผลเพื่อห้ามเลือด และเป็นการสร้างโครงร่างใหม่สวยๆ ให้คุณด้วย [11]
    • คุณหมอบางท่านก็ไม่ได้ให้ผ้ารัดมา แบบนี้ต้องหาซื้อเตรียมไว้ก่อน หรือทันทีหลังดูดไขมัน พวกผ้ายืดพันแผลหรือผ้ารัด หาซื้อได้ตามร้านขายยาและเครื่องมือแพทย์ทั่วไป [12]
    • การรัดแผลด้วยผ้าแบบนี้สำคัญมาก เพราะช่วยรัดประคองหลังดูดไขมัน รวมถึงบรรเทาอาการบวมช้ำ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น [13]
    • แนะนำให้ซื้อผ้าที่ใช้รัดส่วนที่คุณไปดูดไขมันมาโดยเฉพาะ เช่น ถ้าเพิ่งไปดูดไขมันที่ต้นขามา ก็ให้ซื้อผ้าสำหรับรัดบริเวณต้นขาทั้ง 2 ข้าง
    • ส่วนใหญ่ต้องใช้ผ้ารัดนี้หลังดูดไขมันต่อเนื่องไปประมาณ 2 อาทิตย์ แต่ก็มีเหมือนกันที่ต้องใช้ผ้ารัดต่อไป 2 - 3 อาทิตย์ด้วยกัน [14]
  4. คุณหมออาจจ่ายยาปฏิชีวนะให้กินหลังดูดไขมัน เพื่อลดความเสี่ยงเกิดการติดเชื้อ ถ้ามี ก็ต้องกินยาจนหมด ครบตามที่คุณหมอสั่ง เพื่อไม่ให้ติดเชื้อหลังดูดไขมัน [15]
    • งานวิจัยล่าสุดชี้ว่ายาปฏิชีวนะอาจไม่จำเป็นหลังการดูดไขมัน แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุด บางคนอาจมีโรคประจำตัว อย่างเริม แบบนี้ต้องกินยาป้องกันการติดเชื้อหรืออาการกำเริบขึ้นมา [16]
  5. หลังดูดไขมันคุณอาจมีอาการปวด บวม หรือชา ก็บรรเทาอาการได้โดยใช้ยาแก้ปวด ทั้งที่หาซื้อเองตามร้านขายยา หรือที่คุณหมอจ่ายให้ [17]
    • เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกชาหรือเป็นเหน็บ รวมถึงมีอาการปวด 2 - 3 อาทิตย์หลังดูดไขมัน บางคนก็มีอาการบวมช้ำร่วมด้วยในระยะนี้ [18]
    • ส่วนใหญ่คนที่ไปดูดไขมันมา จะรู้สึกสบายตัวขึ้นหลังผ่านไป 1 - 2 อาทิตย์ เพราะงั้นในช่วงนี้ก็กินยาแก้ปวดได้ หรือนานกว่านั้นเล็กน้อย [19]
    • ซื้อยาแก้ปวดกินเอง เช่น ไอบูโพรเฟน หรืออะเซตามิโนเฟน เพราะไอบูโพรเฟนช่วยบรรเทาอาการบวมหลังผ่าตัดได้
    • คุณหมออาจจ่ายยาแก้ปวดให้ ถ้ายาที่ซื้อกินเองไม่แรงพอบรรเทาอาการของคุณ [20]
    • ที่ร้านขายยา คุณซื้อได้ทั้งยาแก้ปวดธรรมดา และยาแก้ปวดที่คุณหมอสั่ง แต่อย่างหลังต้องมีใบสั่งยาที่คุณหมอเป็นผู้ออกให้
  6. สำคัญมากว่าต้องพยายามลุกเดินทันทีที่ทำได้ ช้าๆ ก็ได้ไม่เป็นไร เพราะการเดินไปมาช่วยให้เลือดไม่คั่งตามขา เพราะจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แถมการเดินไปมาช้าๆ บ้าง ยังดีต่อการฟื้นตัวของคุณด้วย [21]
    • ถึงจะแนะนำให้ลุกเดินไปมาช้าๆ ให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่ไหว แต่ขอให้กลับไปทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะๆ หลังดูดไขมัน 1 เดือนขึ้นไป [22]
  7. แผลดูดไขมันของคุณอาจจะมีการเย็บปิด ก็ต้องดูแลแผลผ่าตัดนี้ให้ดี ปิดแผลไว้แล้วดูแลตามคุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด ว่าต้องทำแผลยังไงและบ่อยแค่ไหน
  8. บางทีคุณหมอก็ใช้ไหมละลาย ที่จะหายไปเอง ไม่ต้องไปตัด แต่ถ้าเป็นไหมธรรมดา ก็ต้องไปตัดไหมที่โรงพยาบาล ส่วนจะตัดไหมได้เมื่อไหร่ก็แล้วแต่คุณหมอวินิจฉัย [25]
    • คุณหมอจะบอกเองว่าเย็บแผลด้วยไหมชนิดไหน ตอนอธิบายขั้นตอนการพักฟื้นก่อนดูดไขมันจริง
    • ถ้าคุณหมอใช้ไหมละลาย ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องตัดไหม เพราะจะละลายหายไปเอง [26]
  9. การดูดไขมันก็เหมือนการผ่าตัดทั่วไป คือไม่ได้ปลอดภัย 100% ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพราะงั้นหลังดูดไขมันให้คอยสังเกตร่างกายตัวเอง ว่ามีอาการแทรกซ้อนต่างๆ หรือไม่ เช่น อาการติดเชื้อ ถ้ารู้แต่เนิ่นๆ จะได้รักษาทันก่อนลุกลามร้ายแรง เพราะอาจถึงแก่ชีวิตได้เลย ต่อไปนี้คืออาการที่เป็นเมื่อไหร่ให้ไปหาหมอทันที [27]
    • บวม ช้ำ หรือแดงมากกว่าเดิม
    • ปวดมากขึ้น หรือปวดรุนแรง
    • ปวดหัว เป็นผื่น คลื่นไส้ หรืออาเจียน
    • เป็นไข้ (สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส หรือประมาณ 100 องศาฟาเรนไฮต์)
    • มีหนองสีเหลืองหรือเขียวไหลจากแผลผ่าตัด หรือมีกลิ่นเหม็นเน่า
    • เลือดไหลไม่หยุด หรือไหลเยอะผิดปกติ
    • ชา ขาดความรู้สึก หรือขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้
  10. หลังดูดไขมัน ตอนแรกตัวจะยังบวมอยู่ ยังไม่เห็นผลในทันที บางทีก็ใช้เวลา 2 - 3 อาทิตย์ กว่าไขมันที่เหลือจะเข้าที่ ระหว่างนี้รูปร่างอาจผิดรูปหรือดูแปลกไปบ้าง ก็ไม่ต้องกังวล กว่าจะเห็นผลของการดูดไขมัน ก็ต้องรอ 6 เดือน [28]
    • การดูดไขมันไม่ได้เห็นผลถาวร โดยเฉพาะถ้าน้ำหนักตัวคุณเพิ่มขึ้นในภายหลัง
    • บางทีการดูดไขมันก็ช่วยกระชับสัดส่วนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็ต้องเตรียมใจรับข้อนี้ด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

คงน้ำหนักตัวหลังดูดไขมัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การดูดไขมันเป็นการกำจัดเซลล์ไขมันถาวรก็จริง แต่ถ้าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นในภายหลัง อาจไม่เห็นผลเท่าที่ควร หรือไขมันกลับไปตามจุดที่เคยดูดไขมันได้ เพราะงั้นต้องคอยควบคุมน้ำหนัก เพื่อให้ดูดไขมันแล้วผลเป็นไปตามต้องการ
    • พยายามอย่าให้น้ำหนักขึ้นลงรวดเร็ว ถ้าเพิ่มหรือลดแค่ไม่กี่กิโลกรัมก็อาจไม่ส่งผลอะไรมากมาย แต่ถ้าน้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากๆ ก็กระทบแน่นอน
    • หมั่นออกกำลังกายและกินอาหารดีมีประโยชน์ ก็ช่วยควบคุมน้ำหนักได้
  2. การกินอาหารมีประโยชน์ ครบหมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้น้ำหนักคงที่ได้ อาหารที่ดีต่อสุขภาพโดยรวมก็เช่น อาหารที่มีไขมันดี คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และคุณค่าทางอาหารสูง
  3. ถ้าพยายามจะลดน้ำหนัก วิธีที่เห็นผลเร็วที่สุดคืองดอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารไม่มีประโยชน์ทั้งหลาย เพราะส่วนใหญ่ไขมันและแคลอรี่สูง เวลาช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตก็อย่าโฉบไปแถวขนมขบเคี้ยวต่างๆ [41] ถ้ายังกินมันฝรั่งทอด พิซซ่า เบอร์เกอร์ เค้ก ไอศครีม หรือชานมไข่มุก ก็แน่นอนว่าคงคุมน้ำหนักได้ยาก
    • งดอาหารแป้งๆ คาร์โบไฮเดรตขัดสี ขนมปังขาว ข้าวขาว แครกเกอร์ พาสต้า ซีเรียล และขนมอบทั้งหลาย ถ้าหลีกเลี่ยงอาหารพวกนี้ได้ จะช่วยให้น้ำหนักไม่เกินเกณฑ์แน่นอน
    • ระวังน้ำตาลแฝงในอาหารต่างๆ เพราะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเช่นกัน
  4. ให้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หนักปานกลาง และแรงกระแทกน้อยๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดน้ำหนักได้ แต่แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนเริ่มออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกายภายใต้การดูแลควบคุมของเทรนเนอร์ส่วนตัว ที่มีประสบการณ์และมีใบอนุญาตได้ยิ่งดี
    • ให้ออกกำลังกายหนักปานกลาง 30 นาทีขึ้นไปทุกวัน หรือแทบทุกวัน [42]
    • ถ้าเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย หรืออยากออกกำลังกายแบบแรงกระแทกน้อย ให้เดินหรือว่ายน้ำ จะปลอดภัยที่สุด [43]
    • จะออกกำลังกายคาร์ดิโอแบบไหนก็ได้ เพราะช่วยลดน้ำหนักได้ทั้งนั้น นอกจากการเดินและว่ายน้ำแล้ว อาจจะวิ่ง พายเรือ ปั่นจักรยาน หรือเล่นเครื่องเดินวงรี (elliptical) ก็ได้ [44]
  5. นอกจากการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแล้ว การออกกำลังกายแบบ strength training หรือฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย ก็ช่วยควบคุมน้ำหนัก ทำให้ดูดไขมันเห็นผลยิ่งขึ้น [45]
    • ก่อนจะเริ่มออกกำลังกายแบบ strength training ให้ปรึกษาคุณหมอก่อน รวมถึงเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวางแผนการออกกำลังกายให้ตรงตามจุดประสงค์และความสามารถของคุณ
    • ลองเล่นโยคะหรือพิลาทิสดู เดี๋ยวนี้มีทั้งคลาสตามฟิตเนสและคลิปออนไลน์ พวกนี้เป็นกิจกรรมแบบแรงกระแทกน้อย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ในขณะที่ควบคุมน้ำหนักไปด้วยในเวลาเดียวกัน [46]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าอยากพักฟื้นให้เห็นผลดีและฟื้นตัวเร็วที่สุด ต้องทำตามคำแนะนำของคุณหมอ เรื่องการปฏิบัติตัวหลังดูดไขมันอย่างเคร่งครัด
โฆษณา

คำเตือน

  • การดูดไขมันก็เหมือนการผ่าตัดทั่วไป คือมีความเสี่ยงแน่นอน ไม่ได้ปลอดภัย 100% ต้องรับรู้และเข้าใจก่อนเข้ารับการดูดไขมันจริงๆ
โฆษณา
  1. http://sleepfoundation.org/sleep-tools-tips/healthy-sleep-tips
  2. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  3. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  4. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  5. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  6. http://www.mayoclinic.org/tests-procedures/liposuction/basics/what-you-can-expect/prc-20012579
  7. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16042931
  8. https://medlineplus.gov/ency/article/002985.htm
  9. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  10. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  11. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  12. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  13. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002985.htm
  14. http://www.med.umich.edu/1libr/Surgery/PlasticSurgery/Cosmetic/Liposuction-postop.pdf
  15. http://www.med.umich.edu/1libr/Surgery/PlasticSurgery/Cosmetic/Liposuction-postop.pdf
  16. http://www.nhs.uk/chq/Pages/2413.aspx
  17. http://www.nhs.uk/chq/Pages/2413.aspx
  18. http://www.med.umich.edu/1libr/Surgery/PlasticSurgery/Cosmetic/Liposuction-postop.pdf
  19. http://www.med.umich.edu/1libr/Surgery/PlasticSurgery/Cosmetic/Liposuction-postop.pdf
  20. http://www.eatright.org/resource/food/nutrition/dietary-guidelines-and-myplate/healthy-eating-for-women
  21. http://www.choosemyplate.gov/food-groups/
  22. http://www.choosemyplate.gov/food-groups/fruits.html
  23. http://www.choosemyplate.gov/food-groups/vegetables.html
  24. http://familydoctor.org/familydoctor/en/seniors/staying-healthy/good-health-habits-at-age-60-and-beyond.html
  25. http://www.choosemyplate.gov/food-groups/grains.html
  26. https://www.helpguide.org/articles/alzheimers-dementia-aging/staying-healthy-as-you-age.htm
  27. http://www.choosemyplate.gov/food-groups/protein-foods.html
  28. https://www.helpguide.org/articles/alzheimers-dementia-aging/staying-healthy-as-you-age.htm
  29. http://www.choosemyplate.gov/food-groups/dairy.html
  30. http://www.choosemyplate.gov/food-groups/dairy.html
  31. https://www.helpguide.org/articles/alzheimers-dementia-aging/staying-healthy-as-you-age.htm
  32. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/basics/healthy-menus-and-shopping-strategies/hlv-20049477
  33. http://orthoinfo.aaos.org/topic.cfm?topic=a00531
  34. http://orthoinfo.aaos.org/topic.cfm?topic=a00531
  35. http://orthoinfo.aaos.org/topic.cfm?topic=a00531
  36. http://orthoinfo.aaos.org/topic.cfm?topic=a00531
  37. http://orthoinfo.aaos.org/topic.cfm?topic=a00531

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,169 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา