ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ปลานิลเป็นปลาเนื้อขาว รสอ่อน ซึ่งสามารถซึมซับรสชาติได้ดีมาก ปรุงสุกได้รวดเร็วและง่ายในการเตรียม คุณสามารถปรุงได้ทั้งโดยการอบด้วยเตาอบ ย่างด้วยเครื่องย่าง หรืออบในห่อฟอยล์ก็ได้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกวิธีเตรียมการทำอาหารอย่างเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณมีและรสชาติที่จะทำออกมานั่นเอง

ส่วนประกอบ

สำหรับ 4 ที่

  • เนื้อปลานิลไร้มัน 4 ชิ้น
  • น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
  • เนยหรือมาการีนละลายแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
  • พริกไทยดำ ½ ช้อนชา (2.5 มิลลิลิตร)
  • พาเมซานชีสขูดฝอย ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร) (ไม่มีก็ได้)
  • มะเขือเทศลูกท้อฝานแล้ว 2 ลูก (ไม่มีก็ได้)
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การอบในห่อฟอยล์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตรียมอลูมิเนียมฟอยล์ที่มีความทนทานในรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส 4 อันที่มีความใหญ่พอจะห่อเนื้อปลาได้
    • อลูมิเนียมฟอยล์ชนิด Nonstick จะใช้ได้ดีกว่า เพราะเนื้อปลาจะได้ไม่ติดกับฟอยล์
  2. ทาเนยละลายปกคลุมทั่วเนื้อปลาเพื่อไม่ให้ติดกับแผ่นฟอยล์ และช่วยในเรื่องรสชาติอีกด้วย
    • เนื่องด้วยเนื้อปลาจะได้ไม่สัมผัสกับความร้อนโดยตรงผ่านวิธีนี้ เนื้อปลาจะได้ไม่ไหม้ และไม่ได้จำเป็นต้องใช้เพียงแค่เนยเท่านั้น คุณสามารถใช้น้ำมันมะกอกแทนเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าได้อีกด้วย
  3. บีบน้ำเลมอนบนเนื้อปลาให้ทั่ว และโรยพริกไทยลงไปด้วยนิดหน่อย
    • คุณสามารถใส่สมุนไพรหั่นเป็นชิ้นๆ อย่างกะเพราลงไปด้วยก็ได้ถ้าชอบ โดยใส่ไม่ให้เกินกว่า 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
  4. วางมะเขือเทศฝานสัก 3-4 ชิ้นไว้บนเนื้อปลาแต่ละชิ้น
    • ไม่จำเป็นต้องใส่มะเขือเทศลงไปด้วยก็ได้ แต่ประโยชน์ของการอบปลานิลในห่อฟอยล์นั้น คือการที่ใส่ผักลงไปพร้อมกับเนื้อปลา และมีการผสมผสานรสชาติเข้ากับเนื้อปลานั่นเอง
    • คุณจะใช้ต้นหอมฝาน หัวหอมฝาน หรือพริกหยวกฝานวางบนเนื้อปลาก็ได้นะ
  5. ห่ออลูมิเนียมฟอยล์และย้ายไปไว้ในถาดอบก้นตื้น. ห่อฟอยล์หลวมๆ รอบเนื้อปลาและมะเขือเทศ ก่อนจะพับให้เข้ากันเป็นลักษณะของห่อ
    • ปล่อยให้มีช่องว่างสำหรับระบายอากาศบนห่ออลูฟอยล์ด้วย เพื่อป้องกันการเกิดไอน้ำในห่อฟอยล์ที่มากเกินไป
  6. [1] อบจนกว่าเนื้อปลาจะเป็นสีขาวและสามารถใช้ส้อมแยกส่วนเป็นชิ้นได้
  7. เปิดห่อฟอยล์เพื่อให้ไอน้ำพวยพุ่งออกมา และเริ่มทำการหั่นปลา มะเขือเทศ และส่วนผสมอื่นๆ ลงในจานพร้อมเสิร์ฟ
    • โรยชีสพาเมซานขูดลงไปด้วยก็ได้ ถ้าคุณชอบ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การอบธรรมดา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [2] เตรียมถาดอบด้วยการปูกระดาษไขรองพื้นเอาไว้
    • คุณจะฉีดสเปรย์น้ำมันลงไปบนถาดเลย หรือปูด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ชนิด Nonstick แทนก็ได้ โดยใช้อลูมิเนียมฟอยล์ที่มีคุณภาพ เพื่อลดปฏิกิริยาที่จะเกิดจากกรดของน้ำเลมอนที่จะเกิดขึ้นกับแผ่นฟอยล์นั่นเอง
  2. ล้างเนื้อปลานิลด้วยน้ำเย็น
    • ทำให้แห้งอย่างนุ่มนวลด้วยการใช้กระดาษซับน้ำจากเนื้อปลา และต้องให้แน่ใจว่าเนื้อปลาแห้งหมดจด
    • การล้างเนื้อปลาเป็นแค่ขั้นตอนเสริมขึ้นมาเฉยๆ แต่มันจะมีประโยชน์ถ้าเนื้อปลาถูกแช่แข็งบางส่วนมาก่อน และต้องการให้มันละลาย หรือเนื้อปลาสดที่มีเมือกเหนียวๆ ปกคลุมอยู่ก็ตาม
  3. ผสมส่วนผสมทั้งคู่นี้ลงในจานเล็กๆ หรือถ้วยเล็กๆ แล้วคนส่วนผสมจนกว่าจะเข้ากันดี
    • การใช้เนยในสูตรนี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว เนื่องจากมันจะช่วยให้เนื้อปลาเป็นสีเหลืองทองในเตาอบได้
    • ถ้าอยากให้รสของเลมอนเข้มข้นขึ้น จะเพิ่มปริมาณน้ำเลมอนเป็น 3-4 ช้อนโต๊ะ (45-60 มิลลิลิตร) ก็ย่อมได้
  4. วางเนื้อปลานิลลงบนถาดอบชั้นเดียว เว้นระยะห่างแต่ละชิ้นให้เท่าๆ กัน
  5. รินส่วนผสมของเนยกับน้ำเลมอนบนเนื้อปลา แล้วทาให้ทั่วชิ้นเนื้อปลานั้น และโรยพริกไทยดำเติมลงไป
    • คุณจะเพิ่มเครื่องเทศอื่นๆ ลงไปบนเนื้อปลาตอนนี้ด้วยก็ได้ถ้าต้องการ รสชาติที่ผสมกับรสของน้ำเลมอนได้ลงตัวก็มีหัวหอม กระเทียม ผักชีฝรั่ง กะเพรา และออริกาโน่ สำหรับผงกระเทียมหรือหัวหอมนั้น ห้ามใส่เกิน ¼ ช้อนชา (1.25 มิลลิตร) ส่วนสมุนไพร แบบแห้งให้ใช้ 1 ช้อนชา (5 มิลลิตร) และใช้ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิตร) สำหรับแบบสด
  6. ด้วยอุณหภูมิเท่านี้ ปลานิลจะสุกในเวลาประมาณ 20-30 นาที [3]
    • เมื่อสุกแล้ว เนื้อปลานิลจะเป็นสีขาวตลอดชิ้น และสามารถแยกชิ้นส่วนได้ด้วยส้อม
    • สามารถใส่ชีสพาเมซานขูดบนเนื้อปลาในช่วง 5-10 นาทีสุดท้ายก่อนจะสุกก็ได้ ถ้าคุณชอบ
  7. เนื้อปลานิลอบสามารถเสิร์ฟได้ตั้งแต่นำออกจากเตาอบร้อนๆ หรือจะเป็นหลังปล่อยให้เย็นลงในอุณหภูมิห้องก็ได้เช่นกัน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การย่างด้วยเครื่องย่าง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แล้วฉีดสเปรย์น้ำมันคลุมถาดย่างบางๆ
    • ให้ความร้อนถาดย่างก่อนสัก 5-10 นาที
    • เครื่องย่างส่วนใหญ่มักมีแค่ปุ่ม "on" แต่บางเครื่องก็มีให้เลือกว่าจะปรับระดับไฟเป็น "high" หรือ "low" ได้ด้วย สำหรับสูตรนี้ให้เปิดไฟเป็น "high."
    • เพราะเนื้อปลานิลมีไขมันน้อยกว่าเนื้อวัวหรือเนื้อของสัตว์ปีก จึงไม่ทำให้มีไขมันหยดออกมามากนัก เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้สเปรย์น้ำมันในการป้องกันไม่ให้เนื้อปลาติดกับตะแกรงย่างที่อยู่ในถาดย่าง
  2. กำจัดตะกอนเหนียวๆ ออกโดยล้างเนื้อปลานิลเบาๆ ด้วยน้ำเย็นที่ไหลผ่าน
    • ซับปลาให้แห้งสนิทด้วยกระดาษ
  3. คนส่วนผสมให้เข้ากันในจานใบเล็ก
    • คุณจะเพิ่มเครื่องเทศอย่างอื่นลงไปด้วยก็ได้ถ้าชอบ อย่างสมุนไพรหั่นหรือผงหัวหอม อย่าใส่ให้เกินกว่า ¼ ช้อนชา (1.25 มิลลิลิตร) สำหรับผงเครื่องเทศต่างๆ และสำหรับสมุนไพรแห้งอย่าเกิน 1 ช้อนชา (5 มิลลิตร) สมุนไพรสดอย่าเกิน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร)
  4. วางเนื้อปลาลงบนตะแกรงของถาดย่าง แล้วทาเนื้อปลาด้วยส่วนผสมของน้ำเลมอนกับเนย
  5. กลับด้านเนื้อครั้งหนึ่ง [4] วางถาดย่างบนชั้นบนของเตาอบ โดยไม่ให้ไกลเกิน 4 นิ้ว (10 เซนติเมตร) จากวัตถุให้ความร้อนด้านบนของเตาอบ เมื่อผ่านไป 2-3 นาที ให้กลับเนื้อปลาและเอากลับเข้าไปย่างใหม่อีกครั้ง
    • ใช้ไม้พายหรือไม้แบนๆ ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนในการกลับเนื้อปลา ห้ามใช้ที่คีบเด็ดขาด เพราะจะทำให้เนื้อปลาแยกส่วนออกจากกันได้
    • การกลับด้านเนื้อปลาเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะต้องสุกเท่ากันทั้งสองด้าน
  6. โรยเนื้อปลานิลด้วยพาเมซานชีสแล้วนำไปย่างต่อ. หลังจากที่โรยชีสบนเนื้อปลาแล้ว ย่างต่ออีกประมาณ 2 นาทีจนกว่าชีสจะละลายและเริ่มค่อยๆ กลายเป็นสีเหลืองทอง
    • ถึงตอนนี้เนื้อปลาก็จะสุกเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ปลานิลจะเป็นสีขาวหมดจดและแยกออกได้ง่ายๆ ด้วยส้อม
    • รู้ไว้ว่าพาเมซานชีสเป็นเพียงแค่ส่วนเสริม ถ้าไม่ได้อยากใส่ ก็ต้องใช้เวลาย่างเพิ่มอีก 2 นาทีอยู่ดี
  7. ปล่อยให้เนื้อปลาเย็นลงเล็กน้อยสัก 2-3 นาทีก่อนจะจัดจานเสิร์ฟ
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • จานเล็กๆ หรือถ้วยเล็กๆ
  • ถาดอบ
  • ถาดย่าง
  • สเปรย์น้ำมัน
  • กระดาษไข
  • อลูมิเนียมฟอยล์
  • ไม้พายแบนและทนความร้อน
  • ส้อม

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 35,601 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา