ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การเป็นคนตลกอาจเป็นเรื่องยาก แต่การเป็นคนมีไหวพริบในการพูดนั้นท้าทายยิ่งกว่า การจะเป็นคนมีไหวพริบในการพูดได้นั้น คุณต้องเฉียบแหลม ปราดเปรื่อง และเฉลียวฉลาด อารมณ์ขันที่เต็มไปด้วยไหวพริบของคุณควรจะทำให้คนหัวเราะหรือยิ้มเยาะกับตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนมีไหวพริบในการพูดอยู่แล้วและอยากจะลับคมสักหน่อย หรือถ้าคุณอยากจะเรียนรู้วิธีที่จะพัฒนาอารมณ์ขันที่เต็มไปด้วยไหวพริบ แค่ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้ แล้วคุณจะพบหนทางของตัวเอง

  1. วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะพัฒนาไหวพริบของคุณก็คือ การเรียนรู้จากคนที่มีอารมณ์ขันอันน่าชื่นชม ตัวอย่างมีให้เห็นมากมายตั้งแต่ในภาพยนตร์ไปจนถึงเพื่อนสนิทที่เป็นคนตลกสุดๆ ของคุณด้วย วิธีเรียนรู้ไหวพริบในการพูดจากคนอื่นก็คือ:
    • ใช้เวลากับคนที่คุณรู้สึกว่ามีไหวพริบในการพูดให้มากขึ้น ไม่ว่าเขาจะเป็นญาติ เพื่อนสนิท หรือคนรู้จักที่คุณอยากเข้าไปทำความรู้จักให้มากขึ้น จำไว้ว่าเขาพูดอะไรเวลาที่คนอื่นหัวเราะ ศึกษาสีหน้า วิธีการพูด และจังหวะการพูดของเขา
    • อ่านงานเขียนของคนที่มีไหวพริบในการพูด เช่น งานของเขียนของอาจารย์จตุพล ชมภูนิช ภูมิชาย บุญสินสุข หรือแม้กระทั่งการ์ตูนอย่าง Garfield หรือ Dilbert คุณสามารถเรียนรู้จากคน (หรือสัตว์) ที่มีไหวพริบในการพูดจากทุกรุ่นได้มากเลยทีเดียว
    • ดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ที่มีตัวละครที่มีไหวพริบในการพูด ภาพยนตร์ของ Woody Allen จะมีตัวเอกที่มีไหวพริบในการพูดอยู่เสมอ
  2. ก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างความประทับใจให้คนอื่นด้วยไหวพริบของคุณ คุณต้องทำให้คนอื่นรู้สึกถึงความมั่นใจของคุณก่อน เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าคุณสบายใจในความเป็นตัวเองและมุกตลกที่คุณเล่า ถ้าคุณมั่นใจ คนอื่นก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อมั่นในความสามารถของคุณ รวมไปถึงความสามารถในการมัดใจผู้คนด้วยไหวพริบของคุณด้วย วิธีการก็คือ:
    • มีภาษากายที่ดีเวลาที่คุณเล่ามุกตลก คุณไม่ต้องทำเหมือนกับว่าตัวเองกำลังแสดงโชว์ต่อหน้าผู้ชมมากมาย แค่ยืนตัวตรง พูดเสียงดังฟังชัด และสบตาเวลาที่คุณยิงมุกตลกก็ช่วยคุณได้มากแล้ว
    • มั่นใจในตัวเอง ถ้าคุณรักในสิ่งที่คุณเป็นและสิ่งที่คุณทำ คนก็จะมีแนวโน้มที่จะชื่นชมคุณและอารมณ์ขันของคุณด้วย
    • แสดงความมั่นใจในมุกตลกของคุณ. ยิงมุกตลกอย่างชัดเจนและแสดงให้คนอื่นเห็นว่า คุณคิดว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นตลก ถ้าคุณแสดงความเชื่อที่ว่าอารมณ์ขันของคุณนั้นตลกจริงๆ คนก็มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วย นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณควรหัวเราะกับมุกตลกของตัวเอง แต่คุณควรเล่นมุกในลักษณะที่ทำให้คนอื่นเห็นว่า คุณไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นคนตลก
  3. ส่วนหนึ่งของการเป็นคนมีไหวพริบในการพูดก็คือ ความสามารถในการคิดนอกกรอบและวิธีการมองโลกที่ต่างไปจากคนอื่น การเป็นคนมองอะไรลึกซึ้งและฉลาดเฉลียวจะทำให้คุณมีโอกาสเห็นโลกด้วยสายตาของตัวเอง วิธีการคิดอะไรใหม่ๆ ก็คือ:
    • อ่านหนังสือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งคุณรู้จักโลกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการมองสิ่งต่างๆ รอบตัวได้อย่างไร้อคติและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
    • อย่ากลัวที่จะเล่นมุกแป็ก ความรู้สึกเป็นอิสระและเปิดเผยในการแสดงอารมณ์ขันจะทำให้คนอื่นหัวเราะ เช่น ถ้าแฟนสาวของคุณบ่นว่าเหนื่อยจัง ให้ถามว่า "เพราะมัวแต่มาวิ่งเล่นในหัวใจเค้าใช่มั้ยล่ะ"
    • คิดคำขึ้นมาใหม่ เช่น ถ้าคุณกับเพื่อนๆ นินทาผู้หญิงที่ชื่อติ๊ดตี่ตลอดเวลาและคุณก็เริ่มจะเบื่อฟังเรื่องของเธอแล้ว คุณอาจจะพูดว่า "เพื่อนๆ คะ ที่นี่ไม่ใช่ห้องน้ำค่ะ เลิกพูดเรื่องนังติ๊ดตี่ฉี่ไม่ราดได้แล้ว!" ถึงเพื่อนๆ จะกลอกตาให้ แต่พวกเขาจะประทับใจในการสร้างคำใหม่ของคุณ
    • ใช้คำพูดเดิมมาสร้างประโยคใหม่ เช่น ถ้าคุณเดินออกมาจากห้องน้ำสาธารณะแล้วมีเพศตรงข้ามเดินเข้ามาพร้อมกับถามว่า "ห้องน้ำนี่แยกหญิงชายไหมครับ" คุณอาจจะตอบว่า "แยกค่ะ หญิงชายทอมดี้เก้งกวางกะเทยแยกหมดค่ะ คุณเป็นเพศไหนล่ะคะจะได้ชี้ทางถูก"
      • เช่น คำถามอย่าง “คุณจะใช้เงิน 1 ล้านบาทอย่างไร” นั้นเป็นคำถามที่ชวนให้ตอบอย่างสร้างสรรค์ แต่ให้คุณตอบไปว่า “อย่างมีความสุข” เพื่อล้มคำตอบที่คนถามอยากได้และให้เกิดความตลกขบขัน
  4. การเข้าใจคนฟังคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ถึงแม้ว่าคุณควรจะต้องฝึกฝีมือเพื่อพัฒนาอารมณ์ขันในแบบของตัวเอง แต่คุณก็ควรรู้เสมอว่าคนรอบตัวคุณเป็นคนแบบไหน มีอะไรที่จะทำให้พวกเขารู้สึกตลกหรือไม่พอใจเป็นพิเศษหรือเปล่า วิธีการก็คือ:
    • อย่าลืมฟัง การฟังคนรอบข้างจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าอะไรที่พวกเขาคิดว่าตลก อะไรจะทำให้พวกเขาไม่พอใจอย่างมากเนื่องจากว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หรือเลือกคำวิจารณ์ที่คุณสามารถนำมาเล่าใหม่ทีหลังในรูปแบบของมุกตลกได้
    • เป็นคนละเอียดอ่อน เช่น ถ้าคนรอบตัวคุณอ่อนไหวเรื่องศาสนาเป็นพิเศษ พยายามอย่าเล่นมุกเกี่ยวกับศาสนา เพราะนอกจากพวกเขาจะไม่ขำมุกของคุณแล้ว พวกเขาอาจจะไม่อยากคบค้าสมาคมกับคุณอีกเลยก็ได้
    • ปรับมุกให้เข้ากับคนฟัง เล่นมุกลามกๆ กับพวกหนุ่มสาวสมัยใหม่ และเล่นมุกที่ปลอดภัยหรือฝืดกว่าเวลาที่อยู่กับคนรุ่นปู่ยาตายาย ยกเว้นว่าพวกเขาจะขำได้ทุกเรื่องจริงๆ
    • รู้ว่าเมื่อไหร่คนฟังไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะหัวเราะ แม้ว่าไหวพริบจะดูเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในทุกสถานการณ์ แต่ถ้าคนรอบข้างคุณเขากำลังอารมณ์เสียมากหรือป่วยอยู่ การเล่นมุกอาจทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น หรืออาจทำให้เขาไม่พอใจคุณก็ได้ เพราะฉะนั้นค่อยๆ หยั่งเชิงดูก่อน
  5. แม้แต่มุกที่ขำที่สุดก็ยังฝืดได้ถ้าคุณไม่รู้จักยิงมุกให้ถูกจังหวะ คุณสามารถฝึกยิงมุกหน้ากระจกหรือแม้แต่อัดเทปเอาไว้ก่อนจะไปยิงมุกต่อหน้าคนเป็นๆ ได้ แต่ถึงคุณจะคิดมุกสดขึ้นมาเดี๋ยวนั้น คุณก็สามารถยิงมุกให้คนหัวเราะฮาครืนได้ด้วยเคล็ดลับต่อไปนี้:
    • พูดชัดถ้อยชัดคำ ยิงมุกให้เสียงดังฟังชัดและมั่นใจ ถ้าคุณพึมพำกับมุกตลก คนอื่นอาจจะขอให้คุณพูดใหม่ ซึ่งก็จะไม่ตลกแล้ว
    • จำไว้ว่าการยิงมุกให้ถูกจังหวะนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนหนึ่งของการมีไหวพริบในการพูดก็คือการเป็นคนเฉียบแหลมและว่องไว เพราะฉะนั้นอย่าคิดนานเกินไป ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะไม่เข้าใจว่ามุกตลกของคุณนั้นมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่กำลังพูดกันอยู่ในตอนนี้
    • ลองเล่นมุกตลกหน้าตาย ถ้าคุณมั่นใจจริงๆ ให้ยิงมุกแบบหน้าตายและรอให้คนอื่นขำ คุณไม่ควรยิงมุกในแบบที่ทำให้คนอื่นเห็นว่าคุณคิดว่าคุณกำลังพูดอะไรตลกๆ อยู่ ส่วนหนึ่งของการมีไหวพริบในการพูดก็คือการสร้างภาพลักษณ์ว่า "ฉันไม่แคร์ว่าคนอื่นจะขำไหม" ขึ้นมา
    • อย่าพูดทับคนอื่น เรื่องนี้อาจจะดูเป็นเรื่องที่ไม่ต้องเตือน แต่มุกตลกที่ฮาสุดๆ หลายมุกนั้นกลับกลายเป็นไม่ตลกก็เพราะว่าคนเล่นดันยิงมุกขณะที่คนอื่นกำลังพูดอยู่ รอจนกว่าจะถึงช่วงที่คนเงียบแล้วค่อยยิงมุกสอดขึ้นมา
  6. การทำตามขั้นตอนหลายขั้นตอนเพื่อให้คุณมีไหวพริบในการพูดมากขึ้นจะช่วยให้คุณเป็นคนตลกมากขึ้น แต่คุณก็ไม่ควรพยายามเล่นมุกเพื่อให้คนอื่นขำมากเกินไป ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะรู้สึกสมเพชคุณมากกว่าที่จะมองว่าคุณเป็นคนตลก วิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองพยายามมากเกินไปก็คือ:
    • ทำตัวสบายๆ แม้ว่าคุณจะกำลังเล่นมุกใหม่เอี่ยม ก็ให้ทำตัวสบายๆ ทำใจให้สงบขณะเล่นมุก และอย่าขึ้นเสียงสูงจนไม่เป็นธรรมชาติหรือมองไปรอบๆ เพื่อเช็กปฏิกิริยาของผู้ฟัง
    • อย่าเล่นมุกถี่เกินไปในครั้งเดียว การเป็นคนตลกในจังหวะที่เหมาะสมวันละ 2-3 ครั้งนั้นสร้างความประทับใจได้มากกว่าการเล่นมุกทุก 5 นาทีแต่แป็กไป 9 มุกจาก 10 มุก
    • อย่าใส่ใจถ้ามุกดันแป็ก ถ้าไม่มีใครขำมุกของคุณ แค่ส่ายหัวแล้วพูดว่า "เดี๋ยวครั้งหน้าเล่นใหม่นะ" หรือ "ตายละ สงสัยเล่นผิดคน" ถ้าคุณดูไม่พอใจ เจ็บปวด หรือไม่พูดไม่จาตลอดทั้งคืนอย่างเห็นได้ชัด คนอื่นจะคิดว่าคุณใส่ใจว่าคนอื่นจะขำหรือไม่ขำมากเกินไป
    • เว้นช่วงบ้าง ถ้าคุณเล่นมุกมา 2-3 มุกแล้ว ต่อจากนั้นทั้งคืนก็ให้พักจากการเล่นมุกและศึกษามุกตลกของคนรอบข้าง ถ้าคุณมัวแต่สนใจที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนตลก คุณอาจจะพลาดสิ่งสำคัญที่อาจช่วยให้คุณดูตลกในวันข้างหน้าก็ได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การเป็นคนมีไหวพริบในการพูดก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบพูดเสียดสีตลอดเวลาอยู่แล้ว คุณอาจจะต้องลดระดับการเสียดสีลงหน่อย ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะไม่จริงจังกับคำพูดของคุณมากนัก
  • การเล่นมุกซ้ำจะทำให้มุกแป็กสนิท อย่าพยายามเล่นมุกซ้ำซากด้วยการเอาแต่พูดว่า “เธอว่างั้นนะ!”
  • จำไว้ว่า คุณอาจจะพลาดหรือเล่นมุกฝืดไปบ้างเป็นครั้งคราว แต่คนก็ยังมองว่าคุณเป็นคนมีไหวพริบในการพูดอยู่ดี แม้แต่นักแสดงตลกที่ตลกที่สุดก็ยังไม่สามารถทำให้คนขำทุกมุกได้
  • การศึกษาคนที่ตลกและมีเสน่ห์ในการพูดในตอนแรกๆ นั้นถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เช่น โน้ต อุดม แต้พานิช หนุ่ม เมืองจันทร์ และ Ellen DeGeneres ถ้าเป็นนักแสดงตลกจากฝั่งอังกฤษก็จะเป็นแนวตลกเชิงเสียดสี
  • นึกว่าตัวเองเป็นตัวละครตัวใดตัวหนึ่งและรู้ว่าตัวเองมีอารมณ์ขันเหมือนกับตัวละครนั้น
  • อย่าคิดเยอะเกินไป ถ้าคุณนึกอะไรตลกๆ ที่เกี่ยวกับสถานการณ์นั้นขึ้นมาได้ ยิงมุกโลด! อย่าพยายามเชื่อมโยงกับอย่างอื่น แต่ให้รอหัวข้อถัดไปแทน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,178 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา