ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การดื่มน้ำมากๆ นั้น เป็นวิธีการที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยน้ำจะช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ลดความอยากอาหาร และช่วยลดปริมาณน้ำที่คั่งค้างในร่างกาย การที่จะดื่มให้ครบ 8-10 แก้วนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่นี่คือวิธีที่ดีที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ดื่มน้ำให้มากขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การดื่มน้ำเรื่อยๆ ตลอดวัน จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มโดยไม่ต้งรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น นม ชานม น้ำผลไม้ หรือขนมขบเคี้ยวที่จะทำให้คุณน้ำหนักขึ้นเลย และอาจจะทพให้คุณรับประทานขนมคบเคี้ยวได้น้อยลงกว่าปกติ เพราะร่างกายรับรู้ถึงความอิ่มได้ดีขึ้น การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานหรือแคลอรี่น้อย ก็จะยิ่งทำให้คุณลดน้ำหนักได้เร็วยิ่งขึ้น [1]
    • หากคุณรู้สึกไม่ชอบที่จะดื่มน้ำเปล่า ลองเริ่มจากการดื่มน้ำที่มีรสชาติแต่ไม่ให้พลังงานก่อน
    • หากต้องการทราบว่า ทำอย่างไรคุณจึงจะอยากดื่มน้ำมากขึ้น ลองเข้าไปดูวิธีทำให้ตัวเองรักการดื่มน้ำดู
    • ตั้งนาฬิกาปลุกเตือนไว้ว่าคุณจะต้องดื่มน้ำเรื่อยๆ ตลอดวัน เพื่อไม่ให้ลืมที่จะดื่มน้ำ และยังช่วยสร้างนิสัยให้ดื่มน้ำอย่างเป็นประจำ
    • วางน้ำไว้ใกล้ๆ ตัว เช่น วางขวดน้ำไว้ในบริเวณที่สามารถหยิบมาดื่มได้ง่าย โดยเลือกซื้อกระบอกน้ำพกพาที่สามารถใช้ได้ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน หรือขณะวิ่งออกกำลังกาย
  2. จะทำให้รู้สึกอิ่มและช่วยให้รับประทานอาหารได้น้อยลง พลังงานแคลอรี่ที่ได้รับก็จะดลดลง ทำให้น้ำหนักลดลง [2]
    • อย่าลืมนึกถึงปริมาณและแคลอรี่ของอาหารที่รับประทานเข้าไปด้วย เพราะน้ำไม่สามารถย่อยสลายอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือมีโทษต่อสุขภาพได้.
      ดื่มน้ำ1 แก้วเต็มๆ ก่อน ระหว่าง และหลังมื้ออาหาร จะช่วยย่อยอาหารและทำให้น้ำหนักลดได้เร็วขึ้น เพราะน้ำจะช่วยย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร
  3. แทนที่คุณจะดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำผลไม้สมูทตี้ หรือเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูงอื่นๆ ให้เปลี่ยนเป็นหยิบน้ำเปล่า 1 ขวดขึ้นมาดื่มแทน หรืออาจจะเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ ไม่ให้พลังงาน (0 แคลอรี) แทน ก็จะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่จะได้รับต่อวันได้หลายร้อยแคลอรี่เลยทีเดียว [3]
  4. ดื่มน้ำเปล่าให้เท่าๆ กับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. การดื่มทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ก็สามารทำให้ได้ปริมาณน้ำที่ได้รับต่อวันเพิ่มขึ้น
  5. ดื่มน้ำ และลดการบริโภคเกลือ เพื่อลดปริมาณน้ำในร่างกาย. ควบคู่กับการดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นในแต่ละวัน [4]
    • รับประทานอาหารรสชาติอื่นๆ และรสเผ็ดแทนรสเค็ม โดยอาจใส่สมุนไพรสดหรือกระเทียมก็สามารถใส่เพิ่มเพื่อเพิ่มรสชาติอาหารได้ โดยไม่ได้ส่งผลเสียใดๆ ต่อสุขภาพ
    • เลือกวัตถุดิบหรืออาหารที่ฉลากเขียนว่า โซเดียมต่ำ เพื่อลดการบริโภคเกลือที่ไม่จำเป็น
    • โซเดียมที่อยู่ในอาหารมีอยู่มากแค่ไหนนั้นตรวจสอบได้ยาก เพราฉะนั้นจึงควรสังเกตจากฉลากข้อมูลโภชนาการ โดยอาหารจำนวนผักแปรรูปในกระป๋องและผักที่ผ่านการแช่แข็ง มักมีระดับโซเดียมสูง ซึ่งร้านอาหารจำนวนมากมักนำมาประกอบอาหาร
      ปัจจุบันร้านอาหารจำนวนมาก ให้ข้อมูลทางโภชนาการของอาหารไว้ในสื่อออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปเช็คได้ก่อนเลือกสั่งอาหาร
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ดื่มน้ำดีทอกซ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองดื่มน้ำดีท็อกซ์บ้างเช่นน้ำหมักกับผักผลไม้. โดยหาซื้อผัก ผลไม้ มาไว้หมักกับน้ำ เช่น แตงกวา เมลอน สตรอเบอร์รี่ ใบมินท์ หรือผลไม้เปรี้ยวอื่น ๆ จำพวก แอปเปิล และสัปปะรด [5]
    • หาซื้อโหลแก้วที่มีฝาปิดหรือมีหลอดในตัว (เมสันจาร์) โดยคุณสามารถผสมไว้ครั้งหนึ่งแล้วเก็บแช่ช่องแข็งไว้ในตู้เย็น [6]
    • โดยผักผลไม้ที่จะเอามาผสมกับน้ำนั้น ต้องเลือกให้สดเท่าที่จะสดได้ ถ้าผลไม้เริ่มสุกงอมก็ให้คัดออก
  2. ให้ลองคำนวณดูว่าคุณจะดื่มน้ำดีท็อกซ์นี้ไปนานแค่ไหน. โดยการดื่มที่มากเกินไปก็กลายเป็นส่งผลเสียได้
    ลองปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพของคุณก่อน ว่าพร้อมที่จะลดน้ำหนักหรือไม่
    ถ้าร่างกายยังได้รับสารอาหารจำพวกใบอาหาร โปรตีนไม่พอ ควรลดน้ำหนักติดต่อกันได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์
    • ถ้าหากคุณมีข้อจำกัดในการลดน้ำหนัก วิธีนี้อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีในการลดน้ำหนัก
    • ถ้าหากคุณรู้สึกว่าเหนื่อยหรือวิงเวียนศีรษะมากกว่าปกติ ให้หยุดลดน้ำหนักแล้วกลับไปรับประทานอาหารแบบปกติ เพราะสุขภาพสำคัญกว่าการต้องลดน้ำหนักอย่างรีบเร่ง
  3. นำผลไม้ที่หั่นหรือฝานไว้แช่ในน้ำแล้วไปแช่ในตู้เย็นเพียงไม่กี่ชั่วโมง. คุณก็จะได้น้ำแสนอร่อยไว้ดื่มแล้ว
    ผักผลไม้ที่คุณซื้อมาอาจจะเน่าเสียได้ถ้าผ่านไป3วัน โดยนำมาใช้ไม่หมด
    คุณอาจเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ผสมเป็นรสชาติอื่นๆ ได้ตามใจชอบ ซึ่งสามารถเลือกได้จากที่นี่ [7]
    • น้ำแสนอร่อยของคุณจะดื่มแทนน้ำนั้น ต้องไม่เติมน้ำตาล แม้คุณจะอยากเติมสักแค่ไหน หรืออาจจะลองเติมผงอบเชย หรือ ผงจันทน์เทศให้ได้รสชาติแปลกใหม่ก็ได้ โดยย้ำว่าต้องไม่เติมวัตถุดิบที่ทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้ เช่น โซเดียม หรือวัตถุดิบที่เพิ่มแคลอรี่
    • ปอกเปลือกผลไม้ทุกอย่างก่อนนำมาทำ เพื่อไม่ให้มีรสชาติขมไม่ชวนรับประทาน
    • วิธีเก็บรักษาที่ดีที่สุดคือเก็บไว้ในตู้เย็น แต่อาจจะเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้ไม่เกิน 1 วัน
  4. ไม่ใช่นั่งดื่มทีเดียว 2 ลิตร แต่ทยอยดื่มเรื่อยๆ 9-10 ครั้ง ต่อวัน เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ถ้าเป็นไปได้ให้ดื่มมากกว่า 2 ลิตร เพราะ 2 ลิตรคือปริมาณที่แนะนำขั้นต่ำที่สุด
    • เวลาที่ว่างจากงาน เป็นเวลาที่น่าจะดีที่สุด ที่คุณจะโฟกัสกับการดื่มน้ำได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณยังทำไม่ได้ลองใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นช่วงที่คุณอยู่บ้านในการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
    • การที่คุณดื่มน้ำมากๆ ก็อาจจะทำให้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ทางที่ดีคืออยู่ใกล้ๆ ห้องน้ำไว้ จะได้ไม่ต้องสู้รบเพื่อแย่งห้องน้ำกับคนรอบข้างของคุณ
  5. เช่น ผักผลไม้จำพวก แตงโม สตรอเบอร์รี่ แตงกวา พีช มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ สัปปะรด มะเขือยาว หรือ บล็อคโคลี่ ถ้าจะต้องรับประทานเนื้อสัตว์ให้เลือกเนื้อสัตว์ที่ไขมันน้อย เช่น ไก่ ไก่งวง แทนเนื้อวัวหรือหมู [8]
    • ลดปริมาณแคลอรี่ที่จะได้รับต่อวัน ด้วยการดื่มน้ำ 500 มิลลิลิตรก่อนมื้ออาหารทุกมื้อ โดยควบคุมให้ได้แคลอรี่ตามปริมาณแคลอรี่ที่ต้องการต่อวัน (1200 สำหรับผู้หญิง และ 1500 สำหรับผู้ชาย) ซึ่งจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วและยั่งยืนนานถึง 1 ปี
  6. แม้วิธีนี้จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็ว แต่ถ้ายังมีวิถีชีวิตที่ไม่ส่งเสริมให้สุขภาพดี น้ำหนักก็จะกลับมาเหมือนเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

การอดอาหารโดยการดื่มแต่น้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าอดอาหารเพียงไม่กี่วันอาจจะเป็นเรื่องดี ถ้าคุณคิดว่าไม่น่าทำแบบนี้ได้นาน ลองทดสอบด้วยการอดสัก 24 ชั่วโมง ถ้าหลังจากนั้นรู้สึกว่าไม่ได้ทรมาน ก็ลองทำต่อไป [9]
    • พึงระลึกไว้ว่าวิธีที่จะลดน้ำหนักได้รวดเร็วนั้น จะช่วยได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าคุณไม่สามารถอดไปได้ตลอด ทางที่ดีควรหยุด และกลับมารับประทานอาหารตามปกติ.
    • ถ้าอยากจะอดอาหาร ให้อดได้เพียงแค่ชั่วคราว แล้วถ้าอยากทำอีกให้เว้นไปประมาณ2-3 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน
  2. ถ้าคุณมีข้อจำกัดในการลดน้ำหนักหรือสุขภาพไม่พร้อม เพราะอาจเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพแทน ให้ลองหาวิธีลดน้ำหนักอื่นแทนการอดอาหาร [10]
    • ถ้าคุณไม่สามารถอดอาหารอย่างจริงจังได้ ให้ลองเปลี่ยนเป็นดื่มน้ำแทนมื้ออาหารสัก 1-2 มื้อ และอาหารเย็นที่มีแคลอรี่ต่ำ ซึ่งจะทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว
    • อย่าใช้วิธีการอดอาหารแล้วดื่มน้ำอย่างเดียว ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวาน, กำลังตั้งครรภ์, หรือต้องให้นมบุตร
      ซึ่งต้องระวังเพราะอาจจะทำให้ขาดโปรตีนและใยอาหาร จากนั้นก็จะไม่มีแรงและการขับถ่ายไม่ดี ต้องพิจารณาให้ดีก่อนอดอาหาร [11]
  3. รับประทานอาหารมื้อเบาๆ เพื่อเตรียมร่างกายก่อนการอดอาหาร. ดื่มน้ำให้มาก รับประทานผักผลไม้ให้มาก รับประทานเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อล้วนไม่ติดมัน และข้าวไม่ขัดสี [12]
    • ไม่เติมเกลือเพิ่มในอาหาร เพื่อไม่ให้ร่างกายเก็บน้ำไว้ ทำให้ช่วยลดน้ำหนักได้
  4. คุณอาจจะคิดว่าการลดน้ำหนักร่วมกับการออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วให้หลีกเลี่ยงเพราะมันเป็นการหักโหมเกินไปสำหรับร่างกาย ทำให้เหนื่อยและร่างกายยิ่งเสียน้ำไปกับเหงื่อมาก
  5. ลองดื่มเฉพาะน้ำเปล่าแทนมื้อเช้า กลางวัน และเย็น ตลอดวันจนกว่าจะรู้สึกหิว โดยให้สังเกตตัวเองว่ารู้สึกหิวบ้างไหม ถ้ารู้สึกว่าเริ่มมึนๆ ศีรษะ ให้จิบชาหรือน้ำโซดาให้รู้สึกดีขึ้น
    • ทำสมาธิสักประมาณ 15 นาที ในช่วงที่อดอาหาร เพ่งไปที่อารมณ์ ทำสมองให้โล่งไม่ต้องคิดอะไร โดยเข้าไปที่ https://th.wikihow.com/ฝึกสมาธิ เพื่อศึกษาวิธีทำสมาธิเพิ่มเติม
    • ดื่มน้ำสมุนไพรหรือเครื่องดื่มอื่นๆ บ้างเพื่อให้แร่ธาตุในร่างกายรักษาสมดุลไว้ได้ แม้การอดอาหารด้วยการดื่มน้ำเปล่าจะต้องไม่ดื่มน้ำที่มีรสหวานและอาหารหนักๆ แต่แนะนำให้ดื่มน้ำลูกพรุนหรือน้ำที่ผสมเกลือเล็กน้อยเพื่อป้องกันภาวะน้ำเกินในร่างกายจนเป็นพิษ
  6. รับประทานอาหารเบาๆ หลังการลดน้ำหนัก.โดยค่อยๆ กลับมารับประทานอาหารเหมือนก่อนลดน้ำหนัก เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ กลับมาทำงานได้ตามปกติ โดยเริ่มจากผักผลไม้ดิบ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ข้าวกล้องและดื่มน้ำให้เพียงพอ
    • เพิ่มน้ำหนักขึ้นสักเล็กน้อยหลังจากการอดอาหารด้วยการดื่มน้ำไป เพื่อให้กล้ามเนื้อที่หายไปกลับมา
      ถึงแม้ว่าการเพิ่มน้ำหนักกลับมาจะทำให้คุณรู้สึกว่าที่พยายามมามันเสียเปล่า แต่ทางที่ดีคุณควรลดน้ำหนักแบบรักษาสุขภาพไปด้วยโดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ เพื่อการลดน้ำหนักที่ถาวร
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ทางเลือกอื่นๆ ในการลดน้ำหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดื่มชาเขียวเพื่อลดน้ำหนัก.โดยดื่มชาเขียวร้อนหรือเย็น แก้วละ 500 มิลลิลิตร 4 แก้ว/วัน ตั้งแต่หลังตื่นนอนและก่อนอาหารทุกมื้อเพราะชาเขียวช่วยต้านอนุมูลอิสระของระบบในร่างกายและช่วยให้อิ่มง่ายขึ้น ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง [13]
    • ดื่มชาแทนขนมขบเคี้ยว.การเพื่มปริมาณน้ำในร่างกายจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดีเพราะเป็นการลดแคลอรี่ที่จะได้รับจากอาหารอื่นๆ
    • ดื่มน้ำเปล่าเรื่อยๆ ตลอดวัน เพราะชาเขียวจะดูดน้ำออกจากร่างกาย เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดน้ำ คุณควรจะดื่มน้ำให้มากพอกับการดื่มชาเขียว
  2. ดื่มน้ำผลไม้.วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้ได้รับประทานผักผลไม้มากขึ้น ลองหาเครื่องปั่นผลไม้ที่สามารถทำสมูตตี้ได้แล้วเลือกดื่มโดยอาจจะดื่มแทนมื้ออาหารหนึ่งมื้อหรือสองมื้อเช่นมื้อกลางวันและมื้อเช้าสัก 1 สัปดาห์
    • ไม่เพียงแต่เน้นรับประทานผลไม้เท่านั้น แต่ต้องไม่ลืมผักด้วย โดยเฉพาะคะน้าและผักโขม หรืออาจจะใส่แอปเปิลลงไปในสมูตตี้ถ้าไม่อยากให้มีแต่น้ำผักอย่างเดียว
    • รับประทานอาหารเย็นเป็นผักดิบและเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพราะช่วงเย็นเป็นช่วงที่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรมากจึงไม่ควรรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพในช่วงเวลานี้
    • ถ้าคุณรู้สึกหิวขึ้นมาให้ดื่มน้ำผลไม้ น้ำเปล่า หรือขนมขบเคี้ยวเช่นอัลมอนด์หรือผลไม้อบแห้งแก้หิว
  3. โดยเน้นรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป ไม่ใส่สารกันบูดหรือสารปรุงแต่ง รับประทานผักสด ผลไม้ และอาหารปลอดสารพิษ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกน้ำตาลเทียมหรือสีผสมอาหาร การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณรับประทานอาหารได้เป็นกลางที่สุด ซึ่งก็จะดีต่อสุขภาพของคุณที่สุดเช่นกัน [14]
    • อ่านฉลากเพื่อดูส่วนผสม ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเพราะอาจเป็นศัพท์เทคนิคที่ค้นหาได้ ไม่มีอันตราย แต่ถ้ารายการส่วนผสมไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ไม่ควรเลือกซื้อมา
    • เลือกซื้ออาหารจากร้านอาหารเพื่อสุขภาพหรืออาหารชีวจิต เพราะเป็นแหล่งที่คุณจะได้ซื้ออาหารที่สด สะอาดจากธรรมชาติมากที่สุด
    • ปลูกผักผลไม้รับประทานเองเพราะไม่มีพืชผักที่ไหนที่จะปลอดสารพิษได้เท่ากับคุณปลูกเอง โดยอาจลองทำสวนผักผลไม้ขึ้นมาเพื่อให้คุณควบคุมสิ่งที่จะเข้าไปในร่างกายได้ว่าไม่เป็นอันตราย
    • ทำอาหารเอง โดยอาจเลือกทำเมนูสลัด ไอศกรีม หรืออาหารให้เด็กๆ ในบ้านรับประทานด้วย จะช่วยให้คุณรู้ว่าสมาชิกในครอบครัวรับประทานอาหารอะไรไปบ้าง
  4. เปลี่ยนวิถีชีวิตให้สุขภาพดี.การออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักให้ได้ถาวร อาจไปพบแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนเพื่อให้ช่วยแนะนำวิธีการหรือข้อควรระวังที่อาจจะเป็นอันตรายได้
    • หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักแบบหักโหมที่ทำได้ชั่วคราว ควรเรียนรู้วิธีเสริมสร้างสุขภาพที่เหมาะสมและทำได้ในกิจวัตรประจำวัน
    • ต้องมีความอดทนในการลดน้ำหนัก เพราะการลดน้ำหนักมากๆในเวลาอันสั้นไม่ได้หมายความว่าวิธีนี้จะลดได้ถาวร ให้หันมาโฟกัสกับการใช้ชีวิตให้สุขภาพดีมากกว่าการที่มีน้ำหนักตัวที่ลดลงได้รวดเร็ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การดื่มน้ำมากๆ เพื่อที่จะลดน้ำหนัก วิธีที่ดีที่สุดคือทำร่วมกับการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะ
  • ในทางกลับกัน คุณสามารถลดน้ำหนักด้วยการเน้นดื่มน้ำโดยไม่ต้องออกกำลังกายหรือปรับเปลี่ยนอาหารได้เลย แม้ว่าการลดน้ำหนักแบบนี้จะทำให้เสี่ยงถ้าได้รับแร่ธาตุและเกลือแร่สู่ร่างกายไม่เพียงพอ แต่ก็ควรทำตามคำแนะนำที่บอกไว้ สำหรับบางคน เดี๋ยวก็จะเห็นผลว่าน้ำหนักก็จะลดลงได้อย่างชัดเจน
  • มีงานวิจัยกล่าวไว้ว่าการดื่มน้ำให้มากขึ้นในแต่ละวันจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างชัดเจนโดยคุณอาจจะลองดื่มน้ำให้เท่าหรือมากกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวันเล็กน้อยโดย 3.7 ลิตร ต่อวันสำหรับผู้ชาย (ผู้ใหญ่) และ 2.7 ลิตรต่อวันสำหรับผู้หญิง (ผู้ใหญ่) โดยนับรวมจากน้ำทุกแหล่งที่รับเข้าไป (การดื่มน้ำ เครื่องดื่มอื่นๆ และน้ำในอาหาร)
  • ถ้าคุณเป็นนักกีฬาหรือชอบออกกำลังกายที่อาศัยความอึดความทน ให้ถามผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพถึงปริมาณน้ำที่ควรดื่มขณะที่ทำการออกกำลังกาย ผู้เชี่ยวชาญอาจให้คำแนะนำที่เป็นทางเลือกในการดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือแร่ก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • การดื่มน้ำมากๆ อาจทำให้คุณต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ดังนั้นให้วางแผนให้ดีว่าที่ไหนจะมีห้องน้ำให้เข้าบ้าง
  • การดื่มน้ำมากเกินพอดี ก็เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะแร่ธาตุในร่างกายไม่สมดุล ไตวาย และเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไปหรือดื่มน้ำทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ระวัง
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน
ผอมด้วยวิธีธรรมชาติ
จดไดอารี่อาหาร
ลดน้ำหนักใน 1 อาทิตย์
ยับยั้งอาการอยากของหวาน
ลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมภายใน 1 เดือน
ลดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์
คำนวณแคลอรี่จากโปรตีน
รับประทานอาหารแบบแบรทไดเอท (BRAT Diet)
เก็บกล้วยไม่ให้สุกเร็วเกินไป
รักษาหุ่นโดยที่ยังดื่มแอลกอฮอล์ได้
เผาผลาญไขมันและมีสุขภาพดี
ทำให้หน้าท้องแบนเรียบในหนึ่งสัปดาห์
วิธีทานอาหารเสริมจากส้มแขก: ความเสี่ยง, คุณประโยชน์ และข้อมูลด้านความปลอดภัย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,910 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา