PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งพึ่งพาตนเองได้นั้นคือ การที่คุณสามารถหาความสุขได้ด้วยตัวคุณเอง คุณมีความมั่นใจโดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอกหรือต้องการการยอมรับจากสังคม การเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งพึ่งพาตัวเองได้หมายถึง การเป็นอิสระทางอารมณ์และสามารถที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นได้โดยไม่นำพาตัวเองไปสู่ภาวะที่พึ่งพิงใครมากจนเกินไป มันคือการเรียนรู้ที่จะแสดงแก่นแท้ว่าคุณเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะขี้อายและพูดจานิ่มนวลหรือพูดดังและกล้าแสดงออก คุณไม่จำเป็นจะต้องปรับตัวเองไปตามแม่พิมพ์ใด อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้ที่จะรักความเป็นผู้หญิงในแบบที่คุณเป็น และผู้หญิงในแบบที่คุณอยากเป็น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

ฝึกฝนความกล้าแสดงออก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    คิดถึงตัวเองก่อน. เวลาที่คุณสังเกตว่าตัวเองต้องการอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความใกล้ชิด ความรักใคร่ หรือความสนใจ คุณต้องให้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ ถ้าคุณอยากได้รับความสนใจ ให้ใช้เวลาสักวันเอาใจตัวเองด้วยการทำในสิ่งที่คุณชอบ ถ้าคุณอยากได้รับความใกล้ชิด ให้ใช้เวลาเขียนไดอารี่หรือออกไปสำรวจธรรมชาติ ถ้าคุณอยากได้ความรักใคร่ ให้แสดงความรักตัวเองด้วยการคิดถึงสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเองหรือออกไปรับประทานมื้อเย็นนอกบ้านและไปดูหนังสักเรื่อง ยิ่งคุณสามารถตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ของตัวเองได้ง่ายมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะคุณจะรู้และเข้าใจตัวเอง และสามารถแสดงความต้องการของตัวเองให้คนรักทราบได้มากขึ้น
  2. 2
    อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับผู้หญิงคนอื่น. การมีไอดอลเป็นผู้หญิงให้ชื่นชมนั้นเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ต้องระวังว่าคุณจะไม่อิจฉาเธอ แม้ว่าความอิจฉาในระดับหนึ่งจะเป็นเรื่องปกติอยู่บ้าง แต่ในโลกที่สื่อตะวันตกครอบงำเมืองไทยนั้นมักจะทำให้ความอิจฉาริษยาระหว่างเพศหญิงรุนแรงขึ้นไปอีกผ่านการโฆษณาและภาพยนตร์ที่นำเสนอมาตรฐานที่ไม่เป็นจริง
    • ความอิจฉาและ “การพูดทำร้ายจิตใจผู้หญิงด้วยกัน” ในลักษณะนี้เรียกว่า "ความรุนแรงก้าวร้าวทางความสัมพันธ์" [1] จากการศึกษาพบว่า สื่อมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างความรุนแรงก้าวร้าวทางความสัมพันธ์ในผู้หญิง ผู้หญิงที่เป็นเหยื่อสื่อความรุนแรงก้าวร้าวทางความสัมพันธ์นั้นมักจะมีความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำ รู้สึกไม่ได้รับการยอมรับ และโดดเดี่ยว [2] ผลที่ตามมาก็คือ การมีสังคมผู้หญิงที่รู้สึกไม่มั่นคงและไม่มีความสุขกับตัวเอง
    • รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณอิจฉา ขั้นแรกของการเอาชนะความอิจฉาก็คือ การรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณอิจฉา ถ้าคุณพบว่าตัวเองกำลังอ่านนิตยสารและเปรียบเทียบรูปร่างของตัวเองกับนางแบบ ให้หยุดตัวเองก่อน คุณเปรียบเทียบทุกคนที่คุณเจอบนท้องถนนกับนางแบบนิตยสารไหม ก็อาจจะไม่ เพราะฉะนั้นให้ละเว้นการตัดสินตัวเองไว้ด้วยอีกคนหนึ่ง เพราะนางแบบคือคนที่มีลักษณะที่ตรงกับสิ่งที่นิตยสารตามหาพอดี และพวกเขาก็คือคนที่อุทิศชีวิตให้กับการทำอาชีพนางแบบ พวกเขาไม่ได้ "ดี" หรือ "แย่" กว่าคุณเลย
  3. 3
    สร้างขอบเขตที่ชัดเจน. สร้างขอบเขตที่จัดลำดับความต้องการของคุณ เช่น สร้างขอบเขตที่ชัดเจนว่าคุณจะใช้เวลากับใครเท่าไหร่ หรือคำวิจารณ์แบบไหนที่คุณไม่ต้องการจะรับฟัง คุณต้องมีอย่างอื่นในชีวิตนอกจากความสัมพันธ์กับคนรักด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน งาน เพื่อนๆ การไปฟิตเนสเป็นประจำ หรือครอบครัว
    • สร้างขอบเขตที่ชัดเจนกับคนอื่นและบอกคนๆ นั้นว่าคุณต้องการเป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้ เมื่อคุยกันเรื่องขอบเขตจนเข้าใจแล้ว ให้ปฏิบัติตามขอบเขตนั้น
  4. 4
    ยืนหยัดเพื่อตัวเอง. ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองในโลกของความเป็นจริงถ้าคุณไม่อยากถูกเอาเปรียบ คุณต้องเรียนรู้ที่จะยืนหยัดเพื่อตัวคุณเองที่โรงเรียน ที่ทำงาน และในชีวิตสังคมของคุณ ฝึกกล้าแสดงออก อย่าอายหรือรู้สึกเสียใจที่คุณกล้าแสดงออก ความกล้าแสดงออกเป็นสิ่งที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความเฉยชาและความก้าวร้าว
    • คนที่แสดงความมั่นใจได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นมีความสุขกับความสัมพันธ์มากกว่า และมีความภาคภูมิใจในตนเองมากกว่า [3]
    • ใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “ฉัน” ประโยคแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกกล่าวหาน้อยลง และเป็นการสื่อความว่าคุณกำลังรับผิดชอบในการกระทำและความรู้สึกของคุณ เช่น แทนที่จะพูดว่า “คุณไม่เคยฟังฉันเลย” ให้คุณพูดว่า “ฉันรู้สึกเหมือนเป็นอากาศธาตุเวลาที่คุณเช็กมือถืออยู่เรื่อยตอนคุยกับฉัน”
    • เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ เอาความต้องการของตัวเองก่อนแทนที่จะพยายามนึกถึงความต้องการของคนอื่นก่อนเสมอ เช่น ถ้ามีใครคอยมาคอยขอยืมเงินคุณ คุณสามารถปฏิเสธเขาไปได้เลย ถ้าเพื่อนยืมรถคุณบ่อยๆ บอกเธอไปเลยว่าคุณไม่ให้เธอยืมรถแล้ว
  5. 5
    เชื่อมั่นในตัวเอง. เมื่อคุณเชื่อมั่นในความสามารถและความสำเร็จของคุณ คุณจะสามารถสื่อความแข็งแกร่งของตัวเองได้ ไล่ตามสิ่งที่คุณต้องการและอยากได้ ถ้าคุณขาดความมั่นใจหรือเล่นบทเหยื่อ คุณเสี่ยงที่จะถูกคนอื่นเหยียบย่ำแทนที่จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการและอยากได้
  6. 6
    บอกให้คนอื่นรู้ว่าเขากำลังทำร้ายจิตใจคุณอยู่. ถ้ามีใครหักหลังคุณทางใดทางหนึ่ง คุณต้องบอกให้เขาหรือเธอรู้ แม้ว่าการบอกอารมณ์ของคุณให้คนอื่นรู้จะเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่คุณเจ็บปวดหรือโกรธ แต่การบอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไหร่อาจช่วยป้องกันไม่ให้คนๆ นั้นทำพฤติกรรมแบบเดิมอีกในอนาคต [4]
    • เช่น คุณอาจจะพูดว่า “ฉันรู้สึกเจ็บปวดตอนที่คุณบอกว่างานของฉันมีอคติ ฉันยินดีที่จะรับฟังและแก้ไขตามคำวิจารณ์ แต่ฉันไม่สามารถทำอะไรกับคำกล่าวหาที่ไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้ได้”
  7. 7
    เตือนเมื่อได้ยินคำวิจารณ์ที่ไม่ให้เกียรติและก้าวร้าว. ถ้าคุณได้ยินใครวิจารณ์โดยมีอคติทางเพศ เชื้อชาติ หรือเป็นคำวิจารณ์ที่ไม่ให้เกียรติคนอื่น อย่าปล่อยผ่าน วิธีนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเข้าไปโต้แย้ง แต่ค่อยๆ บอกคนๆ นั้นว่าสิ่งที่เขาหรือเธอพูดนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
    • "กรุณาอย่าพูดถึงผู้หญิงคนอื่นๆ แบบนั้นเลยค่ะ"
    • "เราจะไม่วิจารณ์มุสลิมในแง่ลบได้ไหมคะ"
    • "ทำไมคุณถึงรู้สึกอย่างนั้นคะ"
  8. 8
    เรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณพึ่งพาคนอื่นมากเกินไป. ถ้าคุณพึ่งพาใครมากเกินไป คุณอาจจะพบว่าความสัมพันธ์คือสิ่งที่ล้อมกรอบชีวิตคุณ คุณอาจจะเอาแต่คิดถึงอีกคนตลอดเวลาและไม่ตัดสินใจจนกว่าคุณจะถามเขาหรือเธอก่อน พยายามเอาชนะการพึ่งพิงคนอื่นมากเกินไปด้วยการจับตาดูสัญญาณต่อไปนี้: [5]
    • ความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ
    • ชอบเอาใจคนอื่น
    • แทบไม่มีขอบเขตเป็นของตัวเอง
    • เป็นฝ่ายรับ
    • ดูแลคนอื่น
    • ควบคุม
    • การสื่อสารที่ไม่สัมฤทธิ์ผล
    • การหมกมุ่น
    • การพึ่งพาอาศัย
    • การปฏิเสธ
    • ปัญหาเรื่องความใกล้ชิด
    • อารมณ์ที่เจ็บปวด
  9. 9
    โอบกอดเอกลักษณ์ของตัวเองและผู้อื่น. พยายามสร้างนิสัยเห็นอกเห็นใจและมีความสุขที่ได้เห็นว่า คนอื่นมีพรสวรรค์และมีความสามารถพิเศษในแบบฉบับของตัวเอง รวมทั้งตัวคุณด้วย! ผู้หญิงทุกคนมีสมบัติที่ดีที่สุดติดตัวมา ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางคณิตศาสตร์ ความสามารถในการวาดภาพระบายสี หรือทักษะการเป็นผู้นำ โอบกอดทักษะและทรัพยากรที่คุณมี และรักตัวเองที่คุณมีสิ่งเหล่านี้
    • ถ้าคุณคิดว่าใครมีพรสวรรค์ บอกให้เขารู้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

กำหนดเพศสภาพของตนเอง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    พอใจในรูปร่างของตัวเองแบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้. ผู้หญิงหลายคนไม่มั่นใจลักษณะทางกายภาพของตัวเองไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเปลือยกาย การจะทำให้ตัวเองมั่นใจในรูปร่างอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ลองให้ความสนใจไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่คุณชอบ คิดถึงส่วนต่างๆ ของร่างกายและคิดว่าพอมารวมกับแล้วมันทำให้ร่างกายของคุณดูดีได้อย่างไร
    • ใส่ใจว่ารูปร่างของคุณดูเป็นอย่างไรให้น้อยลง และใส่ใจมากขึ้นว่ามันทำอะไรได้บ้าง
    • ถ้าคนรักของคุณไม่พอใจรูปร่างของคุณ ยืนหยัดปกป้องตัวเองด้วยการบอกเขาว่า คุณคิดว่าคำวิจารณ์ของเขาไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย [6]
  2. 2
    บอกความต้องการของคุณให้คนรักทราบ. เวลาที่มีเซ็กส์ ให้บอกความต้องการของคุณให้คนรักทราบอย่างชัดเจน การรักตัวเองและการให้เกียรติเพศสภาพตัวเองคือการบอกให้คนรักรู้ว่าคุณชอบอะไร และอะไรที่เกินขอบเขต
    • คุณอาจจะพูดว่า “ฉันชอบให้คุณสัมผัสฉันตรงนี้” หรือ “ฉันชอบเวลาที่เรานอนกอดกันหลังมีเซ็กส์”
    • ถ้าคุณไม่ชอบอะไรให้บอกเขา "ฉันไม่ชอบแบบนั้นเลย" หรือ "มันเจ็บ" เป็นสิ่งที่สมควรบอกได้เป็นอย่างยิ่ง
  3. 3
    ให้เกียรติเพศสภาพของตนเอง. อย่าละอายที่คุณอยากมีความสัมพันธ์ทางเพศ ให้อำนาจตัวเองได้ยอมรับเพศภาพของตัวเองไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน และเลือกคนรักที่ส่งเสริมและสนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์ที่ดี
  4. 4
    อย่ากลัวที่จะปฏิเสธ. ผู้หญิงเกือบทุกคนในชีวิตหนึ่งจะต้องเจอกับคนที่อยากฉวยโอกาสทางเพศจากเธอ คุณต้องเรียนรู้ว่าจะปฏิเสธคนที่ต้องการมีเซ็กส์กับคุณโดยที่คุณไม่ต้องการได้อย่างไรและเมื่อไหร่ อย่าปล่อยผ่านเรื่องการคุกคามทางเพศ ผู้หญิง 1 ใน 5 คนและผู้ชาย 1 ใน 71 คนในชีวิตหนึ่งเคยถูกข่มขืน [7]
    • ถ้ามีใครบังคับขืนใจคุณ ให้ขอความช่วยเหลือ สังคมสอนให้ผู้หญิงรู้สึกอับอายหรือรู้สึกผิดที่ตัวเองถูกข่มขืนหรือลวนลาม หรือแม้กระทั่งมีการกล่าวอ้างไปไกลว่าผู้หญิงบางคนเองก็ "เรียกร้อง” [8] การปล่อยให้ใครสักคนลอยนวลไปกับอาชญากรรมทางเพศเป็นการสอนเขาว่า เขาจะทำอย่างนี้อีกก็ได้ในอนาคต
  5. 5
    รายงานการคุกคามทางเพศในที่ทำงานหรือที่โรงเรียน. จำไว้ว่าการรายงานการกระทำเหล่านี้ไม่ได้ดีแค่กับตัวคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้คนๆ นี้ไปทำร้ายคนอื่นอีกในอนาคต [9]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

ใส่ใจสุขภาพของคุณ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ออกกำลังกายให้เพียงพอ. การมีสภาพร่างกายที่ดีช่วยให้คุณมีสุขภาพ อารมณ์ และระดับพลังงานที่ดีขึ้นโดยรวม ซึ่งจะเพิ่มพูนความสามารถในทุกๆ ด้านของชีวิต การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวานได้ ทั้งยังช่วยจัดการโรคเรื้อรังอย่างโรคหืดหรือปวดหลังได้ด้วย [10]
    • แต่ละคนมีร่างกายที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นคุณต้องปรึกษาแพทย์ก่อนว่า เป้าหมายในการออกกำลังกายแบบไหนที่ปลอดภัยกับตัวคุณ
    • ไม่ต้องเป็นถึงแชมป์โอลิมปิกก็สามารถมีร่างกายที่แข็งแรงได้ ออกไปวิ่งออกกำลังกายแถวละแวกบ้าน พาสุนัขไปเดินเล่น หรือไปขี่จักรยาน แม้แต่การทำสวนก็ยังเป็นการออกกำลังกายที่ดีได้เลย
  2. 2
    รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอุดมไปด้วยสารอาหาร. การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพช่วยป้องกันโรค ทำให้อารมณ์ดีขึ้น และเพิ่มพลังงานให้คุณได้เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย [11] แต่ละคนมีร่างกายที่แตกต่างกันและมีความต้องการด้านอาหารที่แตกต่างกัน ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการที่ได้รับการรับรองเพื่อพัฒนาแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะกับคุณ
    • ตามหลักการทั่วไปก็คือ รับประทานผักและผลไม้สดมากๆ รับประทานข้าวไม่ขัดสีและโปรตีน หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและของทอด และลดปริมาณน้ำตาลทราย
  3. 3
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ. การอดนอนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและอารมณ์ของคุณ พยายามนอนให้ได้อย่างน้อย 7 หรือ 8 ชั่วโมงเพื่อให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในทุกๆ วัน
  4. 4
    เข้าใจสุขภาพของตนเอง. ความแข็งแกร่งของแต่ละคนแสดงออกทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ถ้าคุณอยากเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งพึ่งพาตัวเองได้ คุณไม่จำเป็นต้องดูไกลเกินกว่าร่างกายของคุณเลย ผู้หญิงและผู้ชายที่ไม่ได้แปลงเพศประสบความเสี่ยงและปัญหาสุขภาพต่างกันเนื่องจากความแตกต่างทางชีวภาพ [12]
    • นอกจากความแตกต่างทางชีวภาพแล้ว ก็ยังมีความแตกต่างที่ไม่ยุติธรรมที่ผู้หญิงที่ไม่ได้แปลงเพศต้องเจอเพียงเพราะว่าพวกเธอเป็นผู้หญิง เช่น ก่อนช่วงเร็วๆ นี้ งานวิจัยทางการแพทย์ส่วนใหญ่มีผู้รับการทดลองเป็นผู้ชายเท่านั้น เมื่อโรคหรือความผิดปกติแสดงอาการต่างกันระหว่างเพศ (เช่น โรคหัวใจ) งานวิจัยทางการแพทย์ไม่สามารถระบุอาการที่ถูกต้องสำหรับผู้หญิงได้ [13] แต่ต้องขอบคุณที่งานวิจัยทางการแพทย์ในปัจจุบันสามารถทำการชดเชยข้อมูลที่ขาดหายไปได้อย่างรวดเร็ว และทำการทดลองโดยใช้ผู้หญิงเป็นผู้รับการทดลองในงานวิจัยมากขึ้น ตอนนี้ข้อมูลต่างๆ ก็มีพร้อมให้หาอ่านกันแล้ว เพราะฉะนั้นก็ถึงคราวที่ผู้หญิงที่แข็งแกร่งพึ่งพาตัวเองได้จะใช้ประโยชน์จากมันแล้วละ!
    • เข้ารับการตรวจร่างกายกับแพทย์เป็นประจำ และถามถึงสิ่งที่คุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

จัดการแผนการเงินของคุณ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เป็นอิสระทางการเงินในระดับที่เป็นไปได้เท่าที่สภาพแวดล้อมของคุณจะเอื้ออำนวย. อิสรภาพที่มาพร้อมกับความสามารถที่จะหาเงินใช้เอง เริ่มเปิดบัญชีธนาคารของตัวเอง และซื้อทรัพย์สินของตัวเองนั้นยังเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเคย (และผู้หญิงในบางพื้นที่ในโลกยังคง) ไม่มี [14] ตั้งข้อสงสัยความเข้าใจที่ว่าคุณต้องพึ่งพาความมั่นคงทางการเงินจากคนอื่น
    • เข้าคอร์สเรียนการจัดการการเงิน หรือเรียนคอร์สพื้นฐานออนไลน์
    • เขียนงบประมาณค่าใช้จ่ายให้ตัวเอง เพื่อให้คุณมีเงินสำหรับใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นอย่างเพียงพอ
    • เก็บเงิน 10-20% ของรายได้
  2. 2
    อย่ากลัวที่จะขอขึ้นเงินเดือน. ผู้หญิงมักจะขอขึ้นเงินเดือนน้อยกว่าผู้ชาย และเมื่อถึงเวลาที่พวกเธอขอขึ้นเงินเดือน พวกเธอก็มักจะขอน้อยกว่าที่ผู้ชายขอโดยทั่วไป [15] พึ่งพาความกล้าแสดงออกที่คุณฝึกฝนมา และอย่ากลัวที่จะขอขึ้นเงินเดือนตามที่คุณสมควรได้
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

ทำตามความฝันของตัวเอง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เรียนในสิ่งที่อยากเรียน. อย่าให้บรรทัดฐานทางสังคมมีอิทธิพลต่อวิชาที่คุณเลือกเรียน สังคมมักสนับสนุนให้ผู้หญิงเรียนสาขาบางประเภท (เช่น ภาษาอังกฤษ ศิลปกรรม การสอน พยาบาล และวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ “การช่วยเหลือ”) ในขณะที่ผู้ชายจะได้รับการสนับสนุนให้เรียนในสาขาอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี [16]
    • โรงเรียนหลายแห่งกำลังสนับสนุนให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้หญิงที่ทำงานในสาขาเหล่านี้มีน้อยมากแม้ว่าจะมีผู้หญิงสนใจสาขาวิชาเหล่านี้มากก็ตาม [17] ถ้าคุณสนใจฟิสิกส์ ลุยเลย! ถ้าคอมพิวเตอร์ทำให้คุณมีความสุข ลงลึกและเรียนทุกอย่างเกี่ยวกับเทคโนโลยี อย่าให้บทบาททางเพศที่สังคมกำหนดมาขัดขวางความปรารถนาที่จะเรียนรู้วิชาใดวิชาหนึ่งให้มากขึ้น
    • ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ให้เรียนวิชาที่คุณชอบ ถ้าคุณชอบดนตรี ก็เรียนดนตรี ถ้าคุณชอบเลข ก็เรียนเลข
  2. 2
    เป็นนักเรียนตลอดชีวิต. จำไว้ว่าไม่ใช่การศึกษาทุกแบบจะอยู่ในรูปแบบของการศึกษาในระบบ (เช่น การเรียนในสถาบันอย่างมหาวิทยาลัย) ติดตามเหตุการณ์ปัจจุบันเรื่องการเมือง วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี อ่านหนังสือ (ทั้งเรื่องแต่งและเรื่องจริง) เรียนภาษาใหม่ ดูสารคดี และอื่นๆ กระหายที่จะเรียนรู้วิชาใหม่ๆ ตลอดชีวิต
  3. 3
    ยอมรับสไตล์ของตัวเอง. การเป็นผู้หญิงที่พึ่งพาตัวเองได้คือการแต่งตัวในแบบที่คุณชอบ โดยไม่สนใจว่าคนรอบข้างจะบอกให้คุณแต่งตัวอย่างไร ใช้แฟชั่นเป็นวิธีในการแสดงอารมณ์ รสนิยม และความคิดสร้างสรรค์ของคุณ
    • หลายครั้งตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์ แฟชั่นของผู้หญิงขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานทางสังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นๆ ช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา การใส่คอร์เซ็ตรัดๆ ถือเป็นบรรทัดฐานทางสังคม และการที่ผู้หญิงใส่กางเกงนั้นถือเป็นข้อห้ามทางสังคม [18] เราอยู่ในยุคที่ผู้หญิงมีอิสระในการเลือกเสื้อผ้าและแต่งตัวมากขึ้น เพราะฉะนั้นใช้อิสรภาพของเราให้เต็มที่!
    • เวลาที่ตัดสินใจเลือกเสื้อผ้า คุณควรคำนึงถึงลักษณะรูปร่างและรสนิยมส่วนตัวของคุณด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

ช่วยเหลือชุมชน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ให้ผู้อื่น. วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะใช้ความแข็งแกร่งของคุณก็คือ การช่วยเหลือคนที่โชคดีน้อยกว่าคุณ คุณไม่ต้องรวยหรือมีเงินถุงเงินถังจึงจะสร้างสิ่งดีๆ ให้ชุมชนของคุณได้ เพราะฉะนั้นให้เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อน งานวิจัยหนึ่งเกี่ยวกับการเป็นอาสาสมัครและ “การคืน” ให้สังคมในปีพ.ศ. 2553 พบว่า ผู้เข้าร่วมการวิจัย 68% มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น 89% รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และ 73% มีระดับความเครียดน้อยลงกว่าคนที่ไม่ได้ “คืนให้สังคม” [19]
  2. 2
    ลองเป็นอาสาสมัครในชุมชนของคุณ. องค์กรไม่แสวงผลกำไรในชุมชนของคุณยินดีต้อนรับอาสาสมัครและการสนับสนุน ลองคิดว่าประเด็นไหนที่คุณสนใจมากที่สุด เช่น สัตว์ ศิลปะ เด็ก กีฬา เป็นต้น เลือกสถานที่ที่คุณสนุกและรู้สึกว่าตัวเองกำลังสร้างความแตกต่าง
    • เช่น เป็นอาสาสมัครที่โรงทาน สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย หรือโปรแกรมการพัฒนาชุมชนอื่นๆ
    • ศึกษาองค์กรการกุศลก่อนเข้าไปมีส่วนร่วม เพราะบางกลุ่มนั้นเป็นภัยมากกว่าจะทำประโยชน์
  3. 3
    ช่วยเหลือผู้อื่นแบบไม่เจาะจง. คุณไม่จำเป็นต้องเป็นอาสาสมัครอย่างเป็นทางการเพื่อคืนให้สังคม ถ้าคุณเห็นใครต้องการความช่วยเหลือ ก็เข้าไปช่วยพวกเขา แม้แต่การกระทำเล็กๆ ก็ยังอาจทำให้วันนี้ของใครบางคนสดใสขึ้นได้ เช่น ช่วยคนถือของพะรุงพะรังหรือเปิดประตูค้างไว้ให้คนอื่น
  4. 4
    สนับสนุนผู้หญิงคนอื่นๆ. บ่อยครั้งที่ผู้หญิงเราถูกทำให้อับอาย ตัดสิน และดูถูกโดยผู้หญิงด้วยกันเอง แทนที่จะทำอย่างนั้น ผู้หญิงเราสามารถยกระดับกันและกันและให้อำนาจผู้หญิงทุกคนได้เป็นอย่างที่เธอเป็นโดยไม่มีการตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์
  5. 5
    ให้การศึกษาเกี่ยวกับการเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งและพึ่งพาตัวเองได้แก่ผู้หญิงและเด็กสาวคนอื่นๆ. สอนให้เขาเป็นคนกล้าแสดงออก ฝึกฝนทักษะการเป็นผู้นำ รักตัวเอง และยืนหยัดเพื่อปกป้องตัวเองและผู้อื่น เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พวกเขา
    • เป็นผู้ให้คำแนะนำแก่องค์กรเด็กผู้หญิงในชุมชนของคุณ เช่น อาจจะเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เข้าร่วมเล่นกีฬาที่คุณชอบ หรืออาจจะเป็นนักเรียนชั้นม.6 ที่พร้อมศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • การหาแบบอย่างผู้หญิงที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณชื่นชมนั้นช่วยให้คุณได้รับแรงบันดาลใจที่คุณต้องการเพื่อให้คุณรู้สึกพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ผู้หญิงคนนี้อาจเป็นคนในครอบครัว นักสิทธิสตรีหรือกิจกรรมด้านอื่นๆ ศิลปิน นักเขียน หรือนักการเมือง
  • ผู้หญิงมักถูกคาดหวังให้เอาใจคนอื่น แม้ว่าการทำเช่นนี้ด้วยตัวของมันอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่คุณควรได้รับผลตอบแทนจากการเอาใจคนอื่นด้วย บางครั้งคุณก็ควรขอให้คนอื่นทำอะไรให้คุณหรือคิดถึงสิ่งที่คุณชื่นชอบมากกว่าการมัวแต่เอาใจคนอื่น


โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Coyne, S.M., Linder, J.R., Nelson, D.A., & Gentile, D.A. (2012). ‘Frenemies, fraitors, and mean-em-aitors’: Priming effects of viewing physical and relational aggression in the media on women. Aggressive Behavior, 38(2), p. 141-149. doi: 10.1002/ab.21410
  2. Ostrov, J.M., Hart, E.J., Kamper, K.E., Godleski, S.A. (2011). Relational aggression in women during emerging adulthood: A social processes model. Behavioral Sciences & The Law, 29(5), 695-710. doi:10.1002/bsl.1002
  3. Stevens, T.G. (2014). Assertive communication skills to create understanding and intimacy. Retrieved from http://web.csulb.edu/~tstevens/c14-lisn.htm
  4. https://www.psychologytoday.com/blog/emotional-fitness/201207/the-best-ways-deal-people-who-hurt-you
  5. Lancer, D. (2013). Symptoms of codependency. PsychCentral. Retrieved from http://psychcentral.com/lib/symptoms-of-codependency/00011992
  6. https://www.psychologies.co.uk/love/the-power-of-touch.html
  7. Center for Disease Control and Prevention. (2014). Rape prevention and education program. CDC. Retrieved from http://www.cdc.gov/violenceprevention/rpe/
  8. Allen, R.L. (2006). Stopping sexual harassment: A Challenge for community education. Reconstructing Gender: A Multicultural Anthology. Boston, MA: McGraw Hill.
  9. Allen, R.L. (2006). Stopping sexual harassment: A Challenge for community education. Reconstructing Gender: A Multicultural Anthology. Boston, MA: McGraw Hill.
  1. Mayo Clinic. (2012). Exercise and chronic disease: Get the facts. MayoClinic. Retrieved from http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/fitness/in-depth/exercise-and-chronic-disease/art-20046049?pg=1
  2. Willett, W.C., Koplan, J.P, Nugent, R., Dusenbury, C., Puska, P., & Gaziano, T.A. (2012). Prevention of chronic disease by means of diet and lifestyle changes. Disease Control Priorities in Developing Countries. Retrieved from http://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK11795/
  3. Disch, E. (2006). Reconstructing Gender: A Multicultural Anthology. Boston, MA: McGraw Hill.
  4. Disch, E. (2006). Reconstructing Gender: A Multicultural Anthology. Boston, MA: McGraw Hill.
  5. http://www.theguardian.com/money/us-money-blog/2014/aug/11/women-rights-money-timeline-history
  6. http://www.npr.org/2011/02/14/133599768/ask-for-a-raise-most-women-hesitate
  7. Disch, E. (2006). Reconstructing Gender: A Multicultural Anthology. Boston, MA: McGraw Hill.
  8. Disch, E. (2006). Reconstructing Gender: A Multicultural Anthology. Boston, MA: McGraw Hill.
  9. Disch, E. (2006). Reconstructing Gender: A Multicultural Anthology. Boston, MA: McGraw Hill.
  10. Borchard, T. (2015). How giving makes us happy. PsychCentral. Retrieved from http://psychcentral.com/blog/archives/2013/12/22/how-giving-makes-us-happy/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,874 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา