ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

“เค้กปอนด์” ได้ชื่อนี้มาจากสูตรดั้งเดิมของอเมริกาที่ใช้ส่วนผสม 1 “ปอนด์” ต่อเนย, แป้ง, น้ำตาล และไข่ [1] แต่ปัจจุบันกลับมีเค้กปอนด์“ขนาดใหญ่”ขึ้นมาด้วย ไม่ว่าคุณจะต้องการสูตรเค้ก“ปอนด์”ที่แท้จริง หรือแบบที่ปรับให้เข้ากับความสะดวกของคุณ ที่นี่ก็มีวิธีของเค้กทั้งสองประเภทให้อยู่แล้ว

ส่วนประกอบ

  • เนย 455 กรัม
  • น้ำตาลทราย 450 กรัม
  • แป้ง 455 กรัม
  • ไข่ไก่ 10 ฟอง
  • ผงเปลือกจันทร์ครึ่งช้อนชา
  • บรั่นดี 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
  • เนยจืด 227 กรัม ในอุณหภูมิห้อง
  • แป้งชนิดใดก็ได้ 250 กรัม
  • น้ำตาลทราย 225 กรัม
  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 4 ฟอง
  • กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา
  • เกลือครึ่งช้อนชา
  • กลิ่นแต่งรสกลิ่นเลมอนหรือส้ม
  • ของตกแต่งโรยหน้าเค้กอื่นๆ
  • เนย 3/4 ถ้วย
  • น้ำตาล 3/4 ถ้วย
  • แป้ง 3/4 ถ้วย
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • ไข่ 2 ฟอง
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สำหรับเค้กปอนด์ของแท้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ฉีดสเปรย์น้ำมันกระป๋อง หรือทาเนยในถาดเพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมติดถาด หรือว่าจะโรยแป้งบนเนยอีกที หรือจะใช้กระดาษไขรองถาดก็ได้
  2. ทำขั้นตอนนี้ก่อนจะช่วยให้การอบเค้กเป็นไปได้ด้วยดี ช่วยให้เกิดความวุ่นวายน้อยลงระหว่างการอบ
  3. เพื่อให้มั่นใจว่าไข่ฟองไหนดีหรือฟองไหนที่มีเลือดติดมากับไข่แดง ถ้ามีเปลือกไข่ติดมาด้วยก็ให้เอาออก
  4. ด้วยการคนมันด้วยช้อนไม้ใหญ่ๆ จนกลายเป็นเนื้อครีมเหนียวแน่น ขั้นตอนนี้ “สำคัญมาก” ถ้าคุณข้ามมันไป เนื้อของเนยก็จะไม่แน่นตามที่มันควรจะเป็น จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำตาลลงไปและผสมให้เข้ากันจนกว่าจะหนาและหนืดเป็นเนื้อครีม
    • มันจะง่ายขึ้นถ้าคุณไม่เพิ่งนำเนยออกมาจากช่องฟรีซ อย่างไรก็ตามอย่าใช้ความร้อนละลายมัน ให้ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องสัก 2-3 นาทีแทน
  5. ใส่ไข่แดง(ตีให้เนื้อเข้ากันและสีเหมือนเปลือกเลมอน), แป้ง, ผงจันทร์ป่น และบรั่นดีลงไป. ถ้าคุณไม่ชอบรสชาติของบรั่นดีนัก ก็ให้เปลี่ยนเป็นกลิ่นวนิลาหรือรสอื่นๆ แทน
    • ผงจันทร์ป่นไม่เหมือนกับพริกไทย ตรงกันข้ามเลย มันมาจากเปลือกของลูกจันทร์ ถ้าคุณไม่มีผงเปลือกจันทร์ก็ให้ใช้ผงจันทร์ป่นแทนได้ (แต่ผงเปลือกจันทร์จะให้รสชาติที่เข้มข้นกว่า)
    • “ค่อยๆ” ใส่แป้งลงไป. ถ้าคุณใส่ลงไปในคราวเดียวจะทำให้ผสมยากขึ้นมาก ให้ค่อยๆ ใส่ลงไป
  6. อย่างไรก็ตามก็แค่การประมาณการเท่านั้นแหละ ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณตีส่วนผสมมากเกินไปก็ให้หยุด ไม่เช่นนั้นเค้กของคุณอาจไม่ฟูขึ้นก็เป็นได้
    • ถ้าใช้ตะกร้อไฟฟ้า ให้ตั้งค่าความเร็วต่ำ เพราะต้องให้อากาศวนเวียนเข้าไปในไม้ตีเช่นกัน
  7. อบประมาณ 75 นาที ตรวจดูเป็นระยะ เตาอบบางประเภทอบได้ไม่สม่ำเสมอหรือเร็วเกินไป ถ้าเตาอบของคุณเป็นแบบนี้เช่นกันก็ให้เฝ้าดูไว้ให้ดี
    • ถ้าเป็นเค้กเพื่อประดับตกแต่ง ให้อบประมาณ 30-35 นาที
    • จิ้มไม้เสียบหรือไม้จิ้มฟันลงไป. เพื่อตรวจดูว่าเนื้อเค้กแห้งได้ที่หรือยัง เมื่อได้ที่แล้ว ให้กลับด้านเค้กลงมาในตะแกรงเพื่อผึ่งให้เค้กเย็นตัวลง
  8. เมื่อรสชาติได้ที่แล้ว จะให้ดีขึ้นไปอีกก็คงต้องโรยน้ำตาลไอซิ่งลงไปนิดหน่อยหรือราดน้ำเชื่อมรสสตรอเบอร์รี่หรือไม่ก็ราสเบอร์รี่ลงไปด้วย จะทำให้ออกมาดูดีไม่น้อยเชียวล่ะ
    • รับประทานเค้กปอนด์กับกาแฟหอมกรุ่นยามเช้าก็อร่อยหรือจะรับประทานคู่กับไอศกรีมและน้ำเชื่อมรสช็อคโกแลตก็เป็นของหวานได้ดีเยี่ยม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

สำหรับเค้กแถว(Loaf cake)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนใดๆ ให้ทาเนยที่ก้นและขอบด้านในของถาดขนมปังและโรยด้วยแป้งเล็กน้อย เพื่อให้แกะตัวเค้กออกมาได้ง่ายเมื่ออบเสร็จ
    • กระดาษไขเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง โดยตัดให้มีขนาดพอดีกับถาดขนมปังและกรุที่ก้นของถาด
  2. ให้เนยอยู่ในสถานะอุณหภูมิห้องก่อน ไม่เช่นนั้นจะผสมให้เข้ากันได้ยากขึ้น ผสมเนยและน้ำตาลให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมหนาและฟู
    • หากใช้ตะกร้อไฟฟ้าให้ใช้ความเร็วต่ำ เพราะการใช้ระดับความเร็วสูงอาจทำให้ส่วนผสมกระจายและต้องเก็บกวาดเป็นการใหญ่
  3. ใส่ไข่ (ในครั้งเดียว),วนิลา และเกลือลงไปในส่วนผสมของเนยและเกลือ. ผสมให้เข้ากันหลังจากใส่ไข่ลงไปแล้ว(ประมาณ 15 วินาที)ก่อนที่จะใส่ส่วนผสมอย่างอื่น จากนั้นค่อยตามด้วยกลิ่นวนิลาและเกลือ
    • หากคุณต้องการใส่รสเลมอนหรือรสส้มลงไป หรือจะใส่ส่วนผสมอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น ผลไม้แห้ง, ถั่ว, ช็อคโกแล็ตชิพ หรืออะไรก็ตามที่ใส่ในของหวานกันก็สามารถใส่ลงไปในขั้นตอนนี้ได้เลย
  4. ถ้าเทลงไปทีเดียวหมดจะทำให้ส่วนผสมหนืดและตียาก ถ้าใช้ตะกร้อไฟฟ้าตี ให้ตั้งระดับความเร็วต่ำ
    • บางที่ก็สอนให้ร่อนแป้งก่อน ถ้ามีเวลาให้ลองร่อนแป้งก่อนที่จะผสมลงไปดู
    • อย่าตีส่วนผสมนานเกินไป! เมื่อคิดว่าส่วนผสมเข้าที่แล้วก็ให้หยุดทันที
  5. และเมื่อนำเค้กออกมาแล้ว ให้ลองเสียบไม้จิ้มฟันตรงกลางเค้ก ถ้าดึงขึ้นมาแล้วไม้จิ้มฟันไม่มีอะไรติดขึ้นมาด้วยก็รอให้เนื้อเค้กเย็นลงประมาณ 15 นาทีในถาดขนมปัง
    • ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าผิวเค้กเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเร็วเกินไปตอนมันอยู่ในเตาอบ สามารถนำออกมาเพื่อคลุมด้วยกระดาษฟอยล์เพื่อให้ความร้อนผ่านเข้าไปช้าลงกว่าเดิมได้
  6. นำเค้กออกมาผึ่งไว้บนตะแกรง เมื่อต้องการจะรับประทาน ให้ลองใส่ท็อปปิ้งแต่งหน้าลงไปด้วย เค้กนี้จะรับประทานกับกาแฟสักถ้วยก็ดี หรือคู่กับผลไม้, วิปครีม หรืออะไรก็ตามที่คุณชอบก็ได้ รสชาติของเนื้อเค้กนี้เข้ากับของหวานทุกชนิดอยู่แล้ว
    • โรยน้ำตาลไอซิ่งลงไปก็เป็นความคิดธรรมดาที่เข้าท่าเหมือนกัน บางครั้งความธรรมดานี่แหละคือความมีระดับอย่างหนึ่ง!
  7. โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สำหรับเค้กปอนด์อย่างง่าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พยายามอย่าปล่อยไว้จนมันละลาย วางกระดาษไขในถาดและเปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส
    • หากคุณไม่มีเวลารอให้เนยนิ่มลง ก็เอาเข้าเตาไมโครเวฟสักไม่กี่วินาที
  2. ใช้ช้อนไม้ตีเนยจนมันเป็นเนื้อครีมเนื้อละเอียด. เติมน้ำตาลแล้วตีต่อ มันควรจะมีหนาหนืด
  3. ค่อยๆ เติมลงในชามเนยผสมน้ำตาลทีละนิด ตีแล้วโรยแป้งกับผงฟูลงไปในส่วนผสม
  4. เทแป้งที่ได้ลงในถาดเค้กแล้วใช้ช้อนไม้เกลี่ยด้านบนให้เรียบ. อบในเตาอบที่เปิดไว้แล้วประมาณ 20 นาที
  5. ผ่าตรงกลางแล้วนำไปอบอีก 20 นาที พอเสร็จแล้ว นำมาทิ้งไว้ให้เย็นบนถาดตะแกรง
  6. เค้กปอนด์จะอร่อยขึ้นถ้าทานกับไอศกรีมวานิลลา และผลไม้สด โดยเฉพาะสตรอเบอร์รี่!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถาดจะต้องมีทรงที่สวยเพื่อรูปร่างหน้าตาที่ดูดีของเค้ก
  • ถ้าเนยก้อนแข็งเกินไป ให้ทิ้งไว้ในห้องอุ่นๆ เพื่อจะได้ง่ายต่อการวัดปริมาณและตีให้เป็นเนื้อครีม ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอให้อุ่นด้วยไมโครเวฟห้ามเกิน 10 วินาทีเป็นอันขาด!
  • ความหนาของแป้งนั้นมีความแตกต่างกัน [2] ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อใช้ปริมาณของแป้งในการทำเค้กชิ้นเล็กๆ มาใช้กับการทำเค้กแถว อาจทำให้ดูไม่ดีเท่าที่ควรก็เป็นได้ และในฤดูหนาวนั้น อาจใช้แป้งในการทำเค้กน้อยกว่าตอนฤดูร้อน
  • ถ้าวัตถุดิบทุกอย่างถูกเตรียมไว้ก่อนแล้ว ก็จะทำให้เค้กเสร็จเร็วยิ่งขึ้น
  • แป้งเค้กจะเหนียวน้อยกว่าแป้งขนมปัง เพื่อความเบาและละมุนของเนื้อเค้กที่มากกว่า [3]
โฆษณา

คำเตือน

  • คอยดูเค้กขณะที่กำลังอบด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าความร้อนอยู่ในเกณฑ์ปกติและแน่ใจว่าเตาอบทำงานอยู่ตลอดเวลา
  • อย่ากวนส่วนผสมจนกว่าจะถึงขั้นตอนตีแป้งในตอนสุดท้าย
  • อย่าใช้น้ำตาลที่ใช้ตกแต่ง เพราะมันจะทำให้เนื้อเค้กหยาบและแข็ง
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Davidson, Alan. Oxford Companion to Food. Oxford: Oxford University Press, 1999
  2. Farmer, Fannie Merritt. The Boston Cooking-School Cook Book. Boston: Little, Brown, 1918; Bartleby.com, 2000.
  3. Herbst, Sharon Tyler & Herbst, Ron. Food Lover's Companion. New York: Barron's Education Series, 2007.
  4. http://www.bartleby.com/87/0031.html
  5. http://www.marthastewart.com/337155/vanilla-pound-cake

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,026 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา