ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การลดน้ำหนักสัก 2.5 กิโล ภายใน 2 สัปดาห์นั้น อาจเป็นเรื่องกล้วยๆ นอกจากนี้ การลดแค่ 2.5 กิโลใน 2 สัปดาห์ ยังทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงต่อการกินหรือพฤติกรรมให้โทษ การลดน้ำหนักในปริมาณเท่านี้ จัดว่าปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และเป็นการลดน้ำหนักต่อสัปดาห์แบบยั่งยืน [1] แค่ปรับเรื่องโภชนาการเล็กน้อยและวางแผนออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ก็ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เร็วพอสมควรแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ออกกำลังกายเพื่อช่วยการลดน้ำหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณมักออกกำลังกายในตอนค่ำหรือกลางวัน ลองเปลี่ยนตารางการออกกำลังกายมาเป็นช่วงเช้าดูสิ
    • ผลการศึกษาพบว่า การออกกำลังกายในช่วงเช้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานที่เก็บสะสมจากไขมันในร่างกาย ไม่ได้ผลาญพลังงานในส่วนที่คุณบริโภคเอาไว้ระหว่างวัน [2]
    • จัดตารางออกกำลังกายประมาณ 20 – 30 นาทีหลังจากตื่นนอน [3] นอกจากนี้ การตื่นเช้าจะช่วยรับประกันว่า คุณจะไม่เกิดติดธุระหรือเหนื่อยล้าเกินไป จนอาจต้องเลื่อนการออกกำลังกายออกไป
    • การปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันนั้น อาจเป็นเรื่องยากในช่วงแรก แต่หลังจากตื่นเช้าไปแล้วสักสองสามวัน (รวมถึงเข้านอนเร็วขึ้นด้วย) คุณจะรู้สึกเคยชินกับกิจวัตรประจำวันช่วงเช้าแบบใหม่นี้เอง
  2. HIIT เป็นการออกกำลังกายที่แพร่หลายมากในปัจจุบัน เพราะมันมีเหตุผลบางประการ ผลการศึกษาพบว่า มันช่วยเผาผลาญไขมันและช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานตื่นตัวได้ยาวนานกว่าการออกกำลังกายแบบเดิมๆ [4]
    • การออกกำลังกายแบบ HIIT โดยทั่วไป เป็นการสลับระหว่างการใช้พลังงานแบบหนักหน่วง เช่น การสับเท้าวิ่ง กับการออกกำลังแบบใช้พลังงานปานกลาง เช่น การจ๊อกกิ้ง จงจัดตารางสำหรับ HIIT ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
    • ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ โดยอุ่นเครื่องครั้งละ 10 นาที และผ่อนคลายครั้งละ 10 นาที ส่วนระยะเวลา 25 นาทีระหว่างนั้น ควรหมดไปกับการสับฝีเท้าเร่งแบบหนักหน่วง ประมาณ 30 วินาที – 1 นาที สลับการการวิ่งแบบเหยาะๆ ปานกลาง ประมาณ 2-4 นาที
    • HIIT จะช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเร่งการเติบโตของร่างกาย ได้เพิ่มขึ้นถึง 450% ภายใน 24 ชม. มันช่วยให้น้ำหนักคุณลดลงจากไขมัน มากกว่ากล้ามเนื้อ มันจึงเป็นการออกกำลังที่สุดยอดในการลดน้ำหนัก [5]
    • การออกกำลังแบบหนักหน่วง หมายถึง การออกกำลังที่ทำให้หัวใจคุณเต้นได้ 90% ของความเร็วสูงสุดของมัน คุณจะไม่สามารถพูดคุยได้และเหนื่อยแทบจะเป็นลม ส่วนการออกกำลังกายแบบปานกลางนั้น หัวใจคุณจะเต้นอยู่ที่ 65 – 80% ของอัตราสูงสุด ซึ่งถึงแม้จะหายใจหอบแฮ่ก แต่คุณจะยังพอพูดคุยกับเพื่อนได้ อย่าลืมสลับระหว่างสองจังหวะการออกกำลังกายดังกล่าว
  3. ในวันที่คุณไม่ได้ออกกำลังกายแบบ HIIT คุณควรเล่นกล้ามดูบ้าง
    • การเล่นกล้ามจะช่วยให้มวลกล้ามเนื้อของคุณกระชับแน่น ยิ่งมวลกล้ามเนื้อคุณแน่นเท่าไร ระบบเผาผลาญในร่างกายก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น [6]
    • เริ่มต้นแต่ละสัปดาห์ด้วยการออกกำลังกายยอดนิยมอย่าง ท่า Bicep curls, Tricep curls, Pushes และ Chest presses ซึ่งล้วนแต่เป็นท่าที่ทำได้รวดเร็วและแทรกลงในตารางการออกกำลังกายของคุณได้ง่ายๆ
    • ลองเล่นเครื่องยกน้ำหนักรุ่นใหม่ๆ รวมถึง Kettle bells และ TRX straps ด้วยก็ดี ฝึกร่วมกับเพื่อนๆ และเทรนเนอร์ของคุณ เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวดูบ้าง
    • น้ำหนักที่เหมาะสมในการเล่น คือ น้ำหนักที่คุณสามารถยกได้เซ็ทละ 8 ครั้ง เป็นจำนวน 2-3 เซ็ท และทำให้กล้ามเนื้อคุณล้าไปเลย คุณไม่ควรที่จะเหลือแรงไว้ยกน้ำหนักได้อีก เมื่อครบจำนวนเซ็ทดังกล่าวแล้ว
  4. นอกจาก HIIT และการเล่นเวทแล้ว คุณควรจัดตารางเพื่อออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วย การออกกำลังกายประเภทนี้ ก็ส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักเช่นกัน [7]
    • เช่นเดียวกับ HIIT คาร์ดิโอก็ช่วยผลาญแคลอรี่ได้มากมายเช่นกัน ดังนั้น จัดตารางออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 150 นาทีต่อสัปดาห์ (สำหรับ HIIT ก็ใช้เวลาประมาณนี้ด้วยก็ได้) [8]
    • กิจกรรมที่เหมาะสมอื่นๆ เช่น การวิ่งและจ้อกกิ้ง การเล่นลู่เดินไฟฟ้า การเต้น ว่ายน้ำ หรือเข้าคอร์สแอโรบิก
    • สิ่งหนึ่งที่แตกต่างระหว่างคาร์ดิโอและ HIIT คือ การออกกำลังแบบคาร์ดิโอ จะเน้นความคงที่ๆ ระดับปานกลาง ไม่ได้สลับกับการออกกำลังแบบหนักหน่วง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

กินเพื่อช่วยลดน้ำหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลดการบริโภคให้ได้ประมาณ 500-750 แคลอรีในแต่ละวัน. นอกเหนือจากการออกกำลังกาย การลดจำนวนแคลอรีและปรับเรื่องโภชนาการ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการลด 2.5 กิโล ภายใน 2 สัปดาห์ได้ [9]
    • แม้ว่าการลดจำนวนแคลอรี จะช่วยให้น้ำหนักลดลง การลดแคลอรีลงมากเกินไป จะทำให้กระบวนการลดน้ำหนักช้าลง และเกิดภาวะขาดสารอาหาร รวมถึงอ่อนล้า [10]
    • จำไว้ว่า คุณช่วยตัวเองลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายไปแล้ว การลดแคลอรีจากโภชนาการอีกเพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมายแล้ว
    • หาสมุดบันทึกหรือแอพฯ บันทึกโภชนาการ มาช่วยในการคำนวณหาปริมาณแคลอรี่ที่บริโภคเข้าไป และลบออกด้วยตัวเลข 500-750 จากนั้น ติดตามผลรวมของแคลอรีอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ตนเองบริโภคเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้
  2. มื้อเช้าเป็นสำคัญของแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วงที่คุณกำลังลดน้ำหนัก [11]
    • อย่ากินอาหารเช้าแบบสุ่มสี่สุ่มห้า มื้อนี้ควรเต็มไปด้วยโปรตีน เพื่อช่วยเติมพลังให้คุณและรู้สึกอิ่มไปได้นานกว่าเดิม [12]
    • ส่วนผสมระหว่างโปรตีนและไฟเบอร์ที่สูง จะช่วยให้คุณอิ่มต่อไปอีกนาน หลังจากที่กินมื้อดังกล่าวเสร็จแล้ว นอกจากนี้ การกินอาหารที่มีไฟเบอร์ยังเท่ากับการเพิ่มปริมาณการกินโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณอิ่มนานขึ้น
    • กินข้าวโอ๊ตกับนมไขมันต่ำ กรีกโยเกิร์ตกับกราโนล่า พร้อมด้วยผลเบอร์รี่หรือไข่เจียวใส่ผัก หรือไข่ต้มก็ได้
  3. การลดน้ำหนัก 2.5 กิโลใน 2 สัปดาห์ ไม่ใช่เรื่องยาก และอาหารที่ถูกหลัก จะทำให้มันยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ การจำกัดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เร็วมากขึ้นได้บ้าง [13]
    • คาร์โบไฮเดรต พบได้ในอาหารหลากหลาย อย่างไรก็ตาม การจำกัดการบริโภค คาร์โบไฮเดรต จะช่วยให้คุณน้ำหนักลดลงเร็วขึ้นกว่าการลดจำนวนแคลอรี่อย่างเดียว
    • คาร์โบไฮเดรต พบได้มากในผลิตภัณฑ์จากนม ธัญพืช ผักสต๊าช ถั่วเลกูมส์ และผลไม้ ฯลฯ
    • แทนที่จะกินขนมปัง ข้าว พาสต้า ลองทดแทนคาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ด้วย มันหวาน ถั่ว ผลไม้ และผักสต๊าชอื่นๆ
  4. เหมือนอาหารเช้า การกินเน้นโปรตีนและเสริมด้วยผักที่แคลอรี่ต่ำ จะช่วยให้น้ำหนักคุณลดลงได้เร็วกว่าการจำกัดแคลอรี่อย่างเดียว [14]
    • แทนที่จะมัวนับจำนวนกรัมของโปรตีนแต่ละวัน คุณควรเน้นไปที่การกินลีนโปรตีนประมาณ 1-2 เสิร์ฟในแต่ละมื้ออาหารและของว่าง จะเป็นการรับประกันว่า คุณได้โปรตีนอย่างเพียงพอ
    • โปรตีนหนึ่งเสิร์ฟ คือประมาณ 85-115 กรัม หรือเท่ากับถั่วและเลนทิลประมาณครึ่งถ้วยชา พยายามบริโภคให้ได้สัดส่วน เพื่อบรรลุเป้าหมาย [15]
    • เลือกกินลีนโปรตีน ซึ่งได้จากสัตว์ปีก ไข่ เนื้อวัว เต้าหู้ หรือผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ เพื่อช่วยควบคุมแคลอรี่ให้ได้ตามเป้า
    • จับคู่โปรตีนกับผักต่างๆ อย่าละเลยผักปลอดสต๊าชต่างๆ เช่น สลัด บร๊อคโคลี่ พริกไทย กะหล่ำดาว หรือมะเขือเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีแคลอรี่ต่ำ อย่าลืมสลัดผักใบเขียวสัก 1-2 ถ้วยเสิร์ฟด้วย [16]
    • อาหารเหล่านั้นมีไฟเบอร์และคุณค่าทางอาหารสูง ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มสบาย โดยได้แคลอรี่น้อยลงกว่าเดิม
  5. ทดแทนอาหารแปรรูปด้วยอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการมากกว่า. พยายามจำกัดและหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปต่างๆ ในช่วงสองสัปดาห์ของการลดน้ำหนักนี้ จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายการลดน้ำหนักได้โดยไม่เหนื่อยมาก
    • เป็นที่รู้กันดีว่า อาหารแปรรูป มีแคลอรี่ น้ำตาลส่วนเกิน ไขมันให้โทษต่างๆ และสารกันเสียมากกว่าอาหารทั่วไป [17]
    • การกินอาหารแปรรูปเป็นประจำหรือปริมาณมากๆ จะทำให้น้ำหนักไม่ลด แถมยังเพิ่มขึ้นอีก
    • งดอาหารแปรรูปอย่าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มหวานๆ อย่างน้ำอัดลม ลูกอม ขนมอบ ไอติม ขนมปังหวาน ซีเรียลเคลือบน้ำตาล อาหารทอด และเนื้อแปรรูปไขมันสูง
    • ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากคุ้กกี้มื้อเย็น มาเป็นผลไม้และช็อกโกแลตดำ หรือกระทั่งโยเกิร์ตก็ยังดี เพราะมีน้ำตาลและแคลอรี่น้อยกว่า หรือแทนที่จะสั่งแซนวิชไก่ทอด ก็ลองเปลี่ยนเป็นไก่ย่างที่มีไขมันและแคอรี่น้อยลงมากินแทน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จงปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง ก่อนที่จะลดน้ำหนัก พวกเขาจะสามารถแนะนำได้ว่า การลดน้ำหนักของคุณเหมาะสมหรือไม่
  • ระยะเวลาสองสัปดาห์ กับการลดน้ำหนัก 25 กิโลนั้น ถือว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องการลดมากกว่านี้ แค่สองสัปดาห์อาจจะไม่เหมาะ หากคุณต้องการลด 5 กิโล ก็ควรที่จะวางเป้าหมายไว้นานกว่านั้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,018 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา