ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คนหลายคนต่างรู้ดีว่านิสัยการกินที่ดีช่วยให้ตนมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม รักษาหรือทำให้โรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ทุเลาลง และรักษาสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้น แต่อาหารที่ผ่านการแปรรูปมามากและมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยอาจทำให้น้ำหนักตัวเราเพิ่มขึ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพ [1] ถ้าเราอยากสร้างนิสัยการกินที่ดี ก็ให้ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนนิสัยการกินไปทีละนิด เราจะต้องกินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนได้สัดส่วนอย่างสม่ำเสมอและกินอาหารให้หลากหลาย เพราะการกินแบบนี้จะทำให้เราได้รับสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และมีพลังงานมาทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การสร้างนิสัยการกินที่ดีเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมวิธีการหนึ่งที่จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นและสามารถเริ่มต้นทีละนิดได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เตรียมตัวให้พร้อมที่จะปรับนิสัยการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นัดพบคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษาก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต การออกกำลัง หรืออาหารการกิน คุณหมอจะได้แนะนำวิธีการต่างๆ ที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา
    • อธิบายว่าเราสนใจที่จะปรับเปลี่ยนอาหารและนิสัยการกินให้ดีขึ้น บอกถึงสาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องการทำเช่นนั้นและผลที่เราคาดหวังว่าจะได้รับคืออะไร
    • ขอคำแนะนำจากคุณหมอด้วย เพราะถ้าเราอยู่ระหว่างการรักษาโดยใช้ยา มีโรคประจำตัว หรือต้องการลดน้ำหนัก คุณหมอจะได้แนะนำกลวิธีเพื่อช่วยให้เราเริ่มต้นปรับเปลี่ยนนิสัยการกินได้
    โฆษณา
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

Claudia Carberry, RD, MS

นักโภชนาการขึ้นทะเบียน
คลอเดีย คาร์เบอร์รี่เป็นนักโภชนาการผู้ป่วยนอกของคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยอาร์คันซอ เธอสำเร็จปริญญาโทด้านโภชนาการจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี่น็อกซ์วิลล์ในปี 2010
Claudia Carberry, RD, MS
นักโภชนาการขึ้นทะเบียน

คลอเดีย คาร์เบอร์รี่ นักโภชนาการขึ้นทะเบียนให้คำแนะนำว่า: "การจะปรับปรุงพฤติกรรมการกินที่ดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นนั้น ให้มุ่งเน้นที่การรับประทานผักผลไม้และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำให้มากขึ้น จำกัดคาร์บไว้ที่ 1/2 ถ้วยและเนื้อในปริมาณไม่เกิน 3 ออนซ์"

  1. นักกำหนดอาหารเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารที่ได้รับการอนุญาตประกอบวิชาชีพ ฉะนั้นจึงสามารถให้คำปรึกษาแก่คนที่ต้องการสร้างนิสัยการกินที่ดีได้เป็นอย่างดี เพราะนักกำหนดอาหารเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารโดยเฉพาะ
    • ขอให้คุณหมอส่งตัวไปหานักกำหนดอาหาร หรือขอให้คนที่เรารู้จักแนะนำนักกำหนดอาหารที่เชื่อถือได้ หรือจะค้นหาเองทางอินเตอร์เน็ตก็ได้
    • พูดคุยกับนักกำหนดอาหารถึงเป้าหมายที่จะพัฒนานิสัยการกินให้ดีขึ้นและผลที่คาดหวังว่าจะได้รับเมื่อทำได้สำเร็จ
    • ถามนักกำหนดอาหารถึงวิธีการอื่นๆ ที่คิดว่าอาจช่วยเราได้ นักกำหนดอาหารอาจแนะนำวิธีการเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากที่เรารู้อยู่แล้ว
  2. เริ่มจดบันทึกเรื่องอาหารการกิน . ให้จดบันทึกเรื่องอาหารการกินของเราในปัจจุบันก่อนที่จะปรับเปลี่ยนอาหารและนิสัยการกิน การจดบันทึกเป็นการเริ่มต้นที่ดีเพราะจะทำให้เรารู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหน รู้จักจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง บันทึกเรื่องอาหารการกินจะช่วยเป็นหลักให้เรายังคงสร้างนิสัยการกินที่ดีต่อไป
    • หมั่นจดบันทึกอาหารการกินและเครื่องดื่มอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ เมื่อกำลังติดตามนิสัยการการกินของตนเอง พยายามจดบันทึกให้ถูกต้องแม่นยำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้แต่การชิมอาหารก็นับด้วย
    • อย่าลืมบันทึกว่าดื่มเครื่องดื่มต่างๆ ไปแล้วปริมาณเท่าไร เครื่องดื่มต่างๆ ก็เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของการกินที่ดี
    • หลังจากจดบันทึกไปสักสองสามวัน ให้ทำเครื่องหมายดอกจันหรือใช้ปากกาเน้นข้อความที่เขียนถึงพฤติกรรมที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อดูบันทึก เราอาจสังเกตเห็นว่าเราดื่มน้ำน้อยหรือไม่เคยกินอาหารเช้า จึงคิดว่าถ้าสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สังเกตเห็นนี้ได้ ก็จะมีนิสัยการกินที่ดีขึ้น
  3. ใช้บันทึกและคำแนะนำจากแพทย์มาเป็นแนวทางทำแผนสร้างนิสัยการกินที่ดี แผน “ที่ต้องทำ” นี้จะช่วยให้เราได้เริ่มต้นปรับเปลี่ยนนิสัยการกินทีละนิด จนกระทั่งสร้างนิสัยการกินที่ดีได้สำเร็จ [2]
    • เริ่มต้นด้วยการเขียนรายการอาหารและรูปแบบการกินทุกอย่างที่เราอยากค่อยๆ ปรับเปลี่ยนน่าจะเป็นประโยชน์
    • ใส่ตัวเลขหรือเรียงสิ่งที่เราอยากเปลี่ยนแปลงตามลำดับก่อนหลัง ตอนนี้เลือกสิ่งที่อยากเปลี่ยนแปลงมาหนึ่งหรือสองอย่าง เราไม่ควรเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินกะทันหัน เพราะทำได้ยากและจะทำได้ไม่นาน [3]
    • จัดตารางหรือเขียนในปฏิทินว่าแต่ละสัปดาห์หรือทุกสองสามสัปดาห์เราจะเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินอะไรบ้าง หลังจากลองเปลี่ยนแปลงดูแล้ว ให้ติดตามผลด้วยว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จ
  4. เมื่อเรากำลังพยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต การขอให้เพื่อน ครอบครัว หรือคนอื่นช่วยสนับสนุนเรานั้นก็ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินได้ มีคนจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จเพราะได้รับแรงสนับสนุนที่ดี [4]
    • บอกเพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานว่าเรามีแผนที่จะปรับนิสัยการกิน ให้ลองถามว่ามีใครจะเข้าร่วมกับเราไหม เพราะถ้ามีใครปรับเปลี่ยนนิสัยการกินร่วมกับเรา ก็จะได้ช่วยกันคิดและรวบรวมข้อมูลลักษณะนิสัยการกินที่ดี พวกสูตรอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หรือกลวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้เราและเขาฝ่าฟันความยากลำบากไปด้วยกันได้
    • เราจะลงทะเบียนเข้ากลุ่มสนับสนุนทางอินเตอร์เน็ต หรือเข้าร่วมแสดงความเห็นและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการปรับปรุงนิสัยการกินกับผู้อื่นทางเว็บบอร์ดก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการสร้างนิสัยการกินที่ดี การกินตามเวลาก็สำคัญเช่นกัน การกินบ่อยเกินไปหรือกินไม่บ่อยพอก็ต่างมีผลกับร่างกายเรา คือทำให้การเผาผลาญอาหารช้าลงและก่อให้เกิดความอยากอาหารที่ผิดปกติ ฉะนั้นการกินอาหารให้เพียงพอในหนึ่งวันจึงสำคัญ เพราะจะป้องกันไม่ให้อ่อนเพลีย มึนงง และสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ [5]
    • การกินอาหารตามเวลาทุกวันเป็นเรื่องสำคัญ [6] ในความเป็นจริงแล้วการกินอาหารทุกสามถึงสี่ชั่วโมงเป็นเรื่องสำคัญ บางคนอาจกินอาหารมื้อเล็กๆ สี่ถึงห้ามื้อต่อวัน ขณะที่คนอื่นๆ อาจกินอาหารสามมื้อต่อวัน ช่วงเวลาในการกินแต่ละมื้ออาจแตกต่างกันตามไปแต่ละบุคคล แต่การงดอาหารไม่ดีต่อสุขภาพ
    • ผลการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่า หนูที่กินอาหารมื้อใหญ่หนึ่งมื้อต่อวันและนอนหลับเร็ว มีภาวะดื้อต่ออินซูลินและมีไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้น [7]
    • การกินอาหารที่เตรียมได้สะดวกและรวดเร็วนั้นจะทำให้กินอาหารตามเวลาได้ง่ายขึ้น อาหารเช่น โยเกิร์ต ผลไม้ ถั่วเปลือกแข็ง ไข่ต้มแบบไข่แดงสุกเต็มที่ ชีสแท่ง หรือโปรตีนปั่นนั้นรับประทานง่ายและใช้เวลาเตรียมแค่ครู่เดียว
  2. กินมื้อเช้าที่อุดมไปด้วยโปรตีนและเส้นใยอาหาร. เมื่อคิดจะฝึกกินอาหารตามเวลา การกินอาหารให้เหมาะสมกับแต่ละมื้อนั้นสำคัญ โดยเฉพาะอาหารเช้าที่เราต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะอาหารมื้อนี้จะมีผลต่ออาหารมื้ออื่นๆ ของวัน
    • ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการกินมื้อเช้าที่มีโปรตีนสูงช่วยทำให้เราควบคุมความหิวระหว่างวันได้ดีขึ้น ผู้คนรู้สึกอิ่มมากขึ้นและความอยากอาหารระหว่างวันลดลง [8]
    • ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าอาหารมื้อเช้าที่มีเส้นใยสูงนั้นมีประโยชน์เช่นกัน เส้นใยจะเพิ่มปริมาณอาหารและใช้เวลาย่อยนานกว่าเมื่อเทียบกับอาหารที่มีเส้นใยต่ำกว่า อาหารที่มีเส้นใยสูงจึงช่วยให้เราอิ่มและควบคุมความหิวตลอดวันได้ดีขึ้น [9]
    • ตัวอย่างอาหารที่มีโปรตีนและเส้นใยสูงได้แก่ ตอร์ตียาโฮลวีตแผ่นเล็กๆ แผ่นหนึ่งห่อไข่คนและชีส ค็อตเทจชีสโรยด้วยผลไม้ ข้าวโอ๊ตโรยด้วยผลไม้อบแห้งและถั่วเปลือกแข็ง หรือสมูทตี้แบบอาหารเช้าซึ่งทำมาจากกรีกโยเกิร์ตและผลไม้
  3. หลายคนคิดว่าการกินของว่างจะทำให้น้ำหนักเพิ่ม แต่การกินของว่างที่ดีต่อสุขภาพระหว่างมื้อสามารถช่วยยับยั้งความอยากอาหาร และทำให้เรามีพลังงานพอตลอดวัน [10]
    • อย่าปล่อยให้ตนเองหิวจัดจนรับประทานอาหารมากเกินเมื่อถึงเวลา ถ้าต้องรอกินอาหารมื้อต่อไปเกินหนึ่งชั่วโมง การกินของว่างจะช่วยยับยั้งความอยากอาหารและป้องกันไม่ให้เรากินมากเกินไป
    • เวลาที่เหมาะสมกับการกินของว่างอีกช่วงคือก่อนหรือหลังออกกำลังกาย ของว่างจะให้พลังงานแก่ร่างกายเพื่อนำไปใช้ในการออกกำลังกาย หรือช่วยให้ร่างกายกลับมามีแรงหลังการออกกำลังกาย
    • ถ้ากำลังลดน้ำหนักอยู่ ก็ไม่ควรกินของว่างที่มีพลังงานเกิน 150 แคลอรี่ [11] ควรกินของว่างเฉพาะตอนที่หิวจริงๆ และกินในปริมาณที่เหมาะสม
    • ของว่างที่ดีต่อสุขภาพเช่น ถั่วเปลือกแข็ง 1/4 ถ้วย พิตาแบบโฮลวีตจิ้มกับฮัมมัส แอปเปิลโรยด้วยเนยถั่วสองช้อนโต๊ะหรือกรีกโยเกิร์ตเล็กน้อย
  4. ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่ายิ่งเรากินช้า เราก็ยิ่งรู้สึกอิ่มหลังกินอาหาร [12] การใช้เวลากินอาหารอย่างน้อย 20 นาทีจะทำให้เรากินช้าลง ฉะนั้นจึงรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นทั้งที่กินอาหารเข้าไปน้อย การใช้เวลากินอย่างมีสติและรับรู้รสความอร่อยของคำทุกคำที่เข้าปากเป็นวิธีป้องกันการกินมากเกินไปที่ดียิ่งและได้ควบคุมนิสัยการกินของตนเองด้วย
    • คนที่กินอาหารช้าไม่เพียงรู้สึกอิ่มมากกว่า แต่ยังกินอาหารเข้าไปน้อย [13] ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะคนที่กินช้ารู้ตัวว่าตนอิ่มแล้ว จึงไม่กินเข้าไปอีกจนอิ่มมากเกินไป
    • ลองใช้วิธีนี้ดู เผื่อช่วยให้ตนเองกินช้าลงได้ ตั้งเวลาไว้ 20 นาที ให้วางช้อนลงทุกครั้งที่ตักอาหารเข้าปากแล้ว ดื่มน้ำตามหลังจากกลืนอาหารลงไป พูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัวขณะที่กินอาหาร หรือนับว่าตนเองเคี้ยวไปกี่ครั้งในแต่ละคำ
    • อย่าให้มีอะไรมารบกวนเวลากินอาหาร ปิดทีวีและโทรศัพท์มือถือขณะที่กินอาหารอยู่ ไม่ควรอ่านหนังสือ ตรวจดูอีเมล หรือทำอะไรอย่างอื่นขณะกินอาหาร [14]
  5. เมื่อเรากินจนอิ่มเหลือเกินหรืออิ่มมากเกินไป ร่างกายของเราจะได้รับแคลอรี่มากเกินความจำเป็น เป็นผลให้น้ำหนักเพิ่ม ฉะนั้นอย่าปล่อยให้ตนเองกินจนอิ่มมากเกินไป [15]
    • การบอกว่าเราจะ “อิ่ม” เมื่อไรนั้นอาจยาก กว่าที่สมองของเราและกระเพาะจะส่งความรู้สึกนั้นออกมาก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที [16] นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมถึงควรกินอาหารช้าๆ
    • ตามปกติเมื่อเราอิ่ม เราอาจรู้สึกอย่างเช่น ไม่หิวอีกแล้ว ไม่สนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกแน่นท้องนิดหน่อย หรือรู้สึกว่าไม่ต้องกินอาหารอีกเป็นเวลาสองสามชั่วโมง เมื่อเราอิ่ม เราอาจจะเหลืออาหารไว้ในจานบ้าง
    • เมื่อเรากินจนอิ่มเต็มที่ เราอาจรู้สึกไม่สบายท้อง ท้องป่อง คลื่นไส้ รู้สึกแน่นท้องมาก เมื่อเราอิ่มเต็มที่ เราก็มักจะกินอะไรไม่เหลือ หรือกินอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย
  6. ถ้าเรากำลังปรับปรุงนิสัยการกินของตนเองอยู่ เราอาจถือโอกาสนี้ปรับปรุงนิสัยการกินของคนทั้งครอบครัวไปด้วยเลยก็ได้
    • เด็กๆ อาจเป็นกลุ่มที่มีนิสัยการกินที่ดีได้ยาก แต่เด็กๆ ก็เป็นกลุ่มที่เรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมที่มองเห็นจากพ่อแม่ได้เร็ว [17]
    • การเข้าครัวทำกับข้าวด้วยกันกับลูกและพาออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะช่วยให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วมและตื่นเต้นในการลองทำและกินอาหารเมนูใหม่ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ [18]
    • ค่อยๆ ให้ลูกได้กินอาหารใหม่ๆ ถ้าเพิ่งเริ่มปรับนิสัยการกินที่บ้าน เด็กๆ อาจไม่สามารถทำได้ในทันที เพราะฉะนั้นอดทนรอให้เขาปรับตัวให้ชินกับแบบแผนการกินที่เราวางไว้
    • สร้างสรรค์อาหารและของว่างให้น่ากิน การทำให้อาหารดูน่ากินและน่าลิ้มลองสามารถช่วยให้เด็กๆ อยากลองรับประทานอะไรใหม่ๆ มากขึ้น [19] ตัวอย่างเช่น อาจลองจัดผลไม้ให้เป็นรูปใบหน้ายิ้ม หรือนำเนยถั่วมาทาขึ้นฉ่ายฝรั่งแล้วโรยด้วยลูกเกด ก็จะได้อาหารหน้าตาคล้าย “มดเดินบนขอนไม้”
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เปลี่ยนแปลงอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โปรตีนนั้นเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเรา มีส่วนสำคัญต่อกระบวนการและการทำงานของร่างกายมาก [20] การเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำซึ่งดีต่อสุขภาพทุกมื้อจะช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน
    • โดยปกติโปรตีนหนึ่งหน่วยบริโภคจะประมาณ 85-113 กรัม หรือขนาดเท่าฝ่ามือของเรา หรือไพ่หนึ่งสำรับ [21]
    • เราควรเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนไขมันต่ำ เพราะเราจะได้รับโปรตีนสูงแต่ได้รับไขมันน้อย จะได้ช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้ปกติ เลือกกินอาหารที่มีโปรตีน เช่น เป็ดไก่ ไข่ เนื้อวัวที่มีไขมันต่ำ อาหารทะเล อาหารพวกถั่ว เนื้อหมู เต้าหู ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ
    • เราควรกินอาหารที่มีโปรตีนไขมันสูงบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ควรให้อาหารพวกนี้เป็นแหล่งโปรตีนหลักของเรา
  2. ทั้งผลไม้และผักมีแคลอรี่ต่ำแต่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย [22] [23] การกินผลไม้และผักอย่างเพียงพอทำให้เราได้สารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
    • ผลไม้หนึ่งหน่วยบริโภคคือผลไม้ 1/2 ถ้วยหรือผลไม้ลูกเล็กๆ หนึ่งลูก [24] ผักหนึ่งหน่วยการบริโภคคือผักใบเขียวหนึ่งหรือสองถ้วย [25] กินผลไม้หรือผักสักครึ่งจานจะช่วยให้เราได้รับสารอาหารเพียงต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน
    • เลือกกินผลไม้และผักต่างๆ ที่มีสีเข้ม เพราะจะมีสารอาหารมากกว่าผักที่สีซีด ตัวอย่างเช่น เลือกกินผักโขมมากกว่าผักกาดแก้ว หรือเลือกกินฟักบัตเตอร์นัทมากกว่าสควอชเหลือง
    • เลือกกินผักและผลไม้ให้หลากหลายทุกวันและทุกสัปดาห์ เราจะได้รับสารอาหารจำกัด ถ้ากินผลไม้และผักแค่เพียงหนึ่งหรือสองชนิด
  3. ให้เลือกกินอาหารที่ทำมาจากธัญพืชเต็มเมล็ดมากกว่าธัญพืชที่ผ่านการขัดสีแล้ว. เราควรจะกินอาหารที่ทำมาจากธัญพืชเต็มเมล็ดอย่างเช่น ขนมปัง ข้าว หรือพาสต้าแบบโฮลวีต แทนที่จะกินอาหารที่ทำมาจากธัญพืชที่ผ่านการขัดสีแล้ว
    • ธัญพืชเต็มเมล็ดผ่านการแปรรูปน้อยและมีส่วนประกอบสำคัญอยู่อย่างครบถ้วนนั้นคือเยื่อหุ้มเมล็ด เนื้อเมล็ด และจมูกข้าว ธัญพืชเต็มเมล็ดจึงมีเส้นใย โปรตีน และสารอาหารอื่นที่จำเป็นในประมาณที่สูงเป็นธรรมดา [26] ฉะนั้นเราควรเลือกกินข้าวกล้อง ควินัว ข้าวโอ๊ตแบบไม่ขัดสี หรือขนมปังโฮลวีต
    • ธัญพืชที่ผ่านการขัดสีคือธัญพืชที่ผ่านการแปรรูปมามากและไม่มีส่วนประกอบสำคัญที่มีสารอาหารอยู่ ฉะนั้นจึงมีเส้นใย โปรตีนและสารอาหารอื่นๆ ต่ำ ผลิตภัณฑ์จากธัญพืชที่ผ่านการขัดสีได้แก่ ขนมปังขาว พาสต้าทั่วไป และข้าวขาว
    • ธัญพืชหนึ่งหน่วยบริโภคเท่ากับประมาณ 28 กรัม ซึ่งน่าจะเท่ากับขนมปังหนึ่งแผ่น พาสต้าหรือข้าว 1/2 ถ้วย ให้กินอาหารที่มาจากธัญพืชสามถึงสี่หน่วยบริโภคต่อวัน
  4. อาหารขยะโดยทั่วไปจะมีน้ำตาล ไขมัน โซเดียมและแคลอรีมาก [27] ถ้าอยากรักษาสุขภาพและลดน้ำหนักให้เป็นไปตามเกณฑ์ ลดการกินอาหารขยะลงเสีย
    • ลดการกินอาหารเช่น ลูกอม ขนมเค้ก คุกกี้ พวกขนมอบ อาหารแช่แข็ง เนื้อแปรรูป และมันฝรั่งทอดหรือขนมปังกรอบ
    • พยายามกินอาหารที่ผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุด เช่น กินผักผลไม้สด กินผักผลไม้แช่แข็งหรือบรรจุกระป๋องแบบไม่มีน้ำปรุงรสหรือใส่เครื่องปรุงรส กินอาหารที่สดใหม่หรืออาหารแช่แข็งที่ไม่มีการปรุงรสเพิ่มเติม กินอาหารจากธัญพืชเต็มเมล็ดและผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ
  5. การให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งของการสร้างนิสัยการกินที่ดี การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ [28]
    • ทุกคนต่างก็ต้องการน้ำในปริมาณที่แตกต่างกันในแต่ละวัน มีวิธีการใหม่ที่จะทำให้เราทราบว่าควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไร ให้นำน้ำหนักตัวมาหารสองแล้วเราจะทราบว่าควรจะดื่มน้ำปริมาณเท่าไรต่อวัน [29] ถ้าเราหนัก 150 ปอนด์ หรือ 68 กิโลกรัม เราควรดื่มน้ำประมาณ 75 ออนซ์ หรือประมาณ 2.2 ลิตร หรือดื่มน้ำประมาณเก้าถ้วยกว่า พยายามดื่มน้ำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ถ้าเราอยู่ในช่วงควบคุมอาหาร ก็อาจปรับเปลี่ยนปริมาณการดื่มได้
    • เลือกเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีน (จะดีที่สุด) จะดื่มน้ำเปล่า น้ำปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติ กาแฟและชาที่ไม่มีคาเฟอีนก็ได้ [30]
    • ลดหรือเลิกดื่มน้ำหวาน การดื่มน้ำหวานอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เลิกดื่มพวกน้ำอัดลมกระป๋อง น้ำผลไม้ ชาหวานและแอลกอฮอล์
  6. อาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุช่วยให้เรารักษาพฤติกรรมการกินที่ดีได้ อาหารเสริมจะทำให้เราได้สารอาหารเพิ่มเติม อาจมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่แพ้อาหาร กินอาหารได้จำกัดประเภท หรือคนที่ชอบกินอาหารเฉพาะอย่าง [31]
    • ลองกินวิตามินรวม นี้เป็นอาหารเสริมทั่วไปที่มีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด จึงทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่ต้องการและครบถ้วน
    • กินอาหารเสริมธาตุเหล็ก บางคนโดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งยังคงมีประจำเดือนอาจต้องการธาตุเหล็กเพิ่ม
    • วิตามินบี 12 พบมากในเครื่องในสัตว์ ผู้ที่ควรกินอาหารเสริมวิตามินบี 12 คือคนที่กินมังสวิรัติหรือคนกินเจ [32]
    • ไม่ควรกินอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุเป็นอาหารหลัก หรือกินแทนอาหารหลักทั้งหมด เพราะอาหารเสริมนี้มีขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยให้เรากินอาหารได้ครบถ้วนและได้สัดส่วนเพื่อสุขภาพที่ดี
    • ปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มกินอาหารเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุใดๆ เพราะอาหารเสริมไม่ได้ปลอดภัยและเหมาะกับเราไปเสียทุกชนิด
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การลดน้ำหนักต้องใช้เวลา ฉะนั้นพยายามลดน้ำหนักไปเรื่อยๆ และรักษาสุขภาพด้วย
  • ออกกำลังกายทุกวันสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องออกกำลังกายอย่างเหมาะสมด้วย
  • เขียนตารางความสำเร็จและความล้มเหลว เราจะได้เห็นภาพชัดเจนและจดบันทึกข้อมูลทุกวัน วิธีนี้จะช่วยให้เราแก้ไขความผิดพลาดและมีแรงบันดาลใจที่จะทำตามเป้าหมายต่อไปจนกระทั่งทำได้สำเร็จ
  • ให้อะไรพิเศษกับตนเองบ้าง เช่น ช็อกโกแลตสักชิ้น แต่ต้องจำกัดปริมาณและจำนวนครั้ง
  • พยายามกินผักผลไม้มากกว่ากินเนื้อสัตว์ เพราะผักผลไม้มีสารอาหารมากกว่าอาหารหมู่อื่นๆ
  • ปรึกษาแพทย์เสมอก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกินหรือรูปแบบการดำเนินชีวิตไปโดยสิ้นเชิง
  • หมั่นจดบันทึกเรื่องอาหารการกินและการออกกำลังกายเสมอ เพราะบันทึกนี้จะช่วยเป็นหลักให้เราทำตามเป้าหมายประจำวัน เริ่มเปลี่ยนแปลงทีละนิดง่ายกว่า
โฆษณา
  1. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/healthy-diet/art-20046267
  2. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/healthy-diet/art-20046267
  3. http://www.health.harvard.edu/blog/why-eating-slowly-may-help-you-feel-full-faster-20101019605
  4. http://www.health.harvard.edu/blog/why-eating-slowly-may-help-you-feel-full-faster-20101019605
  5. http://www.health.harvard.edu/blog/distracted-eating-may-add-to-weight-gain-201303296037
  6. http://health.usnews.com/health-news/blogs/eat-run/2012/08/08/stuffed-or-satisfied-when-to-stop-eating
  7. http://health.usnews.com/health-news/blogs/eat-run/2012/08/08/stuffed-or-satisfied-when-to-stop-eating
  8. http://www.parents.com/kids/nutrition/healthy-eating/get-your-kids-to-eat-better/
  9. http://www.parents.com/kids/nutrition/healthy-eating/get-your-kids-to-eat-better/
  10. http://www.parents.com/kids/nutrition/healthy-eating/get-your-kids-to-eat-better/
  11. http://www.choosemyplate.gov/protein-foods
  12. http://www.choosemyplate.gov/protein-foods
  13. http://www.choosemyplate.gov/vegetables
  14. http://www.choosemyplate.gov/fruits
  15. http://www.choosemyplate.gov/fruits
  16. http://www.choosemyplate.gov/vegetables
  17. http://www.choosemyplate.gov/grains
  18. http://www.nhs.uk/livewell/goodfood/pages/what-are-processed-foods.aspx
  19. http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/PhysicalActivity/FitnessBasics/Staying-Hydrated---Staying-Healthy_UCM_441180_Article.jsp
  20. http://www.pbs.org/americaswalking/fuel/fueldrinking.html
  21. http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/PhysicalActivity/FitnessBasics/Staying-Hydrated---Staying-Healthy_UCM_441180_Article.jsp
  22. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/supplements/art-20044894?pg=1
  23. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/supplements/art-20044894?pg=1

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,500 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา